เอเชียน วอลล์สตรีท - ปักกิ่งสั่งลดโควตาหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ธนาคารต่างชาติหนาว หวั่นขาดเงินหมุน นักวิเคราะห์ชี้ สั่งลดโควตาหนี้ เป็นความพยายามสกัดเงินร้อน ที่แฝงมาในรูปเงินกู้ยืม
สำนักงานปริวรรตเงินตราต่างประเทศจีน (SAFE) สั่งปรับโควตาหนี้ต่างประเทศระยะสั้น สำหรับธนาคารต่างชาติและจีน หวังสร้างความมั่นคงทางการเงิน หลังมีข่าวลือเงินร้อนเพิ่มความร้อนแรงไม่หยุด
ทั้งนี้การปรับโควตาดังกล่าวจะส่งผลกระทบหนัก ต่อธนาคารต่างชาติ ซึ่งประกอบธุรกรรมในจีน เนื่องจากแหล่งที่มาของทุนธนาคารต่างชาติเกิดจากการกู้ยืม จากต่างประเทศเป็นหลัก ขณะที่ธนาคารจีนสามารถพึ่งพิงเงินฝากของชาวจีนเป็นแหล่งทุนสำคัญ
การปรับลดโควตาดังกล่าว เกิดจากความกังวลว่า การไหลบ่าของเงินร้อน เข้ามาเก็งกำไรในตลาดจีน อาจนำไปสู่สถานการณ์ซ้ำรอยวิกฤตต้มยำกุ้งช่วงทศวรรษ 1990 เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจจีน มีการเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมาก การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น โดยเฉพาะรูปเงินกู้ต่างประเทศ เมื่อไหลเข้ามาเร็ว ก็ไหลออกได้เร็วเช่นกัน ทำให้ทางการจีนต้องเข้ามาควบคุมเงินกู้ต่างประเทศระยะสั้นอย่างเข้มงวด
เจ้าหน้าที่สำนักงานปริวรรตเงินตราเผยว่า ได้มีการเตือนธนาคารต่างชาติเรื่องการปรับลดโควตาไปแล้ว โดยธนาคารต่างชาติต้องปรับลดโควตาหนี้ลงราว 10%-15% ขณะที่ธนาคารจีนปรับลดลงเพียง 5%
เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวยังระบุว่า การปรับลดโควตานี้เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. อย่างไรก็ตามจะค่อยๆนำมาปรับเปลี่ยนตามแต่ละไตรมาส
"โดยหลักการโควตาจะยังคงเดิม แต่สำนักงานปริวรรตฯอาจจะปรับโควตาอีกครั้ง หากดุลการชำระเงินระหว่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลง"
แม้ธนาคารต่างชาติหลายแห่งจะได้รับการเตือนล่วงหน้า ทว่าพ่อค้าเงินตราจากธนาคารรายย่อยเผยว่า พวกเขายังรอการเตือนเรื่องดังกล่าวจากรัฐบาลว่า จะมีการปรับลดโควตาหรือไม่ ข่าวจากธนาคารรายย่อยทำให้เกิดความสงสัยว่า มาตรการลดโควตาหนี้ต่างประเทศระยะสั้น อาจไม่ได้มีผลบังคับใช้กับธนาคารทุกแห่ง
ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่า ปีนี้ค่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้น 10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ตลาดการเงินโลกยังเผชิญกับผลกระทบจากวิกฤตซับไพรม์ ฉะนั้นการนำเงินเข้ามาลงทุนในจีน จึงเป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุด ตรรกะดังกล่าวส่งผลให้เงินทุนจากหลายแห่ง ต่างทะลักเข้าในจีน จนกลายเป็นเงินร้อนที่สร้างความลำบากให้กับรัฐบาล
สำนักงานปริวรรตเงินตราต่างประเทศจีน (SAFE) สั่งปรับโควตาหนี้ต่างประเทศระยะสั้น สำหรับธนาคารต่างชาติและจีน หวังสร้างความมั่นคงทางการเงิน หลังมีข่าวลือเงินร้อนเพิ่มความร้อนแรงไม่หยุด
ทั้งนี้การปรับโควตาดังกล่าวจะส่งผลกระทบหนัก ต่อธนาคารต่างชาติ ซึ่งประกอบธุรกรรมในจีน เนื่องจากแหล่งที่มาของทุนธนาคารต่างชาติเกิดจากการกู้ยืม จากต่างประเทศเป็นหลัก ขณะที่ธนาคารจีนสามารถพึ่งพิงเงินฝากของชาวจีนเป็นแหล่งทุนสำคัญ
การปรับลดโควตาดังกล่าว เกิดจากความกังวลว่า การไหลบ่าของเงินร้อน เข้ามาเก็งกำไรในตลาดจีน อาจนำไปสู่สถานการณ์ซ้ำรอยวิกฤตต้มยำกุ้งช่วงทศวรรษ 1990 เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจจีน มีการเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมาก การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น โดยเฉพาะรูปเงินกู้ต่างประเทศ เมื่อไหลเข้ามาเร็ว ก็ไหลออกได้เร็วเช่นกัน ทำให้ทางการจีนต้องเข้ามาควบคุมเงินกู้ต่างประเทศระยะสั้นอย่างเข้มงวด
เจ้าหน้าที่สำนักงานปริวรรตเงินตราเผยว่า ได้มีการเตือนธนาคารต่างชาติเรื่องการปรับลดโควตาไปแล้ว โดยธนาคารต่างชาติต้องปรับลดโควตาหนี้ลงราว 10%-15% ขณะที่ธนาคารจีนปรับลดลงเพียง 5%
เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวยังระบุว่า การปรับลดโควตานี้เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. อย่างไรก็ตามจะค่อยๆนำมาปรับเปลี่ยนตามแต่ละไตรมาส
"โดยหลักการโควตาจะยังคงเดิม แต่สำนักงานปริวรรตฯอาจจะปรับโควตาอีกครั้ง หากดุลการชำระเงินระหว่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลง"
แม้ธนาคารต่างชาติหลายแห่งจะได้รับการเตือนล่วงหน้า ทว่าพ่อค้าเงินตราจากธนาคารรายย่อยเผยว่า พวกเขายังรอการเตือนเรื่องดังกล่าวจากรัฐบาลว่า จะมีการปรับลดโควตาหรือไม่ ข่าวจากธนาคารรายย่อยทำให้เกิดความสงสัยว่า มาตรการลดโควตาหนี้ต่างประเทศระยะสั้น อาจไม่ได้มีผลบังคับใช้กับธนาคารทุกแห่ง
ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่า ปีนี้ค่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้น 10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ตลาดการเงินโลกยังเผชิญกับผลกระทบจากวิกฤตซับไพรม์ ฉะนั้นการนำเงินเข้ามาลงทุนในจีน จึงเป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุด ตรรกะดังกล่าวส่งผลให้เงินทุนจากหลายแห่ง ต่างทะลักเข้าในจีน จนกลายเป็นเงินร้อนที่สร้างความลำบากให้กับรัฐบาล