xs
xsm
sm
md
lg

สภาอ้างแจกส.ส.1แสนไปพัฒนาประชาธิปไตย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่สอง กล่าวถึงกรณี ที่ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฏร จะให้งบประมาณส.ส.คนละ 1 แสนบาท รวมเป็นเงิน 48 ล้านบาท เพื่อจัดสัมมนาให้ความรู้กับประชาชนว่า งบประมาณดังกล่าวเป็นงบประมาณเพื่อดำเนินการพัฒนาประชาธิปไตย โดยสภาผู้แทนราษฏรจะใช้งบเหลือจ่ายในปี 2550 ซึ่งเตรียมไว้สำหรับการย้าย สภาผู้แทนราษฏรไปยังที่ทำการแห่งใหม่ เนื่องจากถึงขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาสร้างรัฐสภาแห่งใหม่เงินส่วนดังกล่าวจึงเหลืออยู่เพื่อเป็นการรักษาระเบียบวินัยทางการเงิน และงบประมาณ ประธานสภาผู้แทนราษฏรจึงอนุมัติเงินส่วนนี้เพื่อให้ส.ส.นำไปปฏิบัติหน้าที่พัฒนาประชาธิปไตยโดยส่งเสริมให้ความรู้กับประชาชนเขตพื้นที่เลือกตั้งละ 1แสนบาท ขอยืนยันว่าเงินดังกล่าวไม่ใช่เงินใหม่เพื่อส.ส.แต่อย่างใด
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า การใช้เงินดังกล่าวสภาผู้แทนราษฏรจะวางกรอบแนวทาง ในการใช้เงิน เหมือนกับสถาบันพระปกเกล้าหรือองค์กรอื่นที่มีการจัดสัมมนา ให้ความรู้กับประชาชน โดยจะมีการวางกรอบการใช้เงินอย่างละเอียด อาทิ จำนวนผู้เข้าร่วมสัมมนาอย่างน้อยต้องมีจำนวน 200 คนขึ้นไป งบประมาณค่าอาหาร จะมีการกำหนดกรอบที่ชัดเจน โดยวัตถุประสงค์จะต้องเป็นการให้ความรู้กับประชาชนอย่างจริงจัง เมื่อมีการจัดงานแล้วจะมีการตรวจสอบและประเมินผลการทำงานว่า ประสบความสำเร็จเพียงใด
“เงินจำนวนนี้คงมองว่าเป็นการให้เงินเพื่อหาเสียงไม่ได้เพราะไม่ได้จ่ายเงิน ให้ประชาชนคนใดทั้งสิ้นการเบิกจ่ายต้องมีใบเสร็จ ส่วนการประเมินจะมีการตรวจสอบ ว่าประชาชนไดรับความรู้เกี่ยวกับหลักประชาธิปไตยมากน้อยเพียงใด สภาได้กำหนดกรอบไว้ชัดเจนแล้วว่าจะใช้งบประมาณอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้สภาเคยปฏิบัติมาแล้วเมื่อ2-3 ปีที่ผ่านมา ผมเองตั้งใจจะสัมมนาให้กับเยาวชน ขอเรียนพี่น้องประชาชนด้วยว่าการจัดสัมมนาส่วนใหญ่ไม่เคยมีใครใช้เงินเหลือส่วนใหญ่จะใช้เกินและเข้าเนื้อทุกคน เพราะงบประมาณมีจำกัดมากๆ และเรายังล็อกด้วยจำนวนผู้ร่วมสัมมนา “ รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่สองกล่าว
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า จากการประชุมของประธานและรองประธานได้ปรึกษากับสำนักงานเลขาธิกาสภาผู้แทนราษฏรเพื่อรับเป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาทั่วประเทศ แต่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏรตอบกลับมาว่าไม่มีศักยภาพเพียงพอ ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุด ในฐานะที่ส.ส.เป็นตัวแทนของประชาชนน่าจะรู้ดีว่าประชาชนส่วนใด ที่ยังอ่อนด้อยที่ต้องรับการพัฒนา ส่วนหัวข้อในการจัดสัมมนาจะเปิดกว้างให้ส.ส. พิจารณาตามความเหมาะสม
ส่วนกรณีที่มีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้ตั้งข้อสังเกตการให้งบประมาณดังกล่าว อาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 นั้น พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นนักกฏหมายยืนยันว่าการให้งบประมาณไม่ขดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 อย่างแน่นอน โดยไม่ถือเป็นการก้าวก่ายการทำงาน การคุณให้โทษ การเลื่อนยศ ปลดย้าย โดยเรื่องนี้ถือเป็นหน้าที่โดยตรงของส.ส.ที่จะปฏิบัติได้ ทั้งนี้ ได้มีการชี้แจงไปยังสมาชิกที่มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้จนได้ความเข้าใจแล้ว เชื่อว่าคงไม่มีปัญหา
