เครือข่ายประชาชนบุรีรัมย์ยื่นร้องประธาน กกต.ใช้อำนาจตาม ม.236(4) ให้ “เกษม วัฒนธรรม” ทำหน้าที่ประธาน กกต.บุรีรัมย์ต่อ หลังถูกพิษการเมืองเด้งไปนครนายก ระบุเพื่อให้สะสางคดีทุจริตเลือกตั้งใน “ชิดชอบบุรี” ให้แล้วเสร็จก่อน
เวลาประมาณ 10.00-11.00 น.วันนี้ (12 พ.ค.) ตัวแทนเครือข่ายการเมืองของพลเมืองบุรีรัมย์ จะเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องต่อนายอภิชาติ สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 236 (4) ปกป้องการโยกย้าย นายเกษม วัฒนธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ไปเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เพื่อให้นายเกษมสามารถทำหน้าที่ประธาน กกต.บุรีรัมย์ ต่อไปจนกว่า กกต.หรือศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง จะพิจารณาคดีเลือกตั้งในความรับผิดของนายเกษมแล้วเสร็จ
ร่างหนังสือของเครือข่ายการเมืองของพลเมืองบุรีรัมย์ ลงนามโดย ดร.กฤช อุปจันแพงวงศ์ ประธานเครือข่ายการเมืองของพลเมืองบุรีรัมย์ ที่จะยื่นต่อประธาน กกต.ระบุว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งโยกย้ายนายเกษมไปเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก อันเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าอาจเกิดจากการผลักดันโดยนักการเมืองที่มีส่วนได้ส่วนเสียในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เนื่องจากนายเกษมได้สรุปผลการสอบสวนจนมีการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดบุรีรัมย์ ของพรรคพลังประชาชนหลายราย ประการสำคัญ คือ ได้เสนอความเห็นให้มีการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น กรณีอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ดังนั้น เครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดบุรีรัมย์ตามรายนามแนบท้าย ได้เห็นพ้องกันว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง ควรใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 236 (4) และวรรคสาม แต่งตั้ง นายเกษม วัฒนธรรม ให้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ จนกว่าการพิจารณาสำนวนคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งของจังหวัดบุรีรัมย์ในความรับผิดชอบทั้งหมด ได้ข้อยุติจากคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตามแต่กรณี ทั้งนี้ เพื่อสร้างเสริมความโปร่งใสและความมั่นใจแก่ประชาชนว่ากระบวนการควบคุมตรวจสอบการเลือกตั้งทุกระดับของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสุจริต และเที่ยงธรรม ตลอดจนเป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้เป็นที่ประจักษ์ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งมีกลไกป้องกันและถ่วงดุลการแทรกแซงจากอำนาจทางการเมืองตามบทบัญญัติและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ สุจริตยุติธรรม เป็นแบบอย่างที่ดีต่อระบบราชการ และเป็นการสร้างสรรค์หลักธรรมาภิบาลของประเทศชาติสืบไป
สำหรับองค์กรเครือข่ายภาคประชาชนที่ร่วมลงนามให้ปกป้องการโยกย้ายนายเกษมครั้งนี้ ประกอบด้วย เครือข่ายการเมืองของพลเมืองบุรีรัมย์ องค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ จ.บุรีรัมย์ เครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) บุรีรัมย์ สมัชชาประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์