xs
xsm
sm
md
lg

โจรสำนึกผิดกลัวคุกส่งคืนโคตรเพชร 315 ล้าน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าของโคตรเพชรยิ้มออก คนร้ายกลัวคุกส่งคืนเพชรมูลค่า 315 ล้านบาท แต่มีข้อแม้ให้ถอนแจ้งความ เจ้าของตอบตกลงทันที ก่อนคนร้ายนั่งรถแท็กซี่นำใส่กล่องเครื่องดื่มบำรุงกำลังมาคืนให้ที่บริษัท เจ้าตัวยันเป็นเพชรที่ถูกขโมยไปจริง ด้าน ตร.เร่งหาลายนิ้วมือแฝงคนร้าย และตรวจสอบคนร้ายที่นำเพชรมาคืนว่าใช่คนร้ายคนเดียวกันที่ลงมือก่อนหน้านี้หรือไม่

จากกรณีที่มีคนร้ายก่อเหตุฉกเพชรใสแอฟริกาน้ำหนัก 2,100 กะรัต มูลค่าประมาณ 315 ล้านบาท ของ นายจักพันธ์ ประมวลสุข อายุ 71 ปี เหตุเกิดภายในบริษัทจัดหางาน ซาป้า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์วิส จำกัด เลขที่ 161/414-411 ภายในซอยวิภาวดี 76 ถนนวิภาวดี แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา จนมีการออกหมายจับคนร้ายทั้ง 2 คน จากนั้น 1 ในคนร้ายที่ถูกออกหมายจับกลับออกมายืนยันว่าตัวเองไม่ใช่คนร้าย พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ ซึ่งหลังจากผู้เสียหายไปชี้ตัวผู้ต้องหาแล้วกลับพบว่าไม่ใช่ เจ้าหน้าที่จึงได้ถอนหมายจับดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (30 ก.ค.) พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผกก.สส.บก.น.2 กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่นำใบประกันเพชรของนายจักรพันธ์ เจ้าของเพชรไปให้ทางบริษัทที่ออกใบประกันเพชรย่านสาทร ตรวจสอบดูแล้วพบว่าเป็นใบประกันจริงแต่ว่าเป็นใบประกันของพลอยชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ใบประกันเพชรก้อนดังกล่าวที่หายไป แต่ถูกใช้วิธีการสวมรอยแก้ไขจากพลอยเป็นเพชร ส่วนจะมีการแจ้งข้อหากับผู้ที่ปลอมแปลงเอกสารหรือไม่นั้น ต้องรอให้ผู้เสียหายก็คือบริษัทที่มีหน้าที่ออกใบประกันมาร้องทุกข์ก่อน ถึงจะแจ้งข้อหากับผู้ที่ปลอมแปลงเอกสารได้

พ.ต.อ.สรรค์หกิจ กล่าวต่อว่า สำหรับคนร้ายในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ได้กลุ่มเป้าหมายแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น “แก๊งไทด์” ซึ่งเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่จะรู้จักกันในวงแคบๆ ของนักค้าเพชรค้าพลอย ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าเพชรก้อนดังกล่าวจะเป็นของปลอมหรือไม่นั้นไม่ขอยืนยัน ซึ่งในส่วนของการสอบสวนต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายสอบสวน สน.ดอนเมือง การสืบสวนก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.2 ที่จะต้องติดตามเพชรดังกล่าวคืนมาให้ได้ตามที่ผู้เสียหายมาร้องทุกข์ไว้ ไม่ว่าเพชรจะเป็นของจริงหรือของปลอม

ด้าน พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง กล่าวว่า หลังจากที่ นางมณฑาทิพย์ สุขพัฒนา ญาติผู้เสียหายได้เดินทางไปดูตัวนายพรหมมา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาที่ จ.เชียงราย แล้วยืนยันว่า นายพรหมมาไม่ใช่คนร้ายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ขออนุมัติศาลขอถอนหมายจับทันที แม้ในตอนแรก ผู้เสียหายก็ได้ชี้รูปยืนยันเองว่านายพรหมมาเป็นคนร้าย จึงอาจจะเป็นความผิดพลาดที่ว่ารูปถ่ายกับตัวจริงไม่เหมือนกัน ส่วนเรื่องเพชรนั้นขณะนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบว่า เป็นของจริงหรือของปลอม แต่หลังจากนี้จะต้องเรียกตัว นายจักรพันธ์ เจ้าของเพชรมาสอบสวนเพื่อเค้นหาความจริงอีกครั้ง เนื่องจากว่าใบประกันเพชรที่นายจักรพันธ์นำมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเป็นของปลอม เนื่องจากแท้จริงแล้วเป็นใบประกันพลอยไม่ใช่เพชรที่หายไป โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแจ้งข้อหาต่อไปในภายหลัง

