ผู้จัดการรายวัน - “บอร์ดการบินไทย” สั่ง แขวน “อภินันทน์” โยกไปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพิธีการทั่วไปของบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารภายในองค์กร ชี้บริหารงานไม่เป็นที่ยอมรับทำให้เกิดความขัดแย้งภายใน ไม่สนองบอร์ด พร้อมแต่งตั้ง “นรหัช พลอยใหญ่” เตรียมทหารรุ่นเดียวกับ “ทักษิณ” นั่งบริหารแทน ฉวยโอกาสย้ายเหตุไม่สานประโยชน์ต่อเนื่อง ด้านนกแอร์ยันไม่เจ๊งมั่นใจฝ่าวิกฤตินี้ได้ ขณะที่ช่วงดึก "ชัยสวัสดิ์”กลับลำ ยกเลิกคำสั่งแขวน หลังนักบินและสหภาพลุกฮือต้านคำสั่ง
นายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเผยภายหลังการประชุมบอร์ดการบินไทย วานนี้ (26 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุม มีมติให้ เรืออากาศโทนรหัช พลอยใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สังกัดสำนักงานกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ มาปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เพื่อดูแลในงานด้านการบริหารภายในองค์กร ส่วนเรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ยังคงใหญ่อยู่ในตำแหน่งเดิมแต่ให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพิธีการทั่วไปของบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารภายในองค์กร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 2551
“ปัจจุบันการบินไทยประสบปัญหาวิกฤติต่างๆ จำเป็นต้องมีการแก้ไขและบริหารจัดการ ในหลายด้าน และยังไม่มีการบริหารที่ดี ไม่สามารถตอบสนองตามที่บอร์ดคาดหวัง และไม่เป็นที่ยอมรับจากหลายฝ่าย นอกจากนี้ยังเกิดความขัดแย้งภายในองค์กรตลอดมา ซึ่งเกิดจากการโยกย้ายภายในองค์กร ทำให้สร้างความไม่พอใจกับคนภายในองค์กร ดังนั้นจึงต้องหาคนกลางมาไกล่เกลี่ย อย่างไรตามยืนยันว่าการโยกย้ายดังกล่าวไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซง แม้ว่าเรืออากาศโทนรหัชจะเป็นเตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับทักษิณก็ตาม” นายชัยสวัสดิ์กล่าว
นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กล่าวว่า สหภาพฯ การบินไทยไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนตัวผู้บริหาร เพราะไม่ใช่แนวทางการแก้ไขปัญหา ที่การบินไทยกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ เรืออากาศโทนรหัช ยังเป็นคนใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งยิ่งจะกลับมาสร้างความปั่นป่วนให้กับองค์กร เรื่องนี้พนักงานรู้ดีกว่าบอร์ด และยืนยันว่าจะเดินหน้ายื่นข้อเรียกร้องต่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานผู้แทนราษฎร์ และวุฒิสภา
ส่วนกรณีของสายการบินนกแอร์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการบินไทยนั้น สหภาพฯไม่เห็นด้วยกับการที่การบินไทยจะอุ้มนกแอร์ เพราะกระทบกับพนักงานโดยตรง และปัจจุบันภาระการบินไทยก็มีมากอยู่แล้ว
สำหรับ เรืออากาศโทอภินันท์ สุมนะเศรณี เกิดเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2492 อายุ 57 ปีจบการศึกษาปริญญาตรี (วิทยาศาสตร์บัณฑิต) จากโรงเรียนนายเรืออากาศ เริ่มทำงานกับการบินไทยตั้งแต่ 1 ส.ค. 2518 ในตำแหน่งนักบินที่ 3 และเข้ารับตำแหน่งล่าสุดมีตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. 2549 อย่างไรก็ตามได้มีการโทรศัพท์สอบถาม เรืออากาศโทอภินันทน์ แต่เรืออากาศโทอภินันท์ไม่รับสาย ส่วน เรืออากาศโทนรหัช เกิดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2493 จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และเข้าทำงานตั้งแต่ปี 2521จนถึงปัจจุบัน
เหตุไม่สานผลประโยชน์ต่อเนื่อง
