กกต.ลงดาบ 2 แจกใบแดง “ประสพ” ข้อหาปราศรัยใส่ร้าย พร้อมประกาศรับรองส.ส.เพิ่มอีก 17 คน ส่งผลตัวเลขส.ส.ที่พร้อมเปิดประชุมสภาอยู่ที่ 420 คน ขณะเดียวกัน สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนของกกต.สอบสำนวน “ยุทธ ตู้เย็น” หลังให้สันติบาลโอนสำนวนคดีคืน พร้อมเรียกให้ส่งซีดีหลักฐานมัดตัวยงยุทธมาภายใน 11 ม.ค.นี้
วันนี้ ( 10 ม.ค.) นาย สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. แถลงภายหลังการประชุมกกต.ว่า ที่ประชุมฯได้พิจารณาสำนวนร้องคัดค้าน 6 สำนวน โดยมีมติ 4 ต่อ 1 สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนาย ประสพ บุษราคัม ว่าที่ส.ส. เขต 3 อุดรธานี พรรคพลังประชาชน ที่ก่อนหน้านี้กกต.มีมติสั่งเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากสำนวนที่พิจารณาพบว่านายประสพ กระทำการปราศรัยใส่ร้าย ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดในคะแนนนิยม
ทั้งนี้สำนวนที่กกต.สั่งเลือกตั้งใหม่นั้นเป็นเรื่องของการแจกเงิน แต่สำนวนที่มีการเสนอผลการสอบสวนครั้งนี้เป็นคนละเรื่องกัน เป็นเรื่องของการปราศรัยที่มีความชัดเจนว่ามีความเกี่ยวโยง กับนายประสพ ส่วนทีกกต.ไม่รวมพิจารณาในคราวเดียวเพราะ ต้องเร่งทำงาน กรณีไหนเสร็จก่อนจะให้เจ้าหน้าที่เสนอมาให้กกต.พิจารณาตัดสินเลย ดังนั้นผู้สมัครที่กกต.สั่งยกคำร้องหรือสั่งเลือกตั้งใหม่ไปก่อน หากยังสำนวนค้างอยู่แล้วมีหลักฐานความผิดโยงถึงผู้สมัครก็มีสิทธิที่จะถูกสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ เช่นเดียวกันหากผู้ที่ถูกสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไปแล้ว หากสำนวนค้างแล้วพบว่าความผิดถึงขั้นสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งได้ กกต.ก็จะมีมติ แต่จะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงอะไร
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรณีคำร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งที่จ.เชียงราย ซึ่งนายยงยุทธ ได้ร้องคัดค้านตัวพนังงานสอบสวนชุดที่มาจากสันติบาล โดยที่ประชุมได้มีมติให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นมาใหม่อีก 1 ชุด โดนเน้นบุคคลากรจากฝ่ายสืบสวนสอบสวนจากกต. และให้ชุดสืบสวนของสันติบาลมอบสำนวนการสอบสวนทั้งหมด รวมทั้งวีซีดี บันทึกภาพเหตุการณ์ การจ่ายเงินเพื่อซื้อหัวคะแนน ให้กับกรรมการชุดดังกล่าว ก็ได้รับคำยืนยันว่าจะนำมาให้ภายในวันที่ 11 ม.ค.ไม่เกินเวลา 13.00 น. ทั้งนี้ทางชุดสืบสวนของสันติบาลยังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่กกต.ในสำนวนการทุจริตการเลือกตั้งคดีอื่น ซึ่งไม่ถือว่าเป็นความขัดแย้งร่วมกัน และคิดว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตกับสำนวนอื่นที่สันติบาลได้ทำไว้ เพราะทุกหน่วยงานจะต้องให้ความร่วมมือกับกกต.
