xs
xsm
sm
md
lg

สมัครเล่นเลห์เบี้ยวปชป.อ้างเวลาน้อยเปิดอภิปรายทั่วไปไม่ทัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท. วิเชียรโชติ สุขโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงวานนี้ (12 มิ.ย.) ว่า ข่าวที่ว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะพบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เวลา 11.30 น. วันนี้ (12 มิ.ย.) เพื่อหารือเรื่องที่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือขอให้รัฐบาล เปิดอภิปรายทั่วไป 2 สภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 นั้น เนื่องจากผู้นำฝ่ายค้าน ได้ทำหนังสือดังกล่าวมาถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีก็ได้แจ้ง แล้วว่าไม่ต้องมาที่ทำเนียบฯ จะเดินทางไปรับหนังสือที่รัฐสภา ด้วยตัวเอง เวลา 11.30 น. แต่เมื่อคณะของพรรคประชาธิปัตย์มายื่นหนังสือผ่าน รองเลขาธิการนายกฯแล้ว และได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีแล้วก็ถือว่าเรียบร้อย จึงไม่มีการพบกันระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้นำฝ่ายค้านอีก เพราะได้รับหนังสือดังกล่าวแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหมายความว่ารัฐบาลจะดำเนินการตามขอเรียกร้องของ ฝ่ายค้านใช่หรือไม่ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า เป็นอำนาจของรัฐสภาที่จะให้เปิด อภิปรายได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 179 ระบุว่ากรณีที่มีปัญหาสำคัญเกี่ยว กับการบริหารราชการแผ่นดินที่คณะรัฐมนตรีเห็นสมควรจะฟังความคิดเห็นของ ส.ส .และส.ว.นายกรัฐมนตรีจะแจ้งไปยังประธานสภาขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไป ในการประชุมร่วมของรัฐสภาก็ได้ กรณีเช่นว่านี้รัฐสภาจะลงมติในปัญหาที่อภิปรายมิได้ ซึ่งเวลานี้นายกรัฐมนตรีได้รับหนังสือเรียบร้อยแล้ว ก็จะส่งไปให้ทางประธานรัฐสภา เพื่อให้เปิดอภิปรายตามที่ฝ่ายค้านต้องการ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเบื้องต้นได้ขอไปว่าเป็นช่วงเวลาใด โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า แล้วแต่สภา เปิดเวลาให้เมื่อไรก็เมื่อนั้น เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีจะยอมเปิดให้ฝ่ายค้านอภิปรายหรือ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า ได้ ถ้ามีปัญหาอะไรอยากจะซักฟอก สอบถาม ก็ยินดี ส่วนจะซ้ำซ้อนกับการที่สมาชิก ส.ว. ขอเปิดอภิปรายไว้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของประธานสภาผู้แทนฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สัปดาห์หน้าจะสามารถยื่นเรื่องไปยังประธานสภาได้หรือไม่ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า ไม่ทราบ พอได้รับหนังสือ ฝ่ายธุรการก็ต้องนำมาประมวลให้เรียบร้อยก่อนถึงจะส่งหนังสือพร้อมคำขอของนายกรัฐมนตรีไปยังสภา ซึ่งเงื่อนเวลานั้นยังตอบไม่ได้อยู่ที่รัฐสภาจะพิจารณา
ผู้สื่อข่าวย้ำถามว่า ตกลงนายกรัฐมนตรียอมให้เปิดอภิปรายหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯรับเรื่องแล้วและจะพิจารณา ตอนนี้ท่านยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะเพิ่งได้รับหนังสือ ถ้าตัดสินแล้วจะส่งเรื่องให้ประธานสภา แต่ตอนนี้ยังไม่ส่งให้ประธานสภา เพราะยังไม่ได้อ่านเลย แต่โดยข้อเท็จจริงฝ่ายค้าน ต้องการขอให้เปิดก็ควรเปิดตามหลักการ

