xs
xsm
sm
md
lg

ผลสอบ “พลังแม้ว” นอมินี ทรท.ถึงมือ กกต.สัปดาห์หน้ารู้เรื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อนุฯสอบ พปช.เป็นนอมินี ทรท.ชงความเห็นเสนอ กกต.แล้ว ด้าน ปธ.กกต.ปัดอ้างยังสอบไม่เสร็จ หวั่น กกต.เจอกระแสกดดันถล่ม เพราะเชื่อมโยงคดี “ทั่นยุทธ” ด้านอนุฯสอบ “ยงยุทธ” ปราศรัยหาเสียงกล่าวหากองทัพ เตรียมขึ้นเชียงรายสอบพยานวันพรุ่งนี้

วันนี้ (7 มี.ค.) นายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนกรณี นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน กล่าวหาว่า พรรคพลังประชาชน เป็นนอมินี พรรคไทยรักไทยของ กกต.กล่าวว่า อนุกรรมการได้เสนอผลสรุปต่อ กกต.แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ก.พ.และคาดว่า กกต.จะนำเข้าสู่ที่ประชุมสัปดาห์ที่จะถึงนี้ โดยเหตุที่อนุฯสรุปผลช้า เพราะต้องการความชัดเจน ทำให้ต้องมีการสอบพยานหลายปาก ซึ่งพยานบางปากไม่เดินทางมาให้ปากคำด้วยตนเอง แต่กว่าจะส่งคำให้การมาเป็นเอกสารก็ล่าช้า อย่างไรก็ตาม การสรุปของอนุฯอ้างรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ร.บ.พรรคการเมือง เพราะในกฎหมายไม่มีการบัญญัติความหมายของคำว่า “นอมินี” จึงต้องอาศัยการกระทำเป็นชี้วัด

“ไม่ขอบอกว่า อนุฯมีความเห็นว่าอย่างไร แต่ไม่ใช่เป็นการบอกว่าพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินี พรรคไทยรักไทย หรือไม่ แต่จะเป็นการแปลเจตนาและการกระทำของพรรคพลังประชาชน หัวหน้าพรรค ว่า ผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ เช่น การใช้วีซีดีของอดีตนายกรัฐมนตรี มาสนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัคร รวมถึงการนำเอาคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ ที่พูดระหว่างอยู่ที่ฮ่องกง ว่า หากรักพรรคไทยรักไทยก็ขอให้เลือกพรรคพลังประชาชน มาเผยแพร่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง และนโยบายของพรรคไทยรักไทย ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยสั่งยุบพรรคไปแล้วมาใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงของพรรคพลังประชาชนมาพิจารณาว่าทำได้หรือไม่ และผิดกฎหมายหรือไม่” นายไพฑูรย์ กล่าวว่า เมื่อคณอนุกรรมการ ได้ลงความเห็นแล้วก็ได้มีการปิดผนึกเอกสารสำนวนสรุปที่จะนำส่งให้กับ กกต.พร้อมกับตกลงกันในอนุกรรมการว่า ห้ามเผยแพร่ผลสรุปให้กับบุคคลอื่นทราบ แม้แต่ กกต.ก็ได้ทราบจากเอกสารที่นำเสนอ เนื่องจากเห็นว่าเรื่องนี้มีผลกระทบในหลายด้าน รวมไปถึงกรณีของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร

รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงการเสนอผลสรุปของอนุกรรมการต่อ กกต.กับประธาน กกต.เนื่องจากทราบว่า อนุกรรมการได้มีการสรุปผลเสนอความเห็นมาแล้ว แต่กลับได้รับการยืนยันจากประธาน กกต.ว่า ยังไม่ได้รับผลสรุปดังกล่าวเลย ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวว่า เหตุที่ประธาน กกต.ยังไม่บรรจุเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม กกต.เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา กกต.ได้วินิจฉัยกรณีของ นายยงยุทธ และเกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ กกต.ในลักษณะต่างๆ ค่อนข้างมาก ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาประเทศไทยแล้ว ทำให้ประธาน กกต.รู้สึกว่า หากบรรจุเรื่องดังกล่าวต่อเข้าไปทันที เกรงว่า กระแสกดดันต่างๆ จะยิ่งรุมเร้า กกต.มากขึ้น อาจจมีการชุมนุมประท้วงต่างๆ มากมาย เพราะเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับนายยงยุทธ ด้วย

ด้าน นายถวิล อินทรรักษา ประธานอนุกรรมการสอบสวนกรณี พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตเลขาธิการ คมช.ร้องคัดค้าน นายยงยุทธ กรณีปราศรัยหาเสียงกล่าวพาดพิงกองทัพ กล่าวว่า ในวันนี้ (8 มี.ค.) ตนจะเดินทางไปสอบพยานที่ จ.เชียงราย โดยได้ประสานงานไปที่ กกต.จังหวัดเชียงรายไว้แล้ว คาดว่า จะใช้เวลาดำเนินการไม่นาน สำหรับการสอบพยานครั้งนี้เป็นการสอบถามพยานที่เกี่ยวข้องในอำเภอเมือง อำเภอแม่จัน และอำเภอแม่สาย ทั้งนี้ คาดว่าอนุกรรมการจะทำการสอบสวนพยานฝ่ายที่เป็นทหารในสัปดาห์หน้า

เมื่อถามว่า ข้อเท็จจริงในการกระทำของ นายยงยุทธ จะเข้าองค์ประกอบความผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า ตนขอไม่แสดงความคิดเห็นว่าใครทำผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนอย่างไรก็ตาม การร้องเรียนระบุว่านายยงยุทธกระทำการดังกล่าวในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้น จึงไม่สามารถละเลยที่จะนำข้อเท็จจริงเรื่องช่วงเวลาและจุดประสงค์ในการกระทำการดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาด้วยได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรา 53(5) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.วางหลัก ว่า ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเอง หรือผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองใด หรือให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด โดยหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด
กำลังโหลดความคิดเห็น