xs
xsm
sm
md
lg

ชุมนุมใหญ่ต้านล้ม รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พันธมิตรฯ ออกแถลงการณ์ ต้านการล้มล้างรัฐธรรมนูญปี 50 เพื่อประโยชน์ของ "รัฐบาลนอมินี" และพวกพ้อง ประกาศชัด ของใช้สิทธิในการชุมนุมใหญ่ทันที ที่มีการนำการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณาในรัฐสภา ย้ำถ้าจะแก้ไขต้องผ่านประชามติเท่านั้น ด้านวิปฝ่ายค้านเตรียมจัดเวทีสาธารณะ ระดมนักวิชาการ อดีตส.ส.ร. ขวางแก้รัฐธรรมนูญเพื่อ"แม้ว" จี้ "เจ๊เพ็ญ" อนุมัติ เอ็นบีที ถ่ายทอดสด

วานนี้ (22 เม.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ส่วนพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ติดภารกิจ นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนเครือข่ายพันธมิตรฯ มาร่วมประชุมด้วย เช่นนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ จากสมัชชาประชาชนภาคอีสาน และนายวีระ สมความคิด จากเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน เข้าร่วมหารือ

จากนั้นเวลาประมาณ 14.00 น. แกนนำพันธมิตรฯ ได้ร่วมกันแถลง โดยหลังจากที่ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้อ่านแถลงการณ์ (อ่านรายละเอียด แถลงการณ์ ที่หน้า 15 ) เพื่อย้ำจุดยืนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชน เป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญ และเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองแล้ว นายพิภพ ได้ย้ำว่า รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ได้ผ่านการรับรองของมติมหาชนจำนวน 14 ล้านเสียง หากจะมีการแก้ไขก็ต้องมีการลงประชามติถามประชาชนก่อน และว่าการต่อสู้จะใช้วิธีการประชาธิปไตย เพื่อต่อสู้กับเผด็จการรัฐสภา ซึ่งถ้าไม่ผ่านการลงประชามติก่อน ก็ยอมไม่ได้

"พรรคพลังประชาชนจะมาอ้างสิทธิ์ว่าได้รับการเลือกตั้งอย่างเดียวไม่ได้ และตามข้อเท็จจริงแล้ว พรรคพลังประชาชนก็ไม่ได้เสียงข้างมาก และเมื่อได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแล้วไม่ใช่หมายความว่า จะทำอะไรตามอำเภอใจได้ เพราะถ้าทำได้ต่อไปไม่รู้ว่าจะแก้ไขในสิ่งที่เรานึกไม่ถึงก็ได้"นายพิภพ กล่าว

ขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวว่า เราต้องเลิกความคิด หรือตรรกะที่ว่า เมื่อได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแล้วจะทำอะไรก็ได้ เพราะจะเป็นการให้สิทธิ์กลุ่มการเมืองเข้าไปทำอะไรก็ได้ ไปแก้กฎหมายเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เพราะถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับยอมรับว่าใครรวยกว่าจะทำอะไรก็ได้ ใครมีเงินกว่าก็เป็นผู้ถูกต้อง ซึ่งเรายอมไม่ได้

นายสนธิ ย้ำว่าพันธมิตรฯ เรียกร้องความถูกต้อง โปร่งใส พร้อมยกตัวอย่างถ้ารัฐธรรมนูญฉบับไหนที่นักการเมืองไม่ชอบ แสดงว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดี และว่า หมดยุคที่นักการเมืองจะร่างรัฐธรรมนูญเองแล้ว

"ผมอยากถามว่า เราอยากให้สังคมการเมืองมีการซื้อเสียง มีการทุจริต ใครรวยกว่าแล้วเข้ามาทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ ผมคนหนึ่งที่ยอมไม่ได้" นายสนธิกล่าว

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า รัฐบาลหุ่นเชิดสมัคร ถือเป็นรัฐบาลเด็กเลี้ยงแกะ เพราะในเอกสารคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภาไม่มีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นวาระเร่งด่วน พร้อมย้ำว่า จะต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญจนถึงที่สุด