สมัครเรียกประชุมด่วนรมต.พปช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เวลา16.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช ได้เรียกประชุมรัฐมนตรีของพรรคพลังประชาชน22 คน และคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ในส่วนของพรรคพลังประชาชนที่ห้องรับรองนายกรัฐมนตรีชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายสมัครได้เรียกแกนนำพรรคประชุม โดยไม่มีการ แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งวาระในการประชุมคือ การประเมินสถานการณ์การเมือง รวมไปถึงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอของฝ่ายค้านที่ให้ใช้ รัฐธรรมนูญ มาตรา179 เปิดอภิปรายทั่วไปของ 2 สภาโดยไม่ลงมติเกี่ยวกับปัญหาสำคัญๆ ในการบริหารราชการแผ่นดินที่ ครม.เห็นสมควรจะฟังความคิดเห็นของ ส.ส.และ ส.ว. ซึ่งนายกฯจะแจ้งไปยังประธานรัฐสภา ขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาก็ได้ โดยไม่ลงมติ

อ้างเวลาน้อยอาจไม่ให้เปิดอภิปราย
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ในการหารือไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องมาตรา 179 มากนักแต่ยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมให้พรรคฝ่ายค้านอภิปรายแน่นอนไม่ได้กลัวอะไรอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามส่วนตัวเห็นว่าเรื่องการเปิดอภิปราย 2 สภาอาจจะมีเวลาไม่พอ เพราะการประชุมสมัยวิสามัญครั้งนี้เน้นการพิจารณ าพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 มากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเรียกประชุมในการเปิดอภิปรายทั่วไปได้มีการวิเคราะห์กันว่าจะไม่สามารถเปิดอภิปราย 2 สภาได้เพราะติดข้อจำกัดเรื่องเวลาใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เป็นไปได้ที่อาจจะเปิดอภิปรายไม่ทันด้วยเงื่อนเวลาจำกัด ซึ่งอาจจะทำให้มีเวลาจำกัดในการอภิปรายทั่วไปได้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่าการอ้างเรื่องเวลาเป็นเพราะกลัวการอภิปรายจากฝ่ายค้าน ใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ได้กลัว เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิดและได้รีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว

นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า หลังจากที่ฝ่ายค้าน ได้ยื่นหนังสือขอเปิดประชุมรัฐสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามมาตรา 179 นายกฯได้พูดในที่ประชุมว่า นายกฯเพิ่งได้รับหนังสือของฝ่ายค้านเมื่อ เวลา 10.00 น. วันนี้ โดยในหนังสือระบุว่า ขอให้มีการเปิดให้มีการอภิปรายทั่วไป ในวันที่ 7-9 ก.ค. ซึ่งนายกฯ แจ้งกับรัฐมนตรีของพรรคพลังประชาชนว่า จะขอไปดูในเรื่องเวลาก่อน เนื่องจากไม่แน่ใจว่าในสมัยประชุมวิสามัญนี้ จะมีเวลาพอหรือไม่ เนื่องจาก ทาง ส.ว.ได้ยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลเช่นกัน โดยได้มีการกำหนดเวลาให้แล้วคือในวันที่ 23 มิ.ย.
นอกจากนี้ในวันที่ 24-26 มิ.ย.ก็ได้กำหนดให้มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ดังนั้น ในการหารือวันนี้จึงยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้มีการเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อให้มีการอภิปรายทั่วไปตามที่ฝ่ายค้านขอมาหรือไม่ อย่างไรก็ตามในการหารือครั้งนี้ นายกฯได้กำชับให้รัฐมนตรีทุกกระทรวง ไปเตรียม ข้อมูลในการที่จะชี้แจงในสภา ในการพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ให้พร้อมด้วย

