ธปท.ร่วมกับคลังตั้งคณะทำงานศึกษาความเป็นไปได้การจัดตั้งกองทุนบริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ คาดรู้ผลกลางเดือนเมษายนนี้ รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ชี้หากตั้งกองทุนดังกล่าวจำเป็นจะต้องตั้งกฎหมายเฉพาะขึ้นมาดูแล ระบุเหตุต้องศึกษาให้ละเอียด เพราะส่วนหนึ่งของทุนสำรองทางการเกิดจากการกู้ยืมด้วย ขณะเดียวกันไทยไม่สามารถหลีกเลี่ยงเงินทุนไหลเข้าของต่างชาติจากการเปิดเสรีทางการเงินได้
นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธปท.ได้ร่วมกับกระทรวงการคลังแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนบริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (Sovereign Wealth Fund) หลังจากช่วงที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่ามากส่งผลให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวจะมีนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยคาดว่าในช่วงกลางเดือนเมษายนนี้จะทราบข้อมูลถึงความคืบหน้าว่ามีความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งกองทุนดังกล่าวหรือไม่ รวมถึงรายละเอียดต่างๆ
"ขณะนี้ทางกระทรวงการคลังได้มีการสั่งให้ธปท.ร่วมกันศึกษาการจัดตั้งกองทุน Sovereign Wealth Fund ในเบื้องต้นก่อน เพราะส่วนหนึ่งของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศก็มีการกู้ยืมมา เช่น การทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า(Swap) เป็นต้น จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาอย่างละเอียดก่อน โดยจะมีการพูดคุยกันระหว่างคณะทำงานที่จัดตั้งขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะภายในเดือนเมษายนนี้ และในช่วงกลางเดือนเดียวกันนี้ทางคลังจะให้ข้อมูลต่างๆ จึงควรให้ทางคลังให้ข้อมูลเรื่องนี้ดีกว่า" นางผ่องเพ็ญ กล่าว
รายงานข่าวจากธปท.ระบุว่า หากมีการจัดตั้งกองทุนบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศขึ้นมาจริงก็จำเป็นจะต้องมีกฎหมายเฉพาะขึ้นมาดูแลส่วนนี้โดยตรง อย่างไรก็ตามเหตุผลหนึ่งที่ต้องมีการศึกษาเรื่องนี้ เพราะต่อไปหากไทยมีการเปิดเสรีทางการเงินมากขึ้นก็จะมีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามา ซึ่งสิ่งนี้ไทยหลีกเลี่ยงไม่ได้และจะยิ่งกดดันให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น จึงต้องมีการศึกษา เพื่อตั้งรับในเรื่องดังกล่าวด้วย รวมทั้งกองทุนบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศเองก็มีหลากหลายรูปแบบก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ
ทั้งนี้ ธปท.ได้รายงานเงินสำรองระหว่างประเทศล่าสุด ณ วันที่ 28 มี.ค.51 พบว่า เงินสำรองระหว่างประเทศมีจำนวน 109,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1,100 ล้านเหรียญ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ระดับ 108,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่สัญญาซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ามีจำนวน 21,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 200 ล้านเหรียญ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 21,700 ล้านเหรียญสหรัฐ
นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธปท.ได้ร่วมกับกระทรวงการคลังแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนบริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (Sovereign Wealth Fund) หลังจากช่วงที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่ามากส่งผลให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวจะมีนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยคาดว่าในช่วงกลางเดือนเมษายนนี้จะทราบข้อมูลถึงความคืบหน้าว่ามีความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งกองทุนดังกล่าวหรือไม่ รวมถึงรายละเอียดต่างๆ
"ขณะนี้ทางกระทรวงการคลังได้มีการสั่งให้ธปท.ร่วมกันศึกษาการจัดตั้งกองทุน Sovereign Wealth Fund ในเบื้องต้นก่อน เพราะส่วนหนึ่งของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศก็มีการกู้ยืมมา เช่น การทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า(Swap) เป็นต้น จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาอย่างละเอียดก่อน โดยจะมีการพูดคุยกันระหว่างคณะทำงานที่จัดตั้งขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะภายในเดือนเมษายนนี้ และในช่วงกลางเดือนเดียวกันนี้ทางคลังจะให้ข้อมูลต่างๆ จึงควรให้ทางคลังให้ข้อมูลเรื่องนี้ดีกว่า" นางผ่องเพ็ญ กล่าว
รายงานข่าวจากธปท.ระบุว่า หากมีการจัดตั้งกองทุนบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศขึ้นมาจริงก็จำเป็นจะต้องมีกฎหมายเฉพาะขึ้นมาดูแลส่วนนี้โดยตรง อย่างไรก็ตามเหตุผลหนึ่งที่ต้องมีการศึกษาเรื่องนี้ เพราะต่อไปหากไทยมีการเปิดเสรีทางการเงินมากขึ้นก็จะมีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามา ซึ่งสิ่งนี้ไทยหลีกเลี่ยงไม่ได้และจะยิ่งกดดันให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น จึงต้องมีการศึกษา เพื่อตั้งรับในเรื่องดังกล่าวด้วย รวมทั้งกองทุนบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศเองก็มีหลากหลายรูปแบบก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ
ทั้งนี้ ธปท.ได้รายงานเงินสำรองระหว่างประเทศล่าสุด ณ วันที่ 28 มี.ค.51 พบว่า เงินสำรองระหว่างประเทศมีจำนวน 109,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1,100 ล้านเหรียญ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ระดับ 108,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่สัญญาซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ามีจำนวน 21,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 200 ล้านเหรียญ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 21,700 ล้านเหรียญสหรัฐ