"เด็กเติ้ง"ร่อนจดหมายเปิดผนึกถึง“สมัคร"จี้ปรับ“เจ๊เพ็ญ”พ้น ครม.เพื่อแสดงความจงรักภักดี อ้างประชาชนเรียกร้องไม่สบายใจ “ณัฐวุฒิ” เผย “จักรภพ” ปากกล้าขาสั่นไม่หวั่น “อภิสิทธิ์” แถลงข่าวตอบโต้ แต่ขอหารือ นปก.วันนี้ก่อนตัดสินใจจะรับดีเบต “ศิริโชค” หรือไม่ด้าน ‘สุริยะใส’ ร้องหาจุดยืนพรรคชาติไทยอย่าถนัดแต่สร้างภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย ได้ทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีพร้อมทั้งไม่เห็นด้วยกับการใช้เงิน 2,000 ล้านไปทำประชามติ
จดหมายเปิดผนึกระบุว่าแม้ว่าตนจะเป็นส.ส. และตระหนักว่า การแสดงออกบางครั้งบางเรื่องต้องระมัดระวังมิให้เกิดความระแวง และขัดแย้งกันตลอดมา แต่ตนก็ไม่อาจละเลยต่อภารกิจที่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน ซึ่งความเสถียรภาพ ของชาติย่อมอยู่เหนือกว่าเสถียรภาพของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเทิดทูนสถาบันซึ่งถือเป็นสถาบันที่สูงสุดที่อยู่กับประเทศเรามาตลอดคือสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยทั้งชาติ
"ดังนั้น การกระทำของรัฐมนตรีที่อยู่ร่วมในรัฐบาลโดยการนำของนายกรัฐมนตรีแม้ว่าจะยังไม่ได้ข้อยุติในกระบวนการยุติธรรมก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามพฤติกรรมเยี่ยงนี้ ก็กระทบต่อความรู้สึกของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง สมควรที่จะเร่งแสดงออกให้สังคมได้เห็นว่านายกรัฐมนตรี มีความจงรักภักดีอย่างยิ่งยวด และปฏิบัติตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ โดยการให้นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถอยออมาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ด้วยการลาออก เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น หรือปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีการพยายามปกป้องผู้กระทำดังกล่าวซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน แม้ว่าภายหลังจะมีคำพิพากษาว่ามิได้กระทำผิด ก็จะมีแต่ได้รับการยกย่องและมีความสง่างามเพิ่มขึ้น"
ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ได้เปิดเผยว่าสำหรับจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวได้ยื่นไปให้นายกฯแล้ว เรื่องนี้ขอยืนยันว่าได้ทำโดยส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคชาติไทย และยื่นจดหมายเปิดผนึกเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่จำนวนมากที่ไม่สบายใจกับเรื่องเหล่านี้
เชื่อ ‘เติ้ง’ เปิดไฟเขียว
รายงานข่าวจากพรรคชาติไทยแจ้งว่า เหตุผลที่นายณัฐวุฒิออกมาเคลื่อนไหวยื่นหนังสือเปิดผนึกกดดันให้นายจักรภพลาออก และการแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยให้มีการทำประชามติ คู่ขนานกับการเร่งร้อนแก้รัฐธรรมนูญนั้น เป็นเพราะได้รับสัญญาณไฟเขียวจากนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ลอยตัวจากเงื่อนไขของห้วงเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะขั้นตอนต่างๆ ของพรรคชาติไทย ขึ้นอยู่กับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
'อีกทั้งเป็นการแสดงการตอบโต้จากกรณีที่พรรคชาติไทยไม่ได้รับความสำคัญ และมีบทบาทจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ใน 2 กรณีคือ การประสานการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และกรณีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีปัญหาในพรรคกับนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย ซึ่งรายงานข่าวระบุด้วยว่าเงื่อนไขดังกล่าวนี้มีผลต่อการต่อรองขอเสียงสนับสนุน 315 เสียง ในส่วนของพรรคชาติไทย ตามขั้นตอนขอเสียงการแก้รัฐธรรมนูญในการรับวาระหลักการแรก ตามมาตรา 291' แหล่งข่าวระบุ
พันธมิตรฯร้องหาจุดยืนชท.
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้พรรคชาติไทยแสดงจุดยืน ต่อกรณีนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ขอให้ทำด้วยความจริงใจ ไม่ใช่การสร้างภาพ หรือตีกันทางการเมือง และพรรคชาติไทยควรจะออกมาระบุว่าหากนายจักรภพไม่แสดงความรับผิดชอบ พรรคชาติไทยจะทำอย่างไร จะยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เช่นเดียวกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่มักแสดงตัวเป็นผู้ใหญ่ทางการเมือง แต่ไม่บอกว่าถ้าไม่ทำตามแล้วจะทำอย่างไร
ยันเป็นสิทธิ์ส่วนตัวของส.ส.
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณี นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ปรับนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีพ้น ครม.เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ในการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่า ก็เป็นสิทธิ์ที่ ส.ส.จะทำได้ เพราะทราบไม่เกี่ยวกับทางพรรคชาติไทย เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว แต่ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะทำอะไรก็ควรถามในพรรคก่อนแล้วทางพรรคก็ประสาน เพราะการทำอะไร เดี่ยวๆอย่างนี้ ไม่รู้พรรค จะคิดอย่างไร ซึ่งตอนนี้ตนเองก็ไม่เข้าใจ ในพรรคชาติไทยที่ลูกพรรคพูดไปทาง หัวหน้าพรรคพูดไปอีกทางเช่นกัน
เทพไท ลุ้น จักรภพลาออก
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวนายทหารชั้นผู้ใหญ่ มีความคิดเห็นต่อกรณีการจาบจ้วงสถาบันของนายจักรภพ เพ็ญแข ว่ารู้สึกไม่ดีและไม่อยากร่วมสังฆกรรมกับนายจักรภพว่า ชัดเจนแล้วว่าทหารที่เป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ย่อมมีความรู้สึกรับไม่ได้กับบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ซึ่งก็แน่นอนว่าประชาชนคนทั่วไปก็คงรับไม่ได้ ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้นายจักรภพคงทนกระแสสังคมไม่ได้ และลาออกในที่สุด เพราะแม้แต่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ปล่อยวาง ไม่สนใจ ตนจึงไม่อยากให้นายจักรภพซื้อเวลา เพราะอย่างไรก็ตาม กระแสสังคมคงไม่ลดไปกว่า
เพ็ญหารือนปก.ก่อนดีเบตปชป.
วานนี้ (27 พ.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วงระหว่างลากิจ ซึ่งนายจักรภพไม่หวั่นไหวต่อการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงข่าวตอบโต้ ส่วนการจะรับดีเบตกับนายศิริโชค โสภา เพื่อตอบโต้การถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือไม่นั้น จะมีการหารือกันในวันนี้ (29พ.ค.) ก่อนจะมีการตัดสินใจอีกครั้ง ขณะเดียวกันเชื่อว่านายจักรภพ จะกลับมาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันจันทร์ที่ 2 มิถุนายนนี้ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้จะมีเสียงวิจารณ์ออกมาขณะนี้ก็ตาม ซึ่งนายจักรภพอาจจะยกเลิกการลากิจหรือเพิ่มวันลากิจหากการสอบสวนยังไม่เสร็จ
นายณัฐวุฒิอ้างว่า ไม่อยากเอาประเด็นนี้มาตอบโต้กันไปมา แต่ไม่ปฏิเสธว่าคนในพรรคประชาธิปัตย์มีความสามารถในการแปลภาษาอังกฤษมาก และนายจักรภพก็มั่นใจในคำแปลของเขา แต่กลับต่างกันตรงที่พรรคประชาธิปัตย์ ประเมินว่าเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกินสถาบันเบื้องสูง
ส่วนกระแสข่าวลือที่ว่า นายจักรภพได้เข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีการขอให้นายจักรภพรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยการลาออก นายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงแต่ให้คำปรึกษาในฐานะผู้ใหญ่ และข่าวลือที่เกิดขึ้นเชื่อว่าผู้ปล่อยข่าวต้องการโยงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเกี่ยวข้องกับการเมืองเพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณเคยบอกว่า หากนายจักรภพไม่สามารถชี้แจงเรื่องดังกล่าวต้องพิจารณาตัวเอง ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้พูดอะไรเรื่อง
ป.ป.ช.ประชุมถอดถอน 5 มิ.ย.
