แกนนำค้านผลเลือกตั้งนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ร้องผู้การฯหลังถูกขู่ฆ่าล้างครัว

กาฬสินธุ์ -แกนนำม็อบชาวบ้าน ค้านประกาศรับรองนายก อบจ.กาฬสินธุ์ โร่แจ้งความตำรวจ พร้อมร้องผู้การฯหวั่นภัยมืด หลังมีชายลึกลับโทรศัพท์ขู่ฆ่ายกครอบครัว หากไม่หยุดเคลื่อนไหว ภายหลังเป็นแกนนำชุมนุมกดดัน กกต.และ อบจ.กาฬสินธุ์ เจ้าตัวเผยทำไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและองค์กร เพราะต้องการไม่ให้มีการซื้อสิทธิ์ ขายเสียงเกิดขึ้น

จากกรณี นายเกษตรกรณ์ โสมี ประธานสมาพันธ์เกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ นายหนูนา กาญวิจิตร รองประธานสมาพันธ์ฯ พร้อมด้วยตัวแทนเกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ ตัวแทนองค์กรกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ และตัวแทนองค์กรประชาชนกาฬสินธุ์ตรวจสอบการเลือกตั้ง จาก 18 อำเภอ กว่า 200 คน ได้ชุมนุมถือป้ายประท้วง และยื่นหนังสือขอคัดค้านผลการประกาศรับรองการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วน จ.กาฬสินธุ์ (อบจ.กาฬสินธุ์) ที่หน้าสำนักงาน กกต.และ อบจ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (22 ก.พ.) นายเกษตรกรณ์ โสมี ประธานสมาพันธ์เกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการของสมาพันธ์ทั้ง 18 อำเภอ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ไพบูลย์ ฐิติญาณโรจน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ว่ามีชายโทรศัพท์เข้ามาหา 2 ครั้ง พร้อมทั้งบอกว่าให้หยุดการเคลื่อนไหวในการ้องคัดค้านผลการประกาศรับรองนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ไม่เช่นนั้นจะถูกฆ่าและครอบครัว รวมทั้งแกนนำทั้ง 18 อำเภอจะได้รับอันตรายอีกด้วย

จากนั้น นายเกษตรกรณ์ ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับ พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัย เนื่องจากการว่าคนร้ายจะทำอันตรายกับครอบครัว

นายเกษตรกรณ์ เล่าว่า หลังจากตน พร้อมด้วยตัวแทนเกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ ตัวแทนองค์กรกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ และตัวแทนองค์กรประชาชนกาฬสินธุ์ตรวจสอบการเลือกตั้ง จาก 18 อำเภอ กว่า 200 คน ได้ไปชุมนุมและยื่นหนังสือขอคัดค้านผลการประกาศรับรองการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วน จ.กาฬสินธุ์ (อบจ.กาฬสินธุ์) ที่หน้าสำนักงาน กกต.กาฬสินธุ์ และ สำนักงาน อบจ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนการกระทำกฎหมายเลือกตั้ง เรื่องการแจกเงิน เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ แกนนำทุกคนก็เห็นตรงกันว่า หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก กกต.กาฬสินธุ์ ก็จะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับตุลาการรัฐธรรมนูญ สำนักงานผู้ต้องการแผ่นดินรัฐสภา องค์กรเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน กกต.กลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด

นายเกษตรกรณ์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 19.30 น.ขณะตนกำลังรับประทานอาหารพร้อมกับครอบครัวที่บ้าน มีผู้ชายอายุประมาณ 45-50 ปี โทรศัพท์เข้ามือถือ โดยใช้เบอร์ตู้ ระบุว่า ใช่นายเกษตรกรณ์หรือไม่ หากใช่ก็ให้หยุดการเคลื่อนไหวในเรื่องการร้องคัดค้านผลการรับรองนายก อบจ.กาฬสินธุ์ทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นตนและครอบครัว พร้อมทั้งแกนนำม็อบทั้ง 18 อำเภอจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต จากนั้นจึงวางสายไป

ต่อมาเวลา 07.30 น.วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ก็มีชายเสียงคล้ายกันโทรศัพท์เข้ามาอีก โดยใช้เบอร์ตู้ พร้อมทั้งระบุข้อความเดิมคือขู่เอาชีวิตตนและครอบครัวอีกแล้วก็วางสายไป ดังนั้นตนว่าครอบครัวจะได้รับอันตรายจึงเดินทางเข้าแจ้งความไปเป็นหลักฐาน พร้อมทั้งเข้าขอความช่วยเหลือกับผบก.กาฬสินธุ์ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายอาจจะลงมือทำอันตรายกับครอบครัวจริง

“การกระทำดังกล่าวไม่ว่าคนที่โทร.มาจะเป็นคนของใคร มีจุดประสงค์หรือต้องการอะไร ก็ไม่ควรที่จะกระทำเช่นนี้ เนื่องจากผมและแกนนำทุกคนทำลงไป ก็เพื่อต้องการความถูกต้อง ไม่อยากให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยเฉพาะการแจกเงินเกิดขึ้น อีกทั้งทำลงไปก็เพื่อองค์กร เพราะคนที่ได้รับเงินจากผู้สมัครและเข้าแจ้งความดำเนินคดีก็คือนายหนูนา กาญวิจิตร มีตำแหน่งเป็นรองประธานสมาพันธ์เกษตรกรจ.กาฬสินธุ์ เพราะฉะนั้นทางสมาพันธ์ก็ยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้” นายเกษตรกรณ์ กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร เวรเทพนิตินันท์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้อต้นได้ให้พนักงานสอบสวนลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และประสานไปยังชุดสืบสวนสอบสวน ออกสืบหาแหล่งและตัวผู้ที่โทรศัพท์เข้ามาข่มขู่

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวผู้ที่ร้องทุกข์อ้างว่าน่าจะเกิดจากการเป็นแกนนำร่วมชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้งนายก อบจ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเรื่องการสืบสวนสอบสวนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งนั้นเป็นหน้าที่ของ กกต.กาฬสินธุ

สำหรับเรื่องการดูแลการรักษาความสงบและเรื่องความปลอดภัย เมื่อมีผู้เข้ามาร้องทุกข์ทางเจ้าหน้าที่ก็จะอำนวยความสะดวกและดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งหากนายเกษตรกรณ์มีพยานหลักฐานเพิ่ม หรือไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตก็ให้แจ้งมายังตนได้ตลอด 24 ชั่วโมง