xs
xsm
sm
md
lg

มือป่วนโทร.ขู่ฆ่า “วีระ สมความคิด” ปฏิเสธไม่เกี่ยว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“พ.ต.ท.มนตรี” เผยสอบคนที่ชื่อ “สมศักดิ์ ยะลังวงศ์” เจ้าตัวปฏิเสธไม่เคยโทร.ขู่ฆ่าใคร แต่ถูกมือดีแอบอ้างชื่อไปใช้ในทางเสียหาย ส่วนมือดีอ้างไม่บอกชื่อแต่มีเบอร์โชว์ ตร.ยังมืดหาตัวไม่เจอ ขณะที่พนักงานสอบสวนไม่นิ่งเฉยยังเดินหน้าควานหาตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ ด้าน “วีระ” ย้ำไม่ก้าวล่วงในคดี แต่ท้าให้นำ “สมศักดิ์” มาเผชิญหน้า ชี้รู้อยู่รัฐบาลของใคร

วันนี้ (14 มี.ค.) พ.ต.ท.มนตรี กองจำปา พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.พลับพลาไชย 1 เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีมีโทรศัพท์ข่มขู่ฆ่านายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คตป.) ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่จะร่วมเคลื่อนไหวกับ 5 แกนนำพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยในนัดแรก ที่จะจัดสัมมนา “ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ” โดยจะระดมองค์กรภาคประชาชนต่างๆ เข้าร่วมวางยุทธศาสตร์ใหม่ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 28 มี.ค. โดยโทรศัพท์ลึกลับได้อ้างตัวว่าชื่อนายสมศักดิ์ ยะลังวงศ์ หรือฉายา อู๊ด โคลีเซียม เป็นเพื่อนสนิท ตู่ ติงลี่ และขู่ให้หยุดเคลื่อนไหวว่า พนักงานสอบสวนได้ติดตามเรื่องโดยได้ติดต่อไปยังตัวนายสมศักดิ์ ยะลังวงศ์ ที่ถูกอ้างตัวขณะโทร.หานายวีระ แต่นายสมศักดิ์ได้กล่าวปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นในเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเองเป็นบุคคลธรรมดา ทำมาหากินหาเช้ากินค่ำ ไม่เคยรู้จักกับอู๊ด โคลีเซียม และไม่เคยเป็นเพื่อนสนิทกับตู่ ติงลี่ คนที่โทร.ไปขู่นายวีระกล่าวอ้างชื่อตนขึ้นมาลอยๆ และไม่รู้ว่าได้ชื่อตนเองมาจากใครที่ไหน

ส่วนเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 08-9745-1505 ที่มีคนโทร.มาข่มขู่นายวีระ พ.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจเช็กไม่ได้ว่าเป็นของใคร แต่ในเรื่องที่เกิดขึ้นกับนายวีระ ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ จะพยายามสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามขบวนการสืบสวนต่อไป

ทางด้าน นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คตป.) เปิดเผยในเรื่องนี้ว่า จะไม่เข้าไปก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าตำรวจ แต่ไม่เข้าใจว่าการที่จะสืบหาว่าเบอร์โทร.ที่โทร.มาข่มขู่ตนเองเป็นของใครไม่น่าจะยาก ถ้าตำรวจจะตรวจสอบจริง และกรณีที่ตัวนายสมศักดิ์ ยะลังวงศ์ ที่ถูกอ้างชื่อโทร.ข่มขู่ตนปฏิเสธไม่ได้ทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจควรที่จะเชิญตัวนายสมศักดิ์มาเจอกันกับตนเอง เพราะตนเองจำเสียงผู้ที่โทร.ได้จะได้รู้ว่าเป็นตัวจริงตัวปลอม ซึ่งการที่ตนเข้าแจ้งความในเรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นสิทธิทำตามกฎหมายเพื่อป้องกันเหตุร้ายหากเกิดขึ้นกับตนเองจริง ตำรวจจะได้สืบหาข้อเท็จจริงได้ และการถูกขู่ไม่ได้เกิดขึ้นกับตนคนเดียวแต่เกิดกับแกนนำ 5 พันธมิตรฯ ด้วย

“ส่วนตัวไม่คาดหวังหรือหวังพึ่งกระบวนบวนการยุติธรรมเท่าที่ควร เพราะรู้อยู่แล้วเป็นเรื่องยาก รู้อยู่รัฐบาลของใคร” นายวีระ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น