กระแสต้านรัฐบาลหลังยอมเสียดินแดนให้เขมรนำประสาทเขาพระวิหารไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเพื่อแลกผลประโยชน์ให้นักการเมืองใหญ่ ขยายวงกว้างมากขึ้น ราชนิกุล-ชนชั้นนำ-ส.ว.-กวีซีไรท์-ศิลปินแห่งชาติ 300 คน ร่วมลงชื่อคัดค้านขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารฝ่ายเดียวต่อยูเนสโก้วันนี้ พันธมิตรฯ ยื่นฟ้องศาลปกครอง ปธ.กก.มรดกโลก ชี้รัฐบาลเสนอขึ้นทะเบียน สระตราว-บันไดเขาพระวิหารแค่เกมลดกระแส เผยทางแก้ต้องเปลี่ยนรัฐบาลเท่านั้น “ม.ร.ว.อคิน” ยันฝ่ายไทยไม่เคยยอมรับคำตัดสินของศาลโลก ระบุ "นพดล" ลงนามเท่ากับยอมยกให้เขมร สงสัยแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ด้าน กัมพูชาสั่งปิดเขาพระวิหารหลังพระสงฆ์และคนไทยรุกประท้วงถึงที่
หลังจาก นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ โดยมติ ครม.รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ไปลงนามรับรองแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา พร้อมแผนที่ปราสาทเขาพระวิหารว่าเป็นของกัมพูชา เพื่อรับรองให้รัฐบาลกัมพูชา นำไปเสนอต่อองค์การยูเนสโก เพื่อขออนุมัติให้เป็นมรดกโลก ขณะนี้ก่อกระแสต่อต้านเป็นไปอย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ นักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ ผู้รู้ ต่างๆ รวมทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมา ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลนายสมัครกำลังยอมให้กัมพูชารุกล้ำดินแดนและ อธิปไตยของไทย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของนักการเมืองใหญ่ที่ถือหางรัฐบาลอยู่
พันธมิตรฯ ยื่นฟ้องศาลปกครองวันนี้
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ แถลงว่า วันนี้ (24 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไป ศาลปกครอง เพื่อร้องให้ศาลเพิกถอนมติ ครม.ที่เห็นชอบการลงนามร่วมกับรัฐบาลกัมพูชา กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยระบุเหตุผลว่ากระบวนการไม่เป็นไปตามกฏหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่ต้องเปิดให้รัฐสภา ร่วมพิจารณาด้วย อีกทั้งยังขัดต่อพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การบริหาร ราชการแผ่นดิน นอกจากนี้จะร้องต่อศาลให้มีการไต่สวนฉุกเฉิน โดยเรียกรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เพื่อระงับผลของการลงนามร่วมที่จะมีขึ้นในต้นเดือนกรกฎาคม นี้ เนื่องจากเป็นผลมาจากการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรม
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า การร้องต่อศาลปกครองในครั้งนี้จะมีผู้ร้องร่วม 5 คนได้แก่ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ซึ่งจะเป็นตัวแทนของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ นายนิติพร ล้ำเหลือ นายนคร ชมพูชาติ ซึ่งเป็นทนายความทั้งสองคน นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.สรรหา และตนเอง ในฐานะคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดศรีษะเกษ โดยการเดินทางไปครั้งนี้จะมีการจัดขบวนไปส่วนหนึ่งและเชิญชวนผู้ที่จะมาให้กำลังใจพบกันที่ตึกเอ็มไพน์ เวลา 10.00 น.
นายสุริยะใส ยังได้กล่าวย้ำถึงแถลงการณ์ฉบับที่ 15/2551 ในเรื่องจุดยืนของพันธมิตรฯ ในการชุมนุม โดยยืนยันว่าพันธมิตรฯ จะไม่มีการปิดตายประตูเข้า-ออก ทำเนียบฯ หรือบุกปีนเข้าไปในทำเนียบฯ และยืนยันว่าหากมีการกระทำดังกล่าวจริง ทางรัฐบาลต้องรับผิดชอบ เพราะก่อนหน้านี้มีการสร้างกระแสข่าวมาว่าทางพันธมิตรฯ จะบุกเข้าไปในทำเนียบฯ โดยให้เจ้าหน้าที่ในทำเนียบฯ ได้เก็บข้าวของ โดยอ้างเหตุว่า กลัวพันธมิตรจะบุกเข้าไปเผาทำลายเอกสาร ซึ่งตนเชื่อว่าอาจเป็นการ สร้างสถานการณ์ก็ได้
ส.ว.ไม่เชื่อน้ำคำ "นพดล"
นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะ วัฒนธรรม วุฒิสภา พร้อมด้วย นายจำนงค์ สวมประคำ ส.ว.สรรหา นายสมชาติ พรรณพัฒน์ ส.ว.นครปฐม กรรมาธิการศาสนาฯ ร่วมแถลงถึง กรณีที่กัมพูชายื่นเรื่องขอขึ้นทะเบียนให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกว่า ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญอีกครั้งที่ประเทศไทยพลาดโอกาส ยอมให้กัมพูชาขอจดทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งการที่ นายนพดล ปัทมะ ระบุว่าการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจะขึ้นเฉพาะตัวปราสาทนั้น เป็นไปไม่ได้เพราะตามเกณฑ์ของการขึ้นมรดกโลกจะหมายรวมไปถึง บริเวณโดยรอบของตัวมรดกโลกด้วย จึงเท่ากับว่าประเทศไทยจะเสียอำนาจการปกครองในบริเวณนั้นไปโดยปริยาย
"การขึ้นทะเบียนจะรวมไปถึงสถูปต่างๆ บันไดทางขึ้น หินแกะสลักสำคัญ เช่น ภาพหินแกะสลักนูนต่ำเขาอีมอ ที่อยู่ในดินแดนของไทย ก็อาจจะถูกขึ้นเป็นมรดกโลก ของกัมพูชาไปด้วย และหากเป็นเช่นนั้นจริงก็เป็นไปได้ว่าเราอาจจะต้องทำบอร์ดดี้งพาสต์ เข้าไปในพื้นที่ของไทยเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ตลก ในส่วนนี้ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะก่อนที่จะขึ้นทะเบียนมรดกโลกยูเนสโกได้ให้กัมพูชามาตกลงเรื่องนี้กับไทยก่อนที่จะได้รับการพิจารณาขึ้นทะเบียน"
เชื่อมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้มองว่ามีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องตามที่กลุ่มพันธมิตรฯ ระบุหรือไม่ นางตรึงใจ กล่าวว่า มีความเป็นเป็นไป แต่ไม่ทราบว่าซึ่งก็ไม่ทราบ ว่ารมว.ต่างประเทศไปตกลงกับกัมพูชาไว้อย่างไร เพราะหากมีการตกลงไว้การที่จะกลับคำพูดก็คงจะลำบาก และที่ผ่านมารัฐบาลก็ไม่เคยเปิดเผยข้อมูล ซึ่งตนก็ได้แต่หวังว่านายนพดล จะชี้แจงและนำแผนที่ฉบับล่าสุดมาเปิดเผยในที่ประชุมวุฒิสภา
นางตรึงใจ กล่าวว่า ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ตนและ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ส.ว.สรรหา รองประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา พร้อมคณะ จะเดินทางไปยื่นหนังสือของให้ยูเนสโก ให้ชะลอการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถยื้อเวลาออกไปอีกประมาณ 1-2 ปี ในการยื่นเรื่องให้ยูเนสโกพิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกันทั้ง 2 ประเทศ
ชนชั้นนำ-กวีซีไรท์-ศิลปินแห่งชาติต้าน
ส่วนที่นายนพดล เตรียมเสนอเรื่องเข้าสู่ ครม.ในการขอขึ้นทะเบียนสระตราว และบันไดที่อยู่ฝั่งไทย ให้เป็นมรดกโลก นางตรึงใจกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี หากได้ดำเนินการตามที่ระบุไว้ และเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งความจริงตัวปราสาทพระวิหารควรที่จะเป็นของไทยด้วยซ้ำ เพราะหันเข้าประเทศไทย รวมถึงบันไดทางขึ้นก็อยู่ฝั่งไทย ไม่มีสถานที่แห่งไหนที่คนจะขึ่นสักการะบูชาทางด้านหลังของปราสาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การยื่นจดหมายคัดค้านนำเขาพระวิหารจดทะเบียนเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียวดังกล่าวจะยื่นในวันนี้ (24 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ณ องค์การยูเนสโก้ ท้องฟ้าจำลอง ถนนสุขุมวิท มีบุคคลที่มีชื่อเสียงร่วมลงนามอย่างคับคั่งกว่า 300 คน ประกอบด้วย ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ส.ว. นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรท์และศิลปินแห่งชาติ และ น.ส.วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย พร้อมด้วยศิลปินแห่งชาติ ท่านอื่นๆ นายอัศศิริ ธรรมโชติ-นักเขียนรางวัลซีไรท์, ศ.ดร. สมปอง สุจริตกุล อดีตเอกอัคราชทูต คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์, ดร. ชิงชัย หาญเจนลักษณ์ นายอดุลย์ วิเชียรเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการมรดกโลกประจำประเทศไทย, ท่านผู้หญิงวรุณยุพา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา พ.อ.หญิงคุณนิอร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา พล.ท.น.พ.ดำรงรัตน์ แก้วกาญจน์