มาร์คแนะรับทบทวนข้อเสนอใหม่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช ไม่มาพบตามที่ได้นัดหมายไว้ว่า ตนไม่แปลกใจว่าใครจะไปเดาใจท่านได้ และอยากให้นายกฯ รีบให้คำตอบเรื่องที่ฝ่ายค้านได้เสนอไปว่า ให้เปิดประชุมอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 179 อย่างไรก็ตามการนัดหมายครั้งนี้ทางเลขานายกรัฐมนตรี ได้ประสานมายังตน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าการที่รัฐบาลยังไม่ตัดสินใจว่ะยอมให้เปิดอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 โดยอ้างว่าติดเงื่อนไขเวลาในการเปิดสมัยประชุมนั้น คิดว่าเวลาเพียงพอไม่มีปัญหา ตนไม่เห็นจะมีเหตุผลอะไรว่าเวลาไม่พอ เมื่อสภาจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 30 และพระราชกฤษฎีกาก็ยังไม่ได้ระบุว่าจะต้องพิจารณาเฉพาะ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 เท่านั้น ดังนั้นการอ้างเงื่อนเวลา จึงเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
เรื่องนี้น่าจะต้องทบทวนดูเมื่อรัฐบาลบอกไม่ขัดข้องในหลักการจากที่ ฝ่ายค้านยื่นเรื่องไป และเมื่อไม่ขัดข้องก็ไม่น่ามีปัญหาเรื่องเวลา ส่วนการที่ประธานสภาฯ บอกว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องเวลา ผมจะไปพบกับประธานสภาฯ เอง

รัฐไม่ทำตามข้อเสนอพร้อมเปิดซักฟอก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่วิปฝ่ายค้านได้ทราบว่า วิปรัฐบาลจะไม่มีการ เปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 179 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้เข้าหารือกับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทันที โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 15 นาที
จากนั้นนายสาทิตย์เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกรณีการเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 179 ซึ่งนายชัยก็ยืนยันว่ายังไม่ได้รับหนังสือจากนายกฯ ดังนั้นวิปฝ่ายค้านได้ฝากนายนิสิต สินธุไพ ส.ส.ร้อยเอ็ด และนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน ให้ไปเรียนนายกฯ ว่า ขอความชัดเจนให้รีบตัดสินใจว่าจะเปิดอภิปรายทั่วไปหรือไม่ อย่ามากั๊กกันอย่างนี้ เพื่อจะได้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระได้ทัน
นายสาทิตย์กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่เปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 179 พรรคฝ่ายค้านก็จะเร่งสรุปข้อมูล เพื่อให้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจให้ทันในวันที่ 16 หรือ 17 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ประธานสภาฯ ได้พิจารณาภายใน 7 วัน แต่ขณะนี้พรรคกำลังดูข้อมูล โดยโอกาสที่จะยื่นมี 50 % โดยวิปฝ่ายค้านจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.)
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะชิงเสนอพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมวิสามัญในช่วงวันที่ 27 มิ.ย.นี้ นายสาทิตย์กล่าวว่า เดิมทีพรรคตั้งใจจะเปิดอภิปรายในช่วงวันที่ 28-29 มิ.ย. หลังการพิจารณางบประมาณ ดังนั้นหากมีการ เสนอปิดเร็วขึ้นการเป็นสิทธิของรัฐบาล แต่ต้องดูเจตนาในการเสนอปิดประชุมสภาด้วย
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ฝ่ายค้านได้ประสานไปยังส.ว.เพื่อขอให้ถอนญัตติที่ส.ว. ได้ยื่นไปแล้วตามมาตรา 161 นั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า ไม่จริง ยืนยันว่าไม่มี เพราะส.ว.ใช้สิทธิตามมาตรา 161 และ มาตรา 179 ได้ ขึ้นอยู่กับวินิจฉัยของส.ว.เอง อย่างไรก็ตามทางพรรคได้เตรียมข้อมูลที่จะใช้อภิปรายทั่วไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่พรรคประชาธิปัตย์มีท่าทีจะยกเลิกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะกลัวการยุบสภา นายสาทิตย์กล่าวว่า การยุบสภาเป็นสิทธิของนายกฯ และต้องมีเหตุมีผลจะยุบสภาเพื่อตัดรำคาญคงไม่ได้ ดังนั้นเมื่อสิทธิการยุบสภา เป็นของนายกฯ คนเป็นนักการเมืองก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าจะยุบเมื่อไหร่ ซึ่งการยุบสภ าต้องมีเหตุผล ถ้าฝ่ายของสภาและฝ่ายบริหารทำงานร่วมกันไม่ได้ ก็คงต้องยุบ และถ้าจะยุบสภาแล้วมีการเลือกตั้งใหม่ก็ไม่มีปัญหาอะไร พรรคประชาธิปัตย์ก็ผ่านเรื่องเหล่านี้มาหมดแล้ว