“ขอยืนยันว่าการสัมมนาครั้งนี้ไม่ใช่การหาเสียงของ ส.ส. เป็นงบประมาณ ที่ลงทุกพื้นที่ ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ส.ส.รัฐบาลได้อย่างไร ส.ส.ฝ่ายค้านก็ได้อย่างนั้น โดยสภาจะเป็นผู้ตรวจสอบโดยอาจมีผู้ไม่ทำตามกรอบที่กำหนดเราจะว่ากล่าวได้” พ.อ.อภิวันท์ กล่าว
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวอีกว่า สำหรับการคัดเลือกสถานที่ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ในวันพรุ่งนี้(3 ก.ค.) ประธานสภาผู้แทนราษฏรจะเชิญ รองประธานสภาผู้แทนราษฏร ซึงได้นัดประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาประชุมประชุมเพื่อหาข้อยุติสถานที่ ในก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ โดยขณะนี้มีพื้นที่อยู่ในการพิจารณา 3 แห่ง คือ คลังแสงกรมสรรพาวุธ ทหารบก จ.นนทบุรี โรงงานไทยเมลอน อ.รังสิต และคลังน้ำมันท่าเรือคลองเตย โดยในวันที่ 5 ก.ค. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กำหนดนัดหมายกับประธานและรองประธานคณะกรรมาธิการสามัญทุกคณะเพื่อเดินทางไปตรวจสอบพื้นที่คลังน้ำมันท่าเรือคลองเตยอีกครั้งหนึ่งเพราะทราบว่าคลังน้ำมันเพิ่งหมดสัญญาเช่าของเอกชน โดยพื้นที่นี้เคยอยู่ในการพิจารณา ของสภาฯ มาแล้วแต่ติดสัญญาเช่า โดยที่ดินดังกล่าวมีพื้นที่ทั้งหมด 265 ไร่ สามารถให้สภาผู้แทนราษฏรใช้ได้ 165 ไร่ ทั้งนี้หากได้ข้อสรุปในการคัดเลือกจะดำเนินการให้มีการวางศิลาฤกษ์ก่อนวันคล้ายวันเฉลิมพระชนม์พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในปีนี้
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าสภาฯได้จัดงบให้ส.ส.คนละหนึ่งแสนบาท เพื่อรณรงค์เกี่ยวกับประชาธิปไตย โดยบอกว่าอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่ทราบว่าทำไมพรรคปราธิปัตย์จึงจุดเรื่องนี้ให้เป็นประเด็นการเมือง เพราะสภาฯแจกให้ส.ส.ทุกคนโดยให้ส.ส.แต่ละเขตเพื่อจัดอบรมเรื่องประชาธิปไตยต่อไป
ด้านนายเทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับงบที่จะให้พัฒนาประชาธิปไตย ส.ส.คนละ 1 แสนบาท รวม 48 ล้านบาท นั้น ได้มีการพูดคุยกันในพรรค ซึ่งมีความเห็นที่หลากหลาย แต่ส่วนหนึ่งพยายามคิดว่า เรื่องนี้อาจขัดรัฐธรรมนูญได้ เพราะเป็นการรับเงินบริจาคจากหน่วยงานของรัฐ ซึ่งวิธีการที่สภากำหนดคือให้ ส.ส.รับเงินทดลองจ่าย 1 แสนบาท และไปใช้จ่ายใน โครงการส่งเสริมประชาธิปไตยและนำบิลมาเบิก แต่ทางพรรคเห็นว่าถ้าส.ส.ไปเซ็นต์รับอาจจะขัดกับรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเรื่องนี่เป็นเจตนาของสภาที่ต้องการจะเผยแพร่ส่งเสริมประชาธิปไตยจริง ทางพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า น่าจะให้เป็นเรื่องของ สาขาพรรคซึ่งไม่เกี่ยวกับส.ส.เป็นคนไปดำเนินการ แล้วนำบิลค่าใช้จ่ายของโครงการ มาเบิกสภาเอง โดยไม่จำเป็นต้องให้ส.ส. เป็นคนไปเซ็นต์รับ
“ขณะนี้ที่ไปตรวจสอบดูพบว่า มีส.ส.ส่วนหนึ่งไปเซ็นต์รับและทำหนังสือสำคัญใบรับเงินจากกองคลังของสภาแล้ว ซึ่งคิดว่าอาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญได้ ทั้งนี้ในส่วนส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้าใจว่ายังไม่มีใครไปเซ็นต์รับเพราะอยู่ระหว่างการพูดคุย เพราะรอฟังความชัดเจนจากผู้บริหารพรรคอีกครั้ง”
กำลังโหลดความคิดเห็น