xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายฯ บุรีรัมย์จี้เชือดนักการเมืองลุแก่อำนาจ-ย้าย ขรก.ไม่ชอบธรรม/ขัด “รธน.”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เครือข่ายพลเมืองบุรีรัมย์ สุดทน ออกแถลงการณ์ต่อต้านโยกย้าย ขรก.อย่างไม่ชอบธรรม และขัดต่อรัฐธรรมนูญ แฉหยิบเบื้องหลัง “อำนาจมืด” และอิทธิพลกลุ่มนักการเมืองใหญ่ “ชิดชอบบุรี” เด้ง “พ.ต.อ.สังวรณ์” แล้วย้าย “นายตำรวจผู้ใกล้ชิด” มารับตำแหน่งแทน เชื่อ “ประธาน กกต.-ผู้การฯสมหมาย” เหยื่อรายต่อไป จี้เชือดนักการเมืองลุแก่อำนาจย้าย ขรก.โดยมิชอบและขัด รธน.พร้อมเรียกร้องเลือก “ประธานวุฒิสภา” ต้องปลอดอำนาจผลักดันทางการเมือง ลั่นจับมือพันธมิตรฯต่อสู้เพื่อความถูกต้องชอบธรรมอย่างถึงที่สุด เชื่อ “อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด”

วันนี้ (11 มี.ค.) เครือข่ายการเมืองของพลเมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วยสมัชชาประชาชนภาคอีสานจังหวัดบุรีรัมย์, เครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) บุรีรัมย์, เครือข่ายพลังแผ่นดินบุรีรัมย์ และ เครือข่ายประชาชนอีสานใต้ ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ เรื่อง “การโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่ชอบธรรมและขัดต่อรัฐธรรมนูญ”

เนื้อหาแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า ดังที่ประจักษ์ชัดว่า ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน ในการบริหารประเทศโดยรัฐบาลภายใต้การนำของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มิได้คำนึงถึงหลักนิติธรรมในการปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา จึงส่งเสริมให้มีการโยกย้ายข้าราชการที่มีเกียรติประวัติดีงามหลายคน อาทิ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (นายสุนัย มโนมัยอุดม) ,อดีตเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล) และ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส) โดยอ้างเหตุผลต่างกันแต่ล้วนฟังไม่ขึ้นว่า “ไม่มีวาระซ้อนเร้น”

ทั้งนี้ เชื่อว่า การโยกย้ายข้าราชการอย่างลุแก่อำนาจไม่จำกัดวงเฉพาะในส่วนกลางเท่านั้น แต่ได้ขยายวงสู่ภูมิภาคต่างๆ โดยมี จ.บุรีรัมย์ คือ พื้นที่เป้าหมายอันดับต้นๆ ที่อำนาจมืดทางการเมืองต้องการโยกย้ายข้าราชการที่มีผลงานและเกียรติประวัติดีงามออกจากพื้นที่

ดังเห็นได้จากคำสั่งโยกย้าย พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ โดยอ้างเหตุผลเพียงว่า “เพื่อประโยชน์ของทางราชการ” และ ย้าย พ.ต.อ.สมบัติ คงวิบูลย์ อดีตรองผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ที่ใกล้ชิดกับนักการเมืองกลับมารับตำแหน่งเดิม

เป็นที่เชื่อได้ว่า มูลเหตุที่แท้จริงในการโยกย้าย พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตร ออกจากพื้นที่ เพราะว่า ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สังวรณ์ อยู่เบื้องหลังการให้ใบแดงแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน (พปช.) หลายคน ในฐานะ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวนของ จ.บุรีรัมย์ และก่อนนั้นในการออกเสียงประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญ พ.ต.อ.สังวรณ์ ก็อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ของ “บุรีรัมย์โมเดล” (ประชาชนส่วนใหญ่รับร่างรัฐธรรมนูญ)

ประการที่สำคัญ คือ พ.ต.อ.สังวรณ์ ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคดีที่ นายชัย และ นางละออง ชิดชอบ ที่ถูกกล่าวหา ว่า บุกรุกครอบครองที่ดินสาธารณประโยชน์ ใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์

แถลงการณ์ ระบุต่อว่า การโยกย้ายข้าราชการที่มีผลงาน และเกียรติประวัติดีงามใน จ.บุรีรัมย์ คงไม่หยุดเพียงเท่านี้ เครือข่ายการเมืองของพลเมืองบุรรีรัมย์ และประชาชนผู้รักความเป็นธรรมต่างรู้สึกหวาดหวั่นว่าข้าราชการที่จะถูก “อำนาจมืด” แทรกแซงให้โยกย้ายออกจากพื้นที่ในลำดับต่อๆ ไป คือ พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นนายตำรวจที่ไม่ยอมก้มหัวรับใช้ฝ่ายการเมืองโดยมิชอบ และ นายเกษม วัฒนธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้พยายามรื้อฟื้นสะสางคดีบุกรุกครอบครองที่ดินสาธารณะประโยชน์ และ ที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย ของ “ตระกูลชิดชอบ” รวมทั้งแก้ไขพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอกฟ้าจุฬาโลก ร่วมกับกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

นอกจากนี้ ในฐานะประธานกกต.บุรีรัมย์ นายเกษม ได้พิสูจน์ให้สังคมเห็นถึงความเที่ยงธรรมในการกำกับดูแลการเลือกตั้ง โดยการเสนอให้ใบแดงแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของ พรรคพปช.หลายคนอย่างไม่หวั่นเกรงต่ออำนาจมืดและอิทธิพลทางการเมือง

ที่สำคัญ นายเกษม วัฒนธรรม และ พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล อยู่ระหว่างการสรุปเรื่องการร้องเรียนการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ ที่นางกรุณา ชิดชอบ ได้รับการเลือกตั้งที่ผ่านมา

เครือข่ายการเมืองของพลเมืองบุรีรัมย์ ไม่ขอเรียกร้องใดๆ ต่อรัฐบาล ภายใต้การนำของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตีร ด้วยความเชื่อมั่นว่า “อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด” แต่เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้โปรดเร่งตรวจสอบและดำเนินการตามที่ควรจะเป็น ดังกรณีที่อดีตรองประธานกรรมาธิการยกร่งรัฐธรรมนูญ ตั้งข้อสังเกตว่า การโยกย้ายข้าราชการอย่างลุแก่อำนาจที่เกิดขึ้น อาจเข้าข่ายการใช้อำนาจโดยมิชอบของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อันเป็นการขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รวม 5 มาตรา (มาตรา 3, มาตรา 226, มาตรา 270,มาตรา 279 และ มาตรา 64 วรรค 2 )

รวมทั้งในนาม เครือข่ายของภาคประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ ขอเรียกร้องและสนับสนุนการเลือกตั้ง “ตำแหน่งประธานวุฒิสภา” ให้สุจริตโปร่งใส ปลอดจากฐานอำนาจ และ การผลักดันทางการเมืองโดยสิ้นเชิง

ขอยืนยันว่า จะร่วมมือกับองค์กรอิสระ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ข้าราชการ ประชาชนทุกหมู่เหล่า ต่อสู้ให้เกิดความถูกต้องชอบธรรมถึงที่สุด เพื่อผดุงไว้ซึ่งหลักนิติธรรมและธรรมาภิบาลของบ้านเมือง ซึ่งขอเรียนเป็นประการสุดท้ายว่า “หากแก้ปัญหาบุรีรัมย์ไม่ได้ รัฐบาลไม่สามารถแห่ปัญหาของชาติได้” แถลงการณ์ ระบุในตอนท้าย

กำลังโหลดความคิดเห็น