xs
xsm
sm
md
lg

กกต.จ้องตีกลับ “ยุทธ” ดิ้นยื่นย้าย ตร.ทหารพ้นพื้นที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยงยุทธ ติยะไพรัช
“ยุทธ ตู้เย็น” เตรียมยื่นหนังสือ จี้ย้าย ตร.ทหารออกนอกพื้นที่เชียงราย ขณะที่กกต.ยันไม่มีอำนาจ พร้อมชักอีก 3 ใบเหลือง เป็น พปช.1 - พผ.2 คน สรุปยอดล่าสุดจาก ส.ส.ที่พึงมีทั้งสภา 480 คน เหลือว่าที่ ส.ส.ที่ยังไม่ประกาศรับรอง 56 คน แต่ถ้าเพื่อการเปิดสภานัดแรกยังต้องการ ส.ส.อีก 32 คนที่กกต.ต้องประกาศรับรอง

วันนี้ (13 ม.ค) นายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน และรองหัวหน้าพรรค ที่มีการระบุว่า จะเดินทางมาเพื่อขอดูวีซีดีกับ กกต.ในวันที่ 13 ม.ค.ปรากฏว่า นายยงยุทธ กล่าวว่า ได้รับการประสานจากคณะอนุกรรมการชุดที่มี นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธาน ว่า ให้มาดูวีซีดีในวันอังคารที่ 15 ม.ค.นี้ อีกทั้งในวันพรุ่งนี้  ก็จะไปยื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อขอให้ย้าย พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จ.เชียงราย และนายทหารในพื้นที่ออกจากพื้นที่ จ.เชียงราย ระหว่างที่มีการลงสอบสวนหาข้อมูล เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวภายหลังการประชุม กกต.ว่า กกต.มีการพิจารณาสำนวนร้องคัดค้านการเลือกตั้งทั้งสิ้น 5 เรื่อง โดยมติยกคำร้อง 3 เรื่อง เป็นของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 1 เรื่อง เพื่อแผ่นดิน 1 เรื่อง พลังประชาชน 1 เรื่อง ซึ่งเป็นกรณีการร้องคัดค้านในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เขต 4 และกาฬสินธุ์ เขต 2 และ ส.ส.ระบบสัดส่วน กลุ่ม 1 จ.เชียงราย และ กกต.มีมติสั่งเลือกตั้งใหม่ใน 2 จังหวัด คือ จ.นครราชสีมา เขต 6 กรณี นายมีชัย จิตต์พิพัฒน์ และ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน ข้อหาสัญญาว่าจะให้เงินเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการลงคะแนน และ จ.ชัยภูมิ เขต 2 กรณี นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ข้อหาให้ทรัพย์สินวีซีดีและเงิน แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจให้ลงคะแนน โดยการเลือกตั้งใหม่ในเขต 2 ชัยภูมินั้น จะมีขึ้นในวันที่ 17 ม.ค.พร้อมกับกรณีของ นายบรรฑูรย์ เกียรติก้องชูชัย ว่าที่ ส.ส.พรรคชาติไทย ว่าที่ ส.ส.เขตเดียวกัน ที่ก่อนหน้านี้ กกต.มีมติสั่งเลือกตั้งใหม่

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันนี้ (13) กกต.ได้ใช้เวลาในการพิจารณาร่างความเห็นของ กกต.ที่มีมติสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งว่าที่ ส.ส.ชัยนาท และอุดรธานี ที่จะต้องส่งให้คณะกรรมการกลั่นกรองของกฤษฎีกาพิจารณาในวันที่ 14 ม.ค.นายสุทธิพล ยังกล่าวถึงกรณีมีมติมอบให้ดำเนินการเกี่ยวกับหนังสือของ นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาธิปไตยต้านคอร์รัปชันที่ขอให้สอบ นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบและวินิจฉัย กรณีสำนวนเชียงรายรั่วไหล ว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ตนได้ให้สำนักกฎหมายและคดีของกกต.ไปพิจารณาแนวปฏิบัติที่ผ่านมาของ กกต.ว่า สมควรตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่า ต้องส่งความเห็นมาเมื่อใด แต่การดำเนินการดังกล่าวต้องการให้เกิดความรอบคอบ จึงให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณา

ส่วนกรณีที่ นายยงยุทธ จะขอให้มีการโยกย้ายตำรวจ ทหารออกนอกพื้นที่ จ.เชียงราย ระหว่างคณะกรรมการสอบสวนทุจริตเลือกตั้งชุดใหม่ดำเนินการอยู่ นายสุทธิพล กล่าวว่า นายยงยุทธ มีสิทธิที่จะยื่นคำร้อง แต่ กกต.ไม่มีอำนาจพิจารณาโยกย้าย หากมีการยื่นเรื่อง กกต. ก็จะรับไว้พิจารณาว่า เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกรณีที่ข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลางหรือไม่ ก่อนจะส่งหน่วยงานต้นสังกัดพิจารณาข้อเท็จจริงและดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคณะกรรมการสอบสวนชุดใหม่ ที่มี นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธาน ไม่มีข้าราชการตำรวจหรือทหารร่วมเป็นกรรมการด้วย ซึ่งการสอบสวนพยาน หากเห็นว่าต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม คณะกรรมการฯก็จะลงพื้นที่สอบพยานด้วยตนเอง

ส่วนการเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครราชสีมา ในวันเดียวกันนั้น กกต.กลางไม่ได้รับแจ้งจากจังหวัดว่ามีปัญหาอะไร แต่จำนวนผู้มาใช้สิทธิคงจะน้อยกว่าครั้งเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค. เพราะไม่มีการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า หรือเลือกตั้งในระบบสัดส่วน

ด้าน นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัด ว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี ซึ่งได้กำชับให้ กกต.จังหวัดจัดสายตรวจลงพื้นที่ตามปกติ ส่วนการบอยคอตการเลือกตั้งก็ไม่น่าจะมี เพราะทุกฝ่ายก็ลงพื้นที่หาเสียง ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมาย ซึ่งอยากให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่อยากให้มีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอีก เพราะระยะเวลาในการรับรองผลการเลือกตั้งก็เหลือน้อยแล้ว ถ้ามีการร้องเรียนอีกก็จะมีปัญหา อยากให้ทุกฝ่ายได้ช่วยกัน

ส่วนในเขตที่มีการเลือกตั้งใหม่จะมีการรับรอง ส.ส.ทั้งหมดก่อนวันที่ 22 ม.ค.หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเรื่องร้องเรียน หากไม่มีการทำผิดกฎหมาย ก็สามารถรับรองได้ในวันรุ่งขึ้นทันที ขณะนี้ ได้รับรอง ส.ส.ไปแล้ว 424 คน สำนวนที่เหลือหากหลักฐานไม่เพียงพอ ก็จะยกคำร้อง เราอยากให้ทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดีตามขั้นตอน พยายามทำทุกอย่างให้เสร็จโดยเร็ว

เมื่อถามถึงกรณีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่อาจจะต้องมีการรับรองไปก่อน นายประพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้กกต.ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ที่มีนายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธาน ซึ่งจะต้องให้อิสระกรรมการในการทำงาน เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนมาก ต้องทำให้ทุกอย่างถูกต้อง เป็นธรรม ทุกฝ่ายยอมรับได้ ผู้ถูกกล่าวหาเองก็โต้ว่า เขาไม่ไว้ใจชุดสอบสวนเดิม เราก็ทำทุกอย่างให้เป็นที่ยอมรับ

“การจะพิจารณาให้เสร็จทันวันที่ 21 ม.ค.หรือไม่ เราคงไปบอกคณะกรรมการไม่ได้ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ถ้าทำไม่ทัน กกต.ก็ต้องพิจารณาว่า จะรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนหรือไม่ แต่ขณะนี้ ถือว่า ยังมีเวลา ให้คณะกรรมการฯอ่านสำนวนให้รอบคอบ เราเชื่อในความเป็นกลาง กรณีที่มีข่าวว่า พยานของผู้ร้องเรียนนายยงยุทธถูกข่มขู่ ก็ได้รับรายงานว่า มีการดูแลพยานแล้ว”

