“พลังแม้ว” ลอยแพ “ยุทธ” ตั้งแต่ไก่โห่ “เลี้ยบ” ชี้ทำผิดในฐานะส่วนตัว พรรคไม่เกี่ยว แถมละเมิดข้อบัญญัติ 45 ข้อ แถมพูดนิ่มๆ อ้างหลักการให้เข้าใจว่า “ถ้ายุทธทำผิดยุทธก็ต้องรับกรรมเอง”
วันนี้ (26 ก.พ.) ที่ทำเนียบฯ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในฐานะเลขาธิการพรรพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติ 3 ต่อ 2 ให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนว่า เข้าใจว่า กกต.เพียงสรุปว่าจะส่งเรื่องไปให้ศาลฎีกา ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ก็คงต้องรอว่าทางศาลฎีกาจะรับไว้และจะพิจารณาต่อไปอย่างไร อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าท่านประธานสภาฯ จะต้องพักจากการทำหน้าที่หรือไม่ คงต้องรอถึงขั้นตอนที่ศาลรับเรื่องแล้ว
“ถามว่ามีผลกระทบหรือไม่ เรายังยืนยันว่าเรายังคงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและความยุติธรรมของศาลว่าจะได้ให้ความยุติธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย” นพ.สุรพงษ์ กล่าวและว่าในเวลา 14.30 น.จะมีการประชุม ส.ส.ของพรรค อาจจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดแต่คงไม่ลงลึกในรายละเอียด เพราะจะคุยเฉพาะในเรื่องของกรรมาธิการที่จะมีการพูดคุยในสภาพรุ่งนี้ (27ก.พ.)
ส่วนผลกระทบที่จะมีต่อนักลงทุนหรือไม่นั้น นพ.สุรพงษ์ ซึ่งเป็นรองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าวว่า คงไม่ส่งผลกระทบเพราะเชื่อว่านักลงทุนชาวต่างประเทศหรือนักสังเกตการณ์เขาดูว่าระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยยังปักหลักมั่นคงและเดินหน้าต่อไปได้ ตรงนั้นน่าจะเป็นหลักมากกว่า
“เรื่องตัวบุคคลก็เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้วในหลายๆ ประเทศ การเมืองประเทศนั้นๆ เปลี่ยนตัวผู้นำประเทศก็มี เปลี่ยนตัวผู้นำสภาก็มี ก็สามารถจะเปลี่ยนได้ถ้าหากตราบใดก็ตามการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงตามระบอบประชาธิปไตยว่าตรงนั้นไม่มีปัญหาใดๆ กับความเชื่อมั่น” นพ.สุรพงษ์ กล่าว
สำหรับจะส่งผลต่อการยุบพรรคหรือไม่ เลขาธิการ พปช.กล่าวว่า แน่นอนว่าอาจจะมีการหยิบโยงว่าไปมีผลต่อการจะยุบพรรคต่อไปในอนาคต แต่อย่างที่เราได้ยืนยันแล้วว่าทุกๆ เรื่องคณะกรรมการของ พปช.ได้เคยประกาศแล้วว่าเรามีมาตรการ 45 ข้อ ที่สั่งห้ามทั้งผู้บริหารและผู้สมัครของพรรคไม่ให้ทำผิดระเบียบกฎหมายของ กกต. ฉะนั้น มีการกำหนดเป็นนโยบายชัดเจน หากใครทำอะไรที่ผิดซึ่งไม่เจาะจงว่าเป็นผู้ใดก็ถือว่าจะต้องถือว่าเป็นการละเมิดมาตรการ กติกา
“เพราะพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งไม่ได้ประกอบเพียงหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น แต่ยังมีสมาชิกที่ร่วมอุดมการณ์จำนวนมาก เพราะฉะนั้น พรรคเองคงเป็นไปไม่ได้ที่บอกว่าในบรรดาของผู้ที่เป็นสมาชิกพรรคทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามจะไม่มีใครที่ไปทำอะไรผิดกฎมาย หรือระเบียบเลย ถ้าหากใครทำผิดกฎหรือระเบียบก็ต้องรับโทษทางกฎหมายนั้นๆ แต่คงไม่สามารถมาเชื่อมโยงว่านี่เป็นเรื่องที่คนในพรรคเห็นด้วย” นพ.สุรพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่าแสดงว่าเป็นเรื่องของตัวบุคคลใช่หรือไม่ เลขาธิการ พปช.กล่าวว่า “ใช่” รวมทั้งเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน คือไม่ได้เจาะจงเฉพาะเรื่องของนายยงยุทธหรือใครก็ตาม ถ้าหากมีการตรวจสอบแล้วว่ามีการกระทำผิดก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ตัวบุคคลได้ไปกระทำโดยที่ไม่มีส่วนรู้เห็น เพราะพรรคได้กำหนดไว้เป็นกติกาชัดเจน
เมื่อถามว่ามองเป็นช่องว่างที่พรรคจะรอดพ้นจากการดำเนินการที่เป็นผลเสียต่อพรรคได้ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า นี่ไม่ใช่ช่องว่าง แต่นี่คือเจตนารมณ์ของพรรคที่ยืนยันว่าเราดำเนินการทางการเมืองเพื่อที่จะให้ประชาธิปไตยเดินหน้าไปได้ ฉะนั้นอะไรที่เป็นเรื่องที่ไม่ควร ผิดกฎหมาย เราไม่ทำ
/0110
คลิกอ่าน! รายงานพิเศษ : ย้อนรอย “ยงยุทธ”ทุจริตเชียงราย!!
คลิก! เพื่อชมรายการ NEWS HOUR สนทนา “ใบแดงยุทธตู้เย็น” พร้อมภาพวีซีดีหลักฐานซื้อเสียง (56k) | (256K)