แหล่งข่าวจากบริษัทการบินไทย กล่าวถึงการสั่งปลดดีดีบินไทยว่าเป็นการฉวยโอกาสการอภิปรายของฝ่ายค้านที่โจมตีการบริหารงานของการบินไทย หลายกรณี เช่น การนำเครื่องบินไทยรับผู้ใหญ่ทำให้ไม่สามารถมารับผู้โดยสารที่ฮ่องกง จนต้องทำให้ผู้โดยสารตกเครื่องและต้องเปิดโรงแรมให้ผู้โดยสารพักกว่า 300 คนเพื่อรอเครื่องมารับ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการจัดซื้อเครื่องบินเพื่อนำมาใช้บินในเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเส้นทางดังกล่าวประสบภาวะขาดทุน แต่ยังดันทุรังบินจนในที่สุดต้องยกเลิกเพียงเพื่อต้องการนำมาเป็นข้ออ้างในการจัดซื้อเครื่องบินเท่านั้น ซึ่งสาเหตุดังกล่าวเป็นข้ออ้างที่จะนำมาปลดฟ้าผ่า
“ว่ากันว่าการโยกย้ายครั้งนี้เบื้องหลังขัดกันเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งดีดีบินไทยที่ถูกโยกย้ายเป็นผู้มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ แต่ขาดการจัดการผลประโยชน์จนทำให้เกิดความไม่พอใจและมีการโยกย้ายในครั้งนี้ และแต่งตั้งคนใกล้ชิดขึ้นมาสานประโยชน์ในการบินไทยทดแทน” แหล่งข่าวคนเดียวกั กล่าว
สั่งหารือแก้ปัญหานกแอร์
นายชัยสวัสดิ์กล่าวว่า นอกจากนี้บอร์ดการบินไทยยังได้มอบหมายให้กับผู้บริหาร ไปร่วมหารือกับสายการบินนกแอร์ เพื่อพิจารณาถึงแนวทางการใช้และการบริหารจัดการด้านทรัพยากรร่วมกันระหว่างการบินไทยและนกแอร์ รวมถึงการปรับเส้นทางให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และแนวการแก้ไขวิกฤติอย่างไร ซึ่งปัจจุบันสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) กำลังประสบกับปัญหาขาดทุนจากราคาน้ำมัน โดยจะมีการประชุมร่วมกันในวันที่ 4 ก.ค.2551 นี้
นายสีหพันธ์ ชุมสาย ณ อยุธยา รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการตลาด สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า ขณะนี้สายการบินนกแอร์ อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับแผนเส้นทางการบิน ตามที่บริษัทการบินไทย มีนโยบายต้องการให้ปรับเส้นทางการบินระหว่างการบินไทยและนกแอร์ เพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันกันเอง รวมถึงการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อประหยัดต้นทุนการดำเนินงาน
“เนื่องจากสภาวะน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งยอมรับว่านกแอร์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว เหมือนกับการบินไทย และสายการบินอื่น ที่ประสบการณ์ดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สายการบินนกแอร์มีความมั่นใจว่าจะฝ่าวิกฤติน้ำมันแพงได้อย่างแน่นอน”นายสีหพันธ์ กล่าว
นายสีหพันธ์ กล่าวถึงการแผนปรับเส้นทางว่า จะมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการ(บอร์ด) สายการบินนกแอร์ ในวันที่ 4 ก.ค. 2551 เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ทางนกแอร์ยังได้ระบุว่า แม้จะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพงก็ตาม แต่จากกระแสข่าวที่ออกมาว่าสายการบินนกแอร์ อาจจะปิดกิจการนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
“จากกระแสข่าวที่ออกมาว่า นกแอร์จะเจ๊งนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งเรายอมรับว่าขณะนี้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันจริง แต่เรามั่นใจว่าจะสามารถฝ่าวิกฤตินี้ไปได้ จึงการปรับลดเที่ยวบินอาจจะเป็นอีกแนวทางที่สามารถช่วยเหลือต้นทุนได้” นายสีหพันธ์
"จุติ" แฉ "คนใกล้ชิดทักษิณ" นั่งดีดี
นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการแทรกแซง การบินไทยว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ได้มีการตั้งคณะกรรมการการบินไทย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เห็นความผิดปกติเกิดขึ้น ว่ารัฐบาลมีความพยายามเข้าไปแทรกแซงกิจการ ภายในการบินไทย โดยมีการตั้งบอร์ดการบินไทยขึ้นมาใหม่ และมีการแขวน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้วยการอ้างเรื่องการตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่นในการบินไทย ซึ่งพรรคยอมรับว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ทั้งในอดีตและปัจจุบัน แต่ในระหว่างนี้ ได้มีการตั้งรักษาการผู้จัดการใหญ่ขึ้นมาแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ ซึ่งตนไม่รู้จัก กรรมการผู้จัดการใหญ่และรักษาการผู้จัดการใหญ่เป็นการส่วนตัว แต่มีการส่งคนใกล้ชิด เข้ามาเป็นรักษาการผู้จัดการใหญ่ ส่งคนเข้ามาแทรกแซงการบริหารงานของ การบินไทย
นายจุติ กล่าวว่า ดังนั้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายจับตาดูใน 2 ประเด็นใหญ่ที่เหมือนจะมีการคอร์รัปชั่นเกิดขึ้น โดยเฉพาะในระยะสั้น จะมีการจัดซื้อเครื่องบิน จำนวน 3 หมื่นล้านบาท และการประมูลบริษัทที่จะเข้ามาให้บริการครัวการบินไทย
“ชัยสวัสดิ์”กลับลำ ยกเลิกคำสั่งแขวน
นายชัยสวัสดิ์ กล่าวยอมรับว่า ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ตนได้ลงนามในฐานะประธานบอร์ด ยกเลิกคำสั่ง ให้เรืออากาศโทอภินันท์ ไปปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพิธีการทั่วไปของบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารภายในองค์กรแต่ยังให้อยู่ในตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เนื่องจากหลังบอร์ดมีมติ สหภาพการบินไทยและนักบินได้มาพบ และแสดงความไม่สบายใจที่บอร์ดได้มีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่แจ้งให้ทราบข้อมูลก่อน ดังนั้นจึงถือว่า เรืออากาศโทอภินันท์ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ และตนจะนำข้อเรียกร้องและเหตุผลของสหภาพฯและนักบิน หารือในที่ประชุมบอร์ดซึ่งจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นายชัยสวัสดิ์ ยอมรับด้วยว่า การพิจารณาเกี่ยวกับ เรืออากาศโทอภินันท์ นั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือถึงประธานบอร์ดการบินไทย ลงวันที่ 10 มิ.ย. 2551 เพื่อขอทราบผลการดำเนินการและคำชี้แจงกรณีการจัดซื้อ เครื่องบิน แอร์บัส 330-300 จำนวน 8 ลำซึ่งมีการร้องเรียน โดยมีบอร์ดการบินไทยบางท่านไม่สบายใจในเรื่องนี้
ทั้งนี้ หลังจากบอร์ดการบินไทยมีมติในช่วงสายวานนี้ (26 มิ.ย.) ให้เรืออากาศโทอภินันท์ ไปปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพิธีการทั่วไป ได้มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มสหภาพฯและนักบิน และมีกระแสข่าวว่า นักบินจะลาป่วยพร้อมกันซึ่งจะกระทบกับการให้บริการของการบินไทย
แหล่งข่าวจากการบินไทยกล่าวว่า สตง.ได้รับการร้องเรียนให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงการจัดซื้อเครื่องบิน แอร์บัส 330-300 จำนวน 8 ลำพร้อมอุปกรณ์ติดตั้งบนเครื่องบิน (BFE) และเครื่องยนต์ ที่บริษัทได้วางเงินมัดจำไว้ 13 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งขัดต่อมติครม.ที่ให้บริษัทจัดหาเครื่องบินดังกล่าวโดยวิธีการเช่าไม่ใช่การซื้อ
นอกจากไม่ทำตามมติครม.แล้ว บริษัทยังไม่ได้เรียกเงินมัดจำในการจัดซื้อเครื่องบินดังกล่าวจากแอร์บัส อีกทั้งยังมีการจ่ายค่างวดให้แอร์บัสไปอีก 2 งวด ๆ ละ 30 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตามรายงานการประชุมบอร์ดบริษัทเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2550 เกี่ยวกับการโอนสิทธิการจองซื้อเครื่องบินของบริษัทที่ทำสัญญาให้สถาบันการเงิน ธนาคารหรือบริษัทผู้ให้เช่า ฝ่ายบริหารบริษัทพยายามให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนแก่คณะกรรมการ ทำให้เกิดความไขว้เขว และเข้าใจผิด
นายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเผยภายหลังการประชุมบอร์ดการบินไทย วานนี้ (26 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุม มีมติให้ เรืออากาศโทนรหัช พลอยใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สังกัดสำนักงานกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ มาปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เพื่อดูแลในงานด้านการบริหารภายในองค์กร ส่วนเรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ยังคงใหญ่อยู่ในตำแหน่งเดิมแต่ให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพิธีการทั่วไปของบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารภายในองค์กร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 2551
“ปัจจุบันการบินไทยประสบปัญหาวิกฤติต่างๆ จำเป็นต้องมีการแก้ไขและบริหารจัดการ ในหลายด้าน และยังไม่มีการบริหารที่ดี ไม่สามารถตอบสนองตามที่บอร์ดคาดหวัง และไม่เป็นที่ยอมรับจากหลายฝ่าย นอกจากนี้ยังเกิดความขัดแย้งภายในองค์กรตลอดมา ซึ่งเกิดจากการโยกย้ายภายในองค์กร ทำให้สร้างความไม่พอใจกับคนภายในองค์กร ดังนั้นจึงต้องหาคนกลางมาไกล่เกลี่ย อย่างไรตามยืนยันว่าการโยกย้ายดังกล่าวไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซง แม้ว่าเรืออากาศโทนรหัชจะเป็นเตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับทักษิณก็ตาม” นายชัยสวัสดิ์กล่าว
นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กล่าวว่า สหภาพฯ การบินไทยไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนตัวผู้บริหาร เพราะไม่ใช่แนวทางการแก้ไขปัญหา ที่การบินไทยกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ เรืออากาศโทนรหัช ยังเป็นคนใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งยิ่งจะกลับมาสร้างความปั่นป่วนให้กับองค์กร เรื่องนี้พนักงานรู้ดีกว่าบอร์ด และยืนยันว่าจะเดินหน้ายื่นข้อเรียกร้องต่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานผู้แทนราษฎร์ และวุฒิสภา
ส่วนกรณีของสายการบินนกแอร์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการบินไทยนั้น สหภาพฯไม่เห็นด้วยกับการที่การบินไทยจะอุ้มนกแอร์ เพราะกระทบกับพนักงานโดยตรง และปัจจุบันภาระการบินไทยก็มีมากอยู่แล้ว
สำหรับ เรืออากาศโทอภินันท์ สุมนะเศรณี เกิดเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2492 อายุ 57 ปีจบการศึกษาปริญญาตรี (วิทยาศาสตร์บัณฑิต) จากโรงเรียนนายเรืออากาศ เริ่มทำงานกับการบินไทยตั้งแต่ 1 ส.ค. 2518 ในตำแหน่งนักบินที่ 3 และเข้ารับตำแหน่งล่าสุดมีตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. 2549 อย่างไรก็ตามได้มีการโทรศัพท์สอบถาม เรืออากาศโทอภินันทน์ แต่เรืออากาศโทอภินันท์ไม่รับสาย ส่วน เรืออากาศโทนรหัช เกิดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2493 จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 รุ่นเดียวกับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และเข้าทำงานตั้งแต่ปี 2521จนถึงปัจจุบัน
เหตุไม่สานผลประโยชน์ต่อเนื่อง