ส่วนกรณีสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายมณเฑียร และ น.ส.นันทนา สงฆ์ประชา อดีตผู้สมัคร ส.ส.จ.ชัยนาท พรรคชาติไทย ความผิดจะส่งผลถึงยุบพรรคหรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ กกต.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่พรรคการเมืองตรวจสอบ ว่า ผู้ถูกใบแดง เป็นกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ และส่งให้ กกต.วินิจฉัย แต่ขณะนี้ การพิจารณาของ กกต.ยังไม่ถึงเรื่องการยุบพรรค แต่ถ้าถึงขั้นนั้น ก็ต้องตั้งอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ วันนี้ ตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00 น. กลุ่มผู้สนับสนุน นางนันทนา สงฆ์ประชา และ นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ผู้สมัคร ส.ส.จ.ชัยนาท พรรคชาติไทย ที่โดนใบแดง ประมาณ 500 คน ได้มาชุมนุมที่หน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ เพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจ และประท้วงการให้ใบแดงผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 2 คน โดย นางนันทนา ที่ได้ปักหลักกางมุ้งนอนที่ชั้นล่างของอาคาร ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นการชุมนุมอย่างสงบ มีนายภุชงค์ นุตราวงศ์ รองเลขาธิการ กกต.มาเจรจา จนกระทั่งเวลา 11.00 น.นางนันทนา ก็ได้ม้วนเสื่อ และให้ลูกชายช่วยกันพับมุ้งก่อนจะเดินทางกลับพร้อมกับกลุ่มผู้ชุมนุม

นางนันทนา กล่าวพร้อมกับร้องไห้ไป ด้วยท่าทางอิดโรย ว่า วันนี้ตนจะขออยู่เป็นวันสุดท้าย จากนั้นจะกลับ เพราะถ้าตนอยู่ ประชาชนจะลำบากมาให้กำลังใจ ที่ กกต.ตัดสินให้ใบแดงนั้นไม่เป็นธรรม หลักฐานที่ กกต.ใช้ ไม่หนักแน่น มีเพียงรูปถ่าย 3 ใบ ถ่ายเห็นแต่ต้นไม้ หลังจากนี้ ก็จะไปหวังรอดูช่องทางที่คณะกรรมการกฤษฎีกาจะวินิจฉัยต่อไป

ทั้งนี้ จนถึงขณะนี้ กกต.ได้ประกาศรับรอง ส.ส.ไปแล้ว 424 คน ดังนั้น จากจำนวน ส.ส.ที่พึงมีทั้งสภา 480 คน จึงยังเหลือ ส.ส.ที่ยังไม่มีการประกาศรับรองจำนวน 56 คน แยกเป็น ส.ส.สัดส่วน 2 คน ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง 54 คน โดยในส่วนของระบบเขตเลือกตั้งนั้น กกต.มีการสั่งเลือกตั้งใหม่แล้ว 18 ราย และสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 7 ราย ซึ่งการเลือกตั้งใหม่ที่จะมีขึ้น ในส่วนของเขต 3 นครราชสีมา กกต.กำหนดเลือกตั้งใหม่วันที่ 13 ม.ค.สำหรับเขต 1 บุรีรัมย์ เขต 1 ชัยภูมิ เขต 2 กกต.

กำหนดเลือกตั้งใหม่วันที่ 17 ม.ค.ส่วน เขต 1 จ.ชัยนาท เขต 1 ปราจีนบุรี เขต 1 ลำปาง เขต 1, 2, 3 อุดรธานี เขต 1 เพชรบูรณ์ กกต.กำหนดเลือกตั้งใหม่วันที่ 20 ม.ค.ส่วนเขต 6 นครราชสีมา ที่ กกต.มีมติเลือกตั้งวันนี้ (13) ยังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน จึงยังเหลือสำนวนคัดค้านว่าที่ส.ส.ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกกต. 31 ราย แยกเป็นพลังประชาชน 26 คน เพื่อแผ่นดิน 4 รวมใจไทยชาติพัฒนา 1คน และถ้าจะเปิดสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกภายในกำหนดเวลา 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง ก็ยังคงเหลือส.ส.ที่กกต.จะต้องประกาศรับรองอีก 32 คน เพื่อให้มี ส.ส.ครบ 95% หรือจำนวน 456 คน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
กำลังโหลดความคิดเห็น