ผู้จัดการรายวัน - ตลาดหลักทรัพย์ อนุมัติกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มัลติเนชั่นแนลเรสซิเดนซ์ฟันด์ เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ในตลาด ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายนนี้
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอแจ้งว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งให้รับหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มัลติเนชั่นแนลเรสซิเดนซ์ฟันด์ เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2551เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเห็นควรกำหนดให้หน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มัลติเนชั่นแนลเรสซิเดนซ์ฟันด์ 107,500,000 หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 10 บาท รวม 1,075,000,000 บาท เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2551 เป็นต้นไป โดยจัดอยู่ใน
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "MNRF"
สำหรับกองทุนรวม MNRF เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนในโครงการที่ประสบความสำเร็จในการสร้างชุมชนชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยที่มีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งจากแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยในแต่ละปี ส่งผลให้อัตราการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเช่าคุณภาพสูงมีแนวโน้มเติบโตสูงตามไปด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริหารกองทุนดังกล่าวให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
นอกจากนี้ กองทุนรวม MNRF จะได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ จากการปล่อยเช่าบ้านเดี่ยวและห้องชุดพักอาศัยทั้งโครงการเป็นระยะเวลา 7 ปีให้กับบริษัทนิชดา และกองทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าเช่ารายเดือนตามที่ตกลงไว้ โดยคาดว่าบ้านเดี่ยวที่แจ้งวัฒนะสามารถปล่อยเช่าได้ในอัตราค่าเช่าประมาณ 100,000-140,000 บาทต่อเดือน ห้องชุดพักอาศัยที่แจ้งวัฒนะมีอัตราค่าเช่าประมาณ 30,000-50,000 บาทต่อเดือน และบ้านเดี่ยวที่ชลบุรีมีอัตราค่าเช่าประมาณ 60,000-80,000บาทต่อเดือน ซึ่งกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ โดยกองทุนให้บริษัทนิชดาทำสัญญาเช่าโดยมีการวางหลักประกัน 9 เดือนของค่าเช่า และมีบทปรับเป็นเงินค่าเช่าจำนวน 24 เดือนหากผู้เช่าผิดสัญญา ทั้งนี้การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ในที่ดินและอาคาร (Freehold) กองทุนมีโอกาสที่จะได้รับมูลค่าเพิ่มในทรัพย์สิน โดยกองทุนมีสิทธิที่จะขายทรัพย์สินภายในกองทุนได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกับบริษัทนิชดาเมื่อเห็นว่าเป็นประโยชน์กับผู้ลงทุนโดยไม่ถือเป็นการผิดสัญญาเช่ากับบริษัทนิชดา
ทั้งนี้ กองทุน MNRF จะได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ จากการปล่อยเช่าบ้านเดี่ยว และห้องชุดพักอาศัยทั้งโครงการเป็นระยะเวลา 7 ปีให้กับบริษัทนิชดา และเมื่อครบ 7 ปีแล้ว สามารถต่อสัญญาได้อีก 5 ปี ทั้งนี้คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยในช่วง 7 ปีเท่ากับ 7.8% โดยผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับจะเพิ่มขึ้นทุกปีๆ ละ 0.1% โดยในปีที่1 ได้ 7.5% ,ปีที่2 ได้ 7.6% ,ปีที่3 ได้ 7.7% ,ปีที่4 ได้ 7.8% ,ปีที่5 ได้ 7.9% ,ปีที่6 ได้ 8.0% และปีที่7 ได้ 8.1% นอกจากนี้หากมีการต่อสัญญาในปีที่ 8 ผลตอบแทนในปีที่ 8 จะต้องไม่น้อยกว่าปีที่7 ด้วย ซึ่งถือเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายกับผู้ลงทุนที่ดีทีเดียว โดยกองทุน MNRF มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90 ของกำไรสุทธิของกองทุน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอแจ้งว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งให้รับหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มัลติเนชั่นแนลเรสซิเดนซ์ฟันด์ เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2551เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเห็นควรกำหนดให้หน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มัลติเนชั่นแนลเรสซิเดนซ์ฟันด์ 107,500,000 หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 10 บาท รวม 1,075,000,000 บาท เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2551 เป็นต้นไป โดยจัดอยู่ใน
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "MNRF"
สำหรับกองทุนรวม MNRF เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนในโครงการที่ประสบความสำเร็จในการสร้างชุมชนชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยที่มีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งจากแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยในแต่ละปี ส่งผลให้อัตราการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเช่าคุณภาพสูงมีแนวโน้มเติบโตสูงตามไปด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริหารกองทุนดังกล่าวให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
นอกจากนี้ กองทุนรวม MNRF จะได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ จากการปล่อยเช่าบ้านเดี่ยวและห้องชุดพักอาศัยทั้งโครงการเป็นระยะเวลา 7 ปีให้กับบริษัทนิชดา และกองทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าเช่ารายเดือนตามที่ตกลงไว้ โดยคาดว่าบ้านเดี่ยวที่แจ้งวัฒนะสามารถปล่อยเช่าได้ในอัตราค่าเช่าประมาณ 100,000-140,000 บาทต่อเดือน ห้องชุดพักอาศัยที่แจ้งวัฒนะมีอัตราค่าเช่าประมาณ 30,000-50,000 บาทต่อเดือน และบ้านเดี่ยวที่ชลบุรีมีอัตราค่าเช่าประมาณ 60,000-80,000บาทต่อเดือน ซึ่งกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ โดยกองทุนให้บริษัทนิชดาทำสัญญาเช่าโดยมีการวางหลักประกัน 9 เดือนของค่าเช่า และมีบทปรับเป็นเงินค่าเช่าจำนวน 24 เดือนหากผู้เช่าผิดสัญญา ทั้งนี้การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ในที่ดินและอาคาร (Freehold) กองทุนมีโอกาสที่จะได้รับมูลค่าเพิ่มในทรัพย์สิน โดยกองทุนมีสิทธิที่จะขายทรัพย์สินภายในกองทุนได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกับบริษัทนิชดาเมื่อเห็นว่าเป็นประโยชน์กับผู้ลงทุนโดยไม่ถือเป็นการผิดสัญญาเช่ากับบริษัทนิชดา
ทั้งนี้ กองทุน MNRF จะได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ จากการปล่อยเช่าบ้านเดี่ยว และห้องชุดพักอาศัยทั้งโครงการเป็นระยะเวลา 7 ปีให้กับบริษัทนิชดา และเมื่อครบ 7 ปีแล้ว สามารถต่อสัญญาได้อีก 5 ปี ทั้งนี้คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยในช่วง 7 ปีเท่ากับ 7.8% โดยผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับจะเพิ่มขึ้นทุกปีๆ ละ 0.1% โดยในปีที่1 ได้ 7.5% ,ปีที่2 ได้ 7.6% ,ปีที่3 ได้ 7.7% ,ปีที่4 ได้ 7.8% ,ปีที่5 ได้ 7.9% ,ปีที่6 ได้ 8.0% และปีที่7 ได้ 8.1% นอกจากนี้หากมีการต่อสัญญาในปีที่ 8 ผลตอบแทนในปีที่ 8 จะต้องไม่น้อยกว่าปีที่7 ด้วย ซึ่งถือเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายกับผู้ลงทุนที่ดีทีเดียว โดยกองทุน MNRF มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90 ของกำไรสุทธิของกองทุน