xs
xsm
sm
md
lg

ซาลาเปาทอด “โคราโต” แฟรนไชส์ภูธรบุกเมืองกรุง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปัญญา เศรษฐา และภรรยา
จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเบเกอรี่มานานกว่า 30 ปี จนเป็นที่รู้จักของคนชาวโคราชเป็นอย่างดี ในนาม “เจริญภัณฑ์เบเกอรี่” เริ่มจากร้านตึกแถวเพียง 2 คูหา จนขณะนี้กลายเป็นศูนย์เบเกอรี่ขนาดใหย่ที่ของภาคอีสาน โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP และอย.จากกระทรวงสาธารณสุข ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีกว่า 100 รายการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ซาลาเปาทอด ที่มีศักยภาพพร้อมขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ต้นทุนต่ำได้
ซาลาเปาทอดรับประทานคู่กับน้ำชาร้อนๆ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
ปัญญา เศรษฐา ผู้ช่วยกรรมการฯ และที่ปรึกษา บริษัท เจริญภัณฑ์เบเกอรี่ จำกัด เล่าว่า จากเดิมธุรกิจของบริษัทฯ เป็นธุรกิจด้านเบเกอรี่ ที่ครองตลาดมานานกว่า 30 ปี ใน จ.นครราชสีมา ที่เน้นเบเกอรี่ที่เป็นขนมอบ,นึ่ง,ทอด โดยเริ่มจากห้องแถว 2 คูหา เยื้องสถานีรถไฟ เพื่อผลิตเบเกอรี่ไม่กี่ชนิด จนปัจจุบันสามารถสร้างรากฐานกิจการจนกลายเป็นศูนย์เบเกอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่รวบรวมเบเกอรี่กว่า 100 ชนิด ให้กับผู้บริโภค รวมถึงยังตั้งใจให้เป็นศูนย์องค์ความรู้แก่ผู้ที่สนใจด้านการทำเบเกอรี่อีกด้วย
ซาลาเปาไส้ครีม
“เราผลิตเบเกอรี่กว่า 100 ชนิด ทุกประเภท จนรสชาติเป็นที่ติดอกติดใจของคนโคราช ทำให้คิดที่ขยายธุรกิจนี้ โดยเริ่มสำรวจจากสินค้าที่มีอยู่ สุดท้ายจึงมาลงตัวที่ซาลาเปาทอด ที่เป็นสูตรต้นตำรับของภาคอีสาน ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว คือ ไม่อมน้ำมัน กรอบนอก นุ่มใน มีไส้หลากหลายให้เลือกทั้ง ไส้เค็มและหวาน เช่น หมูสับ,หมูแดง,หมูหยองน้ำพริกเผา,ไก่หน่อไม้และปลาทูน่า ส่วนไส้หวาน เช่น ครีม,เผือก,ถั่วเหลือง,ถั่วดำ,ถั่วแดงและไส้ครีมกาแฟรสเข้มข้น ซึ่งถือเป็นสินค้าที่ศักยภาพ ยังไม่มีคู่แข่งมากนัก ทำให้สินค้าสามารถขายได้ด้วยตัวเอง รวมยังสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ได้ไม่ยาก หากมีการควบคุมคุณภาพ และมีการสร้างระบบการบริหารที่ดี”

เมื่อสินค้าง่ายๆ อย่างซาลาเปาทอด ที่แต่เดิมเป็นหนึ่งในไลน์สินค้าของทางบริษัท กลายเป็นสินค้าที่สามารถต่อยอดทางธุรกิจได้ ทำให้ทางบริษัทฯ คิดสร้างแบรนด์ และขยายธุรกิจในรูปแบบของแฟรนไชส์ซาลาสเปาภายใต้แบรนด์ “KORATO” (โคราโต) ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีความหมายที่เข้าใจง่าย และไม่ยากเกินที่จะจดจำ นั่นคือ ‘โคราช’ นั่นเอง แต่ขอออกเสียงเป็นภาษาญี่ปุ่น เพื่อเป็นเกียรติให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นที่ได้มีโอกาสมาชิมซาลาเปาทอดแล้วชมว่าอร่อย

สำหรับการลงทุนในรูปแบบของแฟรนไชส์ จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ทำเลในพื้นที่ปิดคีออสจะมีปล่องดูดควัน ใช้เงินทุนประมาณ 48,000 บาท ส่วนคีออส สำหรับพื้นที่เปิดโล่ง ลงทุนประมาณ 38,000 บาท เน้นทำเลย่านชุมชน สถานศึกษา อพาร์ทเม้นต์ และตลาดนัดโต้รุ่ง เป็นต้น ซึ่งแฟรนไชซีจะต้องสั่งซื้อซาลาเปาทอดแบบแช่แข็งกับทางบริษัทฯ โดยตรงทุกครั้ง ดังนั้นทำให้การควบคุมรสชาติ และคุณภาพ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ จากกำลังการผลิตสูงสุด 10,000 ลูก/วัน

“หลังจากที่เราได้ทดลองขยายสาขาเองที่กรุงเทพฯ บริเวณเจ เจ มอลล์ ก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี รวมถึงการขยายสาขาในโคราช รวม 6 สาขา ผู้บริโภคก็ชื่นชอบในคุณภาพของสินค้า โดยขายในราคาลูกละ 6 บาท ซึ่งนอกจากทางบริษัทฯ ได้สร้างอาชีพให้ผู้ที่สนใจลงทุนแล้ว ยังได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ รวมถึงการสาธิตการทำซาลาเปาทอดให้กับหน่วยงานภาครัฐฯ นำไปต่อยอดเป็นธุรกิจอีกด้วย”

สำหรับแผนธุรกิจในอนาคตนอกจากจะขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์แล้ว ทางบริษัท เจริญภัณฑ์เบเกอรี่ จำกัด ยังตั้งใจให้ศูนย์เบเกอรี่ของบริษัทฯ เป็นแหล่งองค์ความรู้เรื่องเบเกอรี่อย่างครบวงจร ทั้งกรรมวิธีการผลิต วัตถุดิบ และความรู้ในการทำเบเกอรี่เพิ่มรายได้ให้กับผู้สนใจ โดยล่าสุดผลิตซีดีขั้นตอนการทำซาลาเปาเพื่อจำหน่ายในราคาย่อมเยา

***สนใจติดต่อ 081-821-4031, 02-265-9850, 044-370-333***
กำลังโหลดความคิดเห็น