“พันธมิตรฯ” ย้ำจุดยืนต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 หากไม่มีการลงประชามติถามประชาชนก่อน เตือนรัฐบาลหุ่นเชิดหยุดสร้างเงื่อนไขรัฐประหาร ชี้กำลังก่อวิกฤตชาติทั้งต่อเศรษฐกิจ สังคม และอธิปไตย เลวร้ายพอกับยุคเสียกรุงครั้งที่ 2 “สนธิ” ระบุถ้าแก้ไขรธน.สำเร็จ เป้าหมายต่อไปคือ แก้ไขหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ แฉคนชั่ว!! ยกอธิปไตยเขาพระวิหารแลกสัมปทานแหล่งแก๊ส แต่ความทุกข์ของประชาชนกลับไม่เหลียวแล "พล.อ.บุญสร้าง"ไม่ยอมใครพาดพิงเบื้องสูง ด้านอภิสิทธิ์เตรียมข้อมูลถอดถอนเจ๊เพ็ญ เจ้าตัวโบ้ยสื่อแปลผิด
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อันประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ,นายพิภพ ธงไชย ,นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ,นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล รวมทั้งตัวแทนเครือข่าย เช่น นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาชนภาคอีสาน และนายวีระ สมความคิด จากเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน ได้ร่วมกันหารือเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งหลังการหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงได้ร่วมกันแถลงข่าว
นายพิภพ ธงไชย ได้ขยายความถึงเงื่อนไขการปฏิวัติของรัฐบาลในแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ ข้อที่ 2 โดยย้ำจุดยืนของพันธมิตรฯในการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลเคารพการให้สิทธิเสรีภาพของสื่อตามกฎหมาย อย่าเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีบางคนเอื้อประโยชน์ให้แก่บางบริษัท และใช้สื่อโดยมีเป้าหมายเพื่อยึดรัฐยึดประเทศ
แก้รธน.หวังผลสถาบันชาติ
นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวชัดเจนว่า ตั้งแต่หลัง 19 กันยายน พ.ศ.2549 เป็นต้นมา มีกระบวการเว็บไซต์ที่เกิดขึ้น ซึ่งโจมตีสถาบันกษัตริย์อย่างหนักหน่วง นอกจากนี้ยังมีนิตยสาร อย่างเช่น นิตยสารฟ้าเดียวกัน พิมพ์ออกมา ที่น่าสนใจก็คือว่า ผู้ที่ให้การสนับสนุนนิตยสารฟ้าเดียวกันนั้น นามสกุลจึงรุ่งเรืองกิจ และนิตยสารฉบับนี้ ฉบับหลังสุด มีเรื่องราวซึ่งฟังดูแล้วไม่น่าที่จะเป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นในขณะนี้ มีการเอาตัวอย่างว่างบประมาณที่ใช้จ่ายในการทำพระศพของสมเด็จพระพี่นางฯ 300 ล้านบาท ว่าเงิน 300 ล้านบาทนั้น ช่วยให้เด็กได้เรียนหนังสือเพิ่มได้กี่คน ช่วยให้คนมีสวัสดิการอะไรได้กี่คน คือพูดง่ายๆ ว่ากำลังละลายเงิน 300 ล้านบาท เพียงเพื่อทำพระศพ ในขณะซึ่งน่าจะเอาเงิน 300 ล้านบาทนั้น มาให้ประชาชน ซึ่งฟังดูตรรกะดูเหมือนจะถูก แต่เป็นตรรกะที่ผิด เพราะว่าถ้าอย่างนั้นแล้ว ทำไมเขาไม่ถามต่อว่า การซึ่งเจ้านายเขา คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เลี่ยงภาษีที่ขายหุ้น 73,000 ล้าน ภาษีที่ควรจะจ่ายให้แก่ประเทศชาติหมื่นกว่าล้านนั้น สามารถจะให้เด็กไปเรียนหนังสือได้กี่คนบ้าง เพราะฉะนั้นคนพวกนี้จะใช้ตรรกะที่เข้าข้างตัวเอง
ขณะที่ มีรูป 2 รูปคู่กัน รูปอันหนึ่งก็บอกว่าเป็นประชาชนที่ถูกจับขังเข้าคุก โดยเขียนบอกว่า คนพวกนี้บุกรุกป่า ต้องติดคุก อีกรูปหนึ่งกลายเป็นรูปที่ไปโค่นไม้จันทน์หอมเพื่อทำบรรจุพระศพของสมเด็จพระพี่นางฯ
