“วีระ” ชี้พิรุธหมายเรียกคดี “สมชัย” ฟ้องหมิ่น ถูกส่งหลังมีปัญหากับประธานอนุฯ สอบิ “นอมินี” ยันยื่น ป.ป.ช.สอบกรณีสำนวน “ยุทธ ตู้เย็น” รั่ว เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้จงใจกล่าวหาใคร พร้อมจับโกหก “เฉลิม” โบ้ยสอบที่ดิน “ชิดชอบ” อ้างคดีถึงอัยการแล้วทั้งที่ยังอยู่ที่ดีเอสไอ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ คนค้นโกง เปิดโปงคอร์รัปชัน
หลังจากที่ นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการสืบสวนและวินิจฉัย ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานและหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง กรณีที่นายวีระได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2551 ให้ไต่สวนกรณีน่าเชื่อว่านายสมชัยทำเอกสารประกอบสำนวนคดีทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้ง ที่ จ.เชียงราย รั่วออกไปถึงมือ นายยงยุทธ ติยะไพรัช โดยตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้ออกหมายเรียกให้นายวีระไปรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้ (29 มี.ค.) เมื่อเวลา 19.30 น. นายวีระ สมความคิด ได้กล่าวในรายการ “คนค้นโกง เปิดโปงคอร์รัปชัน” ทางเอเอสทีวี เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ตนได้พบความผิดปกติของหมายเรียกหลายประการซึ่งตนได้ถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ก็ได้รับทราบข้อมูลว่านายสมชัยได้ส่งตัวแทนมาแจ้งความตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ก.พ.แล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่าจะไม่แจ้งความใดๆ
นายวีระ กล่าวต่อว่า เป็นที่น่าสงสัยว่าหลังจากที่ตนมีปัญหากับนายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย ในเรื่องที่นายไพฑูรย์ไม่ยอมให้ตนบันทึกเทปขณะจะให้ปากคำ จึงทำให้ตนไม่ให้ปากคำแล้วเดินทางกลับ ซึ่งวันที่ตนเดินทางไปให้ปากคำคือวันที่ 18 มี.ค. จากนั้นพอวันที่ 21 หมายเรียกของตำรวจก็ถูกส่งมา ซึ่งตนคิดว่าอาจเป็นเพราะตนไปมีปัญหากับนายไพฑูรย์หรือไม่
ทั้งนี้ เนื่องจากในหมายเรียกของตำรวจระบุว่า ออกเมื่อวันที่ 10 มี.ค. แต่ส่ง EMS มาให้ตนวันที่ 20 มี.ค. และส่งมาถึง 21 มี.ค. จึงสันนิษฐานว่าหมายเรียกถูกส่งมาเพราะตนมีปัญหากับนายไพฑูรย์ อีกทั้งในหมายยังระบุ พ.ศ.ผิด คือลงว่าเป็นวันที่ 26 มี.ค.49 และหมายเลขโทรศัพท์ สน.ก็ไม่มี ซึ่งผิดปกติจากหมายเรียกทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม วันที่ 26 มี.ค. ตนก็ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วคิดว่านายสมชัยอาจจะเข้าใจผิดว่าตนไปกล่าวหา ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ ตนแค่ขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบกรณีน่าเชื่อว่านายสมชัยอาจจะเป็นคนที่เอาเอกสารลับกรณีของคุณยงยุทธ ติยะไพรัช ไปเปิดเผย ไม่ได้บอกว่าเป็นนายสมชัยเป็นคนทำ เพียงแต่บอกว่าน่าเชื่อได้ว่า เพราะเอกสารมันเหลือสำเนาอยู่ที่นายสมชัยคนเดียวที่ไม่ได้คืน แล้วมันก็รั่วถึงนายยงยุทธ ซึ่งคนทั้งประเทศก็สงสัยกันทั้งนั้น ไม่ใช่แค่ตนคนเดียวที่สงสัย ซึ่งตนก็ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะยื่นเรื่องให้มีการตรวจสอบ กรณีที่มีความสงสัยต่อการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐได้
นายวีระยังตั้งข้อสังเกตกรณีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ถูก กกต.ให้ใบแดง นายยงยุทธก็ไปยื่นฟ้อง กกต. 3 คน คือ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ นายประพันธ์ นัยโกวิท และนายสุเมธ อุปนิสากร ซึ่งก็แปลกที่แจ้งแค่ 3 คน ส่วนนางสดศรี สัตยธรรม และนายสมชัย จึงประเสริฐ กลับไม่โดนฟ้อง แถมยังขอให้เป็นพยานอีกต่างหาก ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปกับเรื่องการทำงานของ กกต. ที่ตอนนี้เริ่มมีข้อสงสัยขึ้นมา ซึ่งตนเชื่อว่าหากใครที่ติดตามข่าวนี้มาโดยตลอดก็จะพบความผิดปกติของคดีนี้
นอกจากนี้ นายวีระยังได้กล่าวถึงกรณีของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้สั่งตรวจสอบที่ดินในหลายๆ พื้นที่ รวมไปถึงที่ดินของบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคนพูดกันมากว่า ถ้า ร.ต.อ.เฉลิมตรวจสอบจริงๆ ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่เคยมีใครกล้าตรวจสอบ แต่ถ้าจะทำก็ควรทำอย่างไม่เลือกปฏิบัติ อย่างข้อมูลของนายสุเทพก็เคยได้ยินมาว่าไม่โปร่งใส แต่ที่ดินเขากระโดง กับที่ดินสะตึกของตระกูลชิดชอบ ร.ต.อ.เฉลิมกลับบอกว่า 2 คดีนี้ส่งชั้นอัยการไปแล้ว หมดหน้าที่ของตนไปแล้ว ซึ่งความจริงแล้วคดีนี้ยังอยู่ที่ ดีเอสไอ ยังอยู่ในชั้นตรวจสอบทั้งคู่ ตนจึงอยากฝากไปถึง ร.ต.อ.เฉลิมให้รีบดำเนินการคดีนี้ด้วย เพราะมิฉะนั้นอาจโดนฟ้องในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