"หมัก" หลบพันธมิตรฯ ไม่เข้าทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม วานนี้ (23 มิ.ย.) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประกาศว่าจะเดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ แม้จะถูกพันธมิตรฯปิดล้อม แต่เอาเข้าจริง นายสมัครกลับไม่เข้าทำงานที่ทำเนียบฯ โดยเดินทางไปยังรัฐสภา เพื่อรับฟังการอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภา พร้อมสั่งยกเลิกภารกิจที่ทำเนียบฯตลอดทั้งวัน จากนั้น เวลา 11.30 น. เดินทางไปยังกระทรวงแรงงานเพื่อประชุมคณะหัวหน้าส่วน ราชการระดับปลัดกระทรวงครั้งที่ 4/2551 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และข้าราชการหน่วยงานที่เกี่ยว โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง
ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวถึงความชัดเจนในการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า จะไม่มีการเพิ่มกำลังเพราะสถานการณ์ยังปกติอยู่ จะปล่อยให้กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมต่อไปได้ เมื่อถามถึงความกังวลเรื่องมือที่ 3 พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า เรากำลังดูอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันดียวกันหลังจากเกิดกระแสต่อต้านอย่างกว้างขวางกรณี รัฐบาลรับรองให้กัมพูชานำปราสาทเขาพระวิหารไปจดทะเบียนเป็นมรดกโลก วานนี้ (23 มิ.ย.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้เชิญ นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.วัฒนธรรม พร้อมด้วยนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร ไปชี้แจงกรณีเขาพระวิหาร อย่างเร่งด่วน พร้อมกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่รัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การประชุมชี้แจงดังกล่าวบรรยากาศเป็นไปด้วยความ เคร่งเครียด นายสมัครแสดงความไม่พอใจที่มีนักวิชาการออกมาแสดงความคิดเห็น กรณีเขาพระวิหาร รวมทั้งสั่งให้ทุกหน่วยงานงดให้สัมภาษณ์ ขอให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศในการชี้แจงเรื่องต่างๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า กรมศิลปากรรวบรวมรายละเอียดทางวิชาการ เกี่ยวกับปราสาทเขาพระวิหารว่ามีอะไรบ้าง ที่อยู่ในเขตประเทศไทย อาทิ สระตราว ภาพสลักนูนต่ำ ที่ผามออีแดง สถูปคู่ แหล่งตัดหิน ซึ่งทั้งหมดเรียกว่าภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับองค์ปราสาทพระวิหาร โดยเมื่อได้ชี้แจงรายละเอียดหมดแล้วขั้นตอนต่อไปกระทรวงต่างประเทศ ก็จะเป็นผู้ดำเนินการในการเสนอให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกับกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนหน้านี้ทางกรมศิลปากรได้เคยเสนอให้ขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกับกัมพูชา แต่ข้อเสนอนี้กลับเงียบหายไป ทั้งนี้ตามหลักวิชาการ การเสนอเป็นมรดกโลกนั้นจะไม่สามารถขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทได้ เพราะต้องคำนึงถึงความมีคุณค่าอยู่ที่สิ่งแวดล้อม ชุมชุน และอาคารประกอบด้วย แต่หากองค์กรยูเนสโกเห็นชอบตามที่กัมพูชาเสนอ ก็จะถือว่ามี 2 มาตรฐานทันที และยืนยันว่าที่ผ่านมา องค์กรยูเนสโก ยังไม่เคยพิจารณาเห็นชอบ ให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเฉพาะสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่พิจารณาส่วนประกอบของโบราณสถานเลย
"อดุล" ชี้แค่แผนโปรโมตของ "นพดล"
ด้า นศ.ดร.อดุล วิเชียรเจริญ ประธานคณะกรรมการมรดกโลก ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จะครม.ลงมติเห็นชอบขึ้นทะเบียนสระตราวและบันไดเขาพระวิหารว่า เป็นเพียงงานประชาสัมพันธ์ล่าสุดของ นายนพดลเท่านั้น เพราะขั้นตอนการเสนอขอขึ้นทะเบียนได้ ไม่ใช่เสนอลอยๆ มันต้องมีการเตรียมเอกสารเพื่อเสนอ ต้องมีบทพรรณนา มีแผนที่ มีสไลด์ มีภาพถ่าย ไม่ใช่จู่ๆ ไม่เตรียมอะไรแล้วจะเสนอขึ้นมา เพราะถึงเสนอไป ทางคณะกรรมการมรดกโลกก็จะดำเนินการชะลอเรื่อง และให้กลับไปตระเตรียมข้อมูลมาก่อน
"อย่างเร็วที่สุดก็คือกลับมาพิจารณาในปีหน้า ซึ่งก็ไม่ได้มีผลดีอะไรต่อกรณี เขาวิหารใดๆ ให้ฝ่ายไทยเลย เป็นเพียงแผนประชาสัมพันธ์อันใหม่ของ นายนพดล ที่ทำเพื่อลดกระแสการต่อต้านของประชาชนเท่านั้น เป็นเพียงการปะแป้งของรัฐมนตรีต่างประเทศ"
ประธานคณะกรรมการมรดกโลกเปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลเซ็นยินยอมยกเขาพระวิหารให้เขมรไปทั้งที่ร่างกายยังป่วย และอยู่ในระยะพักฟื้นอยู่นั้น เมื่อ 3 วันก่อนมีโทรศัพท์ที่ถือว่าค่อนข้างแปลก มาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องเขาพระวิหาร
เผยทางแก้ต้องเปลี่ยนรัฐบาลเท่านั้น
"เป็นผู้ชายโทรมา เขาก็พูดดีนะ ถามว่าคณะกรรมการมรดกโลกเคยเอาวาระเขาพระวิหารเข้าประชุมไหม ก็ตอบเขาว่าไม่เคย แต่ก็ยืนยันมาตลอดมาตั้งแต่ปี 48 จนบัดนี้ ก็ถือว่าเป็นการถามที่ค่อนข้างแปลก เพราะเป็นคำถามที่คนธรรมดาไม่ถามกัน"
ศ.ดร.อดุลยัง กล่าวว่า ใกล้จะถึงเวลาที่จะเปิดประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่จะจัดขึ้นในต้นเดือนหน้า (ก.ค.) แล้ว ประชาชนต้องผนึกกำลังปกป้องสมบัติชาติเอาไว้ อย่างที่ชี้แจงไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ทางเดียวที่ทำได้ก็คือ ต้องให้รัฐบาล แถลงระงับการลงนามสนับสนุนการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกของเขมร แต่เชื่อว่ารัฐบาลนี้คงไม่ทำ ดังนั้นที่จะทำได้ก็คือ เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่วาระเขาพระวิหารจะเข้าที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก
"อคิน" ไม่เข้าใจนพดลเซ็นยอมทำไม
ม.ร.ว.อคิน รพีพัฒน์ นักวิชาการอาวุโส ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า ในช่วงที่ศาลโลกตัดสินกรณีเขาพระวิหาร พระบิดาของตน คือ ม.จ.เพลิงนภดล รพีพัฒน์ เป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญา กระทรวงการต่างประเทศ ปัญหาของเรื่องอยู่ที่แผนที่ซึ่งฝรั่งเศสทำขณะเป็นมหาอำนาจ และประเทศไทยก็ไม่กล้าทำอะไร
อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลโลกตัดสินว่า ปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา ฝ่ายไทยก็ไม่ยอมรับ และมีท่าทีประท้วงคำตัดสินของศาลโลก เพราะทางขึ้นอยู่ฝั่งไทย แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจคือ เหตุใดรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยจึงไปตกลงยินยอมกับกัมพูชา เรื่องปราสาทเขาพระวิหาร ฝ่ายไทยไม่ควรทำอะไรที่เป็นการสนับสนุนที่จะเป็นสาเหตุ ให้เกิดความยุ่งยาก ต้องยึดจุดยืนของไทยที่มีท่าทีประท้วงคำตัดสินของศาลโลก
"ที่ไม่เข้าใจคือ ทำไมรัฐบาลนี้ถึงไปเซ็นยกให้ ไม่มีความจำเป็นต้องไปเซ็นให้ ซึ่งการเซ็นให้หมายความว่าเราให้เขาในของที่ประท้วงมาก่อนแล้ว เมื่อเป็นอย่างนี้ก็เป็นปัญหาทันที และยิ่งไม่นานมานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ไปตีกอล์ฟกับสมเด็จฮุนเซน และรัฐมนตรีต่างประเทศ และมีข่าวลือที่พูดกันมากเรื่องเกาะกง ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปตั้งกาสิโน กับเรื่องพลังงาน เลยส่อว่าจะมีอะไร คล้าย ๆกับแลกเปลี่ยนผลประโยชน์"
