xs
xsm
sm
md
lg

แฉกลโกงทักษิณ แบล็กเมล์พวกมี “ชะนัก” ติดหลังทำทุจริตให้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บนเวทีการเสวนาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น ผู้ร่วมเสวนาจากซ้ายไปขวา นายการุณ ไสยงาม, นายวีระ สมความคิด และนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ
“วีระ-การุณ” เปิดเวทีทบทวนผลงานทุจริตตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ นับกันไม่ถ้วน มูลค่ามหาศาล แต่กระบวนการคล้ายกันคือ เน้นใช้คนที่เคยทุจริตมาทำผิดให้ต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐวิสาหกิจ แฉ “แม้ว” เชี่ยวชาญทุจริต ใช้ทั้งเครื่องมือรัฐ บุคลากร ระเบียบราชการ กฎหมาย และงบประมาณของรัฐ อย่างบูรณาการ อีกทั้งยังออกกฎหมายมาปกป้องการทุจริตของตัวเองอีกด้วย หากแค่แก้ ม.309 สำเร็จ จะพ้นภัยทุกอย่าง

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง การเสวนา "การทุจริต คอรัปชั่น ของทักษิณ"  

เมื่อเวลา 19.20 น.ของวันนี้ (4 มิ.ย.) บนเวทีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยได้ปรับบรรยากาศให้เป็น “มหาวิทยาลัยราชดำเนิน” ซึ่งมีเวทีการเสวนาเรื่องการทุจริต คอรัปชั่น โดยนายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการดำเนินงานเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น และนายการุณ ไสยงาม อดีต สว. พร้อมด้วยนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ เป็นผู้ดำเนินรายการ

เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตอนที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ทำความเสียหาย ให้แก่ประเทศมากมาย ซึ่งเรื่องการทุจริตสำคัญๆ ได้กลายเป็นคดีความที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งโดนกดดันและรังแกอย่างหนักจากผู้มีอำนาจ หยิบยกขึ้นมาพิจารณามีประมาณ 15 คดีด้วยกัน

แจงสารพัดคดีทุจริต ตั้งแต่ รบ.ทักษิณ มูลค่าเกินประมาณ

ทั้งนี้นางจินดารัตน์ได้สรุปคดีดังกล่าวคร่าวๆ อาทิ ซีทีเอ็กซ์ 9000, ท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน, ที่ดินรัชดา, การเลี่ยงภาษีหุ้นชินคอร์ป, คดีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสแสท จำกัด (มหาชน), คดีหวยบนดิน, การปล่อยกู้ให้แก่พม่า 4,000 ล้านบาท, โครงการบ้านเอื้ออาทร, โครงการกล้ายาง, การทุจริตบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน, การเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องจนร่ำรวยผิดปกติ, โครงการแอร์พอร์ตลิงค์, คดีเซ็นทรัลแล็บ และยังมีโครงการอภิมหาอมตะการโกงอย่างสนามบินสุวรรณภูมิ

จากนั้น นายวีระได้ประเมินความเสียหายจากการทุจริตดังกล่าวว่า นับแสนล้าน เฉพาะที่ได้รับทราบ หลักๆ แต่ก็ยังมีโครงการต่างๆ ที่ทุจริตอีกมากมาย อาทิการยกเว้นภาษีไอพีสตาร์โดยบีโอไอ มูลค่า 1,600 ล้าน, การลดภาษีนำเข้ามือถือจาก 10% เหลือ 0% , กรณีแอร์เอเชียกับนโยบายโลว์คอสต์แอร์ไลน์ ซึ่งประเมินค่าไม่ได้ รวมทั้งนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายกรณีแคปิตอลโอเค และยังมีพระราชกำหนดแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิตรในกิจการมือถืออีก

“อย่างการแปรรูป ปตท. ที่มีกำไรปีหนึ่งประมาณ 2-3 แสนล้าน ก่อนหน้านั้น เป็นรัฐวิสาหกิจ กำไร 100% หลังหักแล้วเข้ากระทรวงการคลังทั้งหมด แต่พอแปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์ ผลกำไร 40-50% ต้องอยู่ในมือผู้ถือหุ้น นับเป็นมูลค่าแสนกว่าล้าน ส่วนผู้ถือหุ้นก็มีอยู่ไม่กี่ตระกูล เพราะเปิดขายหุ้นเพียง 17 นาทีก็เกลี้ยง” นายวีระ

