xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯยื่นศาลปค.คุ้มครองเขาพระวิหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยบนเวทีหลังปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลได้แล้ววานนี้ (20 มิ.ย.) ว่า ในวันอังคารที่ 24 มิ.ย. นายสุวัฒน์ อภัยภักตร์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ จะไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้ขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราวกรณีนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อรับรองให้กัมพูชา นำไปเป็นหลักฐานเพื่อใช้ในการเสนอต่อองค์การยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงประเทศเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา วันเดียวกัน นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามของ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ถามต่อนาย นพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ โดยม.ร.ว.ปรียนันทนา กล่าวว่า ปราสาทเขาพระวิหาร เป็นแผลเป็นของคนไทย 46 ปีแล้ว รัฐบาลดำเนินการ ต้องรอบคอบไม่กระทบอธิปไตยของประเทศ ประชาชนต้องรับทราบ ไม่ใช่เรื่องความลับของรัฐบาลไทยและกัมพูชาเท่านั้น แม้รัฐมนตรีของไทยจะประกาศรับผิดชอบ หากเสียหาย แต่ความเสียหายก็เกิดไปแล้วเรียกคืนไม่ได้ จึงถามว่าการที่รัฐมนตรีจะไปประชุม วันที่ 2 -10 กรกฎาคมนี้ว่า
1.ทำไมประเทศไทยจึงให้การสนับสนุนตัวปราสาท เป็นมรดกโลกแต่ฝ่ายเดียว ของกัมพูชา 2. ทำไมไม่เสนอให้ร่วมกันอย่างเสมอภาค 3. ทำไมรมว.ต่างประเทศ จึงเร่งรีบเซ็นและไม่เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะทั้งที่มีการคัดค้านอย่างต่อเนื่อง และ4ทำไมไม่เปิดเผยข้อมูลแผนที่จริงก่อนลงนาม ซึ่งเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ที่ไม่มีการชี้แจงต่อสภา เกรงว่า จะทำให้ประเทศไทยเสียสิทธิ์การบริหารจัดการพื้นที่เขตแดนและอธิปไตยของไทยในอนาคต
ด้านนายนพดล ชี้แจงว่า กรรมสิทธิ์ในตัวปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา ตามคำตัดสินของศาลโลกเมื่อปี 2505 และเมื่อประมาณปี 2549 ทางกัมพูชา ได้ขอขึ้นทะเบียนตัวปราสาทเป็นมรดกโลก ซึ่งไทยก็เคยขอขึ้นทะเบียนร่วม แต่ได้รับคำปฏิเสธจากกัมพูชา ที่สำคัญการขอขึ้นทะเบียนดังกล่าว ในช่วงแรกกัมพูชา ได้รวมพื้นที่ทับซ้อนไปด้วย แต่ไทยได้คัดค้านมาตลอด เมื่อตนเข้ามารับตำแหน่ง ก็เห็นว่าไทยสุ่มเสี่ยงที่จะเสียดินแดนจึงได้เจรจามาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนออกไปท้ายที่สุด ในการเจรจาที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสกัมพูชา จึงยอมไทยที่จะขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทและยอมให้ไทยตรวจสอบแผนที่ ซึ่งฝ่ายทหารก็ยืนยันแล้วว่า แผนที่กัมพูชาไม่ได้รุกล้ำดินแดนไทย
ส่วนสาเหตุที่ต้องดำเนินการในช่วงนี้ เพราะกรอบเวลาบังคับอยู่ เนื่องจาก องค์การยูเนสโกจะมีการพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียนในเดือนกรกฎาคมนี้ หากเราไม่ดำเนินการเจรจาจะสุ่มเสี่ยงที่กัมพูชาจะนำพื้นที่ทับซ้อนไปขึ้นทะเบียนด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ไทยสูญเสียดินแดน และเรื่องนี้ไม่ได้บิดบัง เพราะได้แจกเอกสาร ให้สื่อมวลชนทุกชิ้น
ส่วนที่ไม่นำเข้าชี้แจงต่อรัฐสภาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ เพราะคำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ไม่มีสถานะเป็นสนธิสัญญา และไม่มีการ เปลี่ยนแปลงอาณาเขต จึงไม่ต้องนำเข้ารัฐสภาส่วนปัญหาพื้นที่ทับซ้อนที่มีชาวกัมพูชาเข้าไปสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ นั้นจะมีการเจรจาหาทางออกร่วมกันต่อไป
การดำเนินการครั้งนี้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนผมสำนึกในภารกิจของผมที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถ้าผมยอมให้ประเทศไทยเสียดินแดน ผมจะอยู่ในประเทศไทยได้อย่างไร ผมไม่เอาอนาคตทางการเมือง ไม่เอาผลประโยชน์ทางการเมือง ผมไม่เอาชื่อเสียง วงศ์ตระกูลผม มาผูกกับการเจรจาระหว่างประเทศเพียงแค่จะไปเอาใจกัมพูชา เพราะผมไม่ได้เป็นญาติ ผมเป็นเพื่อนบ้านเขาเท่านั้นเอง