ส่วนกรณีไทยเตรียมเสนอสระตราวและบันไดที่อยู่ฝั่งไทยขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกบ้างนั้น ม.ร.ว.อคิน กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบ แต่มองว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่คิดก่อนทำ พอทำไปแล้วมีคนว่าก็กลับลำ เลยยุ่งมีปัญหา รัฐบาลทำอย่างนี้อยู่เรื่อยตลอดเวลา ทุกเรื่อง ในฐานะเป็นรัฐบาลควรคิดหาวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในระยะยาว ไม่ใช่กลับลำไปเฉพาะหน้า
ขณะนายศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการอาวุโสด้านประวัติศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องมรดกโลก ถ้าเป็นเฉพาะปราสาทเขาพระวิหาร ไม่รู้ว่าจะได้รับการขึ้นทะเบียนหรือไม่ เพราะได้แต่ตัวปราสาท ยังมีสภาพแวดล้อมอยู่ในเขตไทย หากเป็นมรดกโลกต้องไปกับสภาพแวดล้อมที่อยู่ในเขตไทย ดังนั้น ควรมีการจัดการตกลงกัน โดยยูเนสโกเป็นคนกลางจัดการทั้งหมด ทั้งปราสาทเขาพระวิหารและรอบ ๆ ให้ถูกตามหลักวิชาการ และเหมาะสมกับความเป็นมรดกโลก ฝ่ายไทยกับฝ่ายกัมพูชาก็มีคณะกรรมการร่วมคอยตรวจสอบการจัดการ และแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยพบว่ามีกรณีการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเฉพาะตัวปราสาท ใครจะไปดู และการทำกระเช้าขึ้นก็ไม่เหมาะกับความเป็นมรดกโลกหรือไม่
ปธ.ที่ปรึกษา ผบ.สส.ห่วงเขาพระวิหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันเดียวกัน มีโทรสารมาถึงห้องผู้สื่อข่าวสายทหาร โดยเป็นเอกสารจดหมาย เรื่อง "การรักษาอธิปไตยเหนือดินแดน กรณีปราสาทเขาพระวิหาร "ลงลายมือชื่อ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด ส่งถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ลงวันที่ 19 มิ.ย.51 อย่างไรก็ตาม ในเอกสารดังกล่าวมี การลงนามรับหนังสือเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.51 เขียนข้อความว่า "เป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน"
เนื้อหาระบุว่า เพื่อให้เกิดความรอบคอบในการดำเนินการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร จึงมีข้อสังเกตว่า 1.การรักษาอธิปไตยเหนือดินแดน การยอมรับแผนที่ที่ฝ่ายกัมพูชาจัดทำอาจจะเป็นผลทำให้มีการใช้อ้างอิงเช่นเดียวกันนี้ เพื่ออ้างสิทธิอธิปไตย เหนือดินแดน บริเวณเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา ด้านอื่นที่ยังคงมีปัญหาอยู่ โดยใช้แผนที่ของฝรั่งเศษที่ทำให้ฝ่ายไทยเสียเปรียบ รวมทั้งยังอาจเชื่อมยังไปยังเส้นเขตแดนด้านลาว ซึ่งใช้แผนที่ฝรั่งเศส หรือ มาเลเซีย และพม่า ทีใช้แผนที่อังกฤษด้วย
2. การดำเนินงานของคณะกรรมการดำเนินการเกี่ยวกับเส้นเขตแดน จากประสบการณ์ในการปฏิบัติงานในกองทัพบก สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และกองบัญชาการกองทัพไทย พบว่าการแก้ไขปัญหาข้อพิพาท ฝ่ายไทยยังไม่มีความต่อเนื่อง ในเรื่องของข้อมูล เนื่องจากคณะกรรมการฯ ตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงระดับปฏิบัติ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายและเปลี่ยนบุคคลรับผิดชอบอยู่เสมอ ส่งผลให้ ขาดการสานต่อด้านวัตถุประสงค์หรือนโยบาย ซึ่งตรงข้ามกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ไม่เปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบอย่างบ่อยครั้ง ทำให้สามารถรวบรวมและใช้ข้อมูลในการดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ในตอนท้ายของหนังสือ ระบุว่า ได้มีการทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพ รวมถึง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เกี่ยวกับ การแสดงออกอย่างชัดเจนของทหารทุกคนในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และการรักษาอธิปไตยเหนือดินแดน
คนไทยตะโกนไล่เขมรเชิง "เขาพระวิหาร"
สำหรับการเคลื่อนไหวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พระมหาบุญถึง ชุตินัธโร ผู้อำนวยการสถาบันธรรมะประชาธิปไตย, พระวิจิตร ญาณโสภโณ เลขาธิการขบวนการศาสนาเพื่อมนุษยชาติ และนายสมาน ศรีงาม ประธานสภาประชาธิปไตยแห่งชาติ แกนนำขบวนธรรมยาตรา กอบกู้รักษาแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหาร มณฑลบูรพา พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ประชนชาวไทยและชาว จ.ศรีสะเกษ กว่า 200 คน ได้เคลื่อนขบวนธรรมยาตราฯ เข้าไปยืน ชุมนุมประท้วงอยู่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นจุดที่มีชาวกัมพูชาประมาณ 500 คน รุกล้ำเขตแดนไทยเข้ามาตั้งชุมนุมสร้างบ้านเรือน ร้านค้า วัดและถนน อยู่มานานนับ 10 ปี
โดยนายสมาน ได้นำประชาชนชาวไทยตะโกนขับไล่ชาวกัมพูชาให้ออกไปจากเขตแดนไทย และ พระมหาบุญถึง ได้นำคณะสงฆ์สวดมนต์เพื่อขับไล่ด้วย จากนั้นผู้ชุมนุมได้ร่วมกันแสดงพลังร้องเพลง "ชาติไทย" และเพลง "เราสู้" ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณเชิงเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา
ขณะที่ชาวกัมพูชาได้พากันมาเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของชาวไทยอย่างใกล้ชิด เช่นกัน และชาวกัมพูชาคนหนึ่งได้หันหลังก้มลงและตบก้นของตัวเองให้กับชาวไทย ที่พากันมาประท้วงขับไล่พวกเขาออกจากเขตแดนไทยในครั้งนี้ด้วย
ขณะที่ พล.ต.ต.พินิจ แฝงยงค์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ได้นำกำลัง ตำรวจและทหารประมาณ 300 คน มาเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับชาวไทยอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน นายสมาน ได้ประสานงานกับ นายรั๋วะ เฮง ประธานช่องพระวิหารของประเทศกัมพูชาเพื่อที่จะยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง ทวงคืนเขาพระวิหารและให้อพยพชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาตั้งชุมชนในเขตแดนไทยบริเวณเชิงเขาพระวิหาร ออกไปโดยเร็ว ผ่านไปถึง นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แต่ประธานช่องพระวิหาร ได้ปฏิเสธที่จะออกมารับหนังสือจากฝ่ายไทย ทำให้ พระมหาบุญถึง ต้องยื่นหนังสือผ่าน พ.อ.เวิน จำปาสา หัวหน้าประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อส่งหนังสือต่อไปยังนายฮุน เซน ต่อไป
นายสมาน กล่าวว่า สำหรับการขับเคลื่อนไหวต่อไปนั้น คณะพวกเราจะได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานทวงคืนเขาพระวิหาร ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก นายสุวรรณ วัฒนพิทักษ์พงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง
"พวกเราจะพากันมาชุมนุมขับเคลื่อนทวงคืนอธิปไตยและแผ่นดินไทยบน เขาพระวิหาร ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ทุกวันเสาร์- อาทิตย์ อย่างต่อเนื่อง ตลอดไป จนกว่าจะได้เขาพระวิหารกลับคืนมาเป็นของคนไทยทั้งประเทศและขับไล่ ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาตั้งชุมชนอยู่ในเขตแดนไทยออกไปได้สำเร็จ"
เขมร สั่งปิด "เขาพระวิหาร" แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.15 น.ฝ่ายกัมพูชาได้นำเอากุญแจมาคล้อง ปิดประตูเหล็กที่ข้ามเข้าไปยังบริเวณเชิงเขาพระวิหาร และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชาขึ้นไปชมปราสาทเขาพระวิหารอย่างเด็ดขาด โดยมีกำลังทหาร ของกัมพูชาหลายร้อยนายพร้อมอาวุธครบมือพากันขึ้นมาตรึงกำลังตามแนวชายแดน รอบบริเวณเขาพระวิหาร ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานของไทยยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีการเคลื่อนไหวระดมกำลังแต่อย่างใด
