xs
xsm
sm
md
lg

กกต.แย้มปล่อยผี “ยุทธ” ชั่วคราว-เมินม็อบ “พลังแม้ว” ป่วนอุดรฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กกต.แจงให้ใบแดง “ประสพ” เพราะทำผิดกฎหมาย พูดจาใส่ร้าย ย้ำไม่หวั่นม็อบ “พลังแม้ว” ฮือป่วน ลั่นถ้ามัวผวาก็ไม่ต้องทำอะไร ขณะเดียวกัน “สุเมธ” เผยที่ประชุมมีการหารือเรื่องข้อร้องเรียน “สมชัย” เป็นหนอนบ่อนไส้ด้วย ขณะเดียวกันแย้มปล่อยผี “ยุทธ” ชั่วคราวหลังเวลากระชั้นชิดแย้มถ้าผิดรอสอยทีหลัง

วันนี้ (11 ม.ค.) นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มประชาชนออกมาชุมนุมคัดค้านการพิจารณาใบเหลือง-ใบแดงของ กกต.ที่ จ.อุดรธานีว่า ก่อนหน้านี้ที่กกต.ให้ใบเหลือง นายประสพ บุษราคัม ว่าที่ ส.ส.จ.อุดรธานี เขต 3 พรรคพลังประชาชน เป็นสำนวนร้องคัดค้านคนละกรณีกับการมีมติให้ใบแดง เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการให้ใบแดงนั้น เกิดจากกรณีที่นายประสพได้ปราศรัยหาเสียงโดยการใส่ร้ายบุคคลอื่น เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิด ทั้งนี้ กกต.สามารถให้ใบแดงเพิ่มเติม สำหรับว่าที่ ส.ส.ที่ได้รับใบเหลืองไปแล้วได้อีก โดย กกต.จะพิจารณาจากสำนวนร้องคัดค้านตามปกติ

นายสุเมธ กล่าวต่อว่า ตนไม่รู้สึกกังวลเรื่องกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจาก กกต.จะพิจารณาจากสำนวนร้องคัดค้าน และข้อกล่าวหาเป็นสำคัญ เพราะหากคอยฟังแต่ผู้ชุมนุม ก็จะไม่สามารถทำงานได้ ทั้งนี้ อย่าลืมว่า กกต.ไม่ใช่ผู้ร้องคัดค้านนายประสพ แต่พรรคคู่แข่งหรือ พรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นผู้ร้องคัดค้านนายประสพต่างหาก กกต.เพียงพิจารณาไปตามข้อมูลหลักฐาน

“กกต.มีแต่ความคิด ความอ่านเท่านั้น ต้องทำตามหน้าที่พิจารณาว่าให้ทำชอบหรือไม่ชอบ หากไม่ชอบก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย หากมัวแต่ไปกังวลก็ไม่ต้องทำงาน โดย กกต.จะรีบทำงานโดยเร็ว จะได้เปิดประชุมสภาเร็วๆ” กกต.ผู้นี้ระบุ

สำหรับการพิจารณาสำนวนร้องคัดค้าน นายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าที่ ส.ส.แบบสัดส่วน กลุ่มที่ 1 พรรคพลังประชาชน นายสุเมธ กล่าวว่า ตอนแรกนั้น มีบุคคลมาร้องกับกกต.ว่า นายยงยุทธกระทำผิด แต่พนักงานสอบสวนของ กกต.ที่จังหวัดเชียงราย ได้หอบสำนวนกลับมายัง กกต.กลาง พร้อมแจ้งว่า ไม่สามารถทำสำนวนนี้ได้ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ก็ขอคืนสำนวนเช่นกัน ดังนั้น กกต.จึงมีมติแต่งตั้งให้สันติบาลเข้ามารับผิดชอบในการสอบสวนสำนวนนี้ ซึ่งต่อมานายยงยุทธได้ขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน โดยนายยงยุทธให้เหตุผลไว้หลายประการ ทั้งนี้ กกต.นำเรื่องการขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนมาคิดอย่างหนัก จนสุดท้ายจึงมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน ของ กกต.ขึ้นมาทำหน้าที่แทนสันติบาล เพื่อความเป็นธรรม โดยจะพยายามทำงานให้ไว้ที่สุด อย่างไรก็ตาม ต้องให้เวลาคณะอนุฯ ทำงานด้วย เพราะอาจต้องลงพื้นที่ไปสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป

ส่วนกรณีนายยงยุทธขอดูซีดีบันทึกภาพการพบกับกำนันซึ่งเป็นหัวคะแนนที่พามาจากจ.เชียงรายก้ต้อง ขึ้นอยู่กับฝ่ายสืบสวนสอบสวนว่า จะทำอย่างไร ทั้งนี้ หากไม่ให้ดู ก็ถือว่า ไม่ใช่หลักฐาน อย่างไรก็ตาม คิดว่าสันติบาลต้องส่งวีซีดีดังกล่าวมาให้ กกต. เพราะ กกต.ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา เพราะผู้ถูกกล่าวหาต้องมีโอกาสต่อสู้อย่างเต็มที่ แต่การจะให้ดูหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับคณะอนุฯ ที่จะเสนอความเห็นมายัง กกต. ทั้งนี้ วีซีดีดังกล่าวเป็นภาพถ่ายแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมว่ามีบุคคลใดบ้าง และทำสิ่งใดบ้าง อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่สามารถบอกรายละเอียดของภาพเหล่านั้นได้ ส่วนระยะเวลาการในพิจารณาให้ใบเหลืองหรือใบแดงของ กกต.เริ่มเหลือน้อยลงทุกทีนั้น เรื่องนี้ กกต.จะพิจารณาตามสำนวนที่ถูกเสนอเข้ามา โดยจะพยายามพิจารณาทุกวัน และทำงานให้เร็ว อย่างไรก็ตาม หากวันที่ต้องประชุมสภาผู้แทนราษฎวัน 22 ม.ค.นี้ มี ส.ส.ไม่ถึงร้อยละ 95 ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เนื่องจากเราพยายามดีที่สุดแล้ว

นอกจากนี้ นายสุเมธยังกล่าวถึงกรณี นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน ได้ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนและวินิจฉัย หลังจากสงสัยว่าทำสำนวนการสอบสวนการทุจริตการเลือกตั้งของนายยงยุทธ รั่วไหลว่า เรื่องนี้คงได้มีการหารือกันในที่ประชุม กกต.วันนี้ด้วย

ล่าสุด มีรายงานว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง คาดมีข้อสรุปในสัปดาห์หน้า

ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนการทุจริตใน จ.เชียงราย ที่มี นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธาน แทนชุดสืบสวนของสันติบาลว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะทำหน้าที่ต่อเนื่องจากการทำงานของชุดสืบสวนของสันติบาลในกรณีการุจริต ที่ จ.เชียงราย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จก่อนวันที่ 22 ม.ค.หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทาง กกต.ได้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลให้ส่งสำนวนการสอบสวน พร้อมทั้งคืนวีซีดีทั้งหมดให้ กกต. เพื่อ กกต.จะได้นำสำนวนทั้งหมดให้คณะกรรมการนำไปดำเนินการต่อ ส่วนคณะกรรมการจะเรียกพยานคนใดมาสอบเพิ่มเติมนั้น ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการชุดดังกล่าว

“คณะกรรมการชุดนี้จะมีด้วยกัน 5 คน ซึ่งทุกคนมีความรู้ความ มีประสบการณ์ มีความซื่อสัตย์สุจริต และเป็นถึงตุลาการ และอดีตอัยการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าจะสืบสวนทำความจริงให้ประจักษ์ด้วยความเป็นกลาง และเป็นธรรม โดยขณะนี้ กกต. ได้รับการประสานงานมาจากสันติบาลแล้วว่า จะส่งสำนวนรวมทั้งวีซีดี คืนให้กับ กกต.ไม่เกินบ่ายวันเดียวกัน” นายสุทธิพล กล่าว และว่าเมื่อสันติบาลนำซีดีมาให้ และนายยงยุทธได้ดูวีซีดีแล้วก็สามารถนำพยานบุคคลมาแก้ข้อกล่าวหาได้ แต่ก็ต้องดูความพร้อมของฝ่ายสืบสวนสอบสวนด้วยเช่นกัน

นายสุทธิพล กล่าวว่า ถ้า กกต.พิจารณาสำนวนตามกรอบเวลา คาดว่าจะเหลือจำนวน ส.ส.ที่ยังไม่ได้รับรองเพียง 31 คน อย่างไรก็ตาม กกต.จะเร่งการประชุม เพื่อให้ทันการเปิดประชุมสภาฯ โดยต้องคำนึงถึงความละเอียดรอบคอบ นอกจากนี้ กกต.ยังได้มีการพิจารณาความเห็นกรณีใบแดงก่อนส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบแล้ว 2 เรื่อง ในส่วนของสำนวนที่เข้าข่ายใบเหลืองนั้น ทางฝ่ายสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้องก็ยังเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่

สำหรับการชุมนุมประท้วงมติของ กกต.ที่แจกใบแดงให้ นายประสพ บุษราคัม ว่าที่ ส.ส.เขต 3 พรรคพลังประชาชนที่ จ.อุดรธานี ว่า ทาง กกต.จังหวัดจะต้องเร่งทำความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้ทราบว่าการที่ กกต.ให้ใบเหลืองนายประสพที่ กกต.ก่อนหน้านี้ กับการให้ใบแดงครั้งล่าสุดเป็นคนละสำนวนกัน และคนร้องคัดค้านก็เป็นคนละคนกัน ส่วนการที่ประธาน กกต.จ.ชัยภูมิ ระบุว่ มีการข่มขู่พยานนั้น เรื่องแบบนี้คงเกิดขึ้นได้ทุกที่ แต่คนเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น เนื่องจากกรณีที่ จ.ชัยภูมิ นั้น กกต.ได้มีมติให้ใบแดงไปแล้ว

ส่วน นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ด้านกิจการพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ที่ประชุม กกต.จำเป็นต้องเลื่อนการลงมติในการพิจารณาสำนวนทุจริตเลือกตั้งของนายยงยุทธออกไปก่อน เนื่องจากได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นใหม่ เพื่อพิจารณากรณีของนายยงยุทธโดยเฉพาะ ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อเริ่มต้นทบทวนการสอบพยานใหม่ทั้งหมด อันเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้ต่อสู้คดีกันอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ กกต.จะเปิดโอกาสให้นายยงยุทธได้ดูวีซีดีตามที่เจ้าตัวได้ร้องขอไว้ ก่อนที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา

“คณะอนุกรรมการของ กกต.ชุดสืบสวนสอบสวนจะลงพื้นที่เชียงราย จะเริ่มกระบวนการสอบพยานที่สอบไปแล้วใหม่ว่าจะยืนยันคำให้การเดิมหรือไม่ ซึ่งจะใช้ผู้กล่าวหา และผู้ถูกกล่าวหารายเดิม หรืออาจเพิ่มเติมพยานแล้วแต่ทางคณะอนุกรรมการ ซึ่งเราให้โอกาสต่อสู้คดีกันเต็มที่” นางสดศรีระบุ

นางสดศรี กล่าวว่า หากการสืบสวนสอบสวนของคณะอนุกรรมการดังกล่าวเสร็จไม่ทันวันที่ 15 ม.ค.นี้ กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของนายยงยุทธไปก่อน และภายหลังหากมีข้อสรุปที่แน่ชัดว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจริง จึงจะให้ใบเหลืองหรือใบแดงต่อไป แต่ตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับการสอบสวนของกรรมการชุดนี้ว่าเสร็จ และได้ผลสรุปอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะต้องทบทวนใหม่หมด ถ้าทำไม่ทัน กกต.จำเป็นที่จะต้องประกาศรับรองไปก่อน แล้วค่อยสอยทีหลังได้ หากข้อมูลหลังฐานชัดเจน

“ล่าสุด กกต.ได้ประกาศรับรองรายชื่อ ส.ส.ไปแล้ว 420 คน จากทั้งหมด 480 คน โดยเชื่อว่าจะสามารถประกาศรับรองได้ 95% หรือ 456 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่จะสามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกในวันที่ 22 ม.ค.51 ได้ตามที่กฎหมายกำหนด” นางสดศรีกล่าว

วันเดียวกัน ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่ม 7 พรรคพลังประชาชน ได้เข้ามอบ ดอกไม้ให้แก่ กกต.ทั้ง 5 คน โดย ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า ที่มามอบดอกไม้ให้ กกต.เพื่อแสดงความขอบคุณที่มีมติเปลี่ยนชุดสืบสวนสอบสวนกรณีเรื่องร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้งที่จ.เชียงราย ของนาย ยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เพราะเรามีข้อมูลแสดงถึงความไม่เป็นกลางของ พล.ต.ต. ชัยยะ ศิริอำพันธุ์กุล รอง ผบช.ส.

“จากคำให้การของเพื่อน นรต.รุ่น 34 ที่เคยระบุว่าพบกับ พล.ต.ต.ชัยยะที่บ้านพักของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และที่ทำการของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และ พล.ต.ต.ชัยยะ ยังได้พยายามนำเพื่อน นรต.รุ่น 34 หลายคนมาให้นายสนธิรู้จักและสนับสนุนให้ได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีหมายเลขหนังสือเดินทางของพล.ต.ต.ชัยยะ ที่มีหมายเลขเรียงกันกับหนังสือเดินทางของนายสนธิ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทั้ง 2 มีความใกล้ชิดสนิทสนมกัน ซึ่งหากปล่อยให้ทาง พล.ต.ต.ชัยยะทำสำนวนต่อไปก็จะเกิดความไม่เป็นธรรมกับพรรคพลังประชาชน จากนี้ผมจะทำหนังสือถึง สตช.เพื่อสอบถามข้อมูลการเดินทางไปต่างประเทศของ พล.ต.ต.ชัยยะ ตั้งแต่ปี 2548-2550 ทั้งหมด 6 ครั้ง นั้นเป็นการเดินทางที่ขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาโดยถูกต้องหรือไม่” ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวอ้าง

/0110
กำลังโหลดความคิดเห็น