พันธมิตรฯ ยื่นหนังสือ อสส.จี้เร่งคดีเอาผิดระบอบทักษิณ ทั้งซีทีเอ็กซ์ กล้ายาง หวยบนดิน “ทักษิณ” เอื้อประโยชน์ชินคอร์ป ปกปิดหุ้นเอสซีแอสเสท ฯลฯ รวมถึงคดียุบพรรคชาติไทย-มัชฌิมา พร้อมแนะลาออกจากกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อความเป็นอิสระ ป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
วันนี้ (5 มิ.ย.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดอาสาสมัครตามยุทธศาสตร์ดาวกระจายเดินทางไปยื่นหนังสือต่อัยการสูงสุด เพื่อทวงถามความคืบหน้าการพิจารณาคดีความในระบอบทักษิณ และเรียกร้องให้ยืนอยู่ข้างความเป็นธรรมเพื่อแก้ไขวิกฤตของบ้านเมือง ดังนี้
เรื่อง ทวงถามความคืบหน้าการพิจารณาคดีความในระบอบทักษิณ และเรียกร้องให้ยืนอยู่ข้างความเป็นธรรมเพื่อแก้ไขวิกฤติของบ้านเมือง
เรียน อัยการสูงสุด
ตามที่ประชาชนที่เข้าร่วมชุนนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นมา ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแล้วนั้น
หนึ่งในสาเหตุที่มีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมชุมนุมก็คือ กระบวนการยุติธรรมได้ถูกแทรกแซงและตัดตอนจนทำให้ปัญหาวิกฤตของบ้านเมืองยังคงดำรงอยู่ต่อไป ดังที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 11/2551 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 ให้เหตุผลในการยกระดับในการต่อสู้เป็นการขับไล่รัฐบาลในข้อที่ 5 ว่า:
“5.รัฐบาลแทรกแซงและตัดตอนกระบวนการยุติธรรม ด้วยการโยกย้ายอธิบดีและข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษและข้าราชการตำรวจจำนวนมาก เพื่อขัดขวางมิให้คดีความของตัวเองและพวกพ้องเข้าสู่การพิจารณาคดีในชั้นศาล
ในขณะเดียวกัน ก็ได้ใช้กลไกอำนาจสืบสวนสอบสวนทางราชการที่เป็นพวกพ้องของตัวเอง คุกคาม กลั่นแกล้ง และกดดันองค์กรตรวจสอบอิสระตามรัฐธรรมนูญเพื่อบั่นทอนกระบวนการยุติธรรม”
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และสังคมไทย มีความเคลือบแคลงสงสัยไม่สบายใจต่อการทำงานอัยการของสูงสุดดังต่อไปนี้
1.นับตั้งแต่รัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารประเทศ ก็ได้ปรากฏว่า คดีความที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บริวาร และพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลทุกคดี ได้ติดขัดการส่งคดีความในชั้นของอัยการเพื่อที่จะฟ้องไปยังศาลทั้งสิ้น ตลอดจนมีการเปลี่ยนมาตรฐานในการพิจารณาคดีความเมื่อเทียบกับก่อนเวลาที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ อันได้แก่
1.1 คดีความในส่วนของ คตส. ได้แก่ คดีเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์, คดีทุจริตเรื่องกล้ายาง, คดีหวยบนดิน, คดีความกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทในเครือชินคอร์ป, คดีปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับชินคอร์ป, คดีการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับพวกพ้องอย่างมีเงื่อนงำ
1.2 คดีความในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แก่ คดีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นในเอสซีแอทเสท
1.3 คดีความในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้แก่ คดียุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตย
จากเหตุผลข้างต้น ทำให้ประชาชนจำนวนมากมีความเคลือบแคลงสงสัยว่าอัยการสูงสุดมีอคติ ถ่วงคดีความให้ล่าช้า เพื่อช่วยฟอกความผิดให้อำนาจรัฐหรือไม่?
2. อัยการสูงสุดคนปัจจุบันได้มีอยู่ในรายชื่ออยู่ในผลการสอบสวนคดีความของ คตส. ต่อกรณีการทุจริตเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ ของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเกิดความเคลือบแคลงสงสัยต่อความล่าช้าตามข้อ 1. นั้นเป็นผลมาจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของอัยการสูงสุดหรือไม่?
3.สำนักงานอัยการสูงสุดยังคงส่งตัวแทนไปเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง เป็นผลทำให้การพิจารณาคดีความของสำนักอัยการสูงสุดที่เป็นทุจริตทั้งหลายในรัฐวิสาหกิจย่อมเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์เช่นเดียวกัน
จากเหตุผลดังกล่าว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงขอสอบถาม และมีข้อเรียกร้องต่ออัยการสูงสุดดังต่อไปนี้
ประการแรก พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอทวงถามความคืบหน้าของคดีความ และเรียกร้องให้อัยการสูงสุดเร่งรัดคดีความเพื่อเข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาลอย่างยุติธรรมและรวดเร็ว
ประการที่สอง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอให้ตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด ลาออกจากตำแหน่งการเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เพื่อลดข้อครหาในการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในปัจจุบันและอนาคต
ประการที่สาม เมื่อสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแล้ว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอเรียกร้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องสร้างบรรทัดฐานในจริยธรรมขั้นพื้นฐานด้วยการไม่รับตำแหน่งใดๆ ในรัฐวิสาหกิจหรือองค์กรอื่นใดที่จะนำไปสู่ผลประโยชน์ทับซ้อนในการพิจารณาคดีความ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
(นายสุริยะใส กตะศิลา)
ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
วันนี้ (5 มิ.ย.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดอาสาสมัครตามยุทธศาสตร์ดาวกระจายเดินทางไปยื่นหนังสือต่อัยการสูงสุด เพื่อทวงถามความคืบหน้าการพิจารณาคดีความในระบอบทักษิณ และเรียกร้องให้ยืนอยู่ข้างความเป็นธรรมเพื่อแก้ไขวิกฤตของบ้านเมือง ดังนี้
วันที่ 5 มิถุนายน 2551
เรื่อง ทวงถามความคืบหน้าการพิจารณาคดีความในระบอบทักษิณ และเรียกร้องให้ยืนอยู่ข้างความเป็นธรรมเพื่อแก้ไขวิกฤติของบ้านเมือง
เรียน อัยการสูงสุด
ตามที่ประชาชนที่เข้าร่วมชุนนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นมา ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแล้วนั้น
หนึ่งในสาเหตุที่มีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมชุมนุมก็คือ กระบวนการยุติธรรมได้ถูกแทรกแซงและตัดตอนจนทำให้ปัญหาวิกฤตของบ้านเมืองยังคงดำรงอยู่ต่อไป ดังที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 11/2551 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 ให้เหตุผลในการยกระดับในการต่อสู้เป็นการขับไล่รัฐบาลในข้อที่ 5 ว่า:
“5.รัฐบาลแทรกแซงและตัดตอนกระบวนการยุติธรรม ด้วยการโยกย้ายอธิบดีและข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษและข้าราชการตำรวจจำนวนมาก เพื่อขัดขวางมิให้คดีความของตัวเองและพวกพ้องเข้าสู่การพิจารณาคดีในชั้นศาล
ในขณะเดียวกัน ก็ได้ใช้กลไกอำนาจสืบสวนสอบสวนทางราชการที่เป็นพวกพ้องของตัวเอง คุกคาม กลั่นแกล้ง และกดดันองค์กรตรวจสอบอิสระตามรัฐธรรมนูญเพื่อบั่นทอนกระบวนการยุติธรรม”
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และสังคมไทย มีความเคลือบแคลงสงสัยไม่สบายใจต่อการทำงานอัยการของสูงสุดดังต่อไปนี้
1.นับตั้งแต่รัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารประเทศ ก็ได้ปรากฏว่า คดีความที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บริวาร และพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลทุกคดี ได้ติดขัดการส่งคดีความในชั้นของอัยการเพื่อที่จะฟ้องไปยังศาลทั้งสิ้น ตลอดจนมีการเปลี่ยนมาตรฐานในการพิจารณาคดีความเมื่อเทียบกับก่อนเวลาที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ อันได้แก่
1.1 คดีความในส่วนของ คตส. ได้แก่ คดีเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์, คดีทุจริตเรื่องกล้ายาง, คดีหวยบนดิน, คดีความกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทในเครือชินคอร์ป, คดีปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับชินคอร์ป, คดีการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับพวกพ้องอย่างมีเงื่อนงำ
1.2 คดีความในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แก่ คดีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นในเอสซีแอทเสท
1.3 คดีความในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้แก่ คดียุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตย
จากเหตุผลข้างต้น ทำให้ประชาชนจำนวนมากมีความเคลือบแคลงสงสัยว่าอัยการสูงสุดมีอคติ ถ่วงคดีความให้ล่าช้า เพื่อช่วยฟอกความผิดให้อำนาจรัฐหรือไม่?
2. อัยการสูงสุดคนปัจจุบันได้มีอยู่ในรายชื่ออยู่ในผลการสอบสวนคดีความของ คตส. ต่อกรณีการทุจริตเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ ของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเกิดความเคลือบแคลงสงสัยต่อความล่าช้าตามข้อ 1. นั้นเป็นผลมาจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของอัยการสูงสุดหรือไม่?
3.สำนักงานอัยการสูงสุดยังคงส่งตัวแทนไปเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง เป็นผลทำให้การพิจารณาคดีความของสำนักอัยการสูงสุดที่เป็นทุจริตทั้งหลายในรัฐวิสาหกิจย่อมเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์เช่นเดียวกัน
จากเหตุผลดังกล่าว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงขอสอบถาม และมีข้อเรียกร้องต่ออัยการสูงสุดดังต่อไปนี้
ประการแรก พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอทวงถามความคืบหน้าของคดีความ และเรียกร้องให้อัยการสูงสุดเร่งรัดคดีความเพื่อเข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาลอย่างยุติธรรมและรวดเร็ว
ประการที่สอง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอให้ตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด ลาออกจากตำแหน่งการเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เพื่อลดข้อครหาในการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในปัจจุบันและอนาคต
ประการที่สาม เมื่อสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแล้ว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอเรียกร้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องสร้างบรรทัดฐานในจริยธรรมขั้นพื้นฐานด้วยการไม่รับตำแหน่งใดๆ ในรัฐวิสาหกิจหรือองค์กรอื่นใดที่จะนำไปสู่ผลประโยชน์ทับซ้อนในการพิจารณาคดีความ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
(นายสุริยะใส กตะศิลา)
ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย