xs
xsm
sm
md
lg

ธนาคารชาติหลายแห่งในแถบเอเชีย แทรกแซงดันค่าเงินให้สูงสู้เงินเฟ้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ - ธนาคารกลางของหลายชาติเอเชีย กำลังพากันเข้าแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเงียบๆ เพื่อให้ค่าเงินของประเทศแข็งขึ้น อันเป็นมาตรการหนึ่งในการลดผลกระทบของราคาน้ำมันที่พุ่งสูงจนเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และอาจดึงให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงตามมา

พวกเทรดเดอร์เงินตราบอกว่า พวกเขาสงสัยว่าธนาคารกลางของอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้และไต้หวัน ต่างกำลังเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อหนุนค่าเงินของประเทศตนให้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินตราสหรัฐฯ โดยจุดมุ่งหมายสำคัญคือเพื่อลดแรงกดดันของภาวะเงินเฟ้อที่หลายฝ่ายกำลังวิตก ตลอดจนทำให้ตลาดหุ้นทั่วเอเชียลงไปอยู่ในแดนลบ

ธนาคารกลางของประเทศในแถบเอเชีย โดยปกติแล้วมักเข้าแทรกแซงตลาดเมื่อไม่ต้องการให้ค่าเงินของตนเองแข็งเกินไป อันจะทำให้ไม่สามารถส่งออกสินค้าได้มากเท่าที่ควร โดยที่การส่งออกนี้เป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้

อย่างไรก็ตาม เวลานี้รัฐบาลของบางประเทศกำลังเริ่มหันไปเน้นที่การควบคุมอัตราเงินเฟ้อ หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบทะลุระดับ 135 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตในประเทศต่าง ๆขยับขึ้นไปตาม ๆกัน

“หากว่าจะต้องเลือกระหว่างค่าเงินที่แข็งแกร่ง กับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดูเหมือนว่าทางการหลายประเทศเชื่อว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศมากกว่า” แมกนัส พริม หัวหน้านักยุทธศาสตร์ในแถบเอเชียของเอสอีบี ที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์กล่าว

ทั้งนี้ ค่าเงินที่แข็งขึ้นจะทำให้สินค้านำเข้าจากต่างประเทศมีราคาถูกลง จึงช่วยลดผลกระทบเงินเฟ้อที่เกิดจากราคาน้ำมันพุ่งลิ่ว

“แนวโน้มนี้น่าจะกลายเป็นรูปแบบปกติในเอเชียไปในที่สุด” นักวิเคราะห์ในสิงคโปร์อีกคนกล่าว “ธนาคารกลางน่าจะต้องนำเอาทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของตนเองออกมาใช้ เพราะตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนเป็นจากการได้ดุลการค้าเป็นการขาดดุล และเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาก็เริ่มน้อยลงไป”

ที่เกาหลีใต้ ธนาคารกลางซึ่งกำลังถูกกดดันจากภาคการเมืองให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ได้เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงินวอนถึงสองรอบ ในปีนี้เงินวอนเป็นเงินสกุลที่ลดค่าลงมากที่สุดเป็นอันดับสองในเอเชีย อันดับหนึ่งนั้นก็คือ รูปี ของปากีสถาน

นักค้าเงิน 5 รายในกรุงโซลบอกว่าธนาคารกลางเกาหลีขายดอลลาร์สหรัฐฯออกไปราว 800 ล้านดอลลาร์ฯเพื่อหนุนค่าเงิน ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังจากนั้นพวกเขาก็รายงานการเข้าแทรกแซงอีกครั้งในช่วงบ่ายแต่ไม่ได้บอกว่ามีการขายดอลลาร์สหรัฐฯออกไปเท่าไร

ค่าเงินวอนอ่อนลง 9.8%แล้วในปีนี้ จากแรงกดดันของราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก การเทขายหุ้นของต่างชาติ และแผนการของรัฐบาลที่จะควบคุมการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศอันเนื่องมาจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศที่ต่อเนื่องมาจากตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้งในเอเชียเมื่อ 11 ปีก่อน

ธนาคารกลางแห่งเกาหลีใต้กล่าวว่าในเดือนนี้ เศรษฐกิจของประเทศน่าจะชะลออัตราการเติบโตลงมาอยู่ที่ 4.5% จาก 5% ของเมื่อปีที่ก่อน ขณะเดียวกันธนาคารกลางก็ยังคงยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิม จากการที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีครึ่งที่ 4.1% ซึ่งสูงกว่าอัตราเป้าหมายที่วางไว้ระหว่าง 2.5-3.5% เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนสินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้น และสินค้านำเข้าที่สร้างปัญหามากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นน้ำมัน

ส่วนผู้ค้าเงินที่กรุงมนิลา 3 รายก็รายงานว่า ธนาคารกลางของฟิลิปปินส์ขายดอลลาร์สหรัฐฯออกมาในอัตรา 43.70 เปโซต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ว่าค่าเงินเปโซยังคงอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ 43.73 อันเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา นักค้ารายหนึ่งประมาณว่าธนาคารกลางขายดอลลาร์ออกไปราว 200 ล้านดอลลาร์

ธนาคารกลางอินโดนีเซียก็ได้รับการคาดหมายว่าจะขายดอลลาร์สหรัฐฯออกไปในราคา 9,365 ถึง 9,380 รูเปียะห์ต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ไม่มีการคาดหมายว่าธนาคารกลางขายดอลลาร์ออกไปเท่าไรกันแน่
กำลังโหลดความคิดเห็น