xs
xsm
sm
md
lg

โรงสีเปิดศึกชิงข้าวจีทูจี"มิ่งขวัญ"ยอมแบ่งโควตา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"มิ่งขวัญ" ชี้ 4 แบงก์ไทยพร้อมขยายการปล่อยสินเชื่อให้โรงสี เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการจัดซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา ระบุ โรงสีพร้อมสนับสนุนรัฐในการส่งออกข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) หลังพาณิชย์ยอมแบ่งออเดอร์ส่งออกข้าวจีทูจีให้ แก้ทางโรงสีถูกผู้ส่งออกกดราคารับซื้อ ด้านผู้ส่งออกโต้กลับทันควัน ไม่ได้กดราคารับซื้อข้าวจากโรงสี จนทำให้โรงสีไปกดราคารับซื้อข้าวจากชาวนาอีกต่อ ชี้การแบ่งโควตาจีทูจีต้องเป็นธรรม แต่ขอให้ระวังโรงสีไร้ประสบการณ์ทำตลาดข้าวไทยพัง ด้านม็อบชาวนาเชียงรายเคลื่อนไหวอีกรอบหลังถูกกดราคารับซื้อข้าวเปลือกเหนียว

วานนี้ (23 พ.ค.) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือกับนายวัฒนา รัตนวงษ์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาชิกสมาคม 17 คน รวมทั้งตัวแทนธนาคาร 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย ที่ทำเนียบรัฐบาล

นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ได้ตกลงกับสมาคมโรงสีข้าวไทย และตัวแทนธนาคารทั้ง 4 แห่งแล้ว เห็นพ้องว่า ธนาคารทั้ง 4 แห่ง จะขยายการปล่อยสินเชื่อให้แก่โรงสีเพิ่มเป็น 3 เท่าจากเดิม เพื่อเพิ่มสภาพคล่องการจัดการซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ขณะเดียวกัน ทาง สมาคมโรงสี พร้อมที่จะสนับสนุนรัฐบาล เพื่อดำเนินการส่งออกข้าวสารไปยังต่างประเทศ ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล ( จีทูจี) ทั้งสองระบบ ซึ่งตรงนี้สมาคมโรงสีอาสาเป็นเครื่องมือเพื่อส่งออกข้าวสารไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะการเจรจาการซื้อข้าวอย่างไม่มีเงื่อนไข

ทั้งนี้ สมาคมโรงสีข้าวยืนยันว่าไม่ต้องการที่จะกดราคาข้าวเปลือกจากชาวนา แต่เนื่องจากกำลังเผชิญกับปัญหาในการหมุนเงินเพื่อจัดซื้อข้าว จึงต้องมาขอเพิ่มเงินกู้จากธนาคาร ขณะเดียวกันผู้ส่งออกรายใหญ่ในประเทศที่มีเพียง 4-5 ราย ทางสมาคมโรงสี จึงพร้อมที่จะสนับสนุนให้รัฐบาลส่งออกข้าวสารไปยังต่างประเทศ แต่ยังไม่ได้ระบุออเดอร์ว่าจะให้โรงสีส่งข้าวมาให้รัฐบาลเท่าไร และส่งออกเท่าไร แต่รัฐบาลคงจะไม่แบกภาระทั้งหมด เพราะรัฐบาลมุ่งเน้นแต่การทำจีทูจี

โดยในสัปดาห์หน้า สมาคมโรงสีจะเข้าพบกับนางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อกำหนดกรอบในการรับออเดอร์ในการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศ

"มิ่งขวัญ" รับปากแบ่งข้าวจีทูจีให้โรงสี

แหล่งข่าวจากสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า รมว.พาณิชย์ได้รับปากผู้ประกอบการโรงสีจะพิจารณาจัดสรรออเดอร์ข้าวที่รัฐบาลไทยได้จากการเจรจาขายข้าวให้กับรัฐบาลต่างประเทศ (จีทูจี) ให้แก่ผู้ประกอบการโรงสีร่วมดำเนินการด้วย เพื่อเพิ่มช่องทางให้โรงสีได้ระบายข้าวสารในสต๊อกออกไป เนื่องจากขณะนี้ผู้ประกอบการโรงสีถูกผู้ส่งออกกดราคารับซื้อข้าวสารอย่างหนัก จนทำให้ราคาข้าวสารชนิดข้าวขาว 5% ปัจจุบันเหลือแค่ตันละ 2.4 หมื่นบาท จากสัปดาห์ก่อนที่ราคาข้าวอยู่ที่ 2.7 หมื่นบาท หรือลดลงถึงตันละ 3,000 บาท

“ตอนนี้ผู้ประกอบการโรงสีถูกบีบหนัก โดยผู้ส่งออกใช้วิธีการผลัดกันซื้อข้าว ทำให้การซื้อข้าวกระจุกตัว จนเป็นผลให้ถูกกดราคารับซื้อได้ง่าย ซึ่งโรงสีจะปฏิเสธการขายก็ไม่ได้ เนื่องจากขาดสภาพคล่อง เพราะช่วงที่ผ่านมาใช้เงินจำนวนมากในการซื้อข้าวจากชาวนาเข้าสต๊อก จึงจำเป็นต้องขายแข่งกัน ทำให้ราคาข้าวสารในประเทศปรับลดลงมา ทั้งที่ราคาข้าวส่งออกก็ไม่ได้ปรับลด โดยข้าวขาว 5% ขณะนี้ส่งออกสูงถึงตันละ 1,030 เหรียญสหรัฐ” แหล่งข่าว กล่าว