เมื่อถามว่ากกต.ยังคงยืนยันที่จะให้นายยงยุทธได้ดูวีซีดีใช่หรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของคณะกรรมการสืบสวนสวนสวนชุดใหม่ แต่โดยหลักปฏิบัติทั่วไปก็จำเป็นต้องเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกร้องคัดค้านเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหา
นาย อภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. กล่าวว่า วันนี้ค่อนข้างเครียด แต่ไม่ใช่จากเรื่องสำนวนนาย ยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และว่าที่ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน เพราะเรื่องนี้ไม่มีการกดดันอะไรเลย ไม่ว่านายยงยุทธหรือใครมา กกต.พร้อมให้ความเป็นธรรม แต่ที่เครียดคือ มีการให้สัมภาษณ์ที่ไม่ตรงกันอย่างกรณีของพล.ต.ต. ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ตนไม่รู้ว่า เขาพูดไปแล้วอย่างไร แต่สื่อก็จับเอาสิ่งที่เขาพูดมาถามตน เมื่อตอบไปทำให้กลายเป็นการตอบโต้กัน อย่างไรก็ตามในประเด็นนายยงยุทธที่ต้องการขอดูวีซีดีบันทึกภาพการพากำนันผู้ใหญ่บ้านมาประชุมที่กทม.นั้น ทราบว่า เลขาธิการกกต.ได้มีหนังสือไปยังสันติบาลให้ส่งวีซีดีดังกล่าวมายังกกต.แล้ว ดังนั้นที่ตั้งใจจะวินิจฉัยเรื่องนี้ในวันที่ 11 ม.คก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน
ทั้งนี้ประธากกต.ยังชี้แจงกรณีให้สันติบาลเข้ามาดูแลสำนวนทุจริตเลือกตั้งที่จ.เชียงรายว่า เดิมสันติบาลเข้ามาช่วยงานกกต.ในเรื่องการหาข่าวอยู่แล้ว แต่ขณะนั้นทางพนักงานสืบสวนของกกต.ที่จ.เชียงรายได้ลาออก จึงเห็นว่าสันติบาลเป็นผู้มีประสบการณ์ จึงได้ตั้งให้เข้าไปสอบในเรื่องนี้ แต่ขณะนี้กกต.ให้สันติบาลส่งสำนวนทุจริตเชียงรายมาให้กกต.ดำเนินการเอง แล้ว และตนเห็นว่าเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ถูกต้องจึงตั้ง คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของ กกต. เข้าไปดำเนินการ โดยมีหัวหน้าชุดเป็นผู้พิพากษาที่เคยเป็นอนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องคัดค้าน และอัยการ เจ้าหน้าที่สืบสวนของกกต.ร่วมเป็นกรรมการฯโดยให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
นายอภิชาตยังกล่าวถึงกรณีหนังสือของนายวีระ สมความคิด ที่ขอให้ตรวจสอบกรณีสำนวน จ.เชียงราย รั่วไปถึงมือนายยงยุทธว่า รองเลขาธิการกกต.ได้นำหนังสือดังกล่าวเสนอให้ทราบแล้ว แต่กกต.กำลังเร่งพิจารณาเรื่องการพิจารณารับรอง ส.ส. จึงยังไม่ได้อ่าน เพราะมีจำนวนหลายสิบหน้า แต่ได้ให้เจ้าหน้าที่ทำสำเนาให้กกต.แต่ละคนไปศึกษา และคงจะนำมาพุดคุยกันในที่ประชุมกกต.วันที่ 11 ม.ค.