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ได้รับสำนวนการยื่นถอดถอนนายจักรภพออกจากตำแหน่งแล้ว โดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ส่งเอกสารมาให้เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากนี้ จะนำเรื่องดังกล่าวบรรจุระเบียบวาระการประชุม ป.ป.ช. ในวันที่ 5 มิถุนายน เพื่อเสนอให้ที่ประชุมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ไม่รู้สึกหนักใจอะไร แม้จะเป็นคดีของนักการเมืองดังก็ตาม
จตุพร เอาสีข้างถูช่วยเพ็ญ
ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พปช. ในฐานะอดีตแกนนำ นปก. กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. แถลงตอบโต้นายจักรภพโดยยืนยันว่ามีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ว่า หาก ปชป.และนายอภิสิทธิ์เห็นว่านายจักรภพทำผิดกฎหมายก็ควรแจ้งความดำเนินคดี ส่วนที่ระบุว่านายจักรภพมีทัศนคติที่เป็นอันตรายนั้น ถือว่านายอภิสิทธิ์กล่าวหาโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม
'การที่ ปชป.เรียกร้องความรับผิดชอบนั้น เห็นว่าที่ผ่านมา ปชป.ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบอะไรต่อสังคมเลย ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ดิน ส.ป.ก.4-01 หรือการขอนายกฯตามมาตรา 7 ที่ถือว่ามีทัศนคติที่อันตรายมากกว่า ฉะนั้นอย่ามาเรียกร้องมาตรฐานทางการเมืองเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ถ้าตัวเองไม่มีมาตรฐานเช่นนี้' นายจตุพร กล่าว
นายจตุพรกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการตกลงกันว่านายจักรภพจะไม่มีการพูดอะไรในระยะเวลา 7 วันที่ขอลาพักเป็นช่วงของการตั้งหลัก เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแสนสาหัสในชีวิต ข้อกล่าวหาเช่นนี้คนไทยถ้าใครโดนไม่มีความสุขหรอก แต่นายจักรภพก็มีฝ่ายกฎหมายที่จะคอยมอนิเตอร์ติดตามข่าวตลอดเพื่อที่จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่หมิ่นประมาท เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของตัวเอง แต่หากครบกำหนด 7 วัน จะเข้าทำงานตามปกติและจะมีการแถลงอนาคตทางการเมืองอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย ได้ทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีพร้อมทั้งไม่เห็นด้วยกับการใช้เงิน 2,000 ล้านไปทำประชามติ
จดหมายเปิดผนึกระบุว่าแม้ว่าตนจะเป็นส.ส. และตระหนักว่า การแสดงออกบางครั้งบางเรื่องต้องระมัดระวังมิให้เกิดความระแวง และขัดแย้งกันตลอดมา แต่ตนก็ไม่อาจละเลยต่อภารกิจที่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน ซึ่งความเสถียรภาพ ของชาติย่อมอยู่เหนือกว่าเสถียรภาพของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเทิดทูนสถาบันซึ่งถือเป็นสถาบันที่สูงสุดที่อยู่กับประเทศเรามาตลอดคือสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยทั้งชาติ
"ดังนั้น การกระทำของรัฐมนตรีที่อยู่ร่วมในรัฐบาลโดยการนำของนายกรัฐมนตรีแม้ว่าจะยังไม่ได้ข้อยุติในกระบวนการยุติธรรมก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามพฤติกรรมเยี่ยงนี้ ก็กระทบต่อความรู้สึกของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง สมควรที่จะเร่งแสดงออกให้สังคมได้เห็นว่านายกรัฐมนตรี มีความจงรักภักดีอย่างยิ่งยวด และปฏิบัติตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ โดยการให้นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถอยออมาเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ด้วยการลาออก เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น หรือปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีการพยายามปกป้องผู้กระทำดังกล่าวซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน แม้ว่าภายหลังจะมีคำพิพากษาว่ามิได้กระทำผิด ก็จะมีแต่ได้รับการยกย่องและมีความสง่างามเพิ่มขึ้น"
ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ได้เปิดเผยว่าสำหรับจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวได้ยื่นไปให้นายกฯแล้ว เรื่องนี้ขอยืนยันว่าได้ทำโดยส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคชาติไทย และยื่นจดหมายเปิดผนึกเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่จำนวนมากที่ไม่สบายใจกับเรื่องเหล่านี้
เชื่อ ‘เติ้ง’ เปิดไฟเขียว
รายงานข่าวจากพรรคชาติไทยแจ้งว่า เหตุผลที่นายณัฐวุฒิออกมาเคลื่อนไหวยื่นหนังสือเปิดผนึกกดดันให้นายจักรภพลาออก และการแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยให้มีการทำประชามติ คู่ขนานกับการเร่งร้อนแก้รัฐธรรมนูญนั้น เป็นเพราะได้รับสัญญาณไฟเขียวจากนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ลอยตัวจากเงื่อนไขของห้วงเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะขั้นตอนต่างๆ ของพรรคชาติไทย ขึ้นอยู่กับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
'อีกทั้งเป็นการแสดงการตอบโต้จากกรณีที่พรรคชาติไทยไม่ได้รับความสำคัญ และมีบทบาทจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ใน 2 กรณีคือ การประสานการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และกรณีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีปัญหาในพรรคกับนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย ซึ่งรายงานข่าวระบุด้วยว่าเงื่อนไขดังกล่าวนี้มีผลต่อการต่อรองขอเสียงสนับสนุน 315 เสียง ในส่วนของพรรคชาติไทย ตามขั้นตอนขอเสียงการแก้รัฐธรรมนูญในการรับวาระหลักการแรก ตามมาตรา 291' แหล่งข่าวระบุ
พันธมิตรฯร้องหาจุดยืนชท.
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรียกร้องให้พรรคชาติไทยแสดงจุดยืน ต่อกรณีนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ขอให้ทำด้วยความจริงใจ ไม่ใช่การสร้างภาพ หรือตีกันทางการเมือง และพรรคชาติไทยควรจะออกมาระบุว่าหากนายจักรภพไม่แสดงความรับผิดชอบ พรรคชาติไทยจะทำอย่างไร จะยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เช่นเดียวกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่มักแสดงตัวเป็นผู้ใหญ่ทางการเมือง แต่ไม่บอกว่าถ้าไม่ทำตามแล้วจะทำอย่างไร
ยันเป็นสิทธิ์ส่วนตัวของส.ส.
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณี นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ปรับนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีพ้น ครม.เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ในการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่า ก็เป็นสิทธิ์ที่ ส.ส.จะทำได้ เพราะทราบไม่เกี่ยวกับทางพรรคชาติไทย เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว แต่ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะทำอะไรก็ควรถามในพรรคก่อนแล้วทางพรรคก็ประสาน เพราะการทำอะไร เดี่ยวๆอย่างนี้ ไม่รู้พรรค จะคิดอย่างไร ซึ่งตอนนี้ตนเองก็ไม่เข้าใจ ในพรรคชาติไทยที่ลูกพรรคพูดไปทาง หัวหน้าพรรคพูดไปอีกทางเช่นกัน
เทพไท ลุ้น จักรภพลาออก
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวนายทหารชั้นผู้ใหญ่ มีความคิดเห็นต่อกรณีการจาบจ้วงสถาบันของนายจักรภพ เพ็ญแข ว่ารู้สึกไม่ดีและไม่อยากร่วมสังฆกรรมกับนายจักรภพว่า ชัดเจนแล้วว่าทหารที่เป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ย่อมมีความรู้สึกรับไม่ได้กับบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ซึ่งก็แน่นอนว่าประชาชนคนทั่วไปก็คงรับไม่ได้ ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้นายจักรภพคงทนกระแสสังคมไม่ได้ และลาออกในที่สุด เพราะแม้แต่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ปล่อยวาง ไม่สนใจ ตนจึงไม่อยากให้นายจักรภพซื้อเวลา เพราะอย่างไรก็ตาม กระแสสังคมคงไม่ลดไปกว่า
เพ็ญหารือนปก.ก่อนดีเบตปชป.