" ลักษณะแบบนี้ เป็นลักษณะที่ถูกจัดตั้งมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเว็บไฮ-ทักษิณ ที่ถูกปิด ทั้งหมดนี้ที่เกิดขึ้นถ้าไม่ใช่เพราะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ชี้แจง เปิดโปงเรื่องพวกนี้ ก็จะไม่มีการที่จะรู้ตัว ตอนนี้คนพวกนี้เริ่มรู้ตัว เริ่มมีกระบวนการฆ่าตัดตอน คือ พยายามจะตัดนายจักรภพ เพ็ญแข ออกไป คุณจักรภพ เพ็ญแข จะเป็นคนซึ่งพาทุกคนไปตายหมู่"นายสนธิกล่าว และถามถึงสปิริตผู้บริหารในรัฐบาลชุดนี้ว่า
ทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะรมว.กระทรวงมหาไทย นายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีและดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสุวิทย์ คุณกิตติ ถามถึงภรรยาของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ถามถึงภรรยาของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน หรือบรรดารัฐมนตรีทั้งหลาย นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.ที่มาจาก จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นรมช.กระทรวงมหาดไทยว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ พวกนี้จะไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น หรือว่าให้มีการดำเนินการเพื่อหยุดยั้งการกระทำเช่นนี้หรือ หรือว่าได้แต่นั่งเฉยๆ
" วันนี้เรามาถึงจุดสุดท้ายของโค้งของบ้านของเมือง ก็คือว่า เราเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือเปล่า ถ้าพวกคุณนั่งเฉยๆ ไม่พูดจา ไม่ทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ก็แสดงว่าพวกคุณไม่เชื่อมั่นใช่ไหม ถ้าไม่เชื่อมั่น ขอความกรุณาแสดงตัวออกมา เพราะว่าผมและประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศกว่า 90 % เชื่อมั่นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเมื่อมีกระบวนการที่กล่าวโจมตีพระมหากษัตริย์ตลอดเวลา แล้วฝ่ายตรงกันข้ามชอบพูดคำที่ว่า พวกเราดึงฟ้ามาต่ำ ก็เพราะว่าพวกนี้ขุดหลุมพรางกับดักเอาไว้ ว่าอย่าดึงฟ้ามาต่ำนะ แต่พวกเขาก็จาบจ้วงตลอดเวลา และขยายวงเหมือนไวรัสเชื้อหวัด ที่คนเริ่มเห็นมากขึ้นๆ"
นายสนธิกล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการแก้รัฐธรรมนูญที่มีเจตนารมณ์นอกจากไม่บริสุทธิ์แล้ว สามารถจะฟันธงได้เลยว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ เมื่อผ่านไปแล้วจะต้องมีการแก้หมวดกษัตริย์อีกต่อไป เหตุผลก็เพราะว่ามีการกระทำที่เป็นประจักษ์พยาน และเป็นสิ่งแวดล้อมที่เชื่อได้ว่า เมื่อเขาสามารถจะดำเนินการโจมตีสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยในสังคมไทยแล้ว ในโอกาสที่เขาสามารถจะแก้หมวด 1 หมวด 2 หมวด 3 ย่อมแก้ได้ เพราะขณะนี้เขาก็เริ่มที่จะแก้แล้ว ก็คือ หมวดศาสนา ที่จะบรรจุศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ เห็นได้ชัด อีกหน่อยก็ต่อไปด้วยสถาบันกษัตริย์ นี้คือ จุดเริ่มต้นของการล้มสถาบันกษัตริย์ และค่อนข้างจะแน่นอน
" หากเราจะอุปมาอุปไมยเหมือนเมฆฝน เรานั่งดูอยู่ดีๆ คุณสนธิ ฝนยังไม่ตก ทำไมคุณสนธิรู้ ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ก็เพราะว่าเมฆมันครึ้มไปหมดแล้วไง อากาศมันเย็นแล้ว ตรงนั้นมันดำปึ้ด เดี๋ยวฝนก็ตก เช่นกัน เจตนารมณ์ของการหมิ่น เจตนารมณ์ของการจาบจ้วง เจตนารมณ์ของการทำลาย เจตนารมณ์ของการให้เด็กไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี เจตนารมณ์ให้พวกบรรดาอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งไม่กล้าพอที่จะแสดงออกว่าตัวเองนั้นไม่ต้องการสถาบันกษัตริย์ แต่เอามาอ้างสิทธิเสรีภาพ จัดสัมมนาแล้วมากล่าวหา ว่าผมและเครือสื่อผู้จัดการ และตลอดจนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น กำลังจะสร้างเหตุการณ์ 6 ตุลา เกิดขึ้น กระทำตนเหมือนหนังสือพิมพ์ดาวสยาม "นายสนธิกล่าว