พลิ้วไม่ใช่แผนที่แต่เป็นแผนพังปราสาท
นายนพดล ปัทมะ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายอดุลย์ วิเชียรเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการมรดกโลก ออกมาระบุว่า การที่รัฐบาลไทยลงนามสนับสนุนกัมพูชา เสนอเขาพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ถือเป็นการเสียดินแดนครั้งแรกว่า กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแค่ไหน เขาก็จดทะเบียนให้เท่านั้น เพราะไม่สามารถอนุมัติพื้นที่คาบเกี่ยวในพื้นที่ประเทศไทยได้
นายนพดล กล่าวว่า ไทยไม่ได้ยอมรับแผนที่ของฝ่ายกัมพูชา แต่สิ่งที่เขาเสนอ คือแผนผังไม่ใช่แผนที่ เป็นแผนผังตัวปราสาทที่จะขึ้นทะเบียน ซึ่งเราตรวจสอบดูแล้ว ไม่ได้คาบเกี่ยวเข้ามาในพื้นที่ของเรา แต่เดิมแผนที่ ที่เขาเสนอมานั้นคาบเกี่ยวกับพื้นที่ของเรา ดังนั้น จึงไปเจรจาและเขาแก้แผนผังมาใหม
ส่วนที่นักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่า มีพื้นที่รายรอบที่เป็นของไทยต้องสูญเสีย ไปด้วยนั้น ต้องถามกลับไปว่า คนที่ตั้งข้อสังเกตอย่างนี้แสดงว่า อยากให้มันรุกล้ำ เข้ามาในประเทศไทยใช่หรือไม่ โดยตนยืนยันว่า พื้นที่รายรอบที่กัมพูชาเสนอเข้ามา ไม่มีส่วนใดคาบเกี่ยวเข้ามาในพื้นที่ของเรา สาระสำคัญอยู่ตรงนี้

เสียงแข็งไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีที่นายอดุลย์บอกว่า การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกครั้งนี้ เป็นไปเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์นั้น ความจริงนายอดุลก็ถือเป็นผู้ใหญ่ แต่เป็นความเท็จทั้งสิ้น ตนไม่อยากใช้คำว่าไม่จริง แต่ยืนยันว่าไม่มีการต่อรองผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องนี้เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ไม่มีอะไรที่จะไปต่อรองผลประโยชน์ ที่แปลกใจก็คือ เรื่องนี้เป็นเรื่องง่ายมากๆ ภาษาฝรั่งเรียกว่า simple เพราะเขาจ่อจะขึ้นทะเบียนตัวปราสาท บวกพื้นที่ทับซ้อนแล้ว และคณะกรรมการมรดกโลก ก็จ่อจะอนุมัติให้กัมพูชาแล้วและเราก็เลื่อนมาครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้น ครั้งนี้เราจึงรีบไปปลดชนวนออกมา เราควรได้รับดอกกุหลาบ ไม่ใช่แบบนี้' นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการการต่างประเทศของวุฒิสภา จะทำหนังสือคัดค้านการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกต่อยูเนสโกว่า ถือเป็นสิทธิของ ส.ว. แต่ไม่คิดว่าจะมีผลอะไร ถ้ากระทรวงการต่างประเทศไม่ไปเจรจา แล้วกัมพูชา ไม่ไปเปลี่ยนแปลงของเขา ก็สุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดน ถ้าปล่อยให้เขาขึ้นทะเบียนทั้งตัวปราสาทและพื้นที่ทับซ้อนแล้วใครจะรับผิดชอบ กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องรับผิดชอบใช่หรือไม่ แต่เราก็สามารถเจรจาจนสำเร็จ ถ้าหาก ส.ว.อยากจะยื่นอะไรก็ถือเป็นสิทธิของท่าน แต่คงไม่มีผลต่อการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

อ้างหากไม่ยอมจะเสียพื้นที่ทับซ้อน
เมื่อถามว่า ก่อนที่จะลงนามในแถลงการณ์ร่วมได้เจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อน จนเป็นที่ยุติแล้วหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ทางคณะกรรมการมรดกโลกจะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ถ้าเราไม่ยอมให้เขาแก้ไข เราก็สุ่มเสี่ยงจะสูญเสียพื้นที่ทับซ้อนด้วย ไม่ใช่บริหารจัดการ เพราะมีบางส่วนที่เขาขึ้นทะเบียนคาบเกี่ยวในพื้นที่ของเรา ดังนั้นต้องถามว่าไม่แย่กว่าหรือ เนื่องจากมันคาบเกี่ยวในพื้นที่ของเรา ถ้าเราไม่ยอมให้เขาไปแก้ไขแผนที่ เพราะแผนที่ที่มีพื้นที่ทับซ้อน มันค้างไว้แล้ว เราจึงต้องรีบเข้าไปปลดชนวนไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าภายหลังที่ขึ้นทะเบียนให้เขาพระวิหารให้เป็นมรดกโลกแล้วจะมีการสร้างกาสิโนคอมเพล็กซ์ ขึ้นหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ อย่าพยายามให้ยืนยันข้อมูลเลย