สำหรับสำนวนทุจริตที่ค้างอยู่ในขณะนี้ว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบว่า เหลือค้างอยู่เท่าใด เพราะกกต.มีเวลาที่จะพิจารณาถึงวันที่ 15-16 ม.ค.นี้ เท่าที่ทราบเบื้องต้นมีค้างอยู่ 30 กว่าสำนวน จึงเป็นไปได้ว่าในวันที่ 12-13 ม.ค.จะมีการประชุมเพื่อเร่งพิจารณาสำนวน เพราะต้องการให้การประกาศรับรองผลส.ส.ทันกับการเปิดประชุมสภานัดแรก แต่ปัญหาคือ หลายเรื่องที่กกต.สั่งให้สอบเพิ่มเติม ก็ยังไม่แน่ว่า พนักงานสอบสวนที่กกต.สั่งให้ไปดำเนินการนั้น จะทำงานได้เสร็จทันแล้วมาชี้แจง กกต.ในวันที่กำหนดให้มีการประชุมได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามขณะนี้กกต.ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.เพิ่มเติมอีก 17 คน แยกเป็นส.ส.เขต 15 คน และส.ส.สัดส่วน 2 คน โดยเป็นส.ส.พรรคพลังประชาชน 14 คน พรรคประชาธิปัตย์ 2 คน และ พรรคชาติไทย 1 คน
ทั้งส.ส.เขตประกอบด้วย นาย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เขต 1 พรรคชาติไทย จ.สิงห์บุรี นาย วีระพล อดิเรกสาร เขต 2 พรรคพลังประชาชน สระบุรี นาย วิเชียร ขาวขำ เขต 4 พรรคพลังประชาชน จ.อุดรธานี นาย สุทิน คลังแสง เขต 1 พรรคพลังประชาชน จ. มหาสารคาม นาย สุรจิตร ยนต์ตระกูล เขต 1 พรรคพลังประชาชน จ. มหาสารคาม นาย จิรวัฒน์ ศิริพาณิชย์ เขต 1 พรรคพลังประชาชน จ.มหาสารคาม นาย เจริญ จรรย์โกมล เขต 1 พรรคพลังประชาชน จ.ชัยภูมิ นาย สุชาย ศรีสุรพล เขต 4 พรรคพลังประชาชน จ.ขอนแก่น นาย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เขต 4 พรรคพลังประชาชน จ.ขอนแก่น ว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ สุนทรชัย เขต 1 พรรคพลังประชาชน จ.หนองคาย นาย สมคิด บาลไธสง เขต 1 พรรคพลังประชาชน จ.หนองคาย นาง ชมภู จันทาทอง เขต 1 พรรคพังประชาชน จ.หนองคาย นาง นันทนา ทิมสุวรรณ เขต 2 พรรคพลังประชาชน จ.เลย นาง เปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข เขต 2 จ. พรรคพลังประชาชน จ. เลย และ นาย นราพัฒน์ แก้วทอง เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ จ.พิจิตร
ส่วนส.ส.สัดส่วน 2 คน คือ นาย ไพฑูรย์ แก้วทอง ส.ส. สัดส่วนกลุ่ม 2 พรรคประชาธิปัตย์ และนายธนเทพ ทิมสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน กลุ่ม 3 พรรคพลังประชาชน ดังนั้นจนถึงขณะนี้กกต.ประกาศรับรองส.ส.แล้วรวมทั้งสิ้น 420 คน ยังคงเหลือที่ไม่ประกาศ 60 คน
วันเดียวกัน นาย ศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำ นาย สุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ศรีสะเกษ มายื่นร้องให้ถอดถอน และดำเนินคดีอาญา กับ กกต.จังหวัดเนื่องจากมีความไม่ชอบมาพากลในการนับคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่ 15.00 น. และเสร็จสิ้นในเวลา 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ซ้ำยังมีไฟดับสองครั้งจนทำให้คะแนนเปลี่ยน ซึ่งได้ยื่นเรื่องร้องไว้ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ กกต. จังหวัดกลับไม่ส่งสำนวนการสอบสวนให้ กกต. กลางจนกระทั่งประกาศรับรองให้นาย ศิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ จากพรรคชาติไทยเป็น ส.ส. ในที่สุด นอกจากนี้ยังมีสำนวนเรื่องการซื้อเสียงจองนายศิริพงษ์ แต่ ทาง กกต. จังหวัดก็ไม่รายงาน กกต. กลางเช่นกัน
นายศุภชัยกล่าวว่า เมื่อมาสอบถามกับ กกต. กลางก็พบว่าทางจังหวัดไม่ได้ส่งสำนวนมาให้ อีกทั้งขณะนี้ที่จังหวัดยังมีข้อมูลรั่วจนมีการข่มขู่เอาชีวิตพยาน ในวันนี้จึงมาร้องและนำพยานมาให้ กกต. สอบ เพราะกลัวว่าหากช้าจะไม่มีพยานเหลือและถูกคุกคามถึงชีวิต