"เวลานี้เข้าใกล้สู่การชุมนุมใหญ่แล้ว และในการสัมมนาทางวิชาการในวันที่ 25 เม.ย.นี้ จะมีการขอมติในที่ประชุมด้วย พี่น้องประชาชนจะเห็นวัฒนธรรม 2 อำนาจ ได้มาปะทะกันอีกรอบหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ผมกับพันธมิตรฯ ได้คุยกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเป็นการสัประยุทธ์กันครั้งสุดท้าย เป็นการยุทธ์ครั้งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้"นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ของพรรคพลังประชาชน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้สารภาพออกมาเองว่า สาเหตุที่แก้ไขเพราะจะถูกยุบพรรค พร้อมย้ำว่า หากทุกพรรคไม่มีการทุจริต ก็จะไม่มีผลกระทบ และว่าในวันที่ 25 เม.ย.นี้ จะมีการขอมติที่ประชุมอีกครั้งว่า จะเอาอย่างไร

ส่วนเรื่องการต่อต้านจากฝ่ายที่สนับสนุนพรรคพลังประชาชนนั้น นายสนธิ กล่าวว่า ความเห็นที่แตกต่างกันเป็นเรื่องปกติ พร้อมทั้งยกตัวอย่างการชุมนุมก่อนหน้านี้ ก็มักถูกก่อกวนอยู่เสมอ และครั้งนี้ถ้ามีการก่อกวนอีก ก็ถือว่าเป็นการแสดงธาตุแท้ของอีกฝ่าย และสังคมจะได้แยกแยะได้เอง

นายวีระ สมความคิด กล่าวว่า ความไม่ชอบธรรมของการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เราต้องไม่ลืมว่ามันเกิดจากการทุจริตเลือกตั้ง ถ้าไม่ทุจริตเลือกตั้งจนนายยงยุทธ ติยะไพรัช ต้องถูกใบแดง ก็จะไม่นำมาซึ่งการรีบเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่นอน จึงอยากให้ประชาชน อย่าลืมประเด็นนี้ และเราก็คงจะยอมรับไม่ได้ ที่เมื่อมีการละเมิดกติกา พอจะถูกลงโทษ ก็จะมาแก้ไขกติกา

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ กล่าวว่า พี่น้องทางอีสานได้มีการรวมตัวกันแน่น วันที่ 25 เม.ย.นี้ จะมาร่วม และวันที่ 26 เม.ย. หลังจากกิจกรรมเสร็จแล้ว เราจะคุยกันอีกทีหนึ่งในการตัดสินใจตามท่าทีที่พันธมิตรฯ ได้แถลงไว้ ฉะนั้นอยากจะเรียนว่า ที่พี่น้องคนไทยทั้งประเทศเข้าใจว่าคนอีสานทั้งภาคเป็นฐานใหญ่ของกลุ่มรัฐบาล ขอยืนยันว่าไม่จริง ที่คะแนนออกมาผ่านจำนวนส.ส. ในภาคอีสานส่วนใหญ่เป็นของพรรคร่วมรัฐบาลจริง แต่ถ้าไปดูลึกๆแล้วไม่ใช่ เพราะในการลงคะแนนนั้นมีพี่น้องอีสานบางส่วนไม่ไปใช้สิทธิ์ การใช้สิทธิ์อยู่ในระดับประมาณ 60 กว่า ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ 30 เปอร์เซ็นต์ โหวตให้พรรครัฐบาล 40 ที่เหลือคะแนนแตก ดังนั้นท่าทีของพันธมิตรฯ ในการที่จะต้องลงประชามติ จึงเป็นท่าทีที่ถูกต้องแล้ว

ฝ่ายค้านจัดเวทีขวางแก้ รธน.

ในวันเดียวกันนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้หยิบยกการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นการแก้ไขเพื่อตนเอง และแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลยังสะท้อนให้เห็นความไม่ชัดเจน และความไม่ชอบธรรม โดยมีเป้าหมายที่แท้จริงเพื่อ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งวิปฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตไว้ดังนี้

1. เป็นการแก้ไขเพื่อรักษาชีวิตของอดีตนายกรัฐมนตรี โดยจะเห็นว่ามีการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ และข้าราชการฝ่ายปกครอง อย่างผิดปกติ เพื่อรองรับการเดินสายลงพื้นที่ทั่วประเทศ

2. เพื่อรักษาทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเห็นว่าวาระของ คตส. จะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย. โดยจะมีการโอนเรื่องสอบสวนไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในเดือนก.ค. จึงสอดรับกับกรอบเวลาที่พรรคพลังประชาชน กำหนดไว้ว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นภายในเดือนก.ย. เพื่อที่จะแก้ไของค์กรอิสระอย่าง กกต. ,ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ

3. เป็นการรักษาอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นการปูทางเพื่อเข้าสู่อำนาจใหม่ ดังนั้น วิปฝ่ายค้านจึงกังวลว่า จะนำไปสู่สถานการณ์ที่ขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น แทนที่รัฐบาลจะสนใจวิกฤตของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าวยากหมากแพง วิกฤตของน้ำ รัฐบาลกลับไปสนใจแก้ปัญหาวิกฤตส่วนตัวมากกว่า อย่างไรก็ตาม หากพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลยังดึงดันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเกิดปัญหาข้อกฎหมาย ซึ่งในมาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญ กำหนดรัฐสภาให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่หากจะแก้ไขทั้งฉบับต้องดำเนินการอีกแนวทางหนึ่ง โดยต้องให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม รวมทั้งต้องมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องมีปัญหาเกิดขึ้น

นอกจากนี้ หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมบานปลายมากยิ่งขึ้น โดยเห็นจากกรณีที่ตุลาการ ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อำนาจตุลาการระแวงอำนาจบริหารจะเข้ามาแทรกแซงการทำหน้าที่ จึงเกรงว่าจะมีการขยายความขัดแย้งที่บานปลาย และไม่ทราบจุดจบ

จี้ NBT ถ่ายทอดเวทีสัมมนา

ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวต่อว่า ในต้นเดือน พ.ค.นี้ ฝ่ายค้านจะเปิดเวทีสาธารณะ เพื่อหาทางออกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายชูศักดิ์ สิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชาชน , กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ,ฝ่ายค้าน , อดีต ส.ส.ร. และผู้ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาร่วมประชุมแสดงความเห็น โดยวิปฝ่ายค้านจะขอความร่วมมือจาก นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ถ่ายทอดการสัมมนาด้วย

ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญว่า รัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลงเป้าหมาย โดยยังตั้งใจจะใช้เสียงข้างมากในสภาดึงดันแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ เพื่อช่วยตัวเองให้พ้นผิดในสิ่งที่ทำไว้ และเพื่อช่วย คน 111 คนกลับมามีอำนาจทางการเมืองต่อไป และเพื่อหนีคดียุบพรรคให้ได้ ซึ่งประชาชนทั้งประเทศเขารู้ และคิดว่าเขายอมไม่ได้ เมื่อเจอแรงต้านทานมากๆ รัฐบาลก็คิดจะเบี่ยงเบนซ่อนวัตถุประสงค์ที่แท้จริงเอาไว้ ตนขอเรียกร้องว่า อย่ารีบร้อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อผ่านาการเลือกตั้งและมีรัฐบาลมาแล้ว ก็ควรทำงานแก้ปัญหาให้กับประชาชนก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าการที่รัฐบาลพยายามหยิบประเด็นที่อ่อนไหวต่อความรู้สึกของประชาชนมาแก้ไข มีเจตนาจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ ต้องการให้เกิดความขัดแย้งในสังคม นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่กล้ากล่าวหาเขาว่าต้องการสร้างความขัดแย้งในสังคม แต่คิดว่าเขาคิดเอาง่ายๆว่าจะทำ อะไรที่เป็นประโยชน์กับเขามากที่สุด และทำลายสิ่งที่เสี่ยงต่อการดำรงอยู่ของพวกเขา
กำลังโหลดความคิดเห็น