ส.ว.ติงปชป.เสนอใช้ม.179
ด้าน น.ส.สุมล สุตะวิริยวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 เพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปทำไมถคงเพิ่งมาเสนอ ทำไมเพิ่งมาคิดกันนี้ อย่างไรก็ตาม หากนายกรัฐมนตรี ตอบรับการเปิดอภิปรายร่วม 2 สภาก็สามารถทำได้ แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะการอภิปราย 2 สภา จะมีประเด็นกว้างขวาง ทำให้ส.ว.พูดได้ไม่เต็มที่ และอาจจะถูกก่อกวนจากส.ส. โดย ส.ว. 61 คนที่ยื่นญัตติขออภิปรายทั่วไปจะหารือกันอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเย็นวันเดียวกันกลุ่มส.ว.สรรหา และเลือกตั้งจำนวน 61 คน ที่ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่ลงมติ ได้นัดรับประทานอาหาร ที่โรงแรมปริ้นเซส หลานหลวง เพื่อหารือถึงประเด็นที่จะอภิปราย โดยสมาชิกแต่ละคนได้นำข้อมูลมาแลกเปลี่ยน และกำหนดหัวข้อในการอภิปราย ทั้งนี้ยังมีการหารือ ถึงกรณีที่รัฐบาลยอมให้เปิดอภิปรายทั่วไปในการประชุมร่วมกัน 2 สภา

วุฒิฯถกประเด็นอภิปรายรัฐบาล
นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ เปิดเผยภายหลังหารือกับ 61 ส.ว. ที่ขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลว่า วันนี้เป็นการหารือเพื่อเตรียมข้อมูลในการอภิปรายรัฐบาลในประเด็นต่างๆ ว่าจะอภิปรายกันเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งการยื่นครั้งนี้เพราะส.ว.ต่าง มีสามัญสำนึกในหน้าที่ ที่จะต้องตรวจสอบรัฐบาล หลังจากที่เห็นว่าการบริหารงานของรัฐบาลไม่ปกติ
จริง ๆ แล้วการเปิดอภิปรายควรเดินหน้าต่อไป ไม่เกี่ยวกับว่านายกฯจะให้เปิด 2 สภาหรือไม่ เพราะฝ่ายค้านกับส.ว.อาจจะมีเรื่องที่พูดคนละประเด็นกัน และดิฉันไม่อยากให้มองว่า การอภิปรายของ ส.ว.เป็นการไปรวมหัวกับฝ่ายค้าน แต่อยาก ให้มองว่าเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญที่ส.ว.สามารถทำได้ และเราก็ริเริ่มดำเนินการก่อนฝ่ายค้านด้วย ซึ่งการจะถอนหรือไม่ถอนญัตตินั้น คงต้องดูใน โอกาสต่อไป แต่ส่วนตัวดิฉันเห็นว่าส.ว.ไม่ควรถอนญัตติในการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลครั้งนี้