ชั่ว!!ยกอธิปไตยเขาพระวิหารแลกสัมปทานแก๊ส
นายสนธิกล่าวว่า เรื่องสำคัญที่ 2 ที่ต้องย้ำในครั้งนี้ว่า มีรัฐมนตรีของประเทศเขมรออกมายืนยันแน่ชัด ได้มีการผสมผสานเรื่องสิทธิเขาพระวิหาร กับสิทธิของการที่จะให้สัมปทานในเรื่องหลุมแก๊สธรรมชาติ เราคิดไม่ถึง คิดไม่ถึงจริงๆ จะมีคนที่ใจชั่ว ที่พร้อมที่จะยกอธิปไตยของเขาพระวิหาร โดยใช้ลูกน้องบริวารของตัวเอง หลับตาข้างหนึ่ง ไม่ให้ไทยไปทวงสิทธิ์ในเรื่องเขาพระวิหาร เพื่อให้เขาพระวิหารตกเป็นฝ่ายเขมร เพื่อให้ตัวเองจะได้สัมปทาน
" คิดไม่ถึง วันนี้สังคมไทยมาถึงยุคนี้แล้ว สังคมไทยวันนี้ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว มันถึงกาลแก่การพินาศฉิบหาย มันถึงยุคซึ่งผมเรียนให้ทราบและแถลงการณ์พิสูจน์ชัดว่า ถ้ามีการปฏิวัติรัฐประหาร เป็นการกระทำและเป็นการก่อเหตุของพวกพรรคพลังประชาชน พวกคุณทักษิณ ของคุณสมัคร สุนทรเวชทั้งสิ้น ไม่ใช่เกิดจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
ไม่เหลียวแลความทุกข์ประชาชน
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ได้กล่าวถึงเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจว่า เวลานี้ได้เกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า แต่การปรับค่าแรงของผู้ใช้แรงงานมีเพียงเล็กน้อยไม่พอกับค่าใช้จ่าย ขณะที่น้ำมันวันนี้ขึ้นมาอีก 80 สตางค์ ทุกอย่างขึ้น น้ำตาลขึ้นหมด ค่าแรงได้มา 9 บาท ข้าวราดแกงวันนี้จานละ 5 บาท กินวันละ 2 จาน มื้อละ 2 จาน 3 มื้อ ขึ้นไป 30 บาท ได้มา 9 บาท บางจังหวัดได้ 2 บาทซึ่งมันไม่พอ ส่วนชาวนาก็ขายข้าวไม่ได้ราคาจนเกิดการชุมนุมไปทั่ว ซึ่งพันธมิตรฯ สนับสนุนการเคลื่อนไหว เพราะถือว่าเป็นสิทธิ และถือว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ เพราะล้มเหลวในทุกด้าน
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงเรื่องวิกฤตน้ำมันว่า รัฐบาลไม่ได้บริหารอะไรเลย มักโทษแต่เรื่องราคาน้ำมันโลก พร้อมชี้ว่าเวลานี้ถือว่าเป็นโครงสร้างราคาที่ผิดปกติ ราคาไม่นิ่งทำให้ผู้ประกอบการเกิดความเดือดร้อนไปทั่ว
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวถึงวิกฤตของเกษตรกรว่า รัฐบาลไม่ได้บริหาร เอาแต่ฟังคำสั่งจากนายใหญ่ จนไม่สามารถเอาชนะวิกฤตของชาติในทุกด้านได้ เกษตรกรเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า
“รัฐบาลชุดนี้ได้สร้างวิกฤตครั้งที่ 2 ซึ่งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองเป็นต้นมา มีการวิกฤตด้านอธิปไตยเลวร้ายยิ่งกว่าต้องออกไปเสียอีก” นายสมเกียรติระบุ
รบ.อย่าสร้างเงื่อนไข"ปฎิวัติ"
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงการปฏิวัติโดยยืนยันว่า เมืองไทยถ้ามีข่าวลือเรื่องปฏิวัติคนจะเชื่อเพราะองค์กรต่างๆ ยังไม่เข้มแข็ง อย่างไรก็ดี ทหารต้องแบกภาระในเรื่องของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่จะต้องป้องกันไม่ให้ถูกทำลายหรือถูกกระทำ พร้อมทั้งย้ำว่าว่าเวลานี้เงื่อนไขการปฏิวัติมีมากกว่าก่อนเหตุการณ์วันที่ 19 กันยายน 2549 เสียอีก
“เชื่อว่าทหารไม่อยากปฏิวัติเพราะมีความเสี่ยง แต่กลับมีภาระมากกว่าประชาชน เพราะทหารมีภาระในการรักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่ทหารเขาต้องทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา 70 ปี 2550 ดังนั้น รัฐบาลต้องหยุดสร้างเงื่อนไข” พล.ต.จำลอง ระบุ และว่า พันธมิตรฯ ยังย้ำจุดยืนเดิมคือการต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 แต่หากจะมีการแก้ไขก็ต้องถามประชาชนก่อน ดังนั้น ถ้ามีการยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะยื่นถอดถอน ส.ส.แล้วกำหนดการชุมนุมใหญ่ในทันที
ท้า"จักรภพ"นำสุนทรพจน์ออกอาการNBT
นายสนธิกล่าวท้านายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า เราแปลผิด นายจักรภพก็ช่วยนำสุนทรพจน์ที่ได้กล่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ที่เป็นภาษาอังกฤษ ให้ออกช่อง NBT ที่เข้าไปครอบงำให้ดูหน่อยได้ไหม เพื่อให้คนไทยทั่วประเทศที่เขาฟังภาษาอังกฤษ ดู รู้พอสมควร ให้เขาฟังสักหน่อยว่าสรุปแล้วเขาแปลผิดหรือเปล่า เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ทหารฮึม"เพ็ญ"พาดพิงสถาบัน
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. กล่าวถึงกรณีที่นายจักรภพ เพ็ญแข กล่าวพาดพิงสถาบันผ่านสื่อต่างประเทศว่า ตนไม่รู้รายละเอียด แต่คนไทยทุกคนฟังดูจะรู้ ทั้งนี้ กองทัพมีการติดตามข่าว และเฝ้าฟังอยู่ตลอด ซึ่งคงจะต้องมีมาตรการออกมา แต่โดยมากแล้ว เป็นเรื่องของการเมืองที่ผู้รับผิดชอบจะต้องดูแลว่า จะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร
" รัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบดูแลสิ่งเหล่านี้ทั้งในและต่างประเทศ เพราะสถาบันเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความเคารพบูชา ส่วนทหารมีความจงรักภักดีต่อสถาบันอยู่แล้ว จะคอยเฝ้าดู และเฝ้าฟัง อย่างไรก็ตาม คนไทยทุกคนจะต้องรับฟังและแสดงเจตจำนง เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน"
เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองมีการพาดพิงสถาบัน ตลอดจนกลุ่มพันธมิตรฯที่เตรียมจะออกมาชุมนุมต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะส่งผลให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ปัญหาก็มีอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าจะรุนแรงแค่ไหน แต่เป็นธรรมดาของปัญหาโลก เมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ไขกันไป เพื่อให้ประเทศนำไปสู่ความเรียบร้อย แต่สิ่งสำคัญคือ ไม่ควรสร้างปัญหาขึ้นมา
เมื่อถามว่า ดูจากการทำงานของรัฐบาล คิดว่าจะสามารถนำพาประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า อยู่ที่รัฐบาลว่า จะทำประโยชน์อะไรให้แก่ประชาชน ตนเป็นเพียงประชาชนคนหนึ่ง พูดไปคงไม่สะท้อนความเห็นของคนไทยทั้งหมด แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะทำประโยชน์ให้แก่ประชาชนอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ กองทัพคงไม่มีการประชุมเพื่อเสนอแนะอะไรต่อรัฐบาล เพราะทุกคนต่างรู้หน้าที่ และทำหน้าที่ของตนเองได้
รัฐบาลเงายื่นเรื่องถอดถอน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่านค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นถอดถอนรัฐมนตรีที่ดำเนินการขัดต่อกฎหมายว่า ในการยื่นถอดถอนนายจักรภพ เพ็ญแข นั้น ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ซึ่งมีประเด็นในการประกอบข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ด้วย เช่น สิ่งที่บ่งบอกถึงแนวความคิดของนายจักรภพจากการไปบรรยายในที่อื่นๆด้วย ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกัน แต่ตนยังไม่มีเวลาที่จะฟังทั้งหมด เพราะมีความยาวประมาณ 2ชั่วโมง มีการพูดเป็นภาษาไทย
โบ้ยสื่อแปลผิด
ด้านนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สื่อลงคำแปลภาษาไทยหลังจากที่เคยไปบรรยายที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศและมีการระบุบางถ้อยคำที่หมิ่นเหม่ต่อสถาบันว่า เรื่องนี้จะไม่บานปลาย หากแปลอย่างเป็นทางการ ซึ่งคำแปลที่มีคำหยาบคายในนั้น ตนไม่ได้พูดเลย
