“กสท”ปรับภาพลักษณ์องค์กรใหม่ เน้นทันสมัยเป็นมิตรกับลูกค้า-คู่ค้า

บอร์ด กสท ไฟเขียวรีแบรนดิ้งใหม่ เริ่มใช้ CAT ตั้งแต่ 14 ส.ค. นี้เป็นต้นไป เผยต้องการสื่อภาพลักษณ์ใหม่ ที่โมเดิร์น เป็นมิตรกับลูกค้าและพันธมิตรร่วมค้า หวังดันยอดขายมือถือระบบซีดีเอ็มเอเป็นเดือนละ 20,000 ราย เพิ่มฐานลูกค้าภายในปีนี้เป็น 1.8 แสนราย พร้อมโชว์กำไรสุทธิไตรมาสแรกเพิ่มเป็น 2,306 ล้านบาท

นายพิศาล จอโภชาอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) หรือ กสท เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด)  กสท เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมามีมติเห็นชอบรีแบรนดิ้ง CAT TELECOM  เป็น CAT หรือ ซีเอที โดยจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. 2551 นี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 5 ปี ในการใช้แบรน CAT TELECOM ซึ่งตามปกติที่มีการรีแบนด์ดิ้งใหม่ทุกๆ 5 ปี

“บอร์ดมีมติเห็นชอบใช้แบรนด์ใหม่ CAT เริ่มตั้งแต่ 14 ส.ค.ปีนี้ โดยจะเริ่มจากการเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์ให้มีแบรนด์ CAT ติดอยู่ด้วย รวมการเปลี่ยนชื่อสำนักงาน บริษัท หัวนามบัตร หน้าซองจดหมายที่บริษัทใช้ติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ”

ทั้งนี้ การออกแบบ โลโก้ แบรนด์ใหม่จะใช้งบประมาณ  3.35 ล้าน โดยได้ว่าจ้างบริษัท แบรนด์สเคป เป็นผู้จัดการการออกแบบโลโก้ เพื่อนำไปติดกับผลิตภัณฑ์ นามบัตร และสำนักงานสาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีแผนปรับปรุงสำนักงานบริการรูปแบบใหม่ แคทชอป ให้สอดคล้องกับ แบรนดิ้งใหม่ จำนวน 23 สาขาในปีนี้ และจะสามารถปรับปรุงครบ 104 สาขาภายในปี 2553
 
สำหรับภาพลักษณ์ใหม่ที่ CAT สื่อออกไปต่อภายนอกนั้นจะต้องเป็นองค์กรที่โมเดิร์น ทันสมัยและเป็นมิตรกับลูกค้า และพันธมิตรคู่ค้า เพราะที่ผ่านมาแบรนดิ้งเดิม ภาพลักษณ์ที่สื่อออกไปเป็นหน่วยงานราชการ ทำงานเชื่องช้า ถ้าเปรียบเหมือนคนก็เป็นคนทำงานวัย 50

นายพิศาลกล่าวถึงเรื่องซีดีเอ็มเอว่า หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความออกมาว่าการที่ บริษัท ฮัทชิสัน ซีเอที ไวเลส มัลติมีเดีย จำกัด หรือ ฮัทช์ ทำตลาด ซีดีเอ็มเอในพื้นที่ 25 จังหวัดให้ กสท ที่ผ่านมาไม่เข้าข่ายกฎหมายพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงาน 2535 หรือ พ.ร.บ. ร่วมทุน คาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปทำการตลาดร่วมกับฮัทช์ ทั่วประเทศได้ในปลายปีนี้ เพราะจะต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจาณาในที่ประชุมรัฐมนตรี หรือ ครม. อีก 2 ครั้ง โดยครั้งแรกจะเป็นการขอความเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 13 เพื่อพิจารณารายละเอียด หลังจากนั้นก็จะนำเสนอครม. เพื่อเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ดี ระหว่างนี้ กสท จะดำเนินการทำการตลาดใน 51 จังหวัดไปก่อนจนกว่าจะได้ข้อสรุปดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งในส่วนซีดีเอ็มเอ 51 จังหวัดนั้นปัจจุบันมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 10,000 รายจากเดิมที่มียอดขาย 2,000 ราย คาดว่าหลังจากนี้ซีดีเอ็มเอ 51 จังหวัดจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ราย และตั้งเป้าหมายไว้ว่าปลายปีนี้จะมีลูกค้าซีดีเอ็มเอ 51 จังหวัดรวมทั้งสิ้น 1.8 แสนราย จากปลายปีที่ผ่านมา มีฐานลูกค้ารวม 40,000 ราย

นอกจากนี้ ในปีนี้มีเป้าหมายเป็น CAT CDMA ชอป 7-8 ในเดือนมิ.ย.-ก.ค. นี้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น และพิษณุโลก เพื่อเพิ่มการบริการให้สามารถเข้าถึงลูกค้าในต่างจังหวัดให้มากที่สุด

พร้อมกันนี้ กสท ได้เผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกที่ผ่านมาว่า มีรายได้รวมทั้งสิ้น 12,186 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้รวม 10,274 ล้านบาท โดยมีรายจ่ายทั้งสิ้น 8,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายจ่าย 7,421 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,306 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ  1,979 ล้านบาท ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 3,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,853 ล้านบาท แต่ผลการดำเนินงานดังกล่าวยังไม่ได้มีการรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.

รายได้ส่วนใหญ่ของ กสท ในไตรมาส 1 ปีนี้ 60% ยังคงเป็นรายได้จากสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค และ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด รองลงมาเป็นรายได้จากโทรทางไกลต่างประเทศ และบริการสื่อสารข้อมูล อย่างละ 15%

“ผลการดำเนินงานของเราที่ออกมาในไตรมาสแรกนับว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เป็นอย่างดี โดยในปีนี้เราตั้งเป้ามีรายได้รวมทั้งปี 49,000 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 9,000 ล้านบาท ซึ่ง กสท มั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้และกำไรได้ตรงกับเป้าหมายที่วางไว้” นายพิศาลกล่าว

Company Related Links :
Cattelecom