“สดศรี” ปัดข่าวเสียงข้างน้อย ชี้ชะตาทั่นยุทธ ขอลอยตัวงดออกเสียง อ้างสอบพยานไม่ครบถ้วน และควรรอผลสรุปกรณีพูดใส่ร้ายกองทัพก่อน เพราะมีความเกี่ยวข้องกัน ด้าน “สมชัย” ชี้ เงินที่ได้จากคนใกล้ชิด ยงยุทธ เอาไปนวด ไม่ได้ไปจ่ายซื้อเสียง
วันนี้ (26 ก.พ.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองกล่าวถึงมติ กกต.ที่มีข่าวว่าเป็นมติ 3:2 นั้น ไม่ถูกต้อง ที่จริงเสียงต้องเป็น 3:1 เนื่องจากตนได้งดออกเสียง เพราะเมื่ออ่านสำนวนแล้ว พบว่า นายยงยุทธ ขอสอบพยานเพิ่มอีกหนึ่งปาก แต่คณะอนุกรรมการกลับไม่ได้สอบพยานปากนี้ รวมทั้ง นายยงยุทธ ก็ขอรวมสำนวนการสอบสวนกับที่ทาง พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช.ได้ยื่นร้องกรณีปราศรัยใส่ร้าย ซึ่งคดีนี้ก็มีความเกี่ยวข้องกัน และอนุกรรมการสอบสวนก็กำลังจะสรุปความเห็นในสัปดาห์หน้านี้ จากเหตุเหล่านี้เอง ตนจึงเห็นว่า ควรสอบพยานให้เสร็จสิ้น และการจะลงโทษใครต้องสอบสวนให้สิ้นกระแสความเสียก่อน แล้วค่อยลงมติ แต่ กกต.คนอื่นไม่เอาด้วยและลงมติเลย
“คดีหลังจากที่ กกต.รับรองผลไปแล้วต้องขึ้นไปที่ศาลฎีกา ไม่ใช่อำนาจแบบเบ็ดเสร็จของ กกต.เหมือนก่อนการประกาศผล ดังนั้น จึงเห็นว่า เราควรทำเหมือนที่อัยการเสนอศาล คือ สอบให้ปราศจากข้อสงสัยมาตลอด แล้วจะให้ใบอะไรก็เป็นอีกเรื่อง และคณะอนุกรรมการชุดที่สอบนี้ก็มีข้อสงสัยมาตลอด มีการปล่อยข่าวทำให้มีผลกระทบอย่างมาก เรื่องนี้สำหรับตัวเองถือว่ายังไม่ลงมติ คนที่ลงมติมี 4 คนเท่านั้น”
ทั้งนี้ เมื่อถามถึง กกต.อีกคนที่เห็นควรให้ยกคำร้อง นางสดศรี ตอบในทันทีว่า เป็น นายสมชัย จึงประเสริฐ
นางสดศรี กล่าวต่อว่า ที่ กกต.คนอื่นให้เหตุผลที่ต้องตัดสิน เนื่องจากกรณีนี้ยาวกว่าเรื่องอื่น และยังได้รับความสนใจ และมีก็ออกข่าวเป็นระยะๆ ซึ่งก็สงสัยว่าทำไมต้องสำคัญกว่าเรื่องอื่น เพราะ นายยงยุทธ ก็เป็น ส.ส.เหมือนคนอื่น
เมื่อถามว่า หากเปิดโอกาสให้ นายยงยุทธ ยื่นขอสอบพยานไปเรื่อยๆ เรื่องก็จะไม่ยุติ นางสดศรี กล่าวว่า การพิจารณาจะลงโทษใคร เราต้องให้โอกาสเขา ศาลกว่าจะพิจารณาเสร็จก็เป็นปี การฟังพยานของศาลจะฟังจนสิ้นกระแสความ เราไม่ใช่ฟังแต่กระแสสังคม และต้องยอมรับว่าตอนนี้สังคมมี 2 กระแส หากเราไปฟังกระแสใด ผลที่ออกมาจะกระทบต่อประชาธิปไตย เพราะการเมืองคือการเมือง ไม่มีว่าความถูกต้องคืออะไร
ส่วนที่ นายยงยุทธ ระบุว่า ขอให้ กกต.ตอบว่า หลังการเลือกตั้ง มี พล.อ.คนหนึ่งไปขอให้ กกต.ลาออกเพื่อให้การเลือกตั้งมีปัญหา และมี พล.อ.อีกคนพยายามเล่าเรื่องให้ กกต.ฟังว่า นายยงยุทธ มีปัญหาจริงหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า “เรื่องนี้คนให้คำตอบดีที่สุด คือ ยงยุทธ สำหรับตัวเองไม่มี แต่กับ กกต.คนอื่นไม่ทราบ การทำงานของ กกต.เป็นอิสระในการใช้ดุลพินิจ เราไม่เคยมานั่งถามกันว่ามีใครมาล็อบบี้หรือไม่