แหล่งข่าวจากบริษัทการบินไทย กล่าวถึงการสั่งปลดดีดีบินไทยว่าเป็นการฉวยโอกาสการอภิปรายของฝ่ายค้านที่โจมตีการบริหารงานของการบินไทย หลายกรณี เช่น การนำเครื่องบินไทยรับผู้ใหญ่ทำให้ไม่สามารถมารับผู้โดยสารที่ฮ่องกง จนต้องทำให้ผู้โดยสารตกเครื่องและต้องเปิดโรงแรมให้ผู้โดยสารพักกว่า 300 คนเพื่อรอเครื่องมารับ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการจัดซื้อเครื่องบินเพื่อนำมาใช้บินในเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเส้นทางดังกล่าวประสบภาวะขาดทุน แต่ยังดันทุรังบินจนในที่สุดต้องยกเลิกเพียงเพื่อต้องการนำมาเป็นข้ออ้างในการจัดซื้อเครื่องบินเท่านั้น ซึ่งสาเหตุดังกล่าวเป็นข้ออ้างที่จะนำมาปลดฟ้าผ่า
“ว่ากันว่าการโยกย้ายครั้งนี้เบื้องหลังขัดกันเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งดีดีบินไทยที่ถูกโยกย้ายเป็นผู้มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ แต่ขาดการจัดการผลประโยชน์จนทำให้เกิดความไม่พอใจและมีการโยกย้ายในครั้งนี้ และแต่งตั้งคนใกล้ชิดขึ้นมาสานประโยชน์ในการบินไทยทดแทน” แหล่งข่าวคนเดียวกั กล่าว
สั่งหารือแก้ปัญหานกแอร์
นายชัยสวัสดิ์กล่าวว่า นอกจากนี้บอร์ดการบินไทยยังได้มอบหมายให้กับผู้บริหาร ไปร่วมหารือกับสายการบินนกแอร์ เพื่อพิจารณาถึงแนวทางการใช้และการบริหารจัดการด้านทรัพยากรร่วมกันระหว่างการบินไทยและนกแอร์ รวมถึงการปรับเส้นทางให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และแนวการแก้ไขวิกฤติอย่างไร ซึ่งปัจจุบันสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) กำลังประสบกับปัญหาขาดทุนจากราคาน้ำมัน โดยจะมีการประชุมร่วมกันในวันที่ 4 ก.ค.2551 นี้
นายสีหพันธ์ ชุมสาย ณ อยุธยา รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการตลาด สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า ขณะนี้สายการบินนกแอร์ อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับแผนเส้นทางการบิน ตามที่บริษัทการบินไทย มีนโยบายต้องการให้ปรับเส้นทางการบินระหว่างการบินไทยและนกแอร์ เพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันกันเอง รวมถึงการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อประหยัดต้นทุนการดำเนินงาน
“เนื่องจากสภาวะน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งยอมรับว่านกแอร์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว เหมือนกับการบินไทย และสายการบินอื่น ที่ประสบการณ์ดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สายการบินนกแอร์มีความมั่นใจว่าจะฝ่าวิกฤติน้ำมันแพงได้อย่างแน่นอน”นายสีหพันธ์ กล่าว
นายสีหพันธ์ กล่าวถึงการแผนปรับเส้นทางว่า จะมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการ(บอร์ด) สายการบินนกแอร์ ในวันที่ 4 ก.ค. 2551 เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ทางนกแอร์ยังได้ระบุว่า แม้จะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพงก็ตาม แต่จากกระแสข่าวที่ออกมาว่าสายการบินนกแอร์ อาจจะปิดกิจการนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
“จากกระแสข่าวที่ออกมาว่า นกแอร์จะเจ๊งนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งเรายอมรับว่าขณะนี้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันจริง แต่เรามั่นใจว่าจะสามารถฝ่าวิกฤตินี้ไปได้ จึงการปรับลดเที่ยวบินอาจจะเป็นอีกแนวทางที่สามารถช่วยเหลือต้นทุนได้” นายสีหพันธ์
"จุติ" แฉ "คนใกล้ชิดทักษิณ" นั่งดีดี
นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการแทรกแซง การบินไทยว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ได้มีการตั้งคณะกรรมการการบินไทย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เห็นความผิดปกติเกิดขึ้น ว่ารัฐบาลมีความพยายามเข้าไปแทรกแซงกิจการ ภายในการบินไทย โดยมีการตั้งบอร์ดการบินไทยขึ้นมาใหม่ และมีการแขวน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้วยการอ้างเรื่องการตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่นในการบินไทย ซึ่งพรรคยอมรับว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ทั้งในอดีตและปัจจุบัน แต่ในระหว่างนี้ ได้มีการตั้งรักษาการผู้จัดการใหญ่ขึ้นมาแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ ซึ่งตนไม่รู้จัก กรรมการผู้จัดการใหญ่และรักษาการผู้จัดการใหญ่เป็นการส่วนตัว แต่มีการส่งคนใกล้ชิด เข้ามาเป็นรักษาการผู้จัดการใหญ่ ส่งคนเข้ามาแทรกแซงการบริหารงานของ การบินไทย
นายจุติ กล่าวว่า ดังนั้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายจับตาดูใน 2 ประเด็นใหญ่ที่เหมือนจะมีการคอร์รัปชั่นเกิดขึ้น โดยเฉพาะในระยะสั้น จะมีการจัดซื้อเครื่องบิน จำนวน 3 หมื่นล้านบาท และการประมูลบริษัทที่จะเข้ามาให้บริการครัวการบินไทย
“ชัยสวัสดิ์”กลับลำ ยกเลิกคำสั่งแขวน
นายชัยสวัสดิ์ กล่าวยอมรับว่า ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ตนได้ลงนามในฐานะประธานบอร์ด ยกเลิกคำสั่ง ให้เรืออากาศโทอภินันท์ ไปปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพิธีการทั่วไปของบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารภายในองค์กรแต่ยังให้อยู่ในตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เนื่องจากหลังบอร์ดมีมติ สหภาพการบินไทยและนักบินได้มาพบ และแสดงความไม่สบายใจที่บอร์ดได้มีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่แจ้งให้ทราบข้อมูลก่อน ดังนั้นจึงถือว่า เรืออากาศโทอภินันท์ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ และตนจะนำข้อเรียกร้องและเหตุผลของสหภาพฯและนักบิน หารือในที่ประชุมบอร์ดซึ่งจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นายชัยสวัสดิ์ ยอมรับด้วยว่า การพิจารณาเกี่ยวกับ เรืออากาศโทอภินันท์ นั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือถึงประธานบอร์ดการบินไทย ลงวันที่ 10 มิ.ย. 2551 เพื่อขอทราบผลการดำเนินการและคำชี้แจงกรณีการจัดซื้อ เครื่องบิน แอร์บัส 330-300 จำนวน 8 ลำซึ่งมีการร้องเรียน โดยมีบอร์ดการบินไทยบางท่านไม่สบายใจในเรื่องนี้
ทั้งนี้ หลังจากบอร์ดการบินไทยมีมติในช่วงสายวานนี้ (26 มิ.ย.) ให้เรืออากาศโทอภินันท์ ไปปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพิธีการทั่วไป ได้มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มสหภาพฯและนักบิน และมีกระแสข่าวว่า นักบินจะลาป่วยพร้อมกันซึ่งจะกระทบกับการให้บริการของการบินไทย
แหล่งข่าวจากการบินไทยกล่าวว่า สตง.ได้รับการร้องเรียนให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงการจัดซื้อเครื่องบิน แอร์บัส 330-300 จำนวน 8 ลำพร้อมอุปกรณ์ติดตั้งบนเครื่องบิน (BFE) และเครื่องยนต์ ที่บริษัทได้วางเงินมัดจำไว้ 13 ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งขัดต่อมติครม.ที่ให้บริษัทจัดหาเครื่องบินดังกล่าวโดยวิธีการเช่าไม่ใช่การซื้อ
นอกจากไม่ทำตามมติครม.แล้ว บริษัทยังไม่ได้เรียกเงินมัดจำในการจัดซื้อเครื่องบินดังกล่าวจากแอร์บัส อีกทั้งยังมีการจ่ายค่างวดให้แอร์บัสไปอีก 2 งวด ๆ ละ 30 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตามรายงานการประชุมบอร์ดบริษัทเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2550 เกี่ยวกับการโอนสิทธิการจองซื้อเครื่องบินของบริษัทที่ทำสัญญาให้สถาบันการเงิน ธนาคารหรือบริษัทผู้ให้เช่า ฝ่ายบริหารบริษัทพยายามให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนแก่คณะกรรมการ ทำให้เกิดความไขว้เขว และเข้าใจผิด