“พอมีวิกฤติน้ำมัน ปตท. ก็ไม่เคยช่วยพยุงราคาน้ำมัน ขึ้นราคาตามคนอื่นตลอด ปตท. ไม่เคยตรึงราคา พอเรามาชุมนุมไม่กี่วัน ก๋สามารถกดดันรัฐบาลลดราคาไป 3 ลิตร ถ้า ปตท. เป็นของประชาชน หรือรัฐวิสาหกิจอยู่ จะสามารถลดกำไรลงได้ให้เหลือสัก 5 หมื่นล้าน ก็จะช่วยพยุงราคาได้ถึง 50% แต่ถ้าจะช่วยชาติมากกว่านั้น ปตท. เอากำไรแค่ 25% ก็พอ แต่พออยู่ในมือเอกชนประมาณ 40%ไม่ได้ช่วยประคองสถานการณ์วิกฤติน้ำมันเลย” นายวีระแจกแจง

นอกจากนี้ นายวีระยังเปิดเผยอีกว่า ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณบริหารประเทศมีการยกเลิกสัมปทานอีกหลายๆ อย่าง นับมูลค่าหลายหมื่น หลายพันล้าน ที่ไม่สามารถประเมินตัวเลขได้ อย่างสัมปทานมากมายบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ หลอดไฟ 40 เฮิร์ตซ์ มูลค่า 4,000 ล้าน สัมปทานรถเข็นกระเป๋า, การกำจัดขยะ สัมปทานร้านอาหารอีกจำนวนหลายพันล้าน และสัมบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์อีกแสนล้าน ที่เป็นปัญหากับบริษัทใหญ่ เป็นต้น

นายวีระยังเปิดเผยถึง การทุจริตของรัฐมนตรีอีกหลายกรณี อาทิ ปุ๋ยปลอม มูลค่า 367 ล้าน ของนายชูชีพ หาญสวัสดิ์, การทุจริตประมูลอีพาสปอร์ตอีกหลายพันล้านของนายสุรเกียรติ เสถียรไทย รมต.ต่างประเทศในสมัยนั้น, การประมูลกล้ายาง 1,440 ล้าน ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีนายเนวิน ชิดชอบเป็นรัฐมนตรี, การประมูลเซ็นทรัลเล็บอีกนับพันล้านของนายเนวิน, การประมูลซีดีเอ็มเอภูมิภาค 13,000 ล้าน โดย นพ.สุรพงศ์ สืบวงศ์ลี ขณะเป็น รมว.ไอซีที รวมทั้งการประมูลโทรศัพท์ 56,000 เลขหมาย ยังมีการประมูลก่อสร้าง รพ.โพธาราม โดยนายสรอรรถ กลิ่นประทุม และการประมูลการซื้อรถดับเพลิงของกระทรวงมหาดไทย โดย รมต.นายประชา พรหมนอก และ ผู้ว่า กทม.ขณะนั้น คือนายสมัคร สุนทรเวช

ชี้เทคนิคทุจริต ดึงคนทำผิดมาช่วยทำผิดต่อ

จากนั้นนายการุณ ไสยงาม อดีต สว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การนำของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการทุรจริตที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งในอีดตการทุจริตนั้น จะเป็นการกินหิน ดินทราย ปูน คอนกรีต แต่การทุจริตของ พ.ต.ท.ทักษิณใช้เครื่องมือของรัฐทั้งหมดที่มีอยู่ เป็นการกินแบบบูรณาการอย่างร้ายแรง การทุจริตมีปริมาณมาก

