ผู้จัดการรายวัน-“พูนภิรมย์”ตอกย้ำค่าการกลั่นดีเซลสูงผิดปกติ อ้างอิงข้อมูลสนพ.พบมีส่วนต่างถึง 8 บาทต่อลิตร มีกำไร 4-5 พันล้านบาท ระบุการขอความร่วมมือโรงกลั่นในการลดส่วนต่างเพียง 1 บาทเพื่อช่วยเหลือประชาชนบรรเทาผลกระทบน้ำมัน เป็นการขอที่ไม่มากเกินไป มั่นใจ 30 พ.ค.จะมีข่าวดีบอกประชาชน พร้อมหารือปตท. บางจาก ค่ายรถ เตรียมความพร้อมใช้น้ำมันอี 85 และเร่งผุดปั๊ม NGV เชลล์-บางจากปรับดีเซลอีก 70 สตางค์ส่งผลราคาทะลุลิตรละ 40 บาทแล้ว
พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานยังยืนยันถึงกรณีการขอความร่วมมือจากโรงกลั่นโดยเฉพาะในเครือปตท.และบางจากที่ให้ดูแลค่าการกลั่นดีเซลในช่วงที่สูงขึ้นมาในระยะนี้เพียงไม่เกิน 1 บาทต่อลิตรในการนำมาช่วยเหลือประชาชนเพื่อลดผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และโรงกลั่นเองก็พร้อมจะร่วมมือ ซึ่งจะเร่งรัดให้ได้คำตอบวันที่ 30 พ.ค.นี้ โดยจะเน้นช่วยเฉพาะรายสาขาเท่านั้น
ทั้งนี้ ได้พิจารณาตัวเลขค่าการกลั่นดีเซลจากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) พบว่า ในช่วงปี 2549-2550 ราคาหน้าโรงกลั่นอยู่ที่ 3 บาท/ลิตร หรือคิดเป็นส่วนต่างระหว่างน้ำมันดิบและดีเซลที่ระดับ 16 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เดือนเม.ย.2551 ราคาหน้าโรงกลั่น 8 บาท/ลิตร (35-36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล) โรงกลั่นมีกำไร 4,000-5,000 ล้านบาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ราคาหน้าโรงกลั่นเพิ่มเป็น 10 บาท หรือประมาณ 42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ดังนั้น การที่ให้ลดส่วนต่างลงมา 1 บาท โรงกลั่นก็ยังมีกำไรอยู่
“เรามีหน้าที่ดูแลทั้งผู้ผลิตและประชาชน ก็เลยส่งสัญญาณไป แค่เห็นว่าช่วงนี้พอมีกำไรที่เพิ่มขึ้นจากค่าการกลั่นดีเซลก็ขอมาไม่เกิน 1 บาทต่อลิตร และเป็นแค่ระยะสั้นๆ หากค่าการกลั่นปรับสู่ภาวะปกติเราก็จะไม่ดำเนินการ”รมว.พลังงานกล่าว
นอกจากนี้ สัปดาห์หน้า กระทรวงพลังงานจะหารือร่วมกับบมจ.ปตท.และบมจ.บางจาก ร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ เพื่อหารือถึงความพร้อมในการการขายน้ำมันอี 85 รวมถึงการผลิตรถยนต์ในการรองรับ ซึ่งครม.เศรษฐกิจได้อนุมัติหลักการแล้ว โดยภาษีสรรพสามิตรถยนต์อี 85 จะลดลงเหลือ 20% และจะมีการนำร่องนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปมาดำเนินการก่อน 4-5 เดือน ซึ่งต้องรอคำตอบในการลดภาษีนำเข้าจากคลัง
รมว.พลังงานกล่าวว่า ขณะนี้ปตท.ได้เร่งดำเนินการวางระบบการบริการและจัดส่งก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV มีความคืบหน้าอย่างมากโดยภายในก.ค.ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่จะมีปั๊ม NGV เพิ่มขึ้น ล่าสุดพ.ค.มีแล้ว 245 แห่ง และธ.ค.เป็น 365 แห่งและสถานีแม่ล่าสุดมี 16 แห่ง ก.ค.นี้ก็จะสามารถรองรับความต้องการได้ครอบคลุมเขตกทม.และปริมณฑล ดังนั้นจะทำให้แผนการจำหน่ายก๊าซหุงต้มแยกเป็น 2 ราคาระหว่างครัวเรือนและภาคขนส่ง-อุตสาหกรรมได้ทันที
