xs
xsm
sm
md
lg

ทักษิณผู้น่าสงสาร

เผยแพร่:   โดย: สิริอัญญา

ในบรรดาคนไทยทั้งปวงในวันนี้ ไม่มีใครตกอยู่ในฐานะที่น่าสงสารมากที่สุดเท่ากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นี่ไม่ได้พูดเล่น แต่เป็นการพูดจริง ๆ ด้วยน้ำใสใจจริง และจากใจของคนที่ให้คำปรึกษาการงานบางด้านให้กับคุณทักษิณมาร่วม 10 ปี

ทำไมถึงน่าสงสาร? ก็ต้องดูปูมหลังความเป็นมาและสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็จะเห็นได้ชัด

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นคนที่มีความรู้สูง เฉพาะการศึกษาก็จบชั้นด็อกเตอร์มาจากต่างประเทศ มีความเฉลียวฉลาดแหลมคมยากจะหาใครเสมอเหมือน เป็นคนที่มีชีวิตชีวาเร่าร้อนอยู่เสมอ มีฐานะร่ำรวยเป็นอัครมหาเศรษฐีของประเทศ

ที่สำคัญที่สุดของความเป็นคนคือเป็นผู้ที่มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น คุณทักษิณเป็นคนมีเมียสวย จิตใจกว้างขวาง เฉลียวฉลาด ลุ่มลึก และทรงอำนาจมากกว่าคนผู้เป็นผัวเสียอีก มีลูก 3 คน ทุก ๆ วันทั้งสองผัวเมียจะนั่งรถไปด้วยกัน ไปส่งลูกเข้าโรงเรียนในตอนเช้า และรับลูกกลับจากโรงเรียนในตอนเย็น และบ่อยครั้งก็พากันไปหาอาหารดี ๆ กินกัน

ชีวิตครอบครัวคนเราจะมีใครที่มีชีวิตอบอุ่นแจ่มใสร่าเริงและประสบความสำเร็จเช่นนี้บ้างเล่า?

ชีวิตของคุณทักษิณ ชินวัตร จึงเป็นชีวิตที่มีความสุขสมบูรณ์พูนสุขมั่งคั่งครบถ้วนทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะนอกจากจักรพรรดิสมบัติและอริยสมบัติแล้ว คุณทักษิณ ชินวัตร มีสมบัติทั้งปวงพร้อมหมด

แล้วคุณทักษิณ ชินวัตร ก็มาเล่นการเมือง ตอนที่ทำการเมืองแต่น้อย ๆ ก็ยังรักษาความน่ารัก น่าคบหาเอาไว้ได้ แต่ในที่สุดคุณทักษิณ ชินวัตร ก็มาตั้งพรรคการเมืองเองคือพรรคไทยรักไทย

รวบรวมเอาบรรดาคนดีมีฝีมือจากทั่วประเทศเข้ามาทำงานการเมืองด้วยกัน ด้วยการให้คำมั่นสัญญาว่าร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีแล้วจะต้องแทนคุณแผ่นดิน จะไม่คดไม่โกง จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานรับใช้ชาติบ้านเมือง และประชาชน

ใครได้ฟังก็ชื่นใจและเข้าร่วมกันเป็นทิวแถว จึงทำให้พรรคไทยรักไทยกลายเป็นพรรคใหญ่อย่างรวดเร็ว

ในตอนแรก ๆ คุณทักษิณ ชินวัตร ก็ยังคงความน่ารักและรักษาคุณภาพเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง พูดคำหนึ่งก็เอ่ยถึงเมียเสียคำหนึ่ง จนคนที่เขาหวังดีในทางการเมืองต้องไปตักเตือนว่าคนเรารักเมียรักครอบครัวนั้นเป็นสิ่งที่เลิศประเสริฐแล้ว แต่ในทางการเมืองจะพูดคำเอ่ยชื่อเมียคำยิ่งกว่าการสวดมนต์ของพระก็ออกจะเกินไป