เมื่อถามว่าเรื่องนี้สร้างความกังวลที่อาจโดนปรับออกจากครม.หรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า " อยู่หรือไปไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญ มันอยู่ที่วิจารณญาณของนายกฯที่เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง "
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อันประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ,นายพิภพ ธงไชย ,นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ,นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล รวมทั้งตัวแทนเครือข่าย เช่น นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาชนภาคอีสาน และนายวีระ สมความคิด จากเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน ได้ร่วมกันหารือเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งหลังการหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงได้ร่วมกันแถลงข่าว
นายพิภพ ธงไชย ได้ขยายความถึงเงื่อนไขการปฏิวัติของรัฐบาลในแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ ข้อที่ 2 โดยย้ำจุดยืนของพันธมิตรฯในการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลเคารพการให้สิทธิเสรีภาพของสื่อตามกฎหมาย อย่าเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีบางคนเอื้อประโยชน์ให้แก่บางบริษัท และใช้สื่อโดยมีเป้าหมายเพื่อยึดรัฐยึดประเทศ
แก้รธน.หวังผลสถาบันชาติ
นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวชัดเจนว่า ตั้งแต่หลัง 19 กันยายน พ.ศ.2549 เป็นต้นมา มีกระบวการเว็บไซต์ที่เกิดขึ้น ซึ่งโจมตีสถาบันกษัตริย์อย่างหนักหน่วง นอกจากนี้ยังมีนิตยสาร อย่างเช่น นิตยสารฟ้าเดียวกัน พิมพ์ออกมา ที่น่าสนใจก็คือว่า ผู้ที่ให้การสนับสนุนนิตยสารฟ้าเดียวกันนั้น นามสกุลจึงรุ่งเรืองกิจ และนิตยสารฉบับนี้ ฉบับหลังสุด มีเรื่องราวซึ่งฟังดูแล้วไม่น่าที่จะเป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นในขณะนี้ มีการเอาตัวอย่างว่างบประมาณที่ใช้จ่ายในการทำพระศพของสมเด็จพระพี่นางฯ 300 ล้านบาท ว่าเงิน 300 ล้านบาทนั้น ช่วยให้เด็กได้เรียนหนังสือเพิ่มได้กี่คน ช่วยให้คนมีสวัสดิการอะไรได้กี่คน คือพูดง่ายๆ ว่ากำลังละลายเงิน 300 ล้านบาท เพียงเพื่อทำพระศพ ในขณะซึ่งน่าจะเอาเงิน 300 ล้านบาทนั้น มาให้ประชาชน ซึ่งฟังดูตรรกะดูเหมือนจะถูก แต่เป็นตรรกะที่ผิด เพราะว่าถ้าอย่างนั้นแล้ว ทำไมเขาไม่ถามต่อว่า การซึ่งเจ้านายเขา คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เลี่ยงภาษีที่ขายหุ้น 73,000 ล้าน ภาษีที่ควรจะจ่ายให้แก่ประเทศชาติหมื่นกว่าล้านนั้น สามารถจะให้เด็กไปเรียนหนังสือได้กี่คนบ้าง เพราะฉะนั้นคนพวกนี้จะใช้ตรรกะที่เข้าข้างตัวเอง
ขณะที่ มีรูป 2 รูปคู่กัน รูปอันหนึ่งก็บอกว่าเป็นประชาชนที่ถูกจับขังเข้าคุก โดยเขียนบอกว่า คนพวกนี้บุกรุกป่า ต้องติดคุก อีกรูปหนึ่งกลายเป็นรูปที่ไปโค่นไม้จันทน์หอมเพื่อทำบรรจุพระศพของสมเด็จพระพี่นางฯ
" ลักษณะแบบนี้ เป็นลักษณะที่ถูกจัดตั้งมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเว็บไฮ-ทักษิณ ที่ถูกปิด ทั้งหมดนี้ที่เกิดขึ้นถ้าไม่ใช่เพราะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ชี้แจง เปิดโปงเรื่องพวกนี้ ก็จะไม่มีการที่จะรู้ตัว ตอนนี้คนพวกนี้เริ่มรู้ตัว เริ่มมีกระบวนการฆ่าตัดตอน คือ พยายามจะตัดนายจักรภพ เพ็ญแข ออกไป คุณจักรภพ เพ็ญแข จะเป็นคนซึ่งพาทุกคนไปตายหมู่"นายสนธิกล่าว และถามถึงสปิริตผู้บริหารในรัฐบาลชุดนี้ว่า
ทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะรมว.กระทรวงมหาไทย นายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีและดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสุวิทย์ คุณกิตติ ถามถึงภรรยาของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ถามถึงภรรยาของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน หรือบรรดารัฐมนตรีทั้งหลาย นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.ที่มาจาก จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นรมช.กระทรวงมหาดไทยว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ พวกนี้จะไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น หรือว่าให้มีการดำเนินการเพื่อหยุดยั้งการกระทำเช่นนี้หรือ หรือว่าได้แต่นั่งเฉยๆ
" วันนี้เรามาถึงจุดสุดท้ายของโค้งของบ้านของเมือง ก็คือว่า เราเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือเปล่า ถ้าพวกคุณนั่งเฉยๆ ไม่พูดจา ไม่ทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ก็แสดงว่าพวกคุณไม่เชื่อมั่นใช่ไหม ถ้าไม่เชื่อมั่น ขอความกรุณาแสดงตัวออกมา เพราะว่าผมและประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศกว่า 90 % เชื่อมั่นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเมื่อมีกระบวนการที่กล่าวโจมตีพระมหากษัตริย์ตลอดเวลา แล้วฝ่ายตรงกันข้ามชอบพูดคำที่ว่า พวกเราดึงฟ้ามาต่ำ ก็เพราะว่าพวกนี้ขุดหลุมพรางกับดักเอาไว้ ว่าอย่าดึงฟ้ามาต่ำนะ แต่พวกเขาก็จาบจ้วงตลอดเวลา และขยายวงเหมือนไวรัสเชื้อหวัด ที่คนเริ่มเห็นมากขึ้นๆ"
นายสนธิกล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการแก้รัฐธรรมนูญที่มีเจตนารมณ์นอกจากไม่บริสุทธิ์แล้ว สามารถจะฟันธงได้เลยว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ เมื่อผ่านไปแล้วจะต้องมีการแก้หมวดกษัตริย์อีกต่อไป เหตุผลก็เพราะว่ามีการกระทำที่เป็นประจักษ์พยาน และเป็นสิ่งแวดล้อมที่เชื่อได้ว่า เมื่อเขาสามารถจะดำเนินการโจมตีสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยในสังคมไทยแล้ว ในโอกาสที่เขาสามารถจะแก้หมวด 1 หมวด 2 หมวด 3 ย่อมแก้ได้ เพราะขณะนี้เขาก็เริ่มที่จะแก้แล้ว ก็คือ หมวดศาสนา ที่จะบรรจุศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ เห็นได้ชัด อีกหน่อยก็ต่อไปด้วยสถาบันกษัตริย์ นี้คือ จุดเริ่มต้นของการล้มสถาบันกษัตริย์ และค่อนข้างจะแน่นอน
" หากเราจะอุปมาอุปไมยเหมือนเมฆฝน เรานั่งดูอยู่ดีๆ คุณสนธิ ฝนยังไม่ตก ทำไมคุณสนธิรู้ ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ก็เพราะว่าเมฆมันครึ้มไปหมดแล้วไง อากาศมันเย็นแล้ว ตรงนั้นมันดำปึ้ด เดี๋ยวฝนก็ตก เช่นกัน เจตนารมณ์ของการหมิ่น เจตนารมณ์ของการจาบจ้วง เจตนารมณ์ของการทำลาย เจตนารมณ์ของการให้เด็กไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี เจตนารมณ์ให้พวกบรรดาอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งไม่กล้าพอที่จะแสดงออกว่าตัวเองนั้นไม่ต้องการสถาบันกษัตริย์ แต่เอามาอ้างสิทธิเสรีภาพ จัดสัมมนาแล้วมากล่าวหา ว่าผมและเครือสื่อผู้จัดการ และตลอดจนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น กำลังจะสร้างเหตุการณ์ 6 ตุลา เกิดขึ้น กระทำตนเหมือนหนังสือพิมพ์ดาวสยาม "นายสนธิกล่าว
ชั่ว!!ยกอธิปไตยเขาพระวิหารแลกสัมปทานแก๊ส