วานนี้ (27 พ.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วงระหว่างลากิจ ซึ่งนายจักรภพไม่หวั่นไหวต่อการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงข่าวตอบโต้ ส่วนการจะรับดีเบตกับนายศิริโชค โสภา เพื่อตอบโต้การถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือไม่นั้น จะมีการหารือกันในวันนี้ (29พ.ค.) ก่อนจะมีการตัดสินใจอีกครั้ง ขณะเดียวกันเชื่อว่านายจักรภพ จะกลับมาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันจันทร์ที่ 2 มิถุนายนนี้ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้จะมีเสียงวิจารณ์ออกมาขณะนี้ก็ตาม ซึ่งนายจักรภพอาจจะยกเลิกการลากิจหรือเพิ่มวันลากิจหากการสอบสวนยังไม่เสร็จ
นายณัฐวุฒิอ้างว่า ไม่อยากเอาประเด็นนี้มาตอบโต้กันไปมา แต่ไม่ปฏิเสธว่าคนในพรรคประชาธิปัตย์มีความสามารถในการแปลภาษาอังกฤษมาก และนายจักรภพก็มั่นใจในคำแปลของเขา แต่กลับต่างกันตรงที่พรรคประชาธิปัตย์ ประเมินว่าเป็นการจาบจ้วง ล่วงเกินสถาบันเบื้องสูง
ส่วนกระแสข่าวลือที่ว่า นายจักรภพได้เข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีการขอให้นายจักรภพรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยการลาออก นายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงแต่ให้คำปรึกษาในฐานะผู้ใหญ่ และข่าวลือที่เกิดขึ้นเชื่อว่าผู้ปล่อยข่าวต้องการโยงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเกี่ยวข้องกับการเมืองเพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณเคยบอกว่า หากนายจักรภพไม่สามารถชี้แจงเรื่องดังกล่าวต้องพิจารณาตัวเอง ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้พูดอะไรเรื่อง
ป.ป.ช.ประชุมถอดถอน 5 มิ.ย.
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ได้รับสำนวนการยื่นถอดถอนนายจักรภพออกจากตำแหน่งแล้ว โดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ส่งเอกสารมาให้เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากนี้ จะนำเรื่องดังกล่าวบรรจุระเบียบวาระการประชุม ป.ป.ช. ในวันที่ 5 มิถุนายน เพื่อเสนอให้ที่ประชุมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ไม่รู้สึกหนักใจอะไร แม้จะเป็นคดีของนักการเมืองดังก็ตาม
จตุพร เอาสีข้างถูช่วยเพ็ญ
ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พปช. ในฐานะอดีตแกนนำ นปก. กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. แถลงตอบโต้นายจักรภพโดยยืนยันว่ามีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ว่า หาก ปชป.และนายอภิสิทธิ์เห็นว่านายจักรภพทำผิดกฎหมายก็ควรแจ้งความดำเนินคดี ส่วนที่ระบุว่านายจักรภพมีทัศนคติที่เป็นอันตรายนั้น ถือว่านายอภิสิทธิ์กล่าวหาโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม
'การที่ ปชป.เรียกร้องความรับผิดชอบนั้น เห็นว่าที่ผ่านมา ปชป.ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบอะไรต่อสังคมเลย ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ดิน ส.ป.ก.4-01 หรือการขอนายกฯตามมาตรา 7 ที่ถือว่ามีทัศนคติที่อันตรายมากกว่า ฉะนั้นอย่ามาเรียกร้องมาตรฐานทางการเมืองเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ถ้าตัวเองไม่มีมาตรฐานเช่นนี้' นายจตุพร กล่าว
นายจตุพรกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการตกลงกันว่านายจักรภพจะไม่มีการพูดอะไรในระยะเวลา 7 วันที่ขอลาพักเป็นช่วงของการตั้งหลัก เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแสนสาหัสในชีวิต ข้อกล่าวหาเช่นนี้คนไทยถ้าใครโดนไม่มีความสุขหรอก แต่นายจักรภพก็มีฝ่ายกฎหมายที่จะคอยมอนิเตอร์ติดตามข่าวตลอดเพื่อที่จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่หมิ่นประมาท เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของตัวเอง แต่หากครบกำหนด 7 วัน จะเข้าทำงานตามปกติและจะมีการแถลงอนาคตทางการเมืองอีกครั้ง