คุณทักษิณ ชินวัตร ก็เชื่อฟัง และในตอนแรก ๆ ก็วางกติกาห้ามไม่ให้เอาคนชั่วช้าเลวทรามเข้ามามีอำนาจในรัฐบาล

พวกหมอผี พวกกุมารทอง พวกรักยม พวกไอ้ห้อยไอ้โหน จึงไม่ได้มีบทบาทในทางการเมืองในช่วงยุคสมัยพรรคไทยรักไทยยุคแรกๆ

นั่นเรียกว่าคุณทักษิณ ชินวัตร ได้ปฏิบัติตามมงคล 38 ข้อแรกสุดที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอน เพียงเท่านี้ก็ทำให้รัฐบาลคุณทักษิณ ชินวัตร ในตอนต้นเป็นที่ชื่นชมยินดีปรีดาของมหาชน

แต่ไม่นานช้าประการใด ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด หลายเรื่องหลายราวมีลักษณะละเมิดคำตรัสสอนของพระพุทธองค์ในเรื่องมงคลอันประเสริฐของชีวิตรวม 4 ข้อ คือคบคนพาล ทอดทิ้งบัณฑิต ไม่บูชาคนที่ควรบูชา และไม่อยู่ในถิ่นอันสมควรแก่ตน

พวกคนพาล คนเลว คนชั่ว หลั่งไหลเข้ามาในรัฐบาลอย่างกับกระแสน้ำหลากในฤดูฝน แล้วเกิดเหตุประทุษร้ายทั้งต่อทรัพย์สินและชีวิตของผู้คนของบ้านเมืองนับไม่ถ้วน เหล่าบัณฑิตทั้งหลายพากันเผ่นหนีกระเจิง เพราะเมื่อของสกปรกเข้าไป ของดีก็ต้องหนีจากไปเป็นธรรมดา

คนอันควรยกย่องบูชาถูกตำหนิติเตียนทั้งต่อหน้าและลับหลัง กระทั่งฮึกเหิมลำพองเข้าไปนั่งไปยืนไปอยู่ในที่อันไม่สมควรแก่ตน

เพราะเหตุนั้น รัฐบาลพรรคไทยรักไทยจึงถูกต่อต้านคัดค้านจากมหาชนและในที่สุดก็พังครืนลงมา

มาถึงวันนี้คุณทักษิณ ชินวัตร ทำท่าว่ากำลังเรืองศักดานุภาพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว แต่คราวนี้ไม่เหมือนก่อนแน่

เพราะเมื่อก่อนนั้นคุณทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยตัวเอง แค่ทะเลาะเบาะแว้งกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เพียงคนเดียวก็เหลือกำลังลาก และรับผลในบั้นปลายคือหมดอำนาจและต้องเร่ร่อนจรจัดไปอยู่ในต่างประเทศ

ทั้งนี้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล จะไปทำอะไรคุณทักษิณ ชินวัตร มากไปกว่านี้ได้เล่า? มีแต่ปากก็พูดไป

แต่บัดนี้คุณทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยในคดีอาญาแผ่นดิน ถูกยึดอายัดทรัพย์และยังอยู่ในข่ายถูกกล่าวหาอีกหลายคดี และมีศัตรูมากกว่าแต่ก่อนหลายเท่านัก

พวกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นแม้จะรังเกียจเดียดฉันท์ขัดแย้งกันเพียงใดก็คงไม่เอากันถึงตาย อย่างมากก็แค่ขัดขวางมิให้ทำกรรมกับบ้านเมืองไปมากกว่านี้

พวกถัดมาคือพวก คมช. ซึ่งเขาก็รู้อยู่จากเสียงเล่าลือและข่าวคราวมากหลายเรื่องการเช็กบิล การล้างแค้น การอาฆาตจองเวรที่จะเอากันทั้งโคตร

เมื่อจะสร้างกรรมจองเวรกันทั้งโคตรแล้วใครเขาจะยอม ความเป็นศัตรูคู่พยาบาทก็เกิดขึ้นและคงจะเอากันถึงตายแน่