“ก่อนหน้านี้เราตรวจสอบงบการก่อสร้าง ตามกระทรวงต่างๆ แต่กลายเป็นว่าทีหลัง รัฐวิสาหกิจเป็นแหล่งทุจริตใหญ่ที่สุด อย่างกรณีการบินไทย มีการทุจริตสูงมาก โดยเฉพาะการขายตั๋ว เฉพาะสาขาแห่งเดียวที่ลอนดอน ตรวจพบเอกสารตลอด 11 ปี ว่ามีการทุจริต 10,000 กว่าล้านบาท มีเอกสารหลักฐาน บัญชี ใบเสร็จ และส่งให้ ป.ป.ช ครบถ้วน จนวันนี้ก็ยังเอาคนผิดมาลงโทษไม่ได้ ซึ่งเทคนิคของการบินไทยก็ใช้วิธีการฆ่าตัดตอน โดยลงโทษมิสเตอร์คุก ชาวอังกฤษที่รับผิดชอบจัดการศูนย์ที่ลอนดอนเพียงคนเดียว ที่เหลือคนไทยยังสบายดีทุกคน”

“ทักษิณและระบอบทักษิณ ใช้คนเหล่านี้เป็นเครื่องมือ เมื่อพบว่ามีการทุจริตที่หน่วยงานนี้ ก็นำไปใช้เป็นเครื่องมือช่วยทุจริตให้ต่อทันที ถ้าใครไม่ช่วยทุจรติต่อจะมีปัญหา”

ปั้นเหตุซื้อเครื่องบินเพิ่ม-ใช้นโยบายกำหนดซีทีเอ็กซ์

“อย่างการซื้อเครื่องบินที แสนกว่าล้าน 14 ลำ ใช้คอมมิชชันถูกแบบกฎหมายต่างประเทศ แต่ผิดกฎหมายไทย เพราะมีการตัดเงิน 3% ให้เป็นค่าคอมฯ ทันที ทั้งที่ฝูงบินเหล่านี้ บางอันไม่จำเป็น แต่ก็ใช้คนเหล่านี้เป็นเครื่องมือ สร้างเรื่องขึ้น ให้ตารางเวลาการออกและลงจอดของสายการบินต้นทุนต่ำ ดีกว่าของการบินไทย ได้ออกก่อน และได้เลือกตำแหน่งลงจอดที่ดีกว่าการบินไทย ทำให้ต้องบอกว่าการบินไทยบินไม่พอ เลยต้องซื้อเครื่องบินเพื่ม และเปิดเส้นทางบินตรงกรุงเทพ-นิวยอร์ก กรุงเทพฯ-แอลเอ ทำให้เป็นเหตุผลต้องซื้อเครื่องบินใหม่” นายการุณแจกแจง และย้ำว่ามีการใช้วิธีการเดียวกันนี้กับแทบทุกหน่วยงาน และใช้การแบคเมล์บุคลากร

“แต่อย่างซีทีเอ็กซ์ นี่ใช้เครื่องมือครบ ใช้ความเป็นนายก เข้าร่วมประชุมสั่งการเรื่องซีทีเอ็กซ์ มีรายงานการประชุมเป็นลายลักษณ์อักษร ชี้อย่างชัดเจนว่า ให้ตั้งงบ 4,300 ล้านบาท กำหนดสเปกลงไปเลยว่า จะต้องซื้อซีทีเอ็กซ์รุ่น 9000 ซึ่งซีเอ็กซ์มีตั้งหลายอย่าง และมีหลายยี่ห้อ แต่กำหนดรุ่น และกำหนดลงไปเลยว่า 26 เครื่อง”

“ใช้อำนาจนายกฯ ใช้นโยบายสั่ง กำหนดเงินและสเปกครบถ้วน ยังมีวิธีการทำให้เป็นวิธีพิเศษ และยกเว้นระเบียบราชพัสดุบริหารประเทศ แถมมีอัยการนั่งร่วมประชุมด้วย มีรายงานครบถ้วน รายงานการประชุมครบหมด นอกจากนั่งในที่ประชุมและเห็นดีเห็นงามแล้ว ยังร่างสัญญาโดยผ่านให้อัยการตรวจ” นายการุณแจกแจง อีกทั้งยังระบุว่า สัญญาซื้อขายซีทีเอ็กซ์ที่ร่าง ให้อัยการเป็นผู้ตรวจแล้ว แต่ก็ยังมีเป็นจุดๆ ช่องว่างมากมาย โดยเฉพาะที่สำคัญอย่างการส่งจ่าย การสั่งปรับ เว้นว่างไว้หมด แต่ก็มีการระบุการจ่ายเงิน ให้จ่าย 25% ของราคาก่อนการเซ็นสัญญา โดยไม่มีการต่อรองราคา หรือราคากลางแต่อย่างใด

