xs
xsm
sm
md
lg

ชัก 3 ใบเหลือง พปช. 1 - พผ .2 เลือกซ่อมโคราช พปช.ยกทีม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กกต ชักอีก 3 ใบเหลือง เป็น พปช.1 คน - พผ. 2 คน สรุปยอดล่าสุดจาก ส.ส.ที่พึงมีทั้งสภา 480 คน เหลือว่าที่ ส.ส.ที่ยังไม่ประกาศรับรอง 56 คน แต่ถ้าเพื่อการเปิดสภานัดแรกยังต้องการส.ส.อีก 32 คนที่ กกต.ต้องประกาศรับรอง ด้าน"ยงยุทธ" เตรียมยื่นหนังสือ จี้ย้ายตำรวจ -ทหาร ออกนอกพื้นที่เชียงราย อ้างเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ระหว่างกก.สอบสวนชุดใหม่ดำเนินการ "ประพันธ์"ระบุต้องประกาศรับรอง"ยุทธ ตู้เย็น"ไปก่อนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทีมสอบสวน ขณะที่"นันทนา" ยอมเก็บมุ้ง ม้วนเสื่อกลับบ้านแล้ว ส่วนเลือกตั้งซ่อมใบเหลืองส.ส.เขต 3 โคราชหงอย ผู้มาใช้สิทธิประมาณ50 % "พลังแม้ว" ยังยกทีมเหมือนเดิม

วานนี้ ( 13 ม.ค) นายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน และรองหัวหน้าพรรค ที่มีการระบุว่า จะเดินทางมาเพื่อขอดูวีซีดี กับกกต.ในวันที่ 13 ม.ค. ปรากฏว่า นายยงยุทธ กล่าวว่า ได้รับการประสานจากคณะอนุกรรมการสอบสวน ชุดที่มีนายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธาน ว่าให้มาดูวีซีดี ในวันอังคารที่ 15 ม.ค.นี้ อีกทั้งในวันนี้ (14 ม.ค.) ตนจะไปยื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อขอให้ย้ายพล.ต.ต. ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จ.เชียงราย และนายทหารในพื้นที่ออกจากพื้นที่ จ.เชียงราย ระหว่างที่มีการลงสอบสวนหาข้อมูล เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวภายหลังการประชุม กกต.ว่า กกต. มีการพิจารณาสำนวนร้องคัดค้านการเลือกตั้งทั้งสิ้น 5 เรื่อง โดยมติยกคำร้อง 3 เรื่อง เป็นของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 1 เรื่อง เพื่อแผ่นดิน 1 เรื่อง พลังประชาชน 1 เรื่อง ซึ่งเป็นกรณีการร้องคัดค้านในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เขต 4 และกาฬสินธุ์ เขต 2 และ ส.ส.ระบบสัดส่วน กลุ่ม 1 จ.เชียงราย

นอกจากนี้ กกต. มีมติสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ใน 2 จังหวัด คือ จ.นครราชสีมา เขต 6 กรณี นายมีชัย จิตต์พิพัฒน์ และนาย พลพีร์ สุวรรณฉวี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน ข้อหาสัญญาว่าจะให้เงินเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในการลงคะแนน และ ที่ จ.ชัยภูมิ เขต 2 กรณีนายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ข้อหาให้ทรัพย์สินวีซีดี และเงิน แก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ลงคะแนน โดยการเลือกตั้งใหม่ใน เขต 2 ชัยภูมิ นั้นจะมีขึ้นในวันที่ 17 ม.ค. นี้ พร้อมกับกรณีของนายบรรฑูรย์ เกียรติก้องชูชัย ว่าที่ ส.ส.พรรคชาติไทย ว่าที่ส.ส.เขตเดียวกัน ที่ก่อนหน้านี้กกต. มีมติสั่งเลือกตั้งใหม่

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวานนี้ (13ม.ค. ) กกต.ได้ใช้เวลาในการพิจารณาร่างความเห็นของ กกต.ที่มีมติสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งว่าที่ ส.ส.ชัยนาท และอุดรธานี ที่จะต้องส่งให้คณะกรรมการกลั่นกรองของกฤษฎีกาพิจารณาในวันที่ 14 ม.ค. นี้

นายสุทธิพล ยังกล่าวถึงกรณี มีมติมอบให้ดำเนินการเกี่ยวกับหนังสือร้องเรียน ของนาย วีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาธิปไตยต้านคอร์รัปชั่น ที่ขอให้สอบ นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านสืบสวนสอบแลวินิจฉัย กรณีสำนวนจ.เชียงรายรั่วไหล ว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ให้สำนักกฎหมายและคดีของ กกต. ไปพิจารณาแนวปฏิบัติที่ผ่านมาของกกต.ว่าสมควรตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่าต้องส่งความเห็นมาเมื่อใด แต่การดำเนินการดังกล่าว ต้องการให้เกิดความรอบคอบจึงให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณา

ส่วนกรณีที่ นายยงยุทธ จะขอให้มีการโยกย้ายตำรวจ ทหาร ออกนอกพื้นที่จ.เชียงราย ระหว่างคณะกรรมการสอบสวนทุจริตเลือกตั้งชุดใหม่ดำเนินการอยู่ นายสุทธิพล กล่าวว่า นายยงยุทธ มีสิทธิที่จะยื่นคำร้อง แต่กกต. ไม่มีอำนาจพิจารณาโยกย้าย หากมีการยื่นเรื่อง กกต. ก็จะรับไว้พิจารณาว่า เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกรณีที่ข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลางหรือไม่ ก่อนจะส่งหน่วยงานต้นสังกัดพิจารณาข้อเท็จจริง และดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคณะกรรมการสอบสวนชุดใหม่ที่มี นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธาน ไม่มีข้าราชการตำรวจหรือทหาร ร่วมเป็นกรรมการด้วย ซึ่งการสอบสวนพยานหากเห็นว่าต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม คณะกรรมการฯ ก็จะลงพื้นที่สอบพยานด้วยตนเอง

ส่วนการเลือกตั้งใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครราชสีมา ในวันเดียวกันนั้น กกต.กลางไม่ได้รับแจ้งจากจังหวัดว่ามีปัญหาอะไร แต่จำนวนผู้มาใช้สิทธิ คงจะน้อยกว่าครั้งเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา เพราะไม่มีการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า หรือเลือกตั้งในระบบสัดส่วน

ด้านนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดนครราชสีมา ว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี ซึ่งได้กำชับให้ กกต.จังหวัดจัดสายตรวจลงพื้นที่ตามปกติ ส่วนการบอยคอตการเลือกตั้งก็ไม่น่าจะมี เพราะทุกฝ่ายก็ลงพื้นที่หาเสียง

ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมาย ซึ่งอยากให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่อยากให้มีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอีก เพราะระยะเวลาในการรับรองผลการเลือกตั้งก็เหลือน้อยแล้ว ถ้ามีการร้องเรียนอีกก็จะมีปัญหา อยากให้ทุกฝ่ายได้ช่วยกัน

ส่วนในเขตที่มีการเลือกตั้งใหม่จะมีการรับรองส.ส.ทั้งหมดก่อนวันที่ 22 ม.ค.หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเรื่องร้องเรียน หากไม่มีการทำผิดกฎหมาย ก็สามารถรับรองได้ในวันรุ่งขึ้นทันที ขณะนี้ ได้รับรอง ส.ส.ไปแล้ว 424 คน สำนวนที่เหลือหากหลักฐานไม่เพียงพอ ก็จะยกคำร้อง เราอยากให้ทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดีตามขั้นตอน พยายามทำทุกอย่างให้เสร็จโดยเร็ว

เมื่อถามถึงกรณีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่อาจจะต้องมีการรับรองไปก่อน นายประพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ กกต. ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ที่มีนายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธาน ซึ่งจะต้องให้อิสระกรรมการในการทำงาน เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนมาก ต้องทำให้ทุกอย่างถูกต้อง เป็นธรรม ทุกฝ่ายยอมรับได้ ผู้ถูกกล่าวหาเองก็โต้ว่า เขาไม่ไว้ใจชุดสอบสวนเดิม เราก็ทำทุกอย่างให้เป็นที่ยอมรับ

" การจะพิจารณาให้เสร็จทันวันที่ 21 ม.ค. หรือไม่ เราคงไปบอกคณะกรรมการไม่ได้ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ถ้าทำไม่ทัน กกต. ก็ต้องพิจารณาว่า จะรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนหรือไม่ แต่ขณะนี้ ถือว่า ยังมีเวลา ให้คณะกรรมการฯอ่านสำนวนให้รอบคอบ เราเชื่อในความเป็นกลาง กรณีที่มีข่าวว่า พยานของผู้ร้องเรียนนายยงยุทธ ถูกข่มขู่ ก็ได้รับรายงานว่า มีการดูแลพยานแล้ว"