นายรั๊วะ เฮง ประธานช่องพระวิหาร ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า เมื่อเช้าวันนี้ (23 มิ.ย.) พล.ต.ย็อก วันล็อก ประธานคณะทำงานขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร เป็นมรดกโลก ของกัมพูชา พร้อมด้วยนายเปรี๊ยบ ตัน ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร ได้เรียกประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของกัมพูชาที่บริเวณโคปุระชั้นที่ 2 ประสาทเขาพระวิหาร เพื่อประเมินสถานการณ์กรณีที่มีชาวไทยมาชุมนุมประท้วงผลักดันชาวกัมพูชา ให้ออกไปจากบริเวณเชิงเขาพระวิหาร โดยใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมงที่ประชุมมีมติว่า ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศขึ้นไปชมปราสาทเขาพระวิหารเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อป้องกันผู้ที่ไม่หวังดีแอบแฝงคราบนักท่องเที่ยวเข้ามาก่อเหตุร้ายในบริเวณชุมชนชาวกัมพูชา ที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร
ส่วนจะปิดเป็นเวลานานเท่าใดนั้นยังไม่มีกำหนด จะต้องรอให้ฝ่ายไทยจัดการความสงบเรียบร้อยที่บริเวณเชิงเขาพระวิหารให้เสร็จเสียก่อน
"หากเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้วและฝ่ายไทยให้คำรับรองว่าจะไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น ฝ่ายกัมพูชาจึงจะเปิดปราสาทพระวิหารตามปกติ"
ภาคีโคราชฯ จี้ มทภ.2 ป้องเขาพระวิหาร
ที่หน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย จำนวนกว่า 50 คน นำโดย ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ประธานกลุ่มภาคีมวลชยคนโคราชฯ ได้รวมตัวกันชุมนุมแสดงพลังเรียกร้องให้กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) และ พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ออกมาแสดงท่าทีปกป้องอธิปไตยและแผ่นดินไทย ต่อกรณีปัญหาเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อย่างชัดเจน พร้อมได้อ่านแถลงการณ์ประกาศเจตนารมณ์ ต่อหน้าอนุสาวรีย์ย่าโม
เนื้อหาเรียกร้องให้ พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่ เขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อันเป็นที่ตั้งและทางขึ้นเขาพระวิหาร ได้ออกมาปกป้องแผ่นดินอย่างถวายชีวิต ตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พร้อมพลีชีพเพื่อรักษาชาติ และอธิปไตยของประเทศ
พร้อมกันนี้อยากถามว่า 1.จริงหรือไม่ที่ประเทศไทยต้องเสียดินแดนเขาพระวิหาร ถึง 4.6 ตารางกิโลเมตรให้แก่กัมพูชา เพื่อแลกกับสัมปทานแก๊สและน้ำมันของกัมพูชา บริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา ให้แก่นักการเมืองธุรกิจกลุ่มใหญ่ 2.หากเป็นจริงเช่นนั้น ในฐานะนายทหารที่ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พร้อมพลีชีเพื่อรักษาชาติ และอธิปไตยของประเทศ ท่านพร้อมที่จะออกมาปกป้องแผ่นดินอย่างถวายชีวิตหรือไม่ 3.เพราะเหตุใด กองทัพภาคที่ 2 จึงพยายามระงับข่าวสารข้อมูลที่เกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นและปัญหากรณีเขาพระวิหาร ที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียว ASTV เผยแพร่สัญญาณผ่านเคเบิลทีวี ทำให้ประชาชนในเขตกองทัพภาคที่ 2 ไม่สามารถรับรู้ข้อมูลปัญหาต่างๆ ได้ รวมทั้งพยายามกดดันระงับไม่ให้ทหารพร้อมแม่บ้านครอบครัว ไปร่วมฟังการปราศรัยในที่ชุมนุมของประชาชน ทั้งที่ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาระบุว่า สามารถกระทำได้นอกเวลาราชการและนอกเครื่องแบบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินเท้าจากหน้าอนุสารีย์ท้าวสุรนารี ไปตามถนนราชดำเนิน มุ่งหน้าสู่ กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี เพื่อเข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกต่อ พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมอบดอกไม้ให้กำลังใจทหารหาญของชาติ ที่ปกป้องแผ่นดินและอธิปไตยไทย โดยที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าค่ายสุรนารี สารวัตรทหารได้เพิ่มกำลังมาดูแลความสงบเรียบร้อยว่า 10 นาย
ทั้งนี้ พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา ได้ส่งตัวแทน คือ พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 ออกมารับหนังสือดังกล่าวจาก กลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณประตูทางเข้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 พร้อมรับปากจะนำข้อเรียกร้องดังกล่าว เสนอต่อแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อพิจารณาต่อไปก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินทางกลับ
จวก ครม.ไม่สนใจการอภิปรายวุฒิสภา
สำหรับการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวานนี้ (23 มิ.ย.)ยังคลาคล่ำไปด้วยประชาชนผู้ต้องการมีส่วนร่วมการเมืองภาคประชาชน
ส่วนการอภิปรายในสภาซึ่งหลายฝ่ายมองว่าจะช่วยลดอุณภูมิการเมืองนั้น นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรกล่าวว่า การอภิปรายของส.ว.ใน ก็เหมือนสามวาสองศอก และน่าผิดหวัง เพราะว่ารัฐบาลไม่เอาใจใส่ นายกฯ ก็ไม่ได้ตั้งใจฟัง รัฐมนตรี เดินเข้าๆออกๆ แล้วจะมาอ้างว่าตนเองเชื่อมั่นในระบบสภาได้อย่างไร การตอบคำถาม กรณีเขาพระวิหารก็ไม่ได้มีความชัดเจนนายกฯ กลับยืนยันว่าเป็นของเขมร มานานแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่ารัฐบาลไม่ได้ต่อสู้เพื่ออธิปไตยของไทยเลย เชื่อว่าการอภิปรายตามญัตติของฝ่ายค้านในวันนี้ (24 มิ.ย.) ก็คงไม่ต่างกัน เพราะสุดท้ายก็ต้องจบตรงที่ การโหวต และก็จะพบว่าไม่มีรัฐมนตรีคนใดที่ได้รับมติไม่ไว้วางใจ
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ต่อจากนี้พันธมิตรฯ จะเรียกร้องให้มีการเมืองใหม ซึ่งเป็นจุดยืนที่จะยกระดับการต่อสู้ของพันธมิตรฯที่อาจต้องใช้เวลา โดยต้องไปให้พ้น จากการเมืองของเสียงข้างมากการเมืองของตัวแทน และการเมืองของนักการเมือง แต่การออกแบบภาพใหญ่จะต้องพึ่งนักวิชาการ นักกฎหมาย และนักรัฐศาสตร์ ให้มาร่วมกันออกแบบ เพราะขณะนี้การเมืองในรัฐสภา ไม่สามารถแก้ปัญหาของชาติได้แล้ว ตนคิดว่าการเมืองใหม่ดังกล่าวไม่ใช่การรัฐประหาร แต่ต้องร่วมกันหาวิธีการ
นายสุริยะใส ตอบคำถามสุดท้าย เกี่ยวกับปัญหาทางการจราจร ที่อาจส่งผลกระทบถึงการเดินทางของนักเรียน ที่อยู่ใกล้เคียงเวทีการปราศรัยของพันธมิตรฯ ว่า ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจากผู้บริหาร แต่ยินดีให้ความร่วมมือเสมอ
แฉ "เหลิม" สั่งเกณฑ์คนอีสาน 3 หมื่นเข้ากรุง
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานีรายงานว่า ขณะนี้ได้รับการเปิดเผยจากนักเคลื่อน ไหวด้านมวลชนในภาคอีสานใต้ระบุว่า ได้รับแจ้งจากเพื่อนที่เป็นข้าราชการปกครองสังกัดกระทรวงมหาดไทยให้ระดมมวลชนจัดตั้งของฝ่ายปกครอง โดยมีผู้ใหญ่บ้าน เป็นแกนนำร่วมกับสมาชิก อบต.นำอาสาสมัครต่อต้านยาเสพติดหมู่บ้านละ 10 คน เดินทางจากจุดต่างๆในเย็นวันที่ 25 มิ.ย.51 เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมเดินรณรงค์รวมพลังประชาไทยพ้นภัยยาเสพติดเช้าวันที่ 26 มิ.ย.ที่กรุงเทพฯ โดยมีจุดนัดหมายที่สวนลุมพินีและพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาล
แหล่งข่าวทางปกครอง กล่าวว่า เป็นไปได้ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ต้องการระดมมวลชนเข้าไปกดดัน หรือถึงขั้นปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยอ้างเอากิจกรรมรณรงค์ต่อต้าน ยาเสพติดมาบังหน้า แต่เนื้อหาที่แท้จริงคือ ต้องการเอามวลชนที่ไม่ทราบความจริง ของเหตุการณ์บ้านเมืองเป็นเครื่องมือรักษาอำนาจให้นักการเมืองชุดปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า การระดมมวลชนในภาคอีสานตอนใต้ เน้นไปในพื้นที่ที่พรรคพลังประชาชนมีอิทธิพล อาทิ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอำนาจเจริญ โดยมีเป้าหมายระดมมวลชนให้ได้กว่า 30,000 คน ส่วนค่าใช้จ่ายยังไม่แน่ชัดจะใช้งบประมาณของราชการ หรือใช้งบประมาณของนักการเมืองที่สังกัดพรรคพลังประชาชน เช่น กรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชน ในนามนางสะอิ้ง ทวายสินธุ์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากนายนิสิต สินธุไพร ส.ส.พลังประชาชน จ.ร้อยเอ็ด ที่ได้เดินทางเข้ามารวมกับกลุ่ม นปก.ของ น.พ.เหวง โตจิราการ ที่สนามหลวงแล้ว
