ขนส่งฯ เผยแท็กซี่เตรียมปรับค่าโดยสารอัตราใหม่ ภายในสัปดาห์นี้ หลังกระทรวงคมนาคม ประกาศกฎกระทรวงรองรับ หลังจากนั้น ผู้ประกอบการจะนำรถแท็กซี่มาปรับเปลี่ยนมิเตอร์ และสามารถจัดเก็บค่าโดยสารอัตราใหม่ได้ทันที
วันนี้ (17 มิ.ย.) นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะทำงานพิจารณาการกำหนดอัตราค่าโดยสารของรถแท็กซี่ เห็นชอบแนวทางให้ผู้ประกอบการสามารถปรับค่าโดยสารในอัตราใหม่ คือ 1 กิโลเมตรแรก 35 บาท และเพิ่มอีก 50 สตางค์ทุกกิโลเมตร โดยคณะทำงานได้นำเสนอความเห็นให้นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณาไปแล้ว และเชื่อว่า ภายใน 1-2 วันนี้ กระทรวงคมนาคม จะมีประกาศกฎกระทรวงให้ผู้ประกอบการสามารถจัดเก็บค่าโดยสารอัตราใหม่ได้
อย่างไรก็ตาม นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการจัดเก็บค่าโดยสารในอัตราใหม่ ผู้ประกอบการทุกรายจะต้องนำรถแท็กซี่ไปปรับเปลี่ยนหรือตั้งค่ามิเตอร์เพื่อให้เป็นไปตามอัตราใหม่ โดยกรมการขนส่งทางบกได้เตรียมอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการ โดยจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำยังบริษัทเอกชน 9 ราย ที่เป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากกรมฯ เป็นผู้จำหน่าย ติดตั้งและตั้งค่ามิเตอร์รถ ซึ่งเมื่อช่างเทคนิคมีการปรับค่ามิเตอร์เสร็จ เจ้าหน้าที่ของกรมฯ จะตรวจสอบ หากเป็นไปตามมาตรฐานและกฎหมายกำหนด จะมีผลให้สามารถวิ่งให้บริการจัดเก็บค่าโดยสารในอัตราใหม่ได้
ส่วนประเด็นที่กลุ่มสหกรณ์แท็กซี่สยาม ออกมาเรียกร้องขอปรับค่าโดยสารเต็มเพดานที่ขอมา หรือขอขึ้นค่าโดยสารร้อยละ 20 จากเดิมที่คณะทำงานอนุมัติให้ร้อยละ 12-14 หากภาครัฐมีการลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) นั้น รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ได้ขอให้ผู้ประกอบการรอความชัดเจน จากการกำหนดราคาก๊าซแอลพีจีก่อน แต่เบื้องต้นอยากจะเตือนผู้ประกอบการแท็กซี่ว่า การปรับค่าโดยสารครั้งเดียวจำนวนมาก จะทำให้ประชาชนลดปริมาณการใช้ ซึ่งสุดท้ายจะทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบเอง
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกมีแนวคิดที่จะคุมกำเนิดปริมาณรถแท็กซี่ เพื่อให้มีปริมาณเหมาะสม ช่วยให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยหลังจากนี้กรมการขนส่งทางบก จะว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา เข้ามาศีกษาว่า จำนวนรถแท็กซี่ที่เหมาะสมในระบบของกรุงเทพฯ และปริมณฑลควรมีปริมาณเท่าใด โดยปัจจุบันมีรถแท็กซี่ จดทะเบียนในระบบกว่า 90,000 คัน แต่มีรถแท็กซี่วิ่งให้บริการและเข้ามาต่อทะเบียนภาษี ประมาณ 65,000 คัน