หนุนรัฐบาลเปิดอภิปรายทั่วไป
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา หนึ่งใน ส.ว.ที่ลงชื่อในญัตติ กล่าวว่า ในการหารือเย็นนี้จะแบ่งประเด็นในการอภิปรายฯ ว่าจะมีใครพูดในประเด็นใดบ้าง ซึ่งขณะนี้เราได้เปิดให้ ส.ว.ทั้ง 61 คน แจ้งความประสงค์เข้ามาว่าใครต้องการอภิปราย ในประเด็นใดบ้าง แล้วมาคุยกันว่าจะให้ใครอภิปรายในหัวข้อใดบ้าง ส่วนที่รัฐบาลจะเปิดอภิปรายทั่วไป 2 สภานั้น ถ้าหากนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามาตรา 179 เราก็มีโอกาสในการอภิปรายตามที่ต้องการ ถือเป็นเรื่องดี ถ้าหากเปิดอภิปรายจริงทาง ส.ว. 61 คนที่ยื่นญัตติก็คงต้องถอนญัตติออกไป เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน เพราะอย่างไร เราก็ได้อภิปรายอยู่แล้ว แต่หากรัฐบาลไม่เปิดอภิปราย 2 สภาในส่วนของส.ว.ก็จะเดินหน้าต่อไป เพราะได้ตกลงกับประธานวุฒิสภาในเบื้องต้นแล้วจะพิจารณาญัตติดังกล่าวในวันที่ 23 มิ.ย. ทั้งนี้ในส่วนของ ส.ว.ได้เตรียมอภิปรายจำนวน 10-15 คน
นายประสาร กล่าวว่า สำหรับการอภิปรายครั้งนี้ตนตั้งใจว่าจะขอภิปราย นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณะสุข เรื่อง ซีแอลยา การโยกย้ายข้าราชการ ไม่เป็นธรรม เนื่องจากปลดบอร์ดองค์กรเภสัช ซึ่งตนเคยเป็นบอร์ดองค์กรเภสัชมาก่อน ส่วนนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ซึ่งเท่าที่คุยกันเบื้องต้นในกลุ่มย่อยน่าจะให้นายคำนูณ อภิปรายในประเด็นของภาพรวมทั้งหมด ว่ามีอะไรบ้าง โดยให้เปิดประเด็นสะท้อนปัญหา นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่เป็นปัญหาปากท้องของประชาชน เช่นปัยหาน้ำมัน ข้าว โยกย้ายข้าราชการไม่เป็นธรรม
ด้านนายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา หนึ่งใน ส.ว.ที่ลงชื่อในญัตติฯ กล่าวว่า หากรัฐบาลขอเปิดอภิปรายทั่วไป 2 สภา คิดว่า 61 ส.ว.คงจะถอนญัตติขอเปิด อภิปรายทั่วไปออก ไม่เช่นนั้นจะเกิดการซ้ำซ้อน
นายวิเชียร คันฉ่อง ส.ว.ตรัง หนึ่งในส.ว.ที่ลงชื่อในญัตติ กล่าวว่า คิดว่า เป็นเรื่องที่ดีมากกว่าผลเสีย อย่างน้อยเพื่อแก้ปัญหาในสภา ไม่ให้สร้างปัญหานอกสภา รัฐบาลจะได้ชี้แจงข้อเท็จจริง สมาชิกก็จะได้เสนอแนะข้อคิดเห็น เมื่อถามว่าแสดงว่าญัตติของ 61ส.ว.จะต้องถอนมารวมในญัตติดังกล่าวหรือไม่ นายวิเชียรกล่าวว่า เรื่องนี้ ส.ว.ก็คงหารือกัน แต่ถ้าร่วม 2 สภาน่าจะรวมกันได้ แต่ทั้งนี้ต้องให้เวลาในการ อภิปรายมากว่า 1 วันเพราะมีจำนวนสมาชิกจำนวนมากที่ขออภิปราย