เมื่อถามว่า เหตุผลที่ให้จะเป็นประโยชน์กับ นายยงยุทธ ในชั้นศาลหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นกรรมการ หากต้องเป็นการให้การเพื่อประโยชน์ใคร ก็ไม่ควรทำ
ทั้งนี้ นางสดศรี ยอมรับว่า คณะอนุกรรมการสืบสวนชุดที่มี นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เสนอมานั้น มีมติเสนอให้ กกต.แจกสั่งเพิกถอนสิทธิกับ นายยงยุทธ และ นางละออง ติยะไพรัช ส.ส.เขต 3 เชียงราย พรรคพลังประชาชน ส่วน นายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เขต 3 พรรคพลังประชาชนนั้น คณะอนุกรรมการโดยข้างมากเห็นควรให้เลือกตั้งใหม่ ส่วนเสียงข้างน้อยเห็นควรให้ยกคำร้อง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ 1 เสียงที่เห็นว่าให้ยกคำร้อง มองว่า ข้อเท็จจริงที่ได้จากการสืบสวน ยังฟังไม่ได้ว่าการให้เงินแก่กำนันทั้ง 10 คนนั้น เป็นการซื้อเสียงตามมาตรา 53(1) พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเข้าองค์ประกอบความผิดมาตรา 144 และ 149 ของกฎหมายอาญามากกว่า เนื่องจากฟังได้ว่าเป็นการให้ประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อทำประโยชน์ให้ตนเอง ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ซึ่งผิดทั้ง นายยงยุทธ ที่เป็นผู้ให้ และกำนันทั้ง 10 คนที่เป็นผู้รับ โดยกรณีนี้ใครจะไปร้องต่อศาลก็ได้ ไม่ได้จำกัดว่าผู้ร้องต้องเป็นบุคคลใดคนหนึ่งที่ต้องถูกระบุว่าเป็นผู้เสียหาย และการพิพากษาก็จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาล
ส่วนในการสอบสวนที่ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่ามีการให้เงินระหว่างคนใกล้ชิด นายยงยุทธ กับกำนันทั้ง 10 คนนั้น แต่จากการสอบปากคำกำนันยืนยันเงินดังกล่าวไม่ได้นำไปให้บุคคลอื่นเพื่อที่จะไปจูงใจเพื่อให้ลงคะแนนให้กับ นายยงยุทธ หรือ น.ส.ละออง โดยกำนันบางคนบอกว่านำไปเที่ยวกลางคืน ไปอาบอบนวด จึงถือว่าเข้าลักษณะการจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ไปเที่ยว ไม่ใช่นำไปแจกชาวบ้าน ดังนั้น จากการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงเฉพาะในสำนวนนี้ จึงยังฟังไม่ได้ว่าเป็นการกระทำผิดในการซื้อเสียง อีกทั้งยังไม่สามารถได้เงินหลักฐานที่อ้างว่าเป็นเงินซื้อเสียงมายืนยันด้วย ประกอบกับเหตุการณ์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการสมัครรับเลือกตั้งด้วย
คลิกอ่าน! รายงานพิเศษ : ย้อนรอย “ยงยุทธ”ทุจริตเชียงราย!!
คลิก! เพื่อชมรายการ NEWS HOUR สนทนา “ใบแดงยุทธตู้เย็น” พร้อมภาพวีซีดีหลักฐานซื้อเสียง (56k) | (256K)