xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ชูใบเสร็จทุจริตซื้อเครื่องบินไทยกินค่าคอมฯ หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล
“สนธิ” ชูใบเสร็จทุจริตเชิงนโยบายการบินไทย สั่ง ผอ.ฝ่ายวางแผน แต่งตัวเลข เปิดเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก หาข้ออ้างซื้อเครื่องบินแอร์บัส 5 ลำ กินค่าคอมฯ นับหมื่นล้าน สุดท้ายต้องขาดทุนเดือนละ 1.4 พันล้าน ประกาศปิดเที่ยวบิน 1 ก.ค.51นี้ จี้ “ทนง พิทยะ” อดีตประธานการบินไทยรับผิดชอบ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย 

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยได้กล่าวถึงกรณีที่พระพยอม กัลยาโน เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ไม่อยากจะให้เด็กๆ มาฟังการปราศรัยเพราะจะได้ยินคำหยาบคายและน่าจะมีกฎหมายห้ามพ่อแม่พาลูกหลานไปฟังการปราศรัยว่า ตนเป็นคนเคารพพระ เคยบวชมา 2 ครั้ง มีแต่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่สอนให้เอาธรรมนำหน้า ไม่เคยสอนให้เลียรัฐบาล ถ้าพระคุณเจ้าพยอมอยากจะพูดเตือนว่าการพูดจาต้องสุภาพ ทำไมไม่ไปเตือนนายกฯ เป็นพระเป็นเจ้ายังไม่รู้จักว่าควรจะเทศน์ให้ใครฟัง มาเทศน์ให้พวกเราที่เอาธรรมนำหน้าตลอดเวลา

นายสนธิ กล่าวต่อว่า พรรษาการบวชของตนน้อยกว่าพระพยอม เพราะบวชมา 2 ครั้งๆ ละเดือนกว่า แต่ก็ได้ปฏิบัติติธรรมมาโดยตลอด จิตใจจึงสงบ และปล่อยวาง อยากให้พระพยอมปล่อยวางด้วย ถ้าไม่ปล่อยวาง ก็คือเฉลิม อยู่บำรุง ในคราบผ้าเหลือง ที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นพระพยอมพูดแบบให้ธรรม มีแต่เล่นคำผวนไปผวนมา ไม่เคยเสนอทางออก ไม่เคยบอกรัฐบาลให้เอาธรรมนำหน้า ให้หยุดฉ้อราษฎร์บังลวง

นายสนธิ กล่าวว่า พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ตนนับถือนั้น แม้ท่านเหล่านั้นอาจไม่ชอบวิธีการที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำ แต่ท่านก็สงบ แต่เวลาท่านเทศน์ ท่านให้เอาธรรมนำหน้า พูดถึงบาปบุญคุณโทษ สวรรค์นรกมีจริง คนเราหนีกฎแห่งกรรมไม่ได้ ท่านไม่เคยบอกว่าฝ่ายไหนเป็นอย่างไร มีแต่พระพะยอมที่มากล่าวหาพวกเราตลอดเวลา สังคมมันเพี้ยนหมด

**บินตรง “กรุงเทพฯ-นิวยอร์ก” มหาโกงการบินไทย

ต่อมา นายสนธิ ได้เปิดเผยถึงการทุจริตเชิงนโยบายในการบินไทย ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 3 ปีในการพิสูจน์ นั่นคือกรณีการซื้อเครื่องบนแอร์บัสเพื่อนำมาเปิดเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก ตนเคยพูดทางรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2548 ว่าการซื้อเครื่องบินครั้งนี้ เพื่อต้องการคอมมิชชั่นเท่านั้น เพราะเครื่องบินแอร์บัสรุ่นที่จะซื้อเป็นเครื่องบินตกรุ่น คอมมิชชั่นจึงมากกว่าปกติที่ได้ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์

นายสนธิ กล่าวต่อว่า วิธีการซื้อเครื่องบินนั้น มีการสร้างโครงการขึ้นมา โดยนายทนง พิทยะ ประธานการบินไทย ในขณะนั้นที่อ้างว่าเที่ยวบินกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก จะได้กำไร แต่เมื่อตนตรวจสอบข้อมูลดูแล้ว พบว่าเส้นทางนี้ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์เคยเปิดและขาดทุนจนยกเลิกเที่ยวบินไปแล้ว แต่ก็หาเหตุในการสร้างเส้นทางการบิน โดยให้ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนเขียนแผนขึ้นมาโดยให้บอกว่าจะมีกำไร แต่ ผอ.คนเก่าไม่เห็นด้วย จึงถูกย้าย และให้ รอง ผอ.ขึ้นมาเป็นแทน แล้วให้เขียนแผนว่าเส้นทางบินกรุงเทพฯ-นิวยอร์กจะมีกำไร

หลังจากนั้นมีการสัญญาซื้อเครื่องบินจำนวนนี้ ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อซื้อเสร็จ นายทนงก็ไปอยู่กระทรวงการคลังแทน ต่อมาดีดีการบินไทยคนใหม่ ได้ยอมรับต่อคณะกรรมาธิการคมนาคมว่า เส้นทางบินนี้ขาดทุนไปแล้ว 5 พันล้าน และจะต้องขายเครื่องบินที่ซื้อ ขณะที่สิงคโปร์แอร์ไลน์ก็กำลังจะขายเครื่องบินที่ซื้อมาใช้ในเส้นทางนี้เช่นกัน