“วันนี้เรานำเข้าก๊าซหุงต้มมากและรัฐต้องชดเชยเป็นภาระขณะที่การใช้ก็ไม่ลดลง ทางเลือก NGV ก็เป็นทางหนึ่งที่จะส่งเสริม เมื่อก.ค.พร้อมทุกอย่างก็คงต้องแยกราคาก๊าซหุงต้มเป็น 2 ราคาโดยคงจะต้องขึ้นส่วนภาคขนส่งและอุตสาหกรรมเพื่อนำก๊าซหุงต้มมาเพิ่มมูลค่าในการผลิตปิโตรเคมีแทน”รมว.พลังงานกล่าว
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท.กล่าวว่า โดยทั่วไปสถานีแม่จะตั้งอยู่ตามแนวท่อส่งก๊าซธรรมชาติบริเวณรอบนอกกรุงเทพและปริมณฑล แต่เพื่อแก้ไขปัญหาการให้บริการ NGV นอกแนวท่อส่งก๊าซ ปตท. จึงพยายามผลักดันให้มีสถานีแม่ในเขตเมืองเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สถานีบริการ NGV หลักทุ่งครุ ถนนประชาอุทิศ เป็นสถานีแม่ (เอ็นจีวี Mother Station) ที่ตั้งในเขตเมือง โดยมีกำลังการผลิต 70 ตันต่อวัน ซึ่งทำให้กำลังการผลิต NGV ของสถานีแม่ทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 1,670 ตันต่อวัน (ถึงสิ้นปี 2551 มีแผนเพิ่มขึ้นเป็น 3,650 ตันต่อวัน)
รายงานข่าวแจ้งว่า เชลล์ ได้ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกดีเซลอีก 70 สตางค์ต่อลิตร ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลทะลุ 40.44 บาทต่อลิตร และบางจากได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 70 สตางค์ต่อลิตรเช่นเดียวกัน ทำให้ราคาปรับมาอยู่ที่ 39.74 บาทต่อลิตร ซึ่งราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นนี้ คนใช้รถกะบะและรถขนส่งสินค้าจะได้รับผลกระทบอย่างมาก จากที่ก่อนหน้านี้น้ำมันเบนซินได้ทะลุลิตรละ 40 บาทจนกระทบคนใช้รถเก๋งไปแล้ว
พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานยังยืนยันถึงกรณีการขอความร่วมมือจากโรงกลั่นโดยเฉพาะในเครือปตท.และบางจากที่ให้ดูแลค่าการกลั่นดีเซลในช่วงที่สูงขึ้นมาในระยะนี้เพียงไม่เกิน 1 บาทต่อลิตรในการนำมาช่วยเหลือประชาชนเพื่อลดผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และโรงกลั่นเองก็พร้อมจะร่วมมือ ซึ่งจะเร่งรัดให้ได้คำตอบวันที่ 30 พ.ค.นี้ โดยจะเน้นช่วยเฉพาะรายสาขาเท่านั้น
ทั้งนี้ ได้พิจารณาตัวเลขค่าการกลั่นดีเซลจากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) พบว่า ในช่วงปี 2549-2550 ราคาหน้าโรงกลั่นอยู่ที่ 3 บาท/ลิตร หรือคิดเป็นส่วนต่างระหว่างน้ำมันดิบและดีเซลที่ระดับ 16 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เดือนเม.ย.2551 ราคาหน้าโรงกลั่น 8 บาท/ลิตร (35-36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล) โรงกลั่นมีกำไร 4,000-5,000 ล้านบาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ราคาหน้าโรงกลั่นเพิ่มเป็น 10 บาท หรือประมาณ 42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ดังนั้น การที่ให้ลดส่วนต่างลงมา 1 บาท โรงกลั่นก็ยังมีกำไรอยู่