หลังจาก นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ โดยมติ ครม.รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ไปลงนามรับรองแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา พร้อมแผนที่ปราสาทเขาพระวิหารว่าเป็นของกัมพูชา เพื่อรับรองให้รัฐบาลกัมพูชา นำไปเสนอต่อองค์การยูเนสโก เพื่อขออนุมัติให้เป็นมรดกโลก ขณะนี้ก่อกระแสต่อต้านเป็นไปอย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ นักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ ผู้รู้ ต่างๆ รวมทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมา ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลนายสมัครกำลังยอมให้กัมพูชารุกล้ำดินแดนและ อธิปไตยของไทย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของนักการเมืองใหญ่ที่ถือหางรัฐบาลอยู่
พันธมิตรฯ ยื่นฟ้องศาลปกครองวันนี้
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ แถลงว่า วันนี้ (24 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไป ศาลปกครอง เพื่อร้องให้ศาลเพิกถอนมติ ครม.ที่เห็นชอบการลงนามร่วมกับรัฐบาลกัมพูชา กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยระบุเหตุผลว่ากระบวนการไม่เป็นไปตามกฏหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่ต้องเปิดให้รัฐสภา ร่วมพิจารณาด้วย อีกทั้งยังขัดต่อพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การบริหาร ราชการแผ่นดิน นอกจากนี้จะร้องต่อศาลให้มีการไต่สวนฉุกเฉิน โดยเรียกรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เพื่อระงับผลของการลงนามร่วมที่จะมีขึ้นในต้นเดือนกรกฎาคม นี้ เนื่องจากเป็นผลมาจากการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรม
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า การร้องต่อศาลปกครองในครั้งนี้จะมีผู้ร้องร่วม 5 คนได้แก่ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ซึ่งจะเป็นตัวแทนของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ นายนิติพร ล้ำเหลือ นายนคร ชมพูชาติ ซึ่งเป็นทนายความทั้งสองคน นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.สรรหา และตนเอง ในฐานะคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดศรีษะเกษ โดยการเดินทางไปครั้งนี้จะมีการจัดขบวนไปส่วนหนึ่งและเชิญชวนผู้ที่จะมาให้กำลังใจพบกันที่ตึกเอ็มไพน์ เวลา 10.00 น.
นายสุริยะใส ยังได้กล่าวย้ำถึงแถลงการณ์ฉบับที่ 15/2551 ในเรื่องจุดยืนของพันธมิตรฯ ในการชุมนุม โดยยืนยันว่าพันธมิตรฯ จะไม่มีการปิดตายประตูเข้า-ออก ทำเนียบฯ หรือบุกปีนเข้าไปในทำเนียบฯ และยืนยันว่าหากมีการกระทำดังกล่าวจริง ทางรัฐบาลต้องรับผิดชอบ เพราะก่อนหน้านี้มีการสร้างกระแสข่าวมาว่าทางพันธมิตรฯ จะบุกเข้าไปในทำเนียบฯ โดยให้เจ้าหน้าที่ในทำเนียบฯ ได้เก็บข้าวของ โดยอ้างเหตุว่า กลัวพันธมิตรจะบุกเข้าไปเผาทำลายเอกสาร ซึ่งตนเชื่อว่าอาจเป็นการ สร้างสถานการณ์ก็ได้
ส.ว.ไม่เชื่อน้ำคำ "นพดล"
นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะ วัฒนธรรม วุฒิสภา พร้อมด้วย นายจำนงค์ สวมประคำ ส.ว.สรรหา นายสมชาติ พรรณพัฒน์ ส.ว.นครปฐม กรรมาธิการศาสนาฯ ร่วมแถลงถึง กรณีที่กัมพูชายื่นเรื่องขอขึ้นทะเบียนให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกว่า ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญอีกครั้งที่ประเทศไทยพลาดโอกาส ยอมให้กัมพูชาขอจดทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งการที่ นายนพดล ปัทมะ ระบุว่าการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจะขึ้นเฉพาะตัวปราสาทนั้น เป็นไปไม่ได้เพราะตามเกณฑ์ของการขึ้นมรดกโลกจะหมายรวมไปถึง บริเวณโดยรอบของตัวมรดกโลกด้วย จึงเท่ากับว่าประเทศไทยจะเสียอำนาจการปกครองในบริเวณนั้นไปโดยปริยาย
"การขึ้นทะเบียนจะรวมไปถึงสถูปต่างๆ บันไดทางขึ้น หินแกะสลักสำคัญ เช่น ภาพหินแกะสลักนูนต่ำเขาอีมอ ที่อยู่ในดินแดนของไทย ก็อาจจะถูกขึ้นเป็นมรดกโลก ของกัมพูชาไปด้วย และหากเป็นเช่นนั้นจริงก็เป็นไปได้ว่าเราอาจจะต้องทำบอร์ดดี้งพาสต์ เข้าไปในพื้นที่ของไทยเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ตลก ในส่วนนี้ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะก่อนที่จะขึ้นทะเบียนมรดกโลกยูเนสโกได้ให้กัมพูชามาตกลงเรื่องนี้กับไทยก่อนที่จะได้รับการพิจารณาขึ้นทะเบียน"
เชื่อมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้มองว่ามีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องตามที่กลุ่มพันธมิตรฯ ระบุหรือไม่ นางตรึงใจ กล่าวว่า มีความเป็นเป็นไป แต่ไม่ทราบว่าซึ่งก็ไม่ทราบ ว่ารมว.ต่างประเทศไปตกลงกับกัมพูชาไว้อย่างไร เพราะหากมีการตกลงไว้การที่จะกลับคำพูดก็คงจะลำบาก และที่ผ่านมารัฐบาลก็ไม่เคยเปิดเผยข้อมูล ซึ่งตนก็ได้แต่หวังว่านายนพดล จะชี้แจงและนำแผนที่ฉบับล่าสุดมาเปิดเผยในที่ประชุมวุฒิสภา
นางตรึงใจ กล่าวว่า ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ตนและ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ส.ว.สรรหา รองประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา พร้อมคณะ จะเดินทางไปยื่นหนังสือของให้ยูเนสโก ให้ชะลอการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถยื้อเวลาออกไปอีกประมาณ 1-2 ปี ในการยื่นเรื่องให้ยูเนสโกพิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกันทั้ง 2 ประเทศ
ชนชั้นนำ-กวีซีไรท์-ศิลปินแห่งชาติต้าน
ส่วนที่นายนพดล เตรียมเสนอเรื่องเข้าสู่ ครม.ในการขอขึ้นทะเบียนสระตราว และบันไดที่อยู่ฝั่งไทย ให้เป็นมรดกโลก นางตรึงใจกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี หากได้ดำเนินการตามที่ระบุไว้ และเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งความจริงตัวปราสาทพระวิหารควรที่จะเป็นของไทยด้วยซ้ำ เพราะหันเข้าประเทศไทย รวมถึงบันไดทางขึ้นก็อยู่ฝั่งไทย ไม่มีสถานที่แห่งไหนที่คนจะขึ่นสักการะบูชาทางด้านหลังของปราสาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การยื่นจดหมายคัดค้านนำเขาพระวิหารจดทะเบียนเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียวดังกล่าวจะยื่นในวันนี้ (24 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ณ องค์การยูเนสโก้ ท้องฟ้าจำลอง ถนนสุขุมวิท มีบุคคลที่มีชื่อเสียงร่วมลงนามอย่างคับคั่งกว่า 300 คน ประกอบด้วย ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ส.ว. นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรท์และศิลปินแห่งชาติ และ น.ส.วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย พร้อมด้วยศิลปินแห่งชาติ ท่านอื่นๆ นายอัศศิริ ธรรมโชติ-นักเขียนรางวัลซีไรท์, ศ.ดร. สมปอง สุจริตกุล อดีตเอกอัคราชทูต คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์, ดร. ชิงชัย หาญเจนลักษณ์ นายอดุลย์ วิเชียรเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการมรดกโลกประจำประเทศไทย, ท่านผู้หญิงวรุณยุพา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา พ.อ.หญิงคุณนิอร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา พล.ท.น.พ.ดำรงรัตน์ แก้วกาญจน์
