xs
xsm
sm
md
lg

วินัยจี้ต่อมจริยธรรมสันติมีประวัติทุจริตสอบรามฯไม่ควรเป็นรัฐมนตรี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้สัมภาษณ์ ถึงการอภิปรายของพ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ทุจริตการสอบ จนมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีคำสั่งลบชื่อนายสันติ ออกจากการเป็นนักศึกษา ว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีคำสั่งลบชื่อ นายสันติ พร้อมพัฒน์ จริง ในข้อหาทุจริตการสอบและปลอมแปลงเอกสารทางราชการ โดยเกิดขึ้นเมื่อปี 2542 เจ้าหน้าที่ได้จับนายสมยศ มีสวัสดิ์ ซึ่งให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่าตัวเองชื่อ "ศานติ พรหมภัทร" แต่เมื่อตรวจสอบพบว่า นายสมยศมานั่งสอบในที่ของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ มหาวิทยาลัย จึงได้สั่งลบชื่อนายสันติ เอาไว้ และได้เรียกให้นายสันติ มาชี้แจงเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
รศ.คิม กล่าวว่า แต่นายสันติ ไม่ได้มาชี้แจงจึงถือว่าหมดสถานภาพการเป็นนักศึกษา จนกระทั่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ออกออกระเบียบว่าด้วยการล้างมลทิน ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542 เนื่องในมหามงคลพระชนมพรรษาครบ 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งระเบียบนี้ทำให้นักศึกษาที่เคยถูกลงโทษทางวินัยทุกคน ถือว่าพ้นจากความผิด เสมือนไม่เคยทำความผิดมาก่อน
รศ.คิม กล่าวว่า สำหรับการนิรโทษกรรมให้นักศึกษานั้น มหาวิทยาลัยได้ทำ บ่อยครั้ง ในโอกาสสำคัญของชาติ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกระทำเพื่อช่วยเหลือใคร คนใดคนหนึ่ง ซึ่งในการนิรโทษกรรมครั้งนั้น ก็มีผู้ที่ได้รับอานิสงฆ์นับร้อยคน ไม่ใช่แค่นายสันติ คนเดียว และนักศึกษาที่ถูกล้างมลทินตามระเบียบนี้ ถ้าจะมาสมัครเรียนใหม่ ก็ยังสามารถที่จะโอนหน่วยกิตที่เคยได้รับมาเทียบโอนได้ แต่การเทียบโอนหน่วยกิตนั้น ต้องเป็นไปตามระเบียบที่แต่ละคณะกำหนดขึ้น
ขอยืนยันว่านายสันติ พร้อมพัฒน์ เคยถูกให้ออกจริง แต่หลังจากที่มีระเบียบขึ้นมาล้างมลทิน นายสันติ ก็มีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะกลับมาเรียนใหม่ได้ เพราะถือเป็นผู้บริสุทธิ์ มหาวิทยาลัยให้ความเสมอภาคกับทุกคน เมื่อทำผิดเราก็ลงโทษ แต่เมื่อได้สิทธิกลับมา เราก็จะดูแลเขาในฐานะครูกับศิษย์ ไม่ใช่ฐานะนักการเมือง อธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง คนปัจจุบัน ยืนยัน
ด้าน พ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ซึ่งอภิปรายกรณี นายสันติ พร้อมพัฒน์ ทุจริตการสอบด้วยการว่าจ้างบุคคลภายนอก เข้าสอบแทน และปลอมแปลงเอกสารบัตรประจำตัวนักศึกษาและใบขับขี่ตลอดชีพ เพื่ออ้างเป็นเอกสาร เข้าสอบจนถูกมหาวิทยาลับรามคำแหงไล่ออก กล่าวถึงกรณีที่รศ.คิม ระบุว่านายสันติ ถูกไล่ออกจริง แต่ต่อมาได้รับการนิรโทษกรรมและได้เข้าเรียนต่อจนจบปริญญาตรี และปริญญาโทว่า ในการอภิปรายของตนไม่ได้ระบุถึงวุฒิการศึกษาของนายสันติ แต่อย่างไร แต่ตนอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม และจริยธรรมของรัฐมนตรี โดยตนถาม 3 ข้อคือ
1.นายสันติ ปลอมใบขับขี่ซึ่งกรมการขนส่งทางบกออกให้ แล้วไปเป็นผู้บังคับบัญชาของอธิบดีกรมนี้ อธิบดีจะรู้สึกอย่างไร 2. ดูจากประวัติพบว่านายสันติ ถูกไล่ออกเมื่อปี 2542 แล้วกลับเข้าไปเรียนเลยได้อย่างไร และ 3. ตนปลาดใจและตั้งข้อสังเกตุที่นายรังสรรค์ แสงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงยุคนั้น ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นบอร์ดการบินไทย ยุคนายสันติ