ชี้ลำพังแค่ คตส. คงไม่ไหว ต้องอาศัยพลังจากประชาชน

นายการุณยังเปิดเผยอีกว่า นอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณจะเชี่ยวชาญในการทุจริต โดยใช้เครื่องมือ คน ระเบียบ กฎหมาย และงบประมาณของรัฐ อย่างบูรณาการแล้ว ยังเชี่ยวชาญในการออกกฎหมายมาปกป้องการทุจริตของตัวเองด้วย อย่างกรณี 73,000 ล้าน ก็เขียนกฎหมายภาษีสรรพากรทำให้ได้หลายพันล้าน อีกทั้งยังสามารถแก้กฎหมาย เขียนรัฐธรรมนูญ และแก้รัฐธรรมนูญเพื่อเอาตัวรอด แค่แก้ ม.309 ประกาศคณะปฎิรูปและคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ก็ไม่มีความหมาย

“ศาลก็ต้องพิพากษาตามบทบัญญัติของกฎหมาย เรื่องที่สืบสวนเกี่ยวกับทักษิณ จะกลายเป็นกระบวนการสอบสวนโดยไม่ชอบ ที่สุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ทำอะไรไม่ได้ และถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีก บอกว่า คตส. ได้มาโดยไม่ชอบ หมดกันอีก” นายการุณกล่าว

อีกทั้ง คตส. จะหมดเวลาทำงาน ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ นายการุณถามต่อผู้ร่วมชุมนุมว่า จะช่วยเอาใจ คตส.ได้ไหม เพราะเหลือเวลาอีก 20 กว่าวันเท่านั้น ไม่รู้จะช่วยทันหรือไม่ และ คตส. ก็ต้องเบิกความ นำเอกสารหลายพันขึ้นสู่ศาล

“ถ้าช่วยทันจะต้องช่วยกันไล่สมัครให้ออกไป แล้วจะมาหวังพึ่งกฎหมาย ให้ผู้แทนราษฎรณ์แบบนี้ มันจะแก้ให้เราได้ไหม เรามีเวลาแค่ 20 อันกระชั้นชิด จะช่วยกันแสดงพลังออกมาทันไหม” นายการุณถามต่อผู้ร่วมชุมนุม

นอกจากนี้ นายวีระยังแจ้งข่าวดีว่า คดีซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกซึ่งมีคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นจำเลย โดยนายวีระได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ ป.ป.ช.ว่าการซื้อขายที่ดินรัชดาฯ อาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น นายวีระได้รับหมายให้ไปเบิกความแล้วในวันที่ 8 ก.ค.นี้ และเขาเชื่อว่าคดีสำหรับนักการเมืองนี้ไม่น่าเกิน 3 เดือน พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะติดคุกอย่างแน่นอน แต่ต้องระวังอย่าให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน ไม่เช่นนั้นคดีนี้ก็หลุด

ที่สำคัญนายวีระยังเปิดเผยอีกว่า เขาได้ยื่นให้ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนดำเนินคดี กับนายสมัคร และนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ที่ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปแล้ว ซึ่งในวันนี้ ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการแล้ว ถ้าอนาคตอันใกล้ ป.ป.ช. บอกว่ามีมูล ทั้ง 118 คนและนายสมัครจะต้องหยุดทำหน้าที่ เพราะ ส.ส.และ ส.ว.จะหมดไปเกือบครึ่งสภา

อย่างไรก็ดี นายวีระย้ำว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ เราต้องช่วยตัวเอง ขยายเครือข่ายให้ทั่วประเทศ จากข้อมูลทุจริตที่ทางกลุ่มพันธมิตรและผู้ร่วมชุมนุมเปิดเผยให้ทราบ ไม่สมควรปล่อยให้ผู้กระทำผิดทั้งหลายหลุดรอดไปได้.
นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการดำเนินงานเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น
นายการุณ ไสยงาม อดีต สว.บุรีรัมย์
กำลังโหลดความคิดเห็น