ต่อมา เมื่อเวลา 20.30 น. พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งจาก นางรินทร์ลภัส ปุณยจิรพัฒน์ อายุ 58 ปี เจ้าของบริษัทจัดหางานซาบ้า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์วิส จำกัด ว่ามีผู้นำเพชรมูลค่า 318 ล้านบาท ที่ถูกขโมยไปมาคืนที่สำนักงาน จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ศานุจารย์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงก็พบกล่องใส่เครื่องดื่มบำรุงกำลังขนาดแพก 12 ขวด ยี่ห้อหนึ่ง ภายในบรรจุเพชรเม็ดสีขาวใสขนาดใหญ่เท่ากำปั้นมือ โดยนางรินทร์ลภัส 1 ใน ผู้เสียหาย พร้อมพนักงานในบริษัทหลายคน ต่างก็ยืนยันกับทางตำรวจว่าเป็นโครตเพชรน้ำหนัก 2,100 กรัมที่ถูกคนร้ายขโมยไปจริง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจึงได้ทำการตรวจหาลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย ก่อนส่งคืนให้นางรินทร์ลภัสเป็นผู้เก็บรักษาเอาไว้

โดยนางรินทร์ลภัส ได้ให้การว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นชายโทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์มือถือตน พร้อมแจ้งความประสงค์ว่า จะนำเพชรมาคืนให้ แต่มีข้อแม้ว่า ตนกับนายจักรพันธุ์ ซึ่งเป็นเจ้าของเพชรจะต้องไปทำเรื่องถอนแจ้งความ ซึ่งในขณะนั้นตนรีบตอบตกลงทันที ด้วยความอยากได้เพชรคืนจากนั้นคนร้ายก็วางสายไป ต่อมาไม่นานคนร้ายคนเดิมก็โทรศัพท์เข้ามาอีก โดยบอกกับตนว่าตอนนี้นำเพชรไปฝากไว้กับพนักงานที่บริษัทให้แล้ว ขอให้รีบเดินทางกลับไปรับเพชรคืน ตนจึงรีบมุ่งหน้ากลับมาที่บริษัทพบว่า มีผู้นำเครื่องดื่มบำรุงกำลังมาฝากไว้ให้ 1 โหล แต่ยังไม่กล้าเปิดกล่องดูเอง ก็เลยรีบโทรแจ้งตำรวจมาร่วมตรวจสอบ

ด้าน พ.ต.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจากทางผู้เสียหายว่า มีคนร้ายนำเพชรที่ถูกขโมยไปมาคืนให้ จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบและให้ พฐ.ทำการตรวจหาลายนิ้วมือแฝงเก็บเอาไว้ จากการสอบถามพนักงานบริษัทที่เป็นผู้รับฝากกล่องเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ได้ให้ข้อมูลว่าเมื่อตอนหัวค่ำมีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 50 ปี นั่งรถแท็กซี่สีชมพู ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และทะเบียน มาลงที่ด้านหน้าบริษัท ก่อนฝากเครื่องดื่มบำรุงกำลังขนาดแพ๊ค 1 โหล ไว้ให้นางรินทร์ลภัส เสร็จแล้วก็ขึ้นรถแท็กซี่คันเดิมขับออกไป ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องทำการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่าคนร้ายที่นำเพชรมาคืนจะใช่คนคนเดียวกับที่ขโมยเพชรไปหรือไม่ก่อนนำผลตรวจลายนิ้วมือแฝงมาหาเบาะแสของคนร้ายเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ โชว์เพชรที่คนร้ายนำมาคืน
ผู้เสียหายชี้เพชรที่ถูกคนร้ายขโมยไป
กำลังโหลดความคิดเห็น