พ.อ.วินัย กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รมว.คมนาคม แต่มีประวัติทุจริตในเรื่องการสอบจะทำให้สังคมยอมรับในการทำงานได้อย่างไร และการสานงานเพิ่มต่างๆ จะได้รับความไว้วางใจได้อย่างไร ก็ขนาดเมื่อตอนเป็นนักศึกษาจนมีพฤติกรรมอย่างที่ตนอภิปรายไป
พ.อ.วินัย กล่าวว่าระหว่างการอภิปราย นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ได้ลึกขึ้นประท้วงตนว่าอาจใช้เอกสารปลอม เพราะได้สอบถาม นายสันติแล้วยืนยันว่าไม่เคยมีพฤติกรรมอย่างที่ตนอภิปราย ตนก็ได้ยื่นยันและท้าว่าหากเป็นเอกสารปลอมจริงตนก็พร้อมจะลาออกจาก ส.ส. จึงอยากถามว่าเมื่อ รศ.คิม ยืนยันว่านายสันติ ถูกไล่ออกจริง นายสันติ และนายจตุพร จะแสดงความรับผิดของอย่างไร
อันที่จริงเรื่องนี้ผมไม่อยากทวงถามก็ต้องให้สังคมได้ทวงถามเอง และก็ขึ้นอยู่กับจริยธรรมและคุณธรรมของนายสันติว่าเมื่อถูกแฉถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่จะมานั่งเป็นรัฐมนตรีแล้วจะตัดสินใจอย่างไร
พ.อ.วินัย กล่าวว่าปัญหาบ้านเมืองในปัจจุบัน เกิดจากความไม่มีคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ปกครอง ถ้าผู้บริหารมีคุณธรรม จริยธรรมปัญหาต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้ปรึกษาหารือกันภายในพรรคว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะยังยุ่งอยู่กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจและอภิปรายงบประมาณ ส่วนพรรคจะดำเนินการอย่างไรก็อยู่ที่การหารือกันภายในพรรค
ด้านนายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า หลังจากตนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษและขอให้ดำเนินคดี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ปลอมแปลงเอกสารเพื่อให้ผู้อื่นเข้าสอบแทนจนจนถูกไล่ออก และนายรังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ละเว้นปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบไม่ดำเนินการกรณีนายสันติ ปลอมแปลงเอกสารเพื่อเข้าสอบ ต่อมานายรังสรรค์ ได้แถลงข่าวปกป้องความผิดนายสันติ ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดโดยระบุว่า เป็นความผิดพลาดของฝ่ายทะเบียนในการถอนชื่อ นายสันตติ ออกจากการเป็นศึกษา ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดทุจริตการสอบ โดยผู้ที่กระทำจริงตัวจริงคือ นายสานติ หรือ ศานติ พรหพัฒน์ นั้น ตนได้ให้นายโลมิรันดร์ บุตรจันทร์ ทนายความ ไปตรวจสอบทะเบียนราฎรแล้วปรากฎว่าไม่มีชื่อนี้ในสาระบบทะเบียนราษฎร์
นายวิวัฒน์ชัย กล่าวว่า ผู้ช่วยนายทะเบียนท้องถิ่น เขตบางกะปิ ทำหน้าที่แทนนายทะเบียน ได้ยืนยันว่าไม่มีชื่อนายสานติ หรือสานติ พรมพัฒน์ ในสาระบบทะเบียนราษฎร์
นายวิวัฒน์ชัย กล่าวว่า การประชุมลบชื่อนายสันติ พร้อมพัฒน์ ซึ่งขณะนั้นเป็น ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคความหวังใหม่ รศ.พรชัย เทพปัญญา ซึ่งขณะนั้นเป็นคณะบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสถาบันพระปกเกล้า เป็นผู้ดำเนินการลบชื่อ ในฐานะต้นสังกัดในขณะนั้น
นายวิวัฒน์ชัย เพื่อให้ความจริงได้ปรากฎต่อสาธารณชนให้เป็นประจักษ์ ถึงบุคคลที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เป็นบุคคลสาธารณะ ที่ต้องมีจริยธรรมทางการเมือง และตำแหน่งนี้ได้รับโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงควรที่เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรมกับผู้กระทำผิดตามกระบวนการยุติธรรม เพราะเรื่องนี้ยังไม่ปรากฎว่าได้ดำเนินการกับนายสันติ ที่ปลอมแปลงเอกสารแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น