สุเทพยันมีข้อมูลพร้อมอภิปรายรัฐบาล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปราย การทำงานของรัฐบาลว่า นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับการปรับปรุงองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยการ จำหน่ายรถโดยสารเดิม 3,535 คัน เพื่อนำมาเป็นเงินหมุนเวียน และเช่ารถโดยสาร ปรับอากาศใช้ก๊าซเอ็นจีวี 6,000 คัน ได้นำข้อมูลให้กรรมการบริหารพรรค ได้ตรวจสอบแล้ว และพรรคจะตัดสินใจโดยเร็วว่าจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่
อย่างไรก็ตามจะต้องรอดูท่าทีของนายกรัฐมนตรีว่าจะเปิดให้มีการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามที่คณะกรรมการประสานงาน (วิป)ฝ่ายค้าน ยื่นเรื่องขอให้ เปิดหรือไม่ ซึ่งข้อมูลที่ฝ่ายค้านมีอยู่สามารถอภิปรายได้ทั้งสองเวที เพราะจุดประสงค์ของฝ่ายค้านเพียงเพื่อต้องการบอกรัฐบาลว่ามีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้น จากการบริหารงานของรัฐบาลอย่าง ดังนั้นถือเป็นเรื่องดีหากรัฐบาลยอมให้ใช้เวที ของสภาเป็นที่พูดจากัน อย่างน้อยได้สะท้อนให้เห็นว่าผู้คนในบ้านเมืองคิดอย่างไร และรัฐบาลควรไปปรับปรุงแค่ไหน อย่างไร
ที่จริงการอภิปรายโดยไม่ลงมติไม่ค่อยแตกต่างอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ผลก็คือโหวตไปก็สู้ไม่ได้ ดังนั้นโหวตหรือไม่โหวตก็ค่าเท่ากัน เรามี 164 เสียง ยกสองมือยังไงก็แพ้ดังนั้นอาจจะนำข้อมูลไม่โปร่งใสที่มีอยู่ มาอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ หากรัฐบาลเปิดให้อภิปรายอยู่แล้ว เราอาจจะใช้ช่องนั้นก็ได้ กรรมการบริหารพรรคต้องหารือกัน

เชื่อที่สุดเติ้งมีความกดดันจากปชช.
ส่วนที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย มีท่าทีไม่ถอนตังจากการร่วมรัฐบาลนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ เพราะในอดีตเคยวิจารณ์ ไว้มากแล้ว และตอนนี้ถือเป็นภาระหน้าที่ของนายบรรหารที่ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ซึ่งต้องดูว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าท่าทีอึดอัดที่แสดงออกมาเป็นเพียงการต่อรอง ทางการเมืองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า สื่อพูดเองนะ ตนไม่ได้พูด แต่นายบรรหาร ก็ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ทั้งนี้ยังไม่คิดถึงว่าจะเป็นการต่อรองเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาล เพราะเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้รับความกดดัน คือประชาชนสะท้อนความรู้สึกไปยังรัฐบาลค่อนข้างมาก

ชี้เป็ดเหลิมคนไร้ราคา
ส่วนกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ออกมาท้าให้ฝ่ายค้าน รีบอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะแม้อภิปรายไปก็ไม่มีการปรับ ครม.แน่นอนนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่มีราคา และยังชี้แจงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ได้หลายเรื่อง
จบด็อกเตอร์มายังไงก็ยังไม่รู้ เรื่องคุณหญิงผู้สูงศักดิ์ที่ออกมาพูดก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่ชัดเจน เลอะเทอะไปเรื่อยคุณเฉลิม
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า หากมีการอภิปรายรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นเวทีไหน เป็นเพราะอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ทำให้ประชาชนมีความสุขขึ้น แม้แต่การจะปรับค.ร.ม.ให้ถูกใจประชาชน เพราะต้องบอกตรง ๆ ว่าหากนำกระดาษมา ให้เขียนชื่อ ครม.ชุดนี้ลงกระดาษ คงเขียนได้ไม่กี่คน เนื่องจากจำไม่ได้ว่ามีใครมาก และไม่รู้ว่าใครทำอะไรอยู่ที่ไหน