"หมัก" หลบพันธมิตรฯ ไม่เข้าทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม วานนี้ (23 มิ.ย.) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประกาศว่าจะเดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ แม้จะถูกพันธมิตรฯปิดล้อม แต่เอาเข้าจริง นายสมัครกลับไม่เข้าทำงานที่ทำเนียบฯ โดยเดินทางไปยังรัฐสภา เพื่อรับฟังการอภิปรายทั่วไปของวุฒิสภา พร้อมสั่งยกเลิกภารกิจที่ทำเนียบฯตลอดทั้งวัน จากนั้น เวลา 11.30 น. เดินทางไปยังกระทรวงแรงงานเพื่อประชุมคณะหัวหน้าส่วน ราชการระดับปลัดกระทรวงครั้งที่ 4/2551 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และข้าราชการหน่วยงานที่เกี่ยว โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง
ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวถึงความชัดเจนในการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า จะไม่มีการเพิ่มกำลังเพราะสถานการณ์ยังปกติอยู่ จะปล่อยให้กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมต่อไปได้ เมื่อถามถึงความกังวลเรื่องมือที่ 3 พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า เรากำลังดูอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันดียวกันหลังจากเกิดกระแสต่อต้านอย่างกว้างขวางกรณี รัฐบาลรับรองให้กัมพูชานำปราสาทเขาพระวิหารไปจดทะเบียนเป็นมรดกโลก วานนี้ (23 มิ.ย.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้เชิญ นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.วัฒนธรรม พร้อมด้วยนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร ไปชี้แจงกรณีเขาพระวิหาร อย่างเร่งด่วน พร้อมกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่รัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การประชุมชี้แจงดังกล่าวบรรยากาศเป็นไปด้วยความ เคร่งเครียด นายสมัครแสดงความไม่พอใจที่มีนักวิชาการออกมาแสดงความคิดเห็น กรณีเขาพระวิหาร รวมทั้งสั่งให้ทุกหน่วยงานงดให้สัมภาษณ์ ขอให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศในการชี้แจงเรื่องต่างๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า กรมศิลปากรรวบรวมรายละเอียดทางวิชาการ เกี่ยวกับปราสาทเขาพระวิหารว่ามีอะไรบ้าง ที่อยู่ในเขตประเทศไทย อาทิ สระตราว ภาพสลักนูนต่ำ ที่ผามออีแดง สถูปคู่ แหล่งตัดหิน ซึ่งทั้งหมดเรียกว่าภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับองค์ปราสาทพระวิหาร โดยเมื่อได้ชี้แจงรายละเอียดหมดแล้วขั้นตอนต่อไปกระทรวงต่างประเทศ ก็จะเป็นผู้ดำเนินการในการเสนอให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกับกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนหน้านี้ทางกรมศิลปากรได้เคยเสนอให้ขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกับกัมพูชา แต่ข้อเสนอนี้กลับเงียบหายไป ทั้งนี้ตามหลักวิชาการ การเสนอเป็นมรดกโลกนั้นจะไม่สามารถขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทได้ เพราะต้องคำนึงถึงความมีคุณค่าอยู่ที่สิ่งแวดล้อม ชุมชุน และอาคารประกอบด้วย แต่หากองค์กรยูเนสโกเห็นชอบตามที่กัมพูชาเสนอ ก็จะถือว่ามี 2 มาตรฐานทันที และยืนยันว่าที่ผ่านมา องค์กรยูเนสโก ยังไม่เคยพิจารณาเห็นชอบ ให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเฉพาะสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่พิจารณาส่วนประกอบของโบราณสถานเลย
"อดุล" ชี้แค่แผนโปรโมตของ "นพดล"
ด้า นศ.ดร.อดุล วิเชียรเจริญ ประธานคณะกรรมการมรดกโลก ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จะครม.ลงมติเห็นชอบขึ้นทะเบียนสระตราวและบันไดเขาพระวิหารว่า เป็นเพียงงานประชาสัมพันธ์ล่าสุดของ นายนพดลเท่านั้น เพราะขั้นตอนการเสนอขอขึ้นทะเบียนได้ ไม่ใช่เสนอลอยๆ มันต้องมีการเตรียมเอกสารเพื่อเสนอ ต้องมีบทพรรณนา มีแผนที่ มีสไลด์ มีภาพถ่าย ไม่ใช่จู่ๆ ไม่เตรียมอะไรแล้วจะเสนอขึ้นมา เพราะถึงเสนอไป ทางคณะกรรมการมรดกโลกก็จะดำเนินการชะลอเรื่อง และให้กลับไปตระเตรียมข้อมูลมาก่อน
"อย่างเร็วที่สุดก็คือกลับมาพิจารณาในปีหน้า ซึ่งก็ไม่ได้มีผลดีอะไรต่อกรณี เขาวิหารใดๆ ให้ฝ่ายไทยเลย เป็นเพียงแผนประชาสัมพันธ์อันใหม่ของ นายนพดล ที่ทำเพื่อลดกระแสการต่อต้านของประชาชนเท่านั้น เป็นเพียงการปะแป้งของรัฐมนตรีต่างประเทศ"
ประธานคณะกรรมการมรดกโลกเปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลเซ็นยินยอมยกเขาพระวิหารให้เขมรไปทั้งที่ร่างกายยังป่วย และอยู่ในระยะพักฟื้นอยู่นั้น เมื่อ 3 วันก่อนมีโทรศัพท์ที่ถือว่าค่อนข้างแปลก มาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องเขาพระวิหาร
เผยทางแก้ต้องเปลี่ยนรัฐบาลเท่านั้น
"เป็นผู้ชายโทรมา เขาก็พูดดีนะ ถามว่าคณะกรรมการมรดกโลกเคยเอาวาระเขาพระวิหารเข้าประชุมไหม ก็ตอบเขาว่าไม่เคย แต่ก็ยืนยันมาตลอดมาตั้งแต่ปี 48 จนบัดนี้ ก็ถือว่าเป็นการถามที่ค่อนข้างแปลก เพราะเป็นคำถามที่คนธรรมดาไม่ถามกัน"
ศ.ดร.อดุลยัง กล่าวว่า ใกล้จะถึงเวลาที่จะเปิดประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่จะจัดขึ้นในต้นเดือนหน้า (ก.ค.) แล้ว ประชาชนต้องผนึกกำลังปกป้องสมบัติชาติเอาไว้ อย่างที่ชี้แจงไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ทางเดียวที่ทำได้ก็คือ ต้องให้รัฐบาล แถลงระงับการลงนามสนับสนุนการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกของเขมร แต่เชื่อว่ารัฐบาลนี้คงไม่ทำ ดังนั้นที่จะทำได้ก็คือ เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่วาระเขาพระวิหารจะเข้าที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก
"อคิน" ไม่เข้าใจนพดลเซ็นยอมทำไม
ม.ร.ว.อคิน รพีพัฒน์ นักวิชาการอาวุโส ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า ในช่วงที่ศาลโลกตัดสินกรณีเขาพระวิหาร พระบิดาของตน คือ ม.จ.เพลิงนภดล รพีพัฒน์ เป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญา กระทรวงการต่างประเทศ ปัญหาของเรื่องอยู่ที่แผนที่ซึ่งฝรั่งเศสทำขณะเป็นมหาอำนาจ และประเทศไทยก็ไม่กล้าทำอะไร
อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลโลกตัดสินว่า ปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา ฝ่ายไทยก็ไม่ยอมรับ และมีท่าทีประท้วงคำตัดสินของศาลโลก เพราะทางขึ้นอยู่ฝั่งไทย แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจคือ เหตุใดรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยจึงไปตกลงยินยอมกับกัมพูชา เรื่องปราสาทเขาพระวิหาร ฝ่ายไทยไม่ควรทำอะไรที่เป็นการสนับสนุนที่จะเป็นสาเหตุ ให้เกิดความยุ่งยาก ต้องยึดจุดยืนของไทยที่มีท่าทีประท้วงคำตัดสินของศาลโลก
"ที่ไม่เข้าใจคือ ทำไมรัฐบาลนี้ถึงไปเซ็นยกให้ ไม่มีความจำเป็นต้องไปเซ็นให้ ซึ่งการเซ็นให้หมายความว่าเราให้เขาในของที่ประท้วงมาก่อนแล้ว เมื่อเป็นอย่างนี้ก็เป็นปัญหาทันที และยิ่งไม่นานมานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ไปตีกอล์ฟกับสมเด็จฮุนเซน และรัฐมนตรีต่างประเทศ และมีข่าวลือที่พูดกันมากเรื่องเกาะกง ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปตั้งกาสิโน กับเรื่องพลังงาน เลยส่อว่าจะมีอะไร คล้าย ๆกับแลกเปลี่ยนผลประโยชน์"
ส่วนกรณีไทยเตรียมเสนอสระตราวและบันไดที่อยู่ฝั่งไทยขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกบ้างนั้น ม.ร.ว.อคิน กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบ แต่มองว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่คิดก่อนทำ พอทำไปแล้วมีคนว่าก็กลับลำ เลยยุ่งมีปัญหา รัฐบาลทำอย่างนี้อยู่เรื่อยตลอดเวลา ทุกเรื่อง ในฐานะเป็นรัฐบาลควรคิดหาวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในระยะยาว ไม่ใช่กลับลำไปเฉพาะหน้า
ขณะนายศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการอาวุโสด้านประวัติศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องมรดกโลก ถ้าเป็นเฉพาะปราสาทเขาพระวิหาร ไม่รู้ว่าจะได้รับการขึ้นทะเบียนหรือไม่ เพราะได้แต่ตัวปราสาท ยังมีสภาพแวดล้อมอยู่ในเขตไทย หากเป็นมรดกโลกต้องไปกับสภาพแวดล้อมที่อยู่ในเขตไทย ดังนั้น ควรมีการจัดการตกลงกัน โดยยูเนสโกเป็นคนกลางจัดการทั้งหมด ทั้งปราสาทเขาพระวิหารและรอบ ๆ ให้ถูกตามหลักวิชาการ และเหมาะสมกับความเป็นมรดกโลก ฝ่ายไทยกับฝ่ายกัมพูชาก็มีคณะกรรมการร่วมคอยตรวจสอบการจัดการ และแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยพบว่ามีกรณีการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเฉพาะตัวปราสาท ใครจะไปดู และการทำกระเช้าขึ้นก็ไม่เหมาะกับความเป็นมรดกโลกหรือไม่
ปธ.ที่ปรึกษา ผบ.สส.ห่วงเขาพระวิหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันเดียวกัน มีโทรสารมาถึงห้องผู้สื่อข่าวสายทหาร โดยเป็นเอกสารจดหมาย เรื่อง "การรักษาอธิปไตยเหนือดินแดน กรณีปราสาทเขาพระวิหาร "ลงลายมือชื่อ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด ส่งถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ลงวันที่ 19 มิ.ย.51 อย่างไรก็ตาม ในเอกสารดังกล่าวมี การลงนามรับหนังสือเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.51 เขียนข้อความว่า "เป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน"
เนื้อหาระบุว่า เพื่อให้เกิดความรอบคอบในการดำเนินการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร จึงมีข้อสังเกตว่า 1.การรักษาอธิปไตยเหนือดินแดน การยอมรับแผนที่ที่ฝ่ายกัมพูชาจัดทำอาจจะเป็นผลทำให้มีการใช้อ้างอิงเช่นเดียวกันนี้ เพื่ออ้างสิทธิอธิปไตย เหนือดินแดน บริเวณเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา ด้านอื่นที่ยังคงมีปัญหาอยู่ โดยใช้แผนที่ของฝรั่งเศษที่ทำให้ฝ่ายไทยเสียเปรียบ รวมทั้งยังอาจเชื่อมยังไปยังเส้นเขตแดนด้านลาว ซึ่งใช้แผนที่ฝรั่งเศส หรือ มาเลเซีย และพม่า ทีใช้แผนที่อังกฤษด้วย
2. การดำเนินงานของคณะกรรมการดำเนินการเกี่ยวกับเส้นเขตแดน จากประสบการณ์ในการปฏิบัติงานในกองทัพบก สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และกองบัญชาการกองทัพไทย พบว่าการแก้ไขปัญหาข้อพิพาท ฝ่ายไทยยังไม่มีความต่อเนื่อง ในเรื่องของข้อมูล เนื่องจากคณะกรรมการฯ ตั้งแต่ระดับนโยบายจนถึงระดับปฏิบัติ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายและเปลี่ยนบุคคลรับผิดชอบอยู่เสมอ ส่งผลให้ ขาดการสานต่อด้านวัตถุประสงค์หรือนโยบาย ซึ่งตรงข้ามกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ไม่เปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบอย่างบ่อยครั้ง ทำให้สามารถรวบรวมและใช้ข้อมูลในการดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ในตอนท้ายของหนังสือ ระบุว่า ได้มีการทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพ รวมถึง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เกี่ยวกับ การแสดงออกอย่างชัดเจนของทหารทุกคนในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และการรักษาอธิปไตยเหนือดินแดน
คนไทยตะโกนไล่เขมรเชิง "เขาพระวิหาร"
สำหรับการเคลื่อนไหวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พระมหาบุญถึง ชุตินัธโร ผู้อำนวยการสถาบันธรรมะประชาธิปไตย, พระวิจิตร ญาณโสภโณ เลขาธิการขบวนการศาสนาเพื่อมนุษยชาติ และนายสมาน ศรีงาม ประธานสภาประชาธิปไตยแห่งชาติ แกนนำขบวนธรรมยาตรา กอบกู้รักษาแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหาร มณฑลบูรพา พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ประชนชาวไทยและชาว จ.ศรีสะเกษ กว่า 200 คน ได้เคลื่อนขบวนธรรมยาตราฯ เข้าไปยืน ชุมนุมประท้วงอยู่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นจุดที่มีชาวกัมพูชาประมาณ 500 คน รุกล้ำเขตแดนไทยเข้ามาตั้งชุมนุมสร้างบ้านเรือน ร้านค้า วัดและถนน อยู่มานานนับ 10 ปี
โดยนายสมาน ได้นำประชาชนชาวไทยตะโกนขับไล่ชาวกัมพูชาให้ออกไปจากเขตแดนไทย และ พระมหาบุญถึง ได้นำคณะสงฆ์สวดมนต์เพื่อขับไล่ด้วย จากนั้นผู้ชุมนุมได้ร่วมกันแสดงพลังร้องเพลง "ชาติไทย" และเพลง "เราสู้" ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณเชิงเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา
ขณะที่ชาวกัมพูชาได้พากันมาเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของชาวไทยอย่างใกล้ชิด เช่นกัน และชาวกัมพูชาคนหนึ่งได้หันหลังก้มลงและตบก้นของตัวเองให้กับชาวไทย ที่พากันมาประท้วงขับไล่พวกเขาออกจากเขตแดนไทยในครั้งนี้ด้วย
ขณะที่ พล.ต.ต.พินิจ แฝงยงค์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ได้นำกำลัง ตำรวจและทหารประมาณ 300 คน มาเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับชาวไทยอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน นายสมาน ได้ประสานงานกับ นายรั๋วะ เฮง ประธานช่องพระวิหารของประเทศกัมพูชาเพื่อที่จะยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง ทวงคืนเขาพระวิหารและให้อพยพชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาตั้งชุมชนในเขตแดนไทยบริเวณเชิงเขาพระวิหาร ออกไปโดยเร็ว ผ่านไปถึง นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แต่ประธานช่องพระวิหาร ได้ปฏิเสธที่จะออกมารับหนังสือจากฝ่ายไทย ทำให้ พระมหาบุญถึง ต้องยื่นหนังสือผ่าน พ.อ.เวิน จำปาสา หัวหน้าประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อส่งหนังสือต่อไปยังนายฮุน เซน ต่อไป
นายสมาน กล่าวว่า สำหรับการขับเคลื่อนไหวต่อไปนั้น คณะพวกเราจะได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานทวงคืนเขาพระวิหาร ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก นายสุวรรณ วัฒนพิทักษ์พงศ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง
"พวกเราจะพากันมาชุมนุมขับเคลื่อนทวงคืนอธิปไตยและแผ่นดินไทยบน เขาพระวิหาร ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ทุกวันเสาร์- อาทิตย์ อย่างต่อเนื่อง ตลอดไป จนกว่าจะได้เขาพระวิหารกลับคืนมาเป็นของคนไทยทั้งประเทศและขับไล่ ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาตั้งชุมชนอยู่ในเขตแดนไทยออกไปได้สำเร็จ"
เขมร สั่งปิด "เขาพระวิหาร" แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.15 น.ฝ่ายกัมพูชาได้นำเอากุญแจมาคล้อง ปิดประตูเหล็กที่ข้ามเข้าไปยังบริเวณเชิงเขาพระวิหาร และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชาขึ้นไปชมปราสาทเขาพระวิหารอย่างเด็ดขาด โดยมีกำลังทหาร ของกัมพูชาหลายร้อยนายพร้อมอาวุธครบมือพากันขึ้นมาตรึงกำลังตามแนวชายแดน รอบบริเวณเขาพระวิหาร ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานของไทยยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีการเคลื่อนไหวระดมกำลังแต่อย่างใด
นายรั๊วะ เฮง ประธานช่องพระวิหาร ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า เมื่อเช้าวันนี้ (23 มิ.ย.) พล.ต.ย็อก วันล็อก ประธานคณะทำงานขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร เป็นมรดกโลก ของกัมพูชา พร้อมด้วยนายเปรี๊ยบ ตัน ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร ได้เรียกประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของกัมพูชาที่บริเวณโคปุระชั้นที่ 2 ประสาทเขาพระวิหาร เพื่อประเมินสถานการณ์กรณีที่มีชาวไทยมาชุมนุมประท้วงผลักดันชาวกัมพูชา ให้ออกไปจากบริเวณเชิงเขาพระวิหาร โดยใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมงที่ประชุมมีมติว่า ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศขึ้นไปชมปราสาทเขาพระวิหารเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อป้องกันผู้ที่ไม่หวังดีแอบแฝงคราบนักท่องเที่ยวเข้ามาก่อเหตุร้ายในบริเวณชุมชนชาวกัมพูชา ที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร
ส่วนจะปิดเป็นเวลานานเท่าใดนั้นยังไม่มีกำหนด จะต้องรอให้ฝ่ายไทยจัดการความสงบเรียบร้อยที่บริเวณเชิงเขาพระวิหารให้เสร็จเสียก่อน
"หากเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้วและฝ่ายไทยให้คำรับรองว่าจะไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น ฝ่ายกัมพูชาจึงจะเปิดปราสาทพระวิหารตามปกติ"
ภาคีโคราชฯ จี้ มทภ.2 ป้องเขาพระวิหาร
ที่หน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย จำนวนกว่า 50 คน นำโดย ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ประธานกลุ่มภาคีมวลชยคนโคราชฯ ได้รวมตัวกันชุมนุมแสดงพลังเรียกร้องให้กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) และ พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ออกมาแสดงท่าทีปกป้องอธิปไตยและแผ่นดินไทย ต่อกรณีปัญหาเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อย่างชัดเจน พร้อมได้อ่านแถลงการณ์ประกาศเจตนารมณ์ ต่อหน้าอนุสาวรีย์ย่าโม
เนื้อหาเรียกร้องให้ พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่ เขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อันเป็นที่ตั้งและทางขึ้นเขาพระวิหาร ได้ออกมาปกป้องแผ่นดินอย่างถวายชีวิต ตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พร้อมพลีชีพเพื่อรักษาชาติ และอธิปไตยของประเทศ
พร้อมกันนี้อยากถามว่า 1.จริงหรือไม่ที่ประเทศไทยต้องเสียดินแดนเขาพระวิหาร ถึง 4.6 ตารางกิโลเมตรให้แก่กัมพูชา เพื่อแลกกับสัมปทานแก๊สและน้ำมันของกัมพูชา บริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา ให้แก่นักการเมืองธุรกิจกลุ่มใหญ่ 2.หากเป็นจริงเช่นนั้น ในฐานะนายทหารที่ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พร้อมพลีชีเพื่อรักษาชาติ และอธิปไตยของประเทศ ท่านพร้อมที่จะออกมาปกป้องแผ่นดินอย่างถวายชีวิตหรือไม่ 3.เพราะเหตุใด กองทัพภาคที่ 2 จึงพยายามระงับข่าวสารข้อมูลที่เกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นและปัญหากรณีเขาพระวิหาร ที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียว ASTV เผยแพร่สัญญาณผ่านเคเบิลทีวี ทำให้ประชาชนในเขตกองทัพภาคที่ 2 ไม่สามารถรับรู้ข้อมูลปัญหาต่างๆ ได้ รวมทั้งพยายามกดดันระงับไม่ให้ทหารพร้อมแม่บ้านครอบครัว ไปร่วมฟังการปราศรัยในที่ชุมนุมของประชาชน ทั้งที่ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาระบุว่า สามารถกระทำได้นอกเวลาราชการและนอกเครื่องแบบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินเท้าจากหน้าอนุสารีย์ท้าวสุรนารี ไปตามถนนราชดำเนิน มุ่งหน้าสู่ กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี เพื่อเข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกต่อ พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมอบดอกไม้ให้กำลังใจทหารหาญของชาติ ที่ปกป้องแผ่นดินและอธิปไตยไทย โดยที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าค่ายสุรนารี สารวัตรทหารได้เพิ่มกำลังมาดูแลความสงบเรียบร้อยว่า 10 นาย
ทั้งนี้ พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา ได้ส่งตัวแทน คือ พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 ออกมารับหนังสือดังกล่าวจาก กลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณประตูทางเข้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 พร้อมรับปากจะนำข้อเรียกร้องดังกล่าว เสนอต่อแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อพิจารณาต่อไปก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินทางกลับ
จวก ครม.ไม่สนใจการอภิปรายวุฒิสภา
สำหรับการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวานนี้ (23 มิ.ย.)ยังคลาคล่ำไปด้วยประชาชนผู้ต้องการมีส่วนร่วมการเมืองภาคประชาชน
ส่วนการอภิปรายในสภาซึ่งหลายฝ่ายมองว่าจะช่วยลดอุณภูมิการเมืองนั้น นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรกล่าวว่า การอภิปรายของส.ว.ใน ก็เหมือนสามวาสองศอก และน่าผิดหวัง เพราะว่ารัฐบาลไม่เอาใจใส่ นายกฯ ก็ไม่ได้ตั้งใจฟัง รัฐมนตรี เดินเข้าๆออกๆ แล้วจะมาอ้างว่าตนเองเชื่อมั่นในระบบสภาได้อย่างไร การตอบคำถาม กรณีเขาพระวิหารก็ไม่ได้มีความชัดเจนนายกฯ กลับยืนยันว่าเป็นของเขมร มานานแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่ารัฐบาลไม่ได้ต่อสู้เพื่ออธิปไตยของไทยเลย เชื่อว่าการอภิปรายตามญัตติของฝ่ายค้านในวันนี้ (24 มิ.ย.) ก็คงไม่ต่างกัน เพราะสุดท้ายก็ต้องจบตรงที่ การโหวต และก็จะพบว่าไม่มีรัฐมนตรีคนใดที่ได้รับมติไม่ไว้วางใจ
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ต่อจากนี้พันธมิตรฯ จะเรียกร้องให้มีการเมืองใหม ซึ่งเป็นจุดยืนที่จะยกระดับการต่อสู้ของพันธมิตรฯที่อาจต้องใช้เวลา โดยต้องไปให้พ้น จากการเมืองของเสียงข้างมากการเมืองของตัวแทน และการเมืองของนักการเมือง แต่การออกแบบภาพใหญ่จะต้องพึ่งนักวิชาการ นักกฎหมาย และนักรัฐศาสตร์ ให้มาร่วมกันออกแบบ เพราะขณะนี้การเมืองในรัฐสภา ไม่สามารถแก้ปัญหาของชาติได้แล้ว ตนคิดว่าการเมืองใหม่ดังกล่าวไม่ใช่การรัฐประหาร แต่ต้องร่วมกันหาวิธีการ
นายสุริยะใส ตอบคำถามสุดท้าย เกี่ยวกับปัญหาทางการจราจร ที่อาจส่งผลกระทบถึงการเดินทางของนักเรียน ที่อยู่ใกล้เคียงเวทีการปราศรัยของพันธมิตรฯ ว่า ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจากผู้บริหาร แต่ยินดีให้ความร่วมมือเสมอ
แฉ "เหลิม" สั่งเกณฑ์คนอีสาน 3 หมื่นเข้ากรุง
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานีรายงานว่า ขณะนี้ได้รับการเปิดเผยจากนักเคลื่อน ไหวด้านมวลชนในภาคอีสานใต้ระบุว่า ได้รับแจ้งจากเพื่อนที่เป็นข้าราชการปกครองสังกัดกระทรวงมหาดไทยให้ระดมมวลชนจัดตั้งของฝ่ายปกครอง โดยมีผู้ใหญ่บ้าน เป็นแกนนำร่วมกับสมาชิก อบต.นำอาสาสมัครต่อต้านยาเสพติดหมู่บ้านละ 10 คน เดินทางจากจุดต่างๆในเย็นวันที่ 25 มิ.ย.51 เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมเดินรณรงค์รวมพลังประชาไทยพ้นภัยยาเสพติดเช้าวันที่ 26 มิ.ย.ที่กรุงเทพฯ โดยมีจุดนัดหมายที่สวนลุมพินีและพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาล
แหล่งข่าวทางปกครอง กล่าวว่า เป็นไปได้ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ต้องการระดมมวลชนเข้าไปกดดัน หรือถึงขั้นปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยอ้างเอากิจกรรมรณรงค์ต่อต้าน ยาเสพติดมาบังหน้า แต่เนื้อหาที่แท้จริงคือ ต้องการเอามวลชนที่ไม่ทราบความจริง ของเหตุการณ์บ้านเมืองเป็นเครื่องมือรักษาอำนาจให้นักการเมืองชุดปัจจุบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า การระดมมวลชนในภาคอีสานตอนใต้ เน้นไปในพื้นที่ที่พรรคพลังประชาชนมีอิทธิพล อาทิ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอำนาจเจริญ โดยมีเป้าหมายระดมมวลชนให้ได้กว่า 30,000 คน ส่วนค่าใช้จ่ายยังไม่แน่ชัดจะใช้งบประมาณของราชการ หรือใช้งบประมาณของนักการเมืองที่สังกัดพรรคพลังประชาชน เช่น กรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชน ในนามนางสะอิ้ง ทวายสินธุ์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากนายนิสิต สินธุไพร ส.ส.พลังประชาชน จ.ร้อยเอ็ด ที่ได้เดินทางเข้ามารวมกับกลุ่ม นปก.ของ น.พ.เหวง โตจิราการ ที่สนามหลวงแล้ว