นายสนธิกล่าวว่า เรื่องสำคัญที่ 2 ที่ต้องย้ำในครั้งนี้ว่า มีรัฐมนตรีของประเทศเขมรออกมายืนยันแน่ชัด ได้มีการผสมผสานเรื่องสิทธิเขาพระวิหาร กับสิทธิของการที่จะให้สัมปทานในเรื่องหลุมแก๊สธรรมชาติ เราคิดไม่ถึง คิดไม่ถึงจริงๆ จะมีคนที่ใจชั่ว ที่พร้อมที่จะยกอธิปไตยของเขาพระวิหาร โดยใช้ลูกน้องบริวารของตัวเอง หลับตาข้างหนึ่ง ไม่ให้ไทยไปทวงสิทธิ์ในเรื่องเขาพระวิหาร เพื่อให้เขาพระวิหารตกเป็นฝ่ายเขมร เพื่อให้ตัวเองจะได้สัมปทาน
" คิดไม่ถึง วันนี้สังคมไทยมาถึงยุคนี้แล้ว สังคมไทยวันนี้ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว มันถึงกาลแก่การพินาศฉิบหาย มันถึงยุคซึ่งผมเรียนให้ทราบและแถลงการณ์พิสูจน์ชัดว่า ถ้ามีการปฏิวัติรัฐประหาร เป็นการกระทำและเป็นการก่อเหตุของพวกพรรคพลังประชาชน พวกคุณทักษิณ ของคุณสมัคร สุนทรเวชทั้งสิ้น ไม่ใช่เกิดจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
ไม่เหลียวแลความทุกข์ประชาชน
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ได้กล่าวถึงเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจว่า เวลานี้ได้เกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า แต่การปรับค่าแรงของผู้ใช้แรงงานมีเพียงเล็กน้อยไม่พอกับค่าใช้จ่าย ขณะที่น้ำมันวันนี้ขึ้นมาอีก 80 สตางค์ ทุกอย่างขึ้น น้ำตาลขึ้นหมด ค่าแรงได้มา 9 บาท ข้าวราดแกงวันนี้จานละ 5 บาท กินวันละ 2 จาน มื้อละ 2 จาน 3 มื้อ ขึ้นไป 30 บาท ได้มา 9 บาท บางจังหวัดได้ 2 บาทซึ่งมันไม่พอ ส่วนชาวนาก็ขายข้าวไม่ได้ราคาจนเกิดการชุมนุมไปทั่ว ซึ่งพันธมิตรฯ สนับสนุนการเคลื่อนไหว เพราะถือว่าเป็นสิทธิ และถือว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ เพราะล้มเหลวในทุกด้าน
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงเรื่องวิกฤตน้ำมันว่า รัฐบาลไม่ได้บริหารอะไรเลย มักโทษแต่เรื่องราคาน้ำมันโลก พร้อมชี้ว่าเวลานี้ถือว่าเป็นโครงสร้างราคาที่ผิดปกติ ราคาไม่นิ่งทำให้ผู้ประกอบการเกิดความเดือดร้อนไปทั่ว
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวถึงวิกฤตของเกษตรกรว่า รัฐบาลไม่ได้บริหาร เอาแต่ฟังคำสั่งจากนายใหญ่ จนไม่สามารถเอาชนะวิกฤตของชาติในทุกด้านได้ เกษตรกรเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า
“รัฐบาลชุดนี้ได้สร้างวิกฤตครั้งที่ 2 ซึ่งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองเป็นต้นมา มีการวิกฤตด้านอธิปไตยเลวร้ายยิ่งกว่าต้องออกไปเสียอีก” นายสมเกียรติระบุ
รบ.อย่าสร้างเงื่อนไข"ปฎิวัติ"
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงการปฏิวัติโดยยืนยันว่า เมืองไทยถ้ามีข่าวลือเรื่องปฏิวัติคนจะเชื่อเพราะองค์กรต่างๆ ยังไม่เข้มแข็ง อย่างไรก็ดี ทหารต้องแบกภาระในเรื่องของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่จะต้องป้องกันไม่ให้ถูกทำลายหรือถูกกระทำ พร้อมทั้งย้ำว่าว่าเวลานี้เงื่อนไขการปฏิวัติมีมากกว่าก่อนเหตุการณ์วันที่ 19 กันยายน 2549 เสียอีก
“เชื่อว่าทหารไม่อยากปฏิวัติเพราะมีความเสี่ยง แต่กลับมีภาระมากกว่าประชาชน เพราะทหารมีภาระในการรักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่ทหารเขาต้องทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา 70 ปี 2550 ดังนั้น รัฐบาลต้องหยุดสร้างเงื่อนไข” พล.ต.จำลอง ระบุ และว่า พันธมิตรฯ ยังย้ำจุดยืนเดิมคือการต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 แต่หากจะมีการแก้ไขก็ต้องถามประชาชนก่อน ดังนั้น ถ้ามีการยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะยื่นถอดถอน ส.ส.แล้วกำหนดการชุมนุมใหญ่ในทันที
ท้า"จักรภพ"นำสุนทรพจน์ออกอาการNBT