ปองพลอัดนพดลรีบร้อนเซ็น
นายปองพล อดิเรกสาร ในฐานะผู้ทำสารคดีมรดกโลก กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งเขาพระวิหารว่า ขณะนี้ข้อถกเถียงควรจะแบ่งออกเป็นสองประเด็น ประเด็นแรก กรณีการเสียดินแดนตามแผนทีนั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับตามที่หน่วยงานอย่าง กรมแผนที่ทหารออกมายืนยันว่าไทยไม่ได้เสียดินแดน คงต้องยืนยันตามนั้น แต่ประเด็นทีสองคือการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของดินแดนนั้นสามารถ ที่จะเสนอเป็นพื้นที่บริหารร่วมกันระหว่างไทยและกัมพูชาได้ และในหลายประเทศ สามารถและพื้นที่ มีพื้นที่มรดกโลกที่บริหารร่วมกัน เพื่อให้เป็นมรดกโลกที่สมบูรณ์ได้ แต่ ทำไมเราไม่พยายามที่จะขอบริหารจัดการร่วมสองประเทศ
ผมไม่เข้าใจว่าจะรีบร้อนที่จะลงนามเสนอให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนไปทำไมเพราะหาบริการจัดการร่วมกันสองประเทศ ยึดถือแนวทางเดิมที่เราเคยทำกันมาตลอด46 ปี ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นอกจากนี้จาการชี้แจงของ นายนพดล เองผมไม่เคยเห็นว่า เขาจะชี้แจงกรณีการบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกันเลย ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญ

สงสัยนพดลมีอำนาจลงนามหรือไม่
นายปองพล กล่าวอีกว่า ขณะนี้ไม่แน่ใจว่า การลงนามของนายนพดล มีอำนาจจริงหรือไม่ที่ไปลงนามร่วมกับกัมพูชา เพราะว่า จากการตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรี นั้นพบว่า มีเพียงมติวันที่ 17 มิ.ย. ที่ยอมรับแผนที่ใหม่ของกัมพูชาเท่านั้น แต่ไม่มีมติครม.มอบอำนาจให้ นายนพดล ไปร่วมเซ้นสัญญากับกัมพูชาเลย จึงไม่แน่ใจในเรื่องอำนาจของ รัฐมนตรีต่างประเทศ ว่ามีอำนาจไปเซ็นลงนามหรือไม่
นายปองพล ได้กล่าวถึง ทางออก ในเรื่องนี้คือในเวทียูเนสโก้ ไทยจะต้องขอความไปบริหารจัดการร่วมกับกัมพูชา ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรอง ในระดับเวทีโลกว่าไทยจะสามารถเจรจาเพื่อขอความร่วมการบริหารกับพัมพูชาได้หรือไม่
ส่วนกรณี การแต่งตั้งคณะกรรมการมรดกโลกชุดใหม่นั้น นายปองพล กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการ หรือมีการีติดต่อมาเพื่อให้เป็นประธานคณะกรรมการ ทราบเพียงข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์เท่านั้น

ปชป.จ้องยื่นถอดถอนนพดล
นายศิริโชค โสภา กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะรัฐมนตรี(ครม.)เงา แถลงภายหลังการประชุมครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์มีความห่วงใยกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ได้ทำข้อตกลงในการยอมรับที่จะให้ประเทศกัมพูชาจดทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นมรดกโลกกับองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) อาจทำให้ข้อสงวนที่นายถนัด คอมันตร์ รมว.ต่างประเทศในขณะนั้น เคยยื่นค้านกับสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ตกไป เราจึงอยากเรียกร้องให้นายนพดล เปิดเผยรายละเอียดที่แท้จริงทั้งหมด ทั้งแผนที่ฉบับต่างๆ และเอกสารที่ลงนามกับรัฐบาลกัมพูชา เพราะขณะนี้มีความสับสนเป็นอย่างมาก
นายศีริโชค กล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์มีหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นได้ว่า สิ่งที่นายนพดลแถลงต่อคนไทย กับสิ่งที่รัฐบาลกัมพูชานำเสนอต่อประชาชน ชาวเขมร และยูเนสโก มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เช่น การที่นายไพร สีพัน โฆษกคณะรัฐมนตรีกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ที่ประเทศกัมพูชา ถึงสาเหตุการขอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารล่าช้าว่าเป็นพราะรัฐบาลไทยสับสนกับเอกสารที่รัฐบาลกัมพูชาส่งไป เนื่องจาก รัฐบาลกัมพูชาส่งภาพวาด ซึ่งไม่ใช่แผนที่ ดังนั้น รัฐบาลไทยต้องระมัดระวังว่ารัฐบาลกัมพูชาส่งเอกสารอะไรไปที่ยูเนสโก มิฉะนั้นไทยอาจถูกหลอกได้
นอกจากนี้ ครม.เงา ยังได้หารือประเด็นที่นายนพดลว่าอาจจะทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ซึ่งถ้าเข้าข่ายก็อาจต้องทำการถอดถอน โดยพรรคจะมีการพิจารณา เรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลที่สมบรูณ์และกำลังพิจารณาว่าเข้าข่ายถอดถอน หรือไม่ เพราะมีความหมิ่นเหม่ในเรื่องของอธิปไตยของประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น