“เรามีหน้าที่ดูแลทั้งผู้ผลิตและประชาชน ก็เลยส่งสัญญาณไป แค่เห็นว่าช่วงนี้พอมีกำไรที่เพิ่มขึ้นจากค่าการกลั่นดีเซลก็ขอมาไม่เกิน 1 บาทต่อลิตร และเป็นแค่ระยะสั้นๆ หากค่าการกลั่นปรับสู่ภาวะปกติเราก็จะไม่ดำเนินการ”รมว.พลังงานกล่าว
นอกจากนี้ สัปดาห์หน้า กระทรวงพลังงานจะหารือร่วมกับบมจ.ปตท.และบมจ.บางจาก ร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ เพื่อหารือถึงความพร้อมในการการขายน้ำมันอี 85 รวมถึงการผลิตรถยนต์ในการรองรับ ซึ่งครม.เศรษฐกิจได้อนุมัติหลักการแล้ว โดยภาษีสรรพสามิตรถยนต์อี 85 จะลดลงเหลือ 20% และจะมีการนำร่องนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปมาดำเนินการก่อน 4-5 เดือน ซึ่งต้องรอคำตอบในการลดภาษีนำเข้าจากคลัง
รมว.พลังงานกล่าวว่า ขณะนี้ปตท.ได้เร่งดำเนินการวางระบบการบริการและจัดส่งก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV มีความคืบหน้าอย่างมากโดยภายในก.ค.ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่จะมีปั๊ม NGV เพิ่มขึ้น ล่าสุดพ.ค.มีแล้ว 245 แห่ง และธ.ค.เป็น 365 แห่งและสถานีแม่ล่าสุดมี 16 แห่ง ก.ค.นี้ก็จะสามารถรองรับความต้องการได้ครอบคลุมเขตกทม.และปริมณฑล ดังนั้นจะทำให้แผนการจำหน่ายก๊าซหุงต้มแยกเป็น 2 ราคาระหว่างครัวเรือนและภาคขนส่ง-อุตสาหกรรมได้ทันที
“วันนี้เรานำเข้าก๊าซหุงต้มมากและรัฐต้องชดเชยเป็นภาระขณะที่การใช้ก็ไม่ลดลง ทางเลือก NGV ก็เป็นทางหนึ่งที่จะส่งเสริม เมื่อก.ค.พร้อมทุกอย่างก็คงต้องแยกราคาก๊าซหุงต้มเป็น 2 ราคาโดยคงจะต้องขึ้นส่วนภาคขนส่งและอุตสาหกรรมเพื่อนำก๊าซหุงต้มมาเพิ่มมูลค่าในการผลิตปิโตรเคมีแทน”รมว.พลังงานกล่าว
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ปตท.กล่าวว่า โดยทั่วไปสถานีแม่จะตั้งอยู่ตามแนวท่อส่งก๊าซธรรมชาติบริเวณรอบนอกกรุงเทพและปริมณฑล แต่เพื่อแก้ไขปัญหาการให้บริการ NGV นอกแนวท่อส่งก๊าซ ปตท. จึงพยายามผลักดันให้มีสถานีแม่ในเขตเมืองเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สถานีบริการ NGV หลักทุ่งครุ ถนนประชาอุทิศ เป็นสถานีแม่ (เอ็นจีวี Mother Station) ที่ตั้งในเขตเมือง โดยมีกำลังการผลิต 70 ตันต่อวัน ซึ่งทำให้กำลังการผลิต NGV ของสถานีแม่ทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 1,670 ตันต่อวัน (ถึงสิ้นปี 2551 มีแผนเพิ่มขึ้นเป็น 3,650 ตันต่อวัน)
รายงานข่าวแจ้งว่า เชลล์ ได้ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกดีเซลอีก 70 สตางค์ต่อลิตร ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลทะลุ 40.44 บาทต่อลิตร และบางจากได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 70 สตางค์ต่อลิตรเช่นเดียวกัน ทำให้ราคาปรับมาอยู่ที่ 39.74 บาทต่อลิตร ซึ่งราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นนี้ คนใช้รถกะบะและรถขนส่งสินค้าจะได้รับผลกระทบอย่างมาก จากที่ก่อนหน้านี้น้ำมันเบนซินได้ทะลุลิตรละ 40 บาทจนกระทบคนใช้รถเก๋งไปแล้ว