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบว่าออเดอร์ข้าวจีทูจีที่รัฐบาลได้มาจะแบ่งให้โรงสีหรือผู้ส่งออกอย่างละครึ่งหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะมากน้อยเท่าไร ถือเป็นช่องทางเลือกที่โรงสีจะระบายข้าวออกไป ซึ่งทาง รมว.พาณิชย์ ยืนยันว่ามีออเดอร์ข้าวจีทูจี 6.7 ล้านตันแน่นอน โดยเร็วนี้จะได้ออเดอร์จีทูจีเข้ามาอย่างน้อยประมาณ 2 ล้านตัน จากรัฐบาลฟิลิปปินส์ ซื้อเพิ่ม 1 ล้านตัน มาเลเซีย 3 แสนตัน และยังมีคำสั่งซื้อจากอินโดนีเซียอีก

หวั่นโรงสีไร้ประสบการณ์ทำตลาดข้าวพัง

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า ตลาดข้าวเป็นการค้าเสรีราคาจึงขึ้นกับดีมานด์และซัปพลาย ซึ่งช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาโรงสีขายข้าวให้ผู้ส่งออกในราคาสูง แต่เมื่อคำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลดลงในช่วงนี้ทำให้ราคาซื้อขายข้าวกับโรงสีลดลงตามไปด้วย นอกจากนี้ โรงสีมีข้าวในสต๊อกจำนวนมากและต้องการปล่อยข้าวออกมายิ่งทำให้ราคาซื้อขายข้าวลดลง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของกลไกตลาด

ในส่วนกรณีที่รัฐจะแบ่งโควตาส่งออกภายใต้คำสั่งซื้อข้าวแบบจีทูจีนั้น เข้าใจว่าขณะนี้โรงสีมีข้าวในมือมากต้องการหาที่ระบายออก ซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะพิจารณาจัดสรรให้เหมาะสม เพราะจะมีโรงสีบางแห่งเท่านั้นที่มีความสามารถในการส่งออก และโรงสีส่วนใหญ่จะขาดประสบการณ์การส่งออก เมื่อมาทำหน้าที่นี้อาจเกิดปัญหา จนต้องให้ผู้ส่งออกเข้ามารับผิดชอบแทนในที่สุด ซึ่งในอดีตเคยมีกรณีโรงสีรับคำสั่งซื้อภาครัฐแล้วไม่สามารถทำได้ตามเงื่อนไข ทำให้ผู้ส่งออกต้องเข้ามาทำหน้าที่แทน

แม้การส่งออกข้าวช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) จะเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านตัน เหนือกว่าที่คาดหมายว่าการส่งออกอาจจะปรับลดลงในเดือน เม.ย. นี้ แต่ความจริงแล้วสัญญาณของการส่งออกยังไม่ดี เนื่องจากปริมาณความต้องการสั่งซื้อในช่วงหลังเดือนพ.ค.นี้ ยังไม่ชัดเจน เพราะมาเลเซียอาจยกเลิกนำเข้าข้าวจากไทยที่เหลืออีก 3 แสนตัน จากปริมาณสั่งซื้อรวม 5 แสนตัน เพื่อรอนำเข้าจากเวียดนาม ซึ่งจะเริ่มกลับมาส่งออกในช่วงเดือนก.ค. นี้

ชาวนาเชียงใหม่-เชียงรายปิดถนน

เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ (23 พ.ค.) ม็อบชาวนา อ.พาน จ.เชียงราย ราว 200 คนเริ่มเคลื่อนไหวมารวมตัวที่ว่าการอำเภอพาน ส่วนม็อบชาวนา อ.เวียงชัย นัดรวมตัวเวลา 14.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอเวียงชัย เพื่อสอบถามกรณีนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน รับปากกับชาวนาเมื่อวันที่ 14 พ.ค.51 ว่า รัฐบาลจะซื้อข้าวเหนียวนาปรังตันละ 8,000 บาท ไม่จำกัดความชื้น แต่การขายจริงกลับไม่ได้ราคาตามนั้น และจะเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับอธิบดีกรมการค้าภายใน ข้อหาหลอกลวงประชาชน หากการเจรจาไม่เป็นผล และอาจจะมีการปิดถนนสาย อ.พาน และ อ.แม่สรวย

วันเดียวกันกลุ่มชาวนาใน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และอำเภอใกล้เคียง ประมาณ 100 คนนำ ได้ร่วมตัวชุมนุมกันที่บริเวณถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย ขาเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อเรียกร้องให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เดินทางมาเจรจากับกลุ่มชาวนาเพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกเหนียวนาปรังตกต่ำเช่นกัน

น้ำอัดลมจี้รัฐหาน้ำตาลถูกให้

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า นายมิ่งขวัญได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเร่งหารือกับผู้ประกอบการน้ำอัดลมและน้ำผลไม้ เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับผลกระทบของผู้ประกอบการจากการที่รัฐบาลได้อนุมัติให้ปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายอีกก.ก.ละ 5.35 บาท ให้รอบด้านและนำมาเสนอให้นายมิ่งขวัญ พิจารณาตัดสินใจต่อไป โดยเบื้องต้นผู้ประกอบการต้องการให้พาณิชย์จัดหาน้ำตาลที่มีราคาถูกเป็นพิเศษเพื่อปรับลดต้นทุน ซึ่งหากพาณิชย์ยอมให้ราคาน้ำอัดลมปรับขึ้นได้เชื่อว่าจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น เนื่องจากแต่ละปีการบริโภคน้ำอัดลมเพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น