เป่ยจิงเฉินเป้า – นักวิชาการชื่อดังได้ออกรายงานระบุว่าเงินร้อนที่ไหลเข้าจีนทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายมีมากถึง 650,000 ล้านเหรียญ และส่งผลกระทบต่อการเงินในระยะสั้นแล้ว พร้อมย้ำหากจีนไม่รับมือให้ดีอาจจะเกิดวิกฤตการเงินได้ภายในระยะเวลา 3 ปี
เงินร้อนจากนานาชาติยังคงไหลทะลักเข้าจีนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทางการจีนรับมือยากขึ้นทุกที ล่าสุดคุณจง เหว่ยผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเงินประจำมหาวิทยาลัยการศึกษาปักกิ่งได้ออกรายงานผลการวิจัยล่าสุดโดยตั้งชื่อว่า “วิกฤตอาจมาใน 3 ปี” โดยระบุว่าขณะนี้เงินร้อนที่ไหลเข้ามา มีจำนวนที่มากจนเป็นปัญหาและส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางการเงินในระยะสั้นแล้ว และหากไม่มีนโยบายรองรับ ก็อาจจะทำให้เกิดวิกฤตกับตลาดการเงินในเวลา 3 ปี
จง เหว่ยเป็นนักวิชาการด้านการเงินที่มีชื่อเสียง อีกทั้งได้เคยเข้าร่วมหารือในการวางแผนนโยบายการเงินระดับชาติหลายครั้ง ทำให้รายงานฉบับนี้มีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง โดยเขาได้เน้นย้ำว่าเงินร้อนเหล่านี้ได้เข้ามาทั้งในแบบที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย อีกทั้งเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยอาศัยช่องทางการเงินระหว่างประเทศ และโจมตีเศรษฐกิจในหลายประเทศเหมือนกับที่เคยทำให้เกิดวิกฤตทางการเงินในเม็กซิโกในปีทศวรรษที่ 1980 และวิกฤตการเงินในเอเชียเมื่อทศวรรษที่ 1990
จากการคำนวณของจง เหว่ยนั้นในปีค.ศ.2005 ในประเทศจีนมีเงินร้อนมากกว่า 320,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปลายปีค.ศ. 2006 กับ 2007 มีอยู่ราว 400,000 กับ 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯตามลำดับ และคาดว่าในปีนี้กับปีหน้าจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 650,000 ล้านเหรียญกับ 800,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเงินร้อนเหล่านี้นอกจากเข้ามาเพื่อหลบความเสี่ยงจากความผันผวนในวงการการเงินโลกแล้ว ยังสามารถหาประโยชน์จากการเก็งกำไรเงินหยวน ตลาดหุ้น และตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีนได้ด้วย
ข้อมูลในรายงานระบุว่า ในช่วงปลายปีค.ศ. 1996 ก่อนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งนั้น มีเงินร้อนที่ไหลทะลักเข้ามาในเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ราว 560,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กระทั่งปีค.ศ.1998 หลังเกิดวิกฤตการเงินขึ้นแล้ว มีเงินร้อนในเอเชียตะวันออกราว 800,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จง เหว่ยชี้ว่าขณะนี้จำนวนเงินร้อนที่จีนกำลังเผชิญหน้าในขณะนี้ มีปริมาณพอๆกับที่เกิดในเอเชียตะวันออกสมัยทศวรรษที่ 90 ดังนั้นจีนจึงมีความจำเป็นจะต้องหาทางป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจ
ขณะที่เหลียง เสี่ยวหมินนักเศรษฐศาสตร์อีกท่านหนึ่งก็มีความกังวลเช่นเดียวกับจง เหว่ย ที่มองว่าขณะนี้มีเงินร้อนผิดกฎหมายเข้ามาในจีนเป็นจำนวนมาก และคำนวณว่าน่าจะมีถึง 500,000 ล้านหยวนแล้ว ซึ่งเงินเหล่านี้ได้ผลักดันให้อุปสงค์อุปทานเงินหยวนเพิ่มขึ้นถึง 3.5 ล้านล้านหยวน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม การที่เงินร้อนเข้ามาในจีนนั้น หลายฝ่ายมองว่าทางการจีนยังไม่ได้รับรู้ถึงความน่ากลัวของปัญหาดีพอ โดยเฉพาะยังไม่มีใครที่สามารถหาวิธีคำนวณจำนวนเงินร้อนที่เข้ามาได้อย่างแม่นยำอย่างแท้จริง
ทั้งนี้เมื่อช่วงปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ทางการจีนได้ออกคำสั่งให้ศุลกากรคุมเข้มเรื่องการพกเงินเข้าออกนอกประเทศ โดยกำหนดให้พกไม่เกินคนละ 20,000 หยวนและหากจับได้ว่าใครพกมากถึง 100,000 หยวนจะไม่อนุญาตให้เข้าออกประเทศ โดยมาตรการดังกล่าวเป็นไปเพื่อสกัดกั้นเงินร้อนจำนวนมากที่ไหลบ่าเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินในจีน