กาฬสินธุ์- ม็อบชาวบ้านและเกษตรกร กว่า 200 คน บุก กกต.-อบจ.กาฬสินธุ์ คัดค้านการประกาศรับรองการเลือกตั้งนายก อบจ.“ชม้อย วรามิตร” ผ่านการรับรอง ชี้ มีการทุจริตและอยู่ระหว่างการสอบสวนการแจกเงิน แต่ก็ยังประกาศ ลั่นเดินหน้าร้องต่อตุลาการรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา หากไม่ได้รับความเป็นธรรม ด้านกกต.กาฬสินธุ์อ้างรับรองเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ส่วนความผิดกำลังดำเนินการสอบสวนว่าจะฟังขึ้นหรือไม่ขึ้น ขณะที่แกนนำโร่แจ้งความหวั่นอิทธิพลมืด
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (19 ก.พ.) นายเกษตรกรณ์ โสมี ประธานสมาพันธ์เกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ นายหนูนา กาญวิจิตร รองประธานสมาพันธ์ฯ พร้อมด้วยตัวแทนเกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ ตัวแทนองค์กรกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ และตัวแทนองค์กรประชาชนกาฬสินธุ์ตรวจสอบการเลือกตั้ง จาก 18 อำเภอ กว่า 200 คน ได้ชุมนุมถือป้ายประท้วงและยื่นหนังสือขอคัดค้านผลการประกาศรับรองการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วน จ.กาฬสินธุ์ (อบจ.กาฬสินธุ์) ที่หน้าสำนักงาน กกต.กาฬสินธุ์ โดยมีนายถิรวัฒน์ ธนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ.กาฬสินธุ์ เป็นตัวแทนผู้รับหนังสือ
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางไปชุมนุม พร้อมทั้งอ่านแถลงการณ์การขอคัดค้านผลการประกาศที่หน้าสำนักงาน อบจ.กาฬสินธุ์ โดยระบุว่าการเลือกตั้งนายกอบจ.ครั้งนี้มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง มีการแจกเงินซื้อเสียง แต่ กกต.กาฬสินธุ์ กลับประกาศรับรอง
ทั้งนี้ ภายหลังจากการชุมนุม นายสุระพงษ์ ยะนะโชติ ทนายประจำองค์กร พร้อมด้วยแกนนำได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ว่า หากพวกตนได้รับอันตราย ถือว่ากลุ่มผู้ที่ถูกร้องเป็นผู้กระทำ เนื่องจากทุกคนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน
นายเกษตรกรณ์ โสมี ประธานสมาพันธ์เกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่ กกต.กาฬสินธุ์ได้จัดให้มีการเลือกตั้งนายก อบจ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งการเลือกตังดังกล่าวปรากฏว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีการซื้อสิทธิ์ ขายเสียงเกิดขึ้น มีการแจกเงินให้ประชาชนในทุกพื้นที่ ทั้งระดับอำเภอ ตำบล ชุมชนและหมู่บ้าน ไม่ต่ำกว่า 300,000 ราย
ดังนั้น ตนและตัวแทนประชาชนชาวกาฬสินธุ์ ซึ่งต้องการให้การเลือกตั้งทั้งระดับในประเทศและท้องถิ่นเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส่ และปราศจากการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง จึงขอเรียกร้องและคัดค้านผลประกาศการรับรองการเลือกตั้งนายก อบจ.กาฬสินธุ์ครั้งนี้
ทั้งนี้ เนื่องจากทางสมาพันธ์ โดย นายหนูนา พร้อมด้วยตัวแทนอีก 2 คนได้นำหลักฐานการแจกเงินของผู้สมัครนายก อบจ.กาฬสินธุ์ เข้าร้องเรียนต่อ กกต.กาฬสินธุ์ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวน แต่ กกต.กาฬสินธุ์ กลับประกาศรับรองแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง
นายเกษตรกรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการชุมนุมคัดค้านครั้งนี้ หากไม่ได้รับคำตอบและคำชี้แจง หรือการดำเนินการอย่างเป็นธรรมจาก กกต.กาฬสินธุ์แล้ว ทางสมาพันธ์ฯจะร่วมกับองค์กรต่างๆ เดินทางเข้าไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับตุลาการรัฐธรรมนูญ สำนักงานผู้ต้องการแผ่นดินรัฐสภา องค์กรเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น กกต.กลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกกต.กาฬสินธุ์
ด้าน นายหนูนา กล่าวว่า หลังจากตนและครอบครัวได้รับเงินคนละ 100 บาท จาก นางเพ็ญจันทร์ พรมพยัคฆ์ และพวก ซึ่งทราบว่าเป็นหัวคะแนนให้ นางชม้อย วรามิตร ผู้สมัครนายก อบจ.เบอร์ 2 เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2551 ก่อนวันลงคะแนนการเลือกตั้งจึงนำได้ไปแจ้งกับผู้ใหญ่บ้าน และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ เพื่อเป็นหลักฐาน พร้อมทั้งเดินทางเข้าร้องเรียนกับ กกต.กาฬสินธุ์
ต่อมาก็มีคนทั้งหญิงและชาย ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนของ นางชม้อย เดินทางไปพบที่บ้าน เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ถอนแจ้งความ และยกเลิกการร้องเรียน ซึ่งจะได้รับเงินค่าตอบแทน แต่ตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งของท้องถิ่นเกิดการทุจริต ขัดต่อนโยบายของ กกต.จึงไม่ยอมถอนแจ้งความ
หลังจากร้องเรียนทาง กกต.กาฬสินธุ์เอง ก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าว และขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่
นายหนูนา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทราบว่า กกต.ได้ประกาศรับรองให้นางชม้อย วรามิตร ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.กาฬสินธุ์แล้ว ดังนั้น ในวันนี้ตนในฐานะผู้ร้องเรียนพร้อมทั้งตัวแทนชาวกาฬสินธุ์จึงต้องการคัดค้านผลการประกาศครั้งนี้ พร้อมทั้งขอทราบความคืบหน้าสำนวนสอบสวนด้วย เนื่องจากเกรงว่าการทำหน้าที่ของ กกต.กาฬสินธุ์ จะไม่เป็นธรรม
นายประสิทธิ์ คชโคตร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ กกต.กาฬสินธุ์ ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายก อบจ.กาฬสินธุ์แล้ว เนื่องจากที่ประชุมเห็นตรงกันว่าไม่ควรให้ตำแหน่งนายก อบจ.กาฬสินธุ์ว่างเว้นนานเกินไป ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการดำเนินงานต่างๆที่เป็นประโยชน์ของประชาชน สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ก็ได้มีผู้เข้ามาร้องเรียนว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
โดยมีการแจกเงิน ทั้งนี้ หลังรับเรื่อง กกต.กฬสินธุ์ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้ก็ได้ขยายเวลาการสืบสวนออกไป เนื่องจากผู้ร้องเรียนได้อ้างพยานเพิ่มอีก 3 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องสอบปากคำอย่างละเอียด จึงทำให้สำนวนการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตาม การประกาศรับรองดังกล่าวเป็นการประกาศล่วงหน้า ซึ่งหากผลการสอบสวนเสร็จสิ้นและพบว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนและมีมูลความผิดจริง ก็สามารถฟังขึ้นหากพยานหลักฐานไม่ชัดเจนก็ฟังไม่ขึ้น