เฉลิมเหน็บไม่มีราคาหรือไม่มีข้อมูล
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เตรียมเข้าพบนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเรื่องการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 179 ว่า ตนไม่ทราบว่าผู้นำฝ่ายค้านพบนายกรัฐมนตรีเรื่องใด แต่ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในระบอบประชาธิปไตย เพราะแม้จะอยู่ฝ่ายค้านแต่ก็ปรึกษารัฐบาลได้ ไม่มีอะไรน่าเสียหาย ต้องชื่นชมนายอภิสิทธิ์ ที่ยังอยู่ในหลักและกรอบกติกา ตรงนี้จะทำให้ใครก็ตาม ที่ไม่ยึดหลักรัฐสภาและปากก็บอกว่าเป็นนักประชาธิปไตยก็จะอับอาย
ส่วนการพบกันครั้งนี้ฝ่ายค้านจะขอให้นายกรัฐมนตรีเปิดอภิปรายทั่วไปร่วม 2 สภาโดยจะไม่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้นายกฯ เป็นผู้ตอบ ตนพูดเองไม่เหมาะ อย่างไรก็ตามทำอะไรที่อยู่ในสภาถือเป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น
รัฐบาลกับฝ่ายค้านเล่นเกมการเมืองเป็นเรื่องปกติ จะเห็นเหมือนกันไม่ได้ เพราะฝ่ายค้านต้องดำเนินการตรวจสอบ และเรื่องรัฐสภาไม่ใช่วิกฤติ ที่มีวิกฤติคือ การจราจรติดขัดก็ไอ้พวกนั้นแหละ แถวๆราชดำเนิน นั่นแหละวิกฤติเราไม่ยุ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรในกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าจะมีการ อภิปรายรัฐมนตรี เป็นรายบุคคลแต่จะไม่อภิปราย รมว.มหาดไทย เพราะไม่มีราคา พอ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านก็ต้องพูดเช่นนั้น ไม่มีราคาหรือไม่มีข้อมูลก็ต้องดู ให้ดี แต่ที่ฝ่ายค้านพูดอย่างนี้ตนก็ต้องขอบคุณ เพราะตนไม่เคยมีราคาอยู่แล้ว และก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนมีราคา เพราะต้นทุนตนต่ำ แต่กรณีที่จะไม่ยื่นญัตติอภิปราย เพราะกลัวตนเอาผลงานมาแถลงในสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความกังวลหรือไม่ ที่รัฐมนตรีจะถูกอภิปราย โดยเฉพาะนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พานิชย์ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มีหรอก พุทโธ่ มิ่งขวัญเก่งที่สุดในเวลาพรีเซ็นท์ รัฐบาลชุดนี้ไม่มีปัญหาหรอก
ส่วนที่สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์(สรส.)ขู่ตัดน้ำตัดไฟหน่วยงาน ราชการนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เชื่อว่าเขาพูดไปอย่างนั้น แต่จริงๆ แล้วคงไม่ทำ เพราะส่งผลกระทบต่อส่วนรวม ส่วนกรณีที่กระทรวงมหาดไทยเป็นหนี้การไฟฟ้าอยู่จำนวน 700 กว่าล้านบาทนั้น ตนเพิ่งทราบ เพราะเพิ่งมาทำงานเพียง 4 เดือนเท่านั้น จะเป็นหนี้ค่าไฟจำนวนจำนวนมากขนาดนั้นได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม ได้หันไปสอบถามผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ว่า เอเอสทีวีเป็นหนี้ค่าไฟบ้างหรือเปล่า
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชวโรกาสแก่คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ต้องรับใส่เกล้าใส่กระหม่อมและนำไปปฎิบัติ
กำลังโหลดความคิดเห็น