“เขาจงใจที่จะซื้อเครื่องบินที่ไม่เหมาะกับการบินระยะไกล แต่ได้คอมมิชชันสูง เส้นทางบินระดับนี้ต้องใช้เครื่องบินโบอิ้ง ที่เขาใช้กัน แต่เปอร์เซ็นต์มันต่ำแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ เขาเลยไปซื้อแอร์บัส 340 ที่ขายไม่ออก เปอร์เซ็นต์มันได้มากกว่า 3 ได้เงินไปเป็นหมื่นล้าน” นายสนธิกล่าว

นายสนธิ กล่าวต่อว่า วันนี้ถือว่าเราเช็กบิลได้แล้ว เพราะในวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 นี้ การบินไทยตัดสินใจเลิกเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-นิวยอร์กอย่างเด็ดขาด เพราะขาดทุน 2 สัปดาห์ต่อ 700 ล้าน หรือเดือนละ 1,400 ล้านบาท ตั้งแต่เริ่มบินมาจนวันนี้ ขาดทุนเป็นหมื่นๆ ล้านแล้ว เรื่องนี้ใครจะรับผิดชอบ นอกจากคนเขียนแผนแล้ว ประเทศไทยต้องรัยผิดชอบ เพราะประเทศถือหุ้นใหญ่ในการบินไทย และพนักงานการบินไทยก็ต้องรับผิดชอบ ที่ทำให้ขาดทุน

นายสนธิ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการประกาศขายเครื่องแอร์บัสทั้ง 5 ลำแล้ว ทั้งนี้เคยบอกนักบอกหนาว่าต้องซื้อ อ้างว่าซื้อแล้วจะทำให้การบินไทยมีกำไร นี่คือการคอรัปชั่นเชิงนโยบายที่จับได้แล้ว แต่ต้องใช้เวลา 2 ปีกว่า พวกเขาทำยังกับว่าประเทศไทยเป็นสมบัติของพวกเขา ที่เขาต้องซื้อเพราะต้องการเอาเงินเข้ากระเป๋า คนวิ่งเต้นขายเครื่องแอร์บัส ชื่อนายเต๋า ที่มีพี่ชายเป็นเพื่อนกับนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ จึงเข้าออกการบินไทยได้ตลอดเวลา

นายสนธิ กล่าวว่า สำหรับนายทนง พิทยะ ที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนอัสสัมชัญศรีราชานั้น ถือว่าตัดขาดกันแล้ว ตั้งแต่มาสู้กับระบอบทักษิณ และนายทนงต้องรับผิดชอบ ถ้าได้กำไรจริงอย่างที่พูด จะขายเครื่องทำไม ปิดเส้นทางบินนี้ทำไม ซึ่งล่าสุดจะมีการใช้เครื่องบิน 5 ลำนี้ ไปบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-ลอสแองเจลิส แต่ต้องแวะที่ญี่ปุ่นก่อน เพราะถ้าบินตรงจะขาดทุน นี่แค่ตัวอย่างหนึ่งของการทุจริตคอร์รัปชัน ที่เราต้องมาช่วยกันสาปแช่งคนที่ทำความพินาศให้บ้านเมือง

นายสนธิ กล่าวต่อว่า วันนี้ เราต้องมาเรียกร้องสิทธิด้วยตัวเอง เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เราไม่เคยถอย เพราะมุ่งมั่นที่จะเอาประเทศไทยคืนมา เราพึ่งทหาร ตำรวจไม่ได้ ต้องมาพึ่งกันเอง ตนได้จุดเทียนแห่งธรรมไว้แล้ว แม้จะเป็นการจุดที่ยากลำบากท่ามกลางพายุ แต่ในฐานะเป็นคนจุดต้องเอาหลังบังลมไว้ เพื่อไม่ให้เทียนดับ ระหว่างบังก็ถูกก้อนหิน สังกะสี ปลิวมาโดนก็ต้องทน นั่นคือ การถูกฟ้อง 58 คดี การขู่ฆ่า การกลั่นแกล้งทางธุรกิจ แต่ตนไม่ยอมตาย วันนี้เทียนได้จุดติดแล้วทั่วประเทศ ขอให้เทียนสว่างไสวหลายๆ เทียนมารวมกันเป็นเทียนพรรษา เมื่อหลายเทียนพรรษารวมกันส่องสว่าง ผีก็จะอยู่ไม่ได้

นายสนธิ กล่าวอีกว่า พวกที่คอร์รัปชัน เพิ่มงบรถไฟใต้ดิน เช่ารถเมล์กินหัวคิว 6 พันล้าน ไม่เคยรู้ตัวหรอกว่าจะตกตกนรก สำหรับตนถ้าจะลำบาก ไม่มีข้าวกิน ไปจังหวัดไหนก็จะมีพ่อแม่พี่น้องให้ข้าวกิน ไม่มีที่พักก็มีบ้านให้นอน ไม่มีเงินเติมนำมัน ก็เติมน้ำมันให้ นี่คือสุดยอดของชีวิตแล้ว ทำไมต้องมีเงินพันล้าน หมื่นล้าน สู้มีน้ำใจอย่างพี่น้องดีกว่า หรือเมื่อตายไปแล้วลูกชายเดินถนนมีคนมาบอกว่าพ่อคุณใช้ได้ แค่นี้ก็พอแล้ว จะเอาอะไรนักหนา อย่างอื่นไม่มีความหมายหรอก ถ้าได้ทำงานให้ชาติบ้านเมือง ถึงตัวตายช่างมัน
กำลังโหลดความคิดเห็น