ถัดมาอีกก็เป็นเรื่องระบอบการปกครองและเกี่ยวข้องกับผู้คนซึ่งจงรักภักดีในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเขาอยู่ของเขาดี ๆ ก็มีข่าวคราวและพฤติกรรมส่อให้เห็นว่ามีคนจ้องจะรื้อห้างและขื่อแปของบ้านเมืองออกให้หมด

แล้วใครเขาจะยอมยกแผ่นดินให้กันง่าย ๆ ? แล้วไม่รู้ประวัติศาสตร์เลยหรือว่าเรื่องแย่งชิงแผ่นดินกันนั้นเป็นเรื่องที่ประนีประนอมกันไม่ได้ ต้องพินาศฉิบหายอย่างเดียวเท่านั้น

ถัดมาอีกก็เป็นพวกเจ้าพ่อทั้งหลายที่เคยรับกรรมรับเวรเมื่อยามรัฐบาลคุณทักษิณ ชินวัตร มีอำนาจ คนเหล่านั้นล้วนมีฤทธิ์เดชอยู่กับตัว มีบริวารพวกพ้องเป็นจำนวนมาก ศัตรูกลุ่มนี้จึงมากมายมหาศาล

ถัดมาอีกก็เป็นพวกที่ญาติพี่น้องถูกอุ้มฆ่าล่าสังหารในสงครามปราบปรามยาเสพติดที่ยังคิดผูกเวรผูกกรรมอยู่ รวมทั้งบรรดาผู้ที่สูญเสียญาติโกโหติกาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จ้องจองล้างจองผลาญกันอยู่

นอกจากนั้น ก็ยังมีศัตรูกระจอกงอกง่อยคือพวกชาวบ้านชาวช่องที่ไม่ชอบขี้หน้าหรือพฤติกรรมทั้งหลายของบรรดาสมุนบริวารของคุณทักษิณ ชินวัตร แล้วคิดลงบัญชีให้กับคุณทักษิณ ชินวัตร ทั้งหมด

ลองดูเอาเถิดว่าคนที่มีศัตรูอย่างนี้ ชีวิตจะเป็นสุขสงบได้อย่างไร? ดังนั้นในวันนี้ไม่ว่าคุณทักษิณ ชินวัตร จะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไร จึงยากจะหาความสุขสงบกายใจได้ ต้องหวาดผวาสะดุ้งอยู่ทุกวันเวลา

คนเรามีเจ้ากรรมนายเวรแค่หมูหมากาไก่ก็ต้องชดใช้เวรกรรมกันไม่รู้เท่าใดต่อเท่าใด บางคนเชือดไก่ไหว้เจ้าแค่ 2 ตัว เจ้ากรรมนายเวรไก่นั้นก็มาทวงเวรกรรมจนต้องผ่าตัดคอและลูกกระเดือก 6-7 ครั้งแล้วก็ยังไม่หมด

โบราณว่าคนเรามีมิตร 100 คนยังจัดว่าน้อยไป มีศัตรู 1 คนก็จัดว่ามากไป ใครมีศัตรูมากมายอย่างนี้และรุนแรงอย่างนี้จึงเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด

ที่น่าสงสารมากที่สุดก็เพราะคนที่มีสภาพแบบนี้เป็นคนที่มีความทุกข์มากที่สุด
ทุกข์สถานหนึ่งคือการมีศัตรูมาก มีเจ้ากรรมนายเวรที่คอยทวงถามหนี้เวรกรรมอยู่ทั่วทุกหัวระแหง และไม่รู้ว่าวันไหนเจ้ากรรมนายเวรนั้นจะทวงถามเอาชีวิตไปชดใช้หนี้เวร


ทุกข์สถานหนึ่งคือชีวิตครอบครัวที่สุดแสนจะอบอุ่นแต่ไหนแต่ไรมา บัดนี้มีสภาพเหมือนคนบ้านแตกสาแหรกขาด ต้องโดดเดี่ยวเดียวดายและร่อนเร่พเนจรเหมือนกับวณิพกอนาถา มิหนำซ้ำยังมีคนปากเสียคอยยุให้รำตำให้รั่ว ทำให้ผัวเมียเขาตีกันไม่หยุดไม่หย่อน ทำให้ลูกเต้าเขามีความทุกข์ แล้วจะพ้นความทุกข์ฟื้นคืนความอบอุ่นดังแต่ก่อนนี้ได้ฉันใดเล่า?