ส่วนกรณีสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายมนเฑียร และ นางนันทนา สงฆประชา อดีตผู้สมัคร ส.ส. ชัยนาท พรรคชาติไทย ความผิดจะส่งผลถึงยุบพรรคหรือไม่นั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ กกต.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่พรรคการเมืองตรวจสอบ ว่าผู้ถูกใบแดง เป็นกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ และส่งให้ กกต.วินิจฉัย แต่ขณะนี้ การพิจารณาของ กกต. ยังไม่ถึงเรื่องการยุบพรรค แต่ถ้าถึงขั้นนั้น ก็ต้องตั้งอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ วานนี้ ( 13 ม.ค. ) ตั้งแต่ช่วง เวลา 09.00 น. กลุ่มผู้สนับสนุน นางนันทนา สงฆ์ประชา และนายมณเฑียร สงฆ์ประชา ผู้สมัคร ส.ส.จ.ชัยนาท พรรคชาติไทยที่โดนใบแดง ประมาณ 500 คน ได้มาชุมนุมที่หน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ เพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจ และประท้วงการให้ใบแดงผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 2 คน โดยนางนันทนา ที่ได้ปักหลักกางมุ้งนอนที่ชั้นล่างของอาคาร ตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นการชุมนุมอย่างสงบ มีนายภุชงค์ นุตราวงศ์ รองเลขาธิการ กกต. มาเจรจา จนกระทั่งเวลา 11.00 น. นางนันทนา ก็ได้ม้วนเสื่อ และให้ลูกชายช่วยกันพับมุ้งก่อนจะเดินทางกลับพร้อมกับกลุ่มผู้ชุมนุม

นางนันทนา กล่าวพร้อมกับร้องไห้ไป ด้วยท่าทางอิดโรย ว่า วันนี้ตนจะขออยู่เป็นวันสุดท้าย จากนั้นจะกลับ เพราะถ้าตนอยู่ ประชาชนจะลำบากมาให้กำลังใจ ที่ กกต.ตัดสินให้ใบแดงนั้นไม่เป็นธรรม หลักฐานที่ กกต.ใช้ ไม่หนักแน่น มีเพียงรูปถ่าย 3 ใบ ถ่ายเห็นแต่ต้นไม้ หลังจากนี้ ก็จะไปหวังรอดูช่องทางที่คณะกรรมการกฤษฎีกาจะวินิจฉัยต่อไป

**กกต.รับรองส.ส.แล้ว 424 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ กกต.ได้ประกาศรับรองส.ส.ไปแล้ว 424 คน ดังนั้นจากจำนวนส.ส.ที่พึงมีทั้งสภา 480 คน จึงยังเหลือ ส.ส.ที่ยังไม่มีการประกาศรับรองจำนวน 56 คน แยกเป็นส.ส. สัดส่วน 2 คน ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง 54 คน โดยในส่วนของระบบเขตเลือกตั้งนั้น กกต. มีการสั่งเลือกตั้งใหม่แล้ว 18 ราย และสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 7 ราย ซึ่งการเลือกตั้งใหม่ที่จะมีขึ้น ในส่วนของเขต 3 นครราชสีมา กกต. กำหนดเลือกตั้งใหม่วันที่ 13 ม.ค. สำหรับเขต 1 บุรีรัมย์ เขต 1 ชัยภูมิ เขต 2 กกต. กำหนดเลือกตั้งใหม่วันที่ 17 ม.ค. ส่วน เขต 1 จ.ชัยนาท เขต 1 ปราจีนบุรี เขต 1 ลำปาง เขต 1,2,3 อุดรธานี และ เขต 1 เพชรบูรณ์ กกต. กำหนดเลือกตั้งใหม่วันที่ 20 ม.ค. ส่วนเขต 6 นครราชสีมา ที่ กกต.มีมติให้เลือกตั้งใหม่วานนี้ (13ม.ค. ) ยังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน จึงยังเหลือสำนวนคัดค้านว่าที่ ส.ส.ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต. 31 ราย แยกเป็นพลังประชาชน 26 คน เพื่อแผ่นดิน 4 รวมใจไทยชาติพัฒนา 1 คน และถ้าจะเปิดสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง ก็ยังคงเหลือ ส.ส.ที่กกต.จะต้องประกาศรับรองอีก 32 คน เพื่อให้มีส.ส .ครบ 95 % หรือจำนวน 456 คน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

**เตรียมเรียก"ชัยยะชี้แจงสำนวนรั่ว
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกต.ได้มีมติให้ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.ไปดำเนินการตั้งเรื่องกรณีที่ นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายต้านคอร์รัปชัน ให้ กกต.ตรวจสอบกรณีที่มี กกต.คนหนึ่งไม่คืนสำนวนทุจริต จ.เชียงราย ให้กับตำรวจสันติบาล จนเป็นเหตุให้เอกสารรั่วไปถึงมือ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ก่อนที่มารับทราบข้อกล่าวหานั้น ตนขอถามหน่อยว่า กกต. เรามีเท่ากันหมดไม่มีใครเป็นใหญ่ และประธาน กกต. ก็ไม่ใช่หัวหน้า จะมาตั้งเรื่องสอบได้อย่างไร กกต. จึงได้มีมติมอบหมายให้นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. ไปดำเนินการ ตั้งเรื่องเข้ามา ซึ่งตนเห็นว่าต้องใช้คนนอก ไม่ใช่คนในองค์กร เพราะว่าคนในองค์กรก็เป็นลูกน้องเราหมด จะให้เขามาสอบได้อย่างไร

นางสดศรี ยังกล่าวอีกว่า กรณีนี้เราก็ต้องเชิญพล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธุ์กุล รอง ผบช.ส. มาชี้แจงในฐานะผู้กล่าวหา ว่าได้รับความเสียหายกรณีนี้อย่างไร สำนวนรั่วไปได้อย่างไร ออกมาอย่างไร เพราะจริงแล้วสำนวนก็อยู่ที่ พล.ต.ต.ชัยยะ ด้วยเหมือนกัน จะมากล่าวหาว่ารั่วโดย กกต. ก็ต้องพิสูจน์กันว่ารั่วโดย กกต.จริงหรือไม่ ทั้งนี้พล.ต.ต.ชัยยะ ซึ่งเป็นผู้เปิดประเด็นก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า มีหลักฐานอะไรหรือไม่ ที่ว่า นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.นำไปเปิดเผย หรือรั่วไปอย่างไร ซึ่งก็อาจจะถูกนายสมชัยฟ้องร้อง ก็เป็นไปได้

ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับมอบหมายให้สำนักกฎหาย และคดีไปศึกษากรณีดังกล่าวว่า สามารถดำเนินการได้หรือไม่ เพราะหากมีการตรวจสอบก็ต้องตรวจสอบ กกต. ซึ่งสำนักงานไม่มีอำนาจเหมือนกับการตรวจสอบพนักงาน กกต.ทั่วไป ทั้งนี้ ตนอยากให้ กกต.ได้คุยกัน เพราะที่ผ่านมานายสมชัย ก็ออกมาระบุชัดเจนว่า ไม่ได้รั่วมาจากท่าน ขณะนี้ยังไม่มีออกมายืนยันว่าได้เอกสารจากใคร ดังนั้น ต้องให้เวลาในการศึกษากฎหมาย ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะศึกษากฎหมายได้เร็วแค่ไหน เราไม่ได้วางกรอบให้เขา เพราะเรื่องนี้ต้องใช้ระยะเวลา

ส่วนนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวว่า เรื่องนี้ กกต.ก็ได้มีการคุยกัน ตนก็บอกไปว่าไม่ขัดข้อง จะดำเนินการอย่างไรก็ทำ ไม่ว่ากัน ขอยืนยันว่าสำนวนหลุดหรือสำนวนรั่วนั้นไม่ได้รั่วจากตนแน่นอน แต่ยอมรับว่าไม่ได้คืนสำนวนสันติบาลจริง เพราะเข้าเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนตามหน้าที่ เมื่อสอบสรุปสำนวนเสร็จ ก็ต้องส่งให้ กกต.เป็นผู้พิจารณา ขอถามกลับว่า คนที่มีสิทธิ์พิจารณาไม่มีสิทธิ์ ที่จะนำสำนวนกลับมาดูหรืออย่างไร

**จี้กกต.ดูแลเลือกตั้งบุรีรัมย์ให้โปร่งใส
ด้านนายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเตรียมทำหนังสือร้องเรียนไปยัง กกต. ในวันที่ 14 ม.ค. นี้ เพื่อให้ตรวจสอบการกระทำของพรรคพลังประชาชน ที่ถูกตัดสิทธิเลือกตั้งในจ.บุรีรัมย์เขต 1 เพราะ ว่าที่ส.ส.ที่โดนใบแดงกลับมีพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายต่อการเลือกตั้ง มีการบอกให้หัวคะแนนไปบอกประชาชนว่า ให้เลือกพรรคใดก็ได้ที่ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ หรือ มีการบอกให้ประชาชนอย่าออกไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เพราะเป็นการทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งอย่างชัดเจน ตนจึงต้องการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลการเลือกตั้ง สั่งการให้ผู้ที่โดนใบแดง หยุดการกระทำในลักษณะนี้ และขอให้ กกต.เร่งรัดให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิมากที่สุดในการเลือกตั้งซ่อม ในวันที่ 17 ม.ค.นี้

"ขณะนี้มีความพยายามให้ประชาชนเทคะแนนให้พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง แต่ไม่ใช่พรรคเพื่อแผ่นดิน และยังมีการพยายามทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการให้ หรือการสัญญาว่าจะให้ จึงควรส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลในเรื่องนี้"

** ติง ปธ.ครส. เพิกเฉยกรณีข่มขู่พยาน
นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคฯ ระบุ ได้รับข้อมูลจากทีมงานที่ส่งไปติดตามกรณีการทุจริตซื้อเสียง จ.เชียงราย ของนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ว่า ขณะนี้กำนัน ที่เป็นพยานในคดีดังกล่าวกำลังถูกข่มขู่ให้กลับคำให้การ ซึ่งได้มีการตั้งข้อสังเกตไปถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ที่กลับยังคงนิ่งเฉย ไม่ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยให้กับพยานในคดีนี้ ทั้งที่เคยเป็นถึงประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง (ครส.) และยังมีข้อมูลด้วยว่า ขณะนี้มีการขนคนมาชุมนุมกดดันการทำหน้าที่ของ กกต. ทั้ง กกต. กลาง และ กกต.จังหวัด จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระทรวงมหาดไทย ดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อย และคุ้มครอง กกต. ทั้งของจังหวัด และ กกต.กลางด้วย

พร้อมกันนี้ นายถาวร ยังขอให้ฝ่ายตรงข้ามนั้นใช้การต่อสู้คดีต่างๆ ไปตามกฎหมาย ดีกว่าการใช้วิธีกดดัน

**เลือกตั้งซ่อมใบเหลืองโคราชหงอย
วานนี้ (13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการลงคะแนนเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครราชสีมา ซึ่งมีทั้งหมด 812 หน่วย ใน6 อำเภอ ประกอบด้วย ด่านขุนทด, สีคิ้ว, สูงเนิน, โนนไทย, เทพารักษ์ และพระทองคำ เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ประชาชนทยอยเดินทางออกมาใช้สิทธิ บางตา ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งรอบ 2 ประชาชนในพื้นที่บางส่วนเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด และหลายคนรู้สึกเบื่อหน่ายการเลือกตั้ง

หลังปิดหีบเลือกตั้ง เมื่อเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ทั้ง 812 หน่วย ได้เริ่มนับคะแนน ก่อนจะส่งผลคะแนนไปยังแต่ละอำเภอ และรวบรวมส่งต่อไปยัง ศูนย์อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 3 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่ว่าการอำเภอด่านขุนทด เพื่อรวบรวมคะแนนผลการเลือกตั้งทั้งหมด ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดและรายงาน กกต.กลาง ต่อไป

พล.อ.วีรวุธ ส่งสาย ประธานกกต. จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า โดยภาพรวมการเลือกตั้ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเรื่องร้องเรียนทุจริต หรือการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่มีประชาชนออกมาใช้สิทธิน้อยมาก คาดว่ามีผู้มาใช้สิทธิในการเลือกตั้งครั้งนี้ประมาณร้อยละ 50 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 322,529 คน ทั้งนี้ เนื่องจากประชาชนบางส่วน โดยเฉพาะวัยรุ่นและวัยทำงานได้เดินทางไปทำงานยังต่างจังหวัด

จากรายงานทราบว่า ในพื้นที่ อ.สูงเนิน มีประชาชนออกมาใช้สิทธิสูงกว่าทุกอำเภอ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่จำนวนมาก และคนในท้องถิ่นไม่ต้องอพยพไปทำงานที่อื่น จึงทำให้บรรยากาศการใช้สิทธิในพื้นที่นี้คึกคักกว่าพื้นที่อำเภออื่น นายชัชวาลย์ รักชาติ ผู้สังเกตการณ์ชาวไทย จากเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งหรือ ANFREL เปิดเผยว่า ANFREL ได้ส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 3 คน เป็นตัวแทนจากประเทศไทย, อินโดนีเซีย และ เยเมน ลงพื้นที่สังเกตการณ์ การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยลงพื้นที่มานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว พบว่าการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.จังหวัดนครราชสีมาทำได้ดี ตามขั้นตอนการปฏิบัติ เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้เจ้าหน้าที่คนเก่าซึ่งมีความชำนาญในการจัดการเลือกตั้งที่เป็นระบบอยู่แล้ว

"แต่สิ่งที่อยากตั้งข้อสังเกต คือ ระยะเวลาการจัดการเลือกตั้งสั้นจนเกินไป ทำให้การประชาสัมพันธ์มีน้อย ประชาชนยังไม่ทราบว่ามีการเลือกตั้ง จึงเป็นผลทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิน้อยมาก ซึ่งระยะเวลาที่เหมาะสมควรจะยืดเวลาออกไปอีก 1-2 สัปดาห์" นายชัชวาลย์ กล่าว

**พปช.กวาด 3 ที่นั่งเหมือนเดิม
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการจัดการเลือกตั้งใหม่ ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครราชสีมา หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้งว่า ระบบออนไลน์ของศูนย์อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดนครราชสีมา ได้รวบรวมคะแนนครบทั้ง 812 หน่วยเลือกตั้ง ทั้ง 6 อำเภอ อย่างไม่เป็นทางการแล้ว ปรากฏว่า ผู้ที่ได้คะแนนอันดับ 1 คือ นายบุญเลิศ ครุฑขุนทด หมายเลข 12 พปช. ได้ 96,627 คะแนน อันดับ 2 คือ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง หมายเลข 10 พปช. ได้ 88,094 คะแนน อันดับ 3 คือนางลินดา เชิดชัย หมายเลข 11 พปช. ได้ 84,371 คะแนน ส่วนอันดับ 4 คือนายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ หมายเลข 1 รช. ได้ 65,539 คะแนน ซึ่งหากคะแนนเป็นทางการเป็นไปตามนี้เท่ากับว่าผู้สมัครจากพรรคพลังประชาชนทั้ง 3 คน ยังคงได้รับการเลือกตั้งเข้าไปเช่นเดิม

อนึ่ง การเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครราชสีมา มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง จำนวน 235,916 คน คิดเป็นร้อยละ 73 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 322,529คน มีบัตรเสีย 15,000 ใบ คิดเป็นร้อยละ 6 และ มีบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 5,752 ใบ คิดเป็นร้อยละ 2

**ตำรวจจับคนขายเหล้าได้ 2 ราย
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำ ตร. ทำหน้าที่รอง ผบ.ตร.มค. ในฐานะผอ.ศรส.ลต.ตร. กล่าวถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครราชสีมา ว่า สถานการณ์โดยทั่วไปถือว่าสงบเรียบร้อยดี เบื้องต้นพบเพียงการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งโดยการจำหน่ายสุรา 2 รายเท่านั้น

สำหรับการเตรียมความพร้อมของ ศรส.ลต .ตร. ตนได้สั่งการให้ ศรส.ลต. จังหวัด ในพื้นที่ที่ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ประกอบด้วย นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยนาท ชัยภูมิ อุดรธานี ลำปาง เพชรบูรณ์ ให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติตามคำสั่งของ กกต. ทั้งนี้ได้มีการเปิดศูนย์ไป ตั้งแต่วันที่ 8-22 ม.ค. ส่วน จ.ปราจีนบุรี ที่ประกาศเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 20 ม.ค.นั้น ในส่วนนี้ได้มีการเปิดศูนย์ไปตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ตนยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และชุดสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นด้วย

ส่วนการดูแลความปลอดภัยและคุ้มครองพยานจากกรณีให้ใบเหลือง ใบแดงนั้นในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่จะมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยให้อย่างดี ซึ่งพยานทุกคนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความคุ้มครองอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้ยังไม่มีพยานรายใดร้องขอความคุ้มครองเป็นพิเศษมายัง ศรส.ลต.ตร.
กำลังโหลดความคิดเห็น