“สมชัย” เปลี่ยนใจ แจ้ง สน.ปทุมวัน ดำเนินคดี “วีระ” ข้อหาหมิ่นฯ ฐานแจ้ง ป.ป.ช.ให้สอบพฤติกรรมทำเอกสารคดี “ยงยุทธ” รั่ว ตร.ออกหมายเรียก 10 มี.ค.แต่รอ 11 วัน เพิ่งส่งอีเอ็มเอสให้ ด้าน “วีระ” ชี้ จงใจให้ยุติบทบาท ขวางร่วมกิจกรรรม 28 มี.ค.
หลังจากที่เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2551 นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ยื่นคำร้องต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ไต่สวนกรณีน่าเชื่อว่า นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการสืบสวนและวินิจฉัย มีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2550 ม.26 กรณีที่เอกสารประกอบสำนวนคดีทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้ง ที่ จ.เชียงราย รั่วออกไปถึงมือ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ต่อมา นายสมชัย ได้ขู่จะฟ้องดำเนินคดี นายวีระ ฐานหมิ่นประมาท ก่อนที่จะเปลี่ยนใจ โดยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะให้เวรกรรมลงโทษ นายวีระ เอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา นายวีระ ได้รับหมายเรียกจาก สน.ปทุมวัน ให้ไปพบพนักงานสอบสวน ในเวลา 08.00 น.วันที่ 26 ม.ค.นี้ เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาในคดีที่ นายสมชัย จึงประเสริฐ แจ้งความดำเนินคดีฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งได้กระทำตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำตามหน้าที่ และหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยโฆษณาด้วยเอกสาร
วันนี้ (24 มี.ค.) นายวีระ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นการกระทำที่ต้องการจะให้ตนยุติบทบาทการเคลื่อนไหวในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และขัดขวางไม่ให้เข้าร่วมงานสัมมนาร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายสมชัย ได้ออกมายืนยันว่า จะไม่แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับตนทั้งสิ้น แต่หลังจากที่ตนออกมาเปิดเผยถึงกรณีถูกโทรศัพท์ข่มขู่เอาชีวิต ก็มีหมายเรียกตัวส่งมาถึงบ้าน เมื่อวันที่ 21 มี.ค.
ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า หมายเรียกดังกล่าวออกเมื่อวันที่ 10 มี.ค.แต่ตราประทับการส่งอีเอ็มเอสให้ นายวีระ ได้ระบุวันที่เป็น 21 มี.ค.ห่างจากวันที่ออกหมายเรียกถึง 11 วัน
นายวีระ กล่าวยืนยันว่า วันที่ 26 มี.ค.จะเดินทางไปมอบตัวที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวันอย่างแน่นอน ซึ่งล่าสุด ทางพนักงานสอบสวนขอเลื่อนเวลาเป็น 13.30 น.วันเดียวกัน และจะให้ปากคำในชั้นศาล พร้อมสู้คดีให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ นายวีระ ยังได้ตั้งข้อสังเกตกรณีที่ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ได้ยื่นฟ้อง กกต.ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีที่ให้ใบแดง แต่กลับมอบหลักฐานในคดีแก่ นางสดศรี สัตยธรรม กับนายสมชัย และขอร้องให้เป็นพยานในคดีว่า เป็นเรื่องแปลก เนื่องจาก นายยงยุทธ ยื่นฟ้องต่อ กกต.แต่กลับให้เจ้าหน้าที่ กกต.มาเป็นพยานให้