ทุกข์สถานหนึ่งคือร่างกายสังขารนี้มีความเสื่อมไป ๆ เป็นธรรมดา ไม่มีจีรังยั่งยืนอยู่ได้ ต้องแก่เฒ่าเหลาเหย่และในที่สุดโรคภัยก็ต้องเบียดเบียนตามมากตามน้อยชีวิตคุณทักษิณ ชินวัตร อยู่ในวัฏฏะนี้ จึงมีความตายอยู่เบื้องหน้าแล้ว

ทุกข์สถานหนึ่งเป็นทุกข์ประจำของทุกชีวิตที่เกิดมาแล้วคือความหวาดระแวงภัย โดยเฉพาะคือความระแวงภัยกับผู้ที่แวดล้อมดูแลรักษาความปลอดภัย ดังตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นแล้วกับนางอินทิรา คานธี ของอินเดีย

ส่วนคนที่ไปหาหรือแวดล้อมซึ่งดูเหมือนมีอยู่เป็นจำนวนมากนั้นเล่าก็พึ่งพาอาศัยอันใดมิได้ เพราะทั้งสิ้นทั้งปวงมีอยู่แต่คน 3 พวกเท่านั้น คือพวกไปขอตำแหน่งพวกหนึ่ง พวกไปขอเงินพวกหนึ่ง และพวกไปติดสอยห้อยโหนเพื่อจะได้มีชื่อมีเสียงเป็นข่าวคราวให้เกิดช่องทางทำมาหากินอีกพวกหนึ่ง

คนสามจำพวกนี้มีมากน้อยเท่าใดก็เหมือนไม่มี เพราะยึดถือเป็นที่พึ่งเป็นสรณะใด ๆ ไม่ได้เลย

แต่คนสามจำพวกนี้ก็ยังไม่หนักหนาเท่ากับคนที่ผู้คนทั้งแผ่นดินเคียดแค้นชิงชัง แต่ไม่รู้จักตัวเองแล้วเที่ยวออกหน้าอาละวาดฟาดฟันผู้คนเพื่อแสดงตนว่ารักคุณทักษิณ จะยิ่งเพิ่มความเดือดร้อนเสียหายให้คุณทักษิณจนสุดจะหยั่งคาด เพราะความเคียดแค้นชิงชังทั้งปวงก็จะโถมทับเข้าใส่คุณทักษิณซ้ำเข้าไปอีก

ยิ่งกลุ่มอันธพาลในเครือข่ายของรัฐบาลเคลื่อนตัวออกมาอาละวาด ถึงขนาดเขียนป้ายเรียกร้องให้ “ฆ่า” ประธานองคมนตรีด้วยแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความซวยให้คุณทักษิณจนสุดประมาณ

เวรกรรมแท้ ๆ เวรกรรมจริง ๆ

คนที่รักจริง เคารพจริง และไม่ทอดทิ้งกันก็คงมีแต่ลูกกับเมียและญาติพี่น้องเพียงไม่กี่คนเท่านั้น


เขียนมาอย่างนี้ก็เพราะเห็นว่าถึงอย่างไรคุณทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นเพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกัน ในยามนี้คงจะไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งได้ดีกว่าพระธรรม นั่นคือเมื่อใดที่คุณทักษิณเกิดความรู้แจ้งแก่ใจว่าพอเถิด หยุดเถิด เหมือนกับความรู้สึกขององคุลิมาลหลังจากได้ฟังคำตรัสของพระบรมศาสดาแล้วเมื่อนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีขึ้นและเวรทั้งหลายย่อมระงับไปด้วยพระธรรมอันฉ่ำเย็นดังนี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น