นายสนธิกล่าวท้านายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า เราแปลผิด นายจักรภพก็ช่วยนำสุนทรพจน์ที่ได้กล่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ที่เป็นภาษาอังกฤษ ให้ออกช่อง NBT ที่เข้าไปครอบงำให้ดูหน่อยได้ไหม เพื่อให้คนไทยทั่วประเทศที่เขาฟังภาษาอังกฤษ ดู รู้พอสมควร ให้เขาฟังสักหน่อยว่าสรุปแล้วเขาแปลผิดหรือเปล่า เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ทหารฮึม"เพ็ญ"พาดพิงสถาบัน
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. กล่าวถึงกรณีที่นายจักรภพ เพ็ญแข กล่าวพาดพิงสถาบันผ่านสื่อต่างประเทศว่า ตนไม่รู้รายละเอียด แต่คนไทยทุกคนฟังดูจะรู้ ทั้งนี้ กองทัพมีการติดตามข่าว และเฝ้าฟังอยู่ตลอด ซึ่งคงจะต้องมีมาตรการออกมา แต่โดยมากแล้ว เป็นเรื่องของการเมืองที่ผู้รับผิดชอบจะต้องดูแลว่า จะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร
" รัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบดูแลสิ่งเหล่านี้ทั้งในและต่างประเทศ เพราะสถาบันเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความเคารพบูชา ส่วนทหารมีความจงรักภักดีต่อสถาบันอยู่แล้ว จะคอยเฝ้าดู และเฝ้าฟัง อย่างไรก็ตาม คนไทยทุกคนจะต้องรับฟังและแสดงเจตจำนง เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน"
เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองมีการพาดพิงสถาบัน ตลอดจนกลุ่มพันธมิตรฯที่เตรียมจะออกมาชุมนุมต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะส่งผลให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ปัญหาก็มีอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าจะรุนแรงแค่ไหน แต่เป็นธรรมดาของปัญหาโลก เมื่อมีปัญหาก็ต้องแก้ไขกันไป เพื่อให้ประเทศนำไปสู่ความเรียบร้อย แต่สิ่งสำคัญคือ ไม่ควรสร้างปัญหาขึ้นมา
เมื่อถามว่า ดูจากการทำงานของรัฐบาล คิดว่าจะสามารถนำพาประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า อยู่ที่รัฐบาลว่า จะทำประโยชน์อะไรให้แก่ประชาชน ตนเป็นเพียงประชาชนคนหนึ่ง พูดไปคงไม่สะท้อนความเห็นของคนไทยทั้งหมด แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะทำประโยชน์ให้แก่ประชาชนอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ กองทัพคงไม่มีการประชุมเพื่อเสนอแนะอะไรต่อรัฐบาล เพราะทุกคนต่างรู้หน้าที่ และทำหน้าที่ของตนเองได้
รัฐบาลเงายื่นเรื่องถอดถอน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่านค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นถอดถอนรัฐมนตรีที่ดำเนินการขัดต่อกฎหมายว่า ในการยื่นถอดถอนนายจักรภพ เพ็ญแข นั้น ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ซึ่งมีประเด็นในการประกอบข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ด้วย เช่น สิ่งที่บ่งบอกถึงแนวความคิดของนายจักรภพจากการไปบรรยายในที่อื่นๆด้วย ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกัน แต่ตนยังไม่มีเวลาที่จะฟังทั้งหมด เพราะมีความยาวประมาณ 2ชั่วโมง มีการพูดเป็นภาษาไทย
โบ้ยสื่อแปลผิด
ด้านนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สื่อลงคำแปลภาษาไทยหลังจากที่เคยไปบรรยายที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศและมีการระบุบางถ้อยคำที่หมิ่นเหม่ต่อสถาบันว่า เรื่องนี้จะไม่บานปลาย หากแปลอย่างเป็นทางการ ซึ่งคำแปลที่มีคำหยาบคายในนั้น ตนไม่ได้พูดเลย
เมื่อถามว่าเรื่องนี้สร้างความกังวลที่อาจโดนปรับออกจากครม.หรือไม่ นายจักรภพกล่าวว่า " อยู่หรือไปไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญ มันอยู่ที่วิจารณญาณของนายกฯที่เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง "