xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ ชี้ “หุ่นเชิด” ก่อวิกฤตเตือนแก้ รธน.เป้าหมายอันตราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พันธมิตรฯ” ย้ำจุดยืนต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 หากไม่มีการลงประชามติถามประชาชนก่อน เตือนรัฐบาลหุ่นเชิดหยุดสร้างเงื่อนไขรัฐประหาร ชี้กำลังก่อวิกฤตชาติในทุกด้านทั้งเศรษฐกิจ สังคม และอธิปไตย เลวร้ายพอกับยุคเสียกรุงครั้งที่ 2 “สนธิ” ระบุถ้าแก้ไข รธน.สำเร็จเป้าหมายต่อไปคือ แก้ไขหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์

คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป แถลงการณ์ของพันธมิตรฯ ฉบับที่ 8/2551 ( 56 k ) | ( 256 K )

วันนี้ (14 พ.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อันประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล รวมทั้งตัวแทนเครือข่าย เช่น นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาชนภาคอีสาน และนายวีระ สมความคิด จากเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน ได้ร่วมกันหารือเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งหลังการหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงได้ร่วมกันแถลงข่าว

หลังจากที่ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้อ่านแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ ฉบับที่ 8/2551 เสร็จสิ้นแล้วได้เปิดให้มีการซักถาม โดย นายพิภพ ได้ขยายความถึงเงื่อนไขการปฏิวัติของรัฐบาลในแถลงการณ์ของพันธมิตรฯ ข้อที่ 2 โดยย้ำจุดยืนของพันธมิตรฯในการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลเคารพการให้สิทธิเสรีภาพของสื่อตามกฎหมาย อย่าเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีบางคนเอื้อประโยชน์ให้แก่บางบริษัท และใช้สื่อโดยมีเป้าหมายเพื่อยึดรัฐยึดประเทศ

นายสนธิ กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวเพื่อทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้กระทำการมาตั้งแต่หลังเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 ซึ่งมีทั้งเว็บไซต์โจมตีสถาบัน หรือมาในรูปแบบของนิตยสารชื่อฟ้าเดียวกัน ซึ่งนิตยสารฉบับนี้มีคนที่มีนามสกุลจึงรุ่งเรืองกิจ ให้การสนับสนุนอยู่ด้วย

นอกจากนี้ นายสนธิ ยังเปิดโปงอีกว่า ขณะนี้มีขบวนการเอ่ยอ้างอันน่าตกใจโดยพยายามเปรียบเทียบถึงงบประมาณจำนวน 300 ล้านบาท ที่ใช้ในพระราชพิธีพระศพของพระพี่นางฯ ในทางไม่เหมาะสม หรือกรณีลงภาพการจับกุมการบุกรุกทำลายป่าแล้วเปรียบเทียบกับการตัดไม้จันทน์หอมที่นำมาใช้บรรจุพระศพด้วย ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หนีภาษีเป็นเงิน 1 หมื่นกว่าล้านบาท กลับไม่ตั้งคำถาม

นายสนธิ กล่าวว่า เวลานี้หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ออกมาเปิดโปงเรื่องเหล่านี้โดยชี้ให้สังคมได้เห็นทำให้รัฐบาลเกิดความตื่นตัว และเชื่อว่าอีกไม่นานจะมีการตัดตอน นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่กำลังพาพวกเขาไปตายจากกรณีไปกล่าวสุนทรพจน์หมิ่นสถาบันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

นายสนธิ ได้เรียกร้องให้ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แสดงสปิริตและได้แสดงจุดยืนเรื่องเคารพสถาบันอยู่หรือไม่

นายสนธิ ยังได้ตอบโต้ถึงข้อกล่าวหาของฝ่ายรัฐบาลที่บอกว่า ฝ่ายพันธมิตรฯ ดึงฟ้าต่ำ แต่ขณะเดียวกัน กลับมีขบวนการทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ เป้าหมายต่อไปก็จะมีการแก้ไขในหมวดพระมหากษัตริย์ต่อไปอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันพันธมิตรฯ ไม่ได้สร้างเรื่องแต่มีขบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ทั้งเรื่องไม่ยืนตรงเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีโรงภาพยนตร์ มีทั้งเรื่องของนายจักรภพที่ไปพูดจาในสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ซึ่งทุกฝ่ายรู้แล้วว่าเป็นทัศนคติที่อันตราย

แกนนำพันธมิตรฯ ผู้นี้ยังระบุอีกว่า เวลานี้มีความพยายามของคนบางคนที่จะนำอธิปไตยของชาติเรื่องเขาพระวิหารไปแลกกับสัมปทานน้ำมันในเขมร

“นึกไม่ถึงว่ามีคนใจชั่วให้ลูกน้องหลับตาข้างหนึ่งไม่อ้างสิทธิเขาพระวิหารแลกกับสัมปทานน้ำมันในเขมร” นายสนธิ ระบุ และว่าถ้ามีการรัฐประหารเกิดขึ้นจริงล้วนเกิดจากการสร้างเงื่อนไขของพรรคพลังประชาชน และนายสมัคร สุนทรเวช ทั้งสิ้น

นายสมศักดิ์ ได้กล่าวถึงเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจว่า เวลานี้ได้เกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า แต่การปรับค่าแรงของผู้ใช้แรงงานมีเพียงเล็กน้อยไม่พอกับค่าใช้จ่าย ขณะที่ชาวนาก็ขายข้าวไม่ได้ราคาจนเกิดการชุมนุมไปทั่ว ซึ่งพันธมิตรฯ สนับสนุนการเคลื่อนไหว เพราะถือว่าเป็นสิทธิ และถือว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ เพราะล้มเหลวในทุกด้าน

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงเรื่องวิกฤตน้ำมันว่า รัฐบาลไม่ได้บริหารอะไรเลย มักโทษแต่เรื่องราคาน้ำมันโลก พร้อมชี้ว่าเวลานี้ถือว่าเป็นโครงสร้างราคาที่ผิดปกติ ราคาไม่นิ่งทำให้ผู้ประกอบการเกิดความเดือดร้อนไปทั่ว

นายสมเกียรติ กล่าวถึงวิกฤตของเกษตรกรว่า รัฐบาลไม่ได้บริหาร เอาแต่ฟังคำสั่งจากนายใหญ่ จนไม่สามารถเอาชนะวิกฤตของชาติในทุกด้านได้ เกษตรกรเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า

“รัฐบาลชุดนี้ได้สร้างวิกฤตครั้งที่ 2 ซึ่งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองเป็นต้นมา มีการวิกฤตด้านอธิปไตยเลวร้ายยิ่งกว่าต้องออกไปเสียอีก” นายสมเกียรติระบุ

นายวีระ สมความคิด กล่าวถึงการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม มีการโยกย้ายข้าราชการที่เป็นอุปสรรคต่อคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และฝ่ายรัฐบาล ขณะเดียวกัน มีการเลือกปฏิบัติ เช่น กรณีบุกรุกที่ดินของนายชัย ชิดชอบ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเปรียบเทียบกับคดีของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถูกผิดให้ไปว่ากันตามกฎหมายตามกระบวนการยุติธรรม เวลานี้ความอดทนของคนไทยกำลังจะหมดลงแล้วกับรัฐบาลนี้

พล.ต.จำลอง กล่าวถึงการปฏิวัติโดยยืนยันว่า เมืองไทยถ้ามีข่าวลือเรื่องปฏิวัติคนจะเชื่อเพราะองค์กรต่างๆ ยังไม่เข้มแข็ง อย่างไรก็ดี ทหารต้องแบกภาระในเรื่องของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่จะต้องป้องกันไม่ให้ถูกทำลายหรือถูกกระทำ พร้อมทั้งย้ำว่าว่าเวลานี้เงื่อนไขการปฏิวัติมีมากกว่าก่อนเหตุการณ์วันที่ 19 กันยายน 2549 เสียอีก

“เชื่อว่าทหารไม่อยากปฏิวัติเพราะมีความเสี่ยง ดังนั้น รัฐบาลต้องหยุดสร้างเงื่อนไข” พล.ต.จำลอง ระบุ และว่า พันธมิตรฯ ยังย้ำจุดยืนเดิมคือการต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 แต่หากจะมีการแก้ไขก็ต้องถามประชาชนก่อน ดังนั้น ถ้ามีการยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะยื่นถอดถอน ส.ส.แล้วกำหนดการชุมนุมใหญ่ในทันที

ด้าน นายสนธิ กล่าวเสริมว่า การชุมนุมขึ้นกับสถานการณ์ แต่ยังมีเรื่องอื่นเข้ามาซึ่งพร้อมจะเคลื่อนไหวตลอดเวลา

รายละเอียด “พันธมิตรฯ” แถลงจุดยืน

พิภพ ธงไชย

สวัสดีท่านสื่อมวลชน และท่านผู้ชมทางบ้าน วันนี้ผมได้รับมอบหมายจาก 5 แกนนำ และที่ประชุมของ 5 แกนนำ ซึ่งประกอบไปด้วยบุคคลและองค์กรที่เป็นเครือข่ายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้มาพูดในประเด็นย่อหน้าที่ 2 ของแถลงการณ์ เพื่อขยายความให้ชัดเจน เพราะพันธมิตรฯ และทุกคนคงทราบดีว่า ผมเองนั้นรู้จักกับฝ่ายที่กำลังใช้การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือทางการเมือง และผมก็ทราบดีว่ากลุ่มต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วยบุคคล และปัญญาชน และอาจารย์มหาวิทยาลัยนั้นมีเจตนารมณ์และเป้าหมายในการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์แตกต่างกันไป นอกจากนั้นยังจะมีการใส่ร้ายป้ายสีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าเป็นผู้ใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือเคลื่อนไหวทางการเมืองเช่นกัน ผมก็เลยอยู่ในฐานะตรงนี้ ผมก็คิดว่าเหมาะสมที่ผมจะพูดประเด็นนี้ และเนื่องจากเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหว ต้องขออภัย ต้องมี short note สั้นๆ ประกอบด้วย

เหตุที่แถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีการพูดกันถึงสถานการณ์การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะเห็นว่า ความขัดแย้งทางการเมืองที่มีต้นเหตุจากทักษิณ และคณะ ที่จะปกป้องตัวเองจากคดีความในกระบวนการยุติธรรม และการต้องการกลับเข้ามายึดอำนาจรัฐ ยึดประเทศ และได้นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งของผู้สนับสนุนทักษิณ และคณะ ซึ่งได้กระทำมาตลอดตั้งแต่การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยมีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยความห่วงใย และต้องการออกมาปกป้องไม่ให้สถานการณ์นั้นบานปลายไป ที่นำความขัดแย้งทางการเมืองโดยการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือ และขณะนี้กำลังจะมีการนำสถาบันศาสนา โดยเฉพาะประเด็นเรื่องศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติ เข้ามาขยายความขัดแย้งให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทย

เพราะฉะนั้น โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ได้เป็นฝ่ายริเริ่ม แต่ได้มีการกล่าวหาว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งไม่เป็นความจริง ความจริงก็คือ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พยายามอธิบายปรากฏการณ์นี้ที่จะนำไปสู่สิ่งที่ผู้ที่เคลื่อนไหวนี้ต้องการ และต้องการจะปกป้องสถาบันทั้ง 2 สถาบัน คือสถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันพุทธศาสนา โดยไม่หมายถึงว่าจะไม่ปกป้องสถาบันอื่นๆ ที่เกี่ยวกับศาสนาด้วยเช่นกัน ฝ่ายที่ใช้สถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันศาสนาได้อ้างสิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ และได้ขยายขบวนการนี้ออกไปในสื่อต่างๆ และกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะประชาชนในชนบท ซึ่งเป็นจุดที่อันตรายอย่างยิ่ง

ผมเองในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะอธิบายความนี้ ขอเรียนว่าการใช้สิทธิเสรีภาพต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย และรัฐธรรมนูญที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และที่สำคัญ ต้องคำนึงถึงและเคารพวัฒนธรรม ความเชื่อ ความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และสถาบันศาสนา ว่าจะนำไปสู่ความแตกแยก นอกจากผู้นำขบวนการที่เคลื่อนไหวมีเป้าประสงค์ให้ความแตกแยกนั้นนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

จึงขอย้ำว่า การที่พันธมิตรฯ ได้แถลงการณ์ในเรื่องนี้เป็นพิเศษในวันนี้ ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประชาชน ของระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จะต้องทำหน้าที่ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ กำกับการอ้าง การใช้สิทธิเสรีภาพนั้นว่า นำไปสู่การผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญ และละเมิดวัฒนธรรมความเชื่อ ความศรัทธาของประชาชนชาวไทยอย่างไรหรือไม่ และนำไปสู่การทำลายระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และมีสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการนับถือศาสนาอย่างใดหรือไม่

ผมจึงขอขยายความเพิ่มเติมจากแถลงการณ์ว่า ขอเรียกร้องรัฐบาลให้กำกับและดูแลการใช้สิทธิเสรีภาพให้เป็นไปตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ และต้องไม่ปล่อยให้บุคคลในระดับรัฐมนตรี และบริษัท บริวาร ได้มีการกระทำที่ละเมิดสถาบันกษัตริย์กับสถาบันศาสนา อันจะทำให้ประชาชนสงสัยว่า รัฐบาลนี้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นรัฐบาลนอมินีของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณนั้น สนับสนุน รู้เห็นเป็นใจต่อการกระทำดังกล่าว ว่าเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ในการกลับเข้าสู่อำนาจยึดรัฐ และยึดประเทศ เพราะฉะนั้นในวันนี้จึงต้องเรียกร้องต่อรัฐบาลและกลุ่มบุคคลต่างๆ ว่า การกระทำดังกล่าวนั้นจะนำไปสู่ความแตกแยกและนำไปสู่ภัยพิบัติต่อประเทศชาติอย่างไรหรือไม่

สนธิ ลิ้มทองกุล

ผมขอพูดต่อกับคุณพิภพ ธงไชย ครับ กระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่ถูกกำหนดและจัดตั้งกันมาตั้งแต่หลัง 19 กันยายน พ.ศ.2549 เป็นต้นมา จะเห็นได้ชัดว่ามีกระบวนการเว็บไซต์ที่เกิดขึ้น ซึ่งโจมตีสถาบันกษัตริย์อย่างหนักหน่วง นอกจากนี้ยังมีนิตยสาร อย่างเช่น นิตยสารฟ้าเดียวกัน พิมพ์ออกมา ที่น่าสนใจก็คือว่า ผู้ที่ให้การสนับสนุนนิตยสารฟ้าเดียวกันนั้น นามสกุลจึงรุ่งเรืองกิจ และนิตยสารฉบับนี้ ฉบับหลังสุด มีเรื่องราวซึ่งฟังดูแล้วไม่น่าที่จะเป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นในขณะนี้ มีการเอาตัวอย่างว่างบประมาณที่ใช้จ่ายในการทำพระศพของสมเด็จพระพี่นางฯ 300 ล้านบาท ว่าเงิน 300 ล้านบาทนั้น ช่วยให้เด็กได้เรียนหนังสือเพิ่มได้กี่คน ช่วยให้คนมีสวัสดิการอะไรได้กี่คน คือพูดง่ายๆ ว่ากำลังละลายเงิน 300 ล้านบาท เพียงเพื่อทำพระศพ ในขณะซึ่งน่าจะเอาเงิน 300 ล้านบาทนั้น มาให้ประชาชน ซึ่งฟังดูตรรกะดูเหมือนจะถูก แต่เป็นตรรกะที่ผิด เพราะว่าถ้าอย่างนั้นทำไมเขาไม่ถามต่อว่า การซึ่งเจ้านายเขา คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เลี่ยงภาษีที่ขายหุ้น 73,000 ล้าน ภาษีที่ควรจะจ่ายให้กับประเทศชาติหมื่นกว่าล้านนั้น สามารถจะให้เด็กไปเรียนหนังสือได้กี่คนบ้าง เพราะฉะนั้นคนพวกนี้จะใช้ตรรกะที่เข้าข้างตัวเอง

มีรูป 2 รูปคู่กัน รูปอันหนึ่งก็บอกว่าเป็นประชาชนที่ถูกจับขังเข้าคุก โดยเขียนบอกว่าคนพวกนี้บุกรุกป่า ต้องติดคุก อีกรูปหนึ่งกลายเป็นรูปที่ไปโค่นไม้จันทน์หอมเพื่อมาทำโลงของสมเด็จพระพี่นางฯ ลักษณะแบบนี้เป็นลักษณะที่ถูกจัดตั้งมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเว็บไฮ-ทักษิณ ที่ถูกปิด ทั้งหมดนี้ที่เกิดขึ้นถ้าไม่ใช่เพราะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ชี้แจง เปิดโปงเรื่องพวกนี้ ก็จะไม่มีการที่จะรู้ตัว ตอนนี้คนพวกนี้เริ่มรู้ตัว เริ่มมีกระบวนการที่ผมเรียกว่าฆ่าตัดตอน เริ่มมีกระบวนการฆ่าตัดตอน คือพยายามจะตัดรัฐมนตรีจักรภพ เพ็ญแข ออกไป ว่าคุณจักรภพ เพ็ญแข จะเป็นคนซึ่งพาทุกคนไปตายหมู่

แต่คำถามที่ผมถาม ผมอยากถาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี และดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผมอยากจะถามรัฐมนตรีทุกคนที่นั่งอยู่ใน ครม.ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคุณสุวิทย์ คุณกิตติ ไม่ว่าจะเป็นภรรยาของคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ภรรยาของคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน หรือบรรดารัฐมนตรีทั้งหลาย คุณธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.ที่มาจาก จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ พวกนี้จะไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น หรือว่าให้มีการดำเนินการเพื่อหยุดยั้งการกระทำเช่นนี้หรือ หรือว่าได้แต่นั่งเฉยๆ

ผมอยากจะถามสปิริตตรงนี้ของคนพวกนี้ว่า จริงๆ แล้ววันนี้เรามาถึงจุดสุดท้ายของโค้งของบ้านของเมือง ก็คือว่า เราเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขหรือเปล่า ถ้าพวกคุณนั่งเฉยๆ ไม่พูดจา ไม่ทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ก็แสดงว่าพวกคุณไม่เชื่อมั่นใช่ไหม ถ้าไม่เชื่อมั่น ขอความกรุณาแสดงตัวออกมา เพราะว่าผมและประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เชื่อมั่นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเมื่อมีกระบวนการที่กล่าวโจมตีพระมหากษัตริย์ตลอดเวลา แล้วฝ่ายตรงกันข้ามชอบพูดคำที่ว่า พวกเราดึงฟ้ามาต่ำ ก็เพราะว่าพวกนี้ขุดหลุมพรางกับดักเอาไว้ ว่าอย่าดึงฟ้ามาต่ำนะ แต่พวกเขาก็จาบจ้วงตลอดเวลา และขยายวงเหมือนไวรัสเชื้อหวัด ที่คนเริ่มเห็นมากขึ้นๆ

เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดว่า การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการแก้รัฐธรรมนูญที่มีเจตนารมณ์นอกจากไม่บริสุทธิ์แล้ว ผมสามารถจะฟันธงได้เลยว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ เมื่อผ่านไปแล้วจะต้องมีการแก้หมวดกษัตริย์อีกต่อไป เหตุผลก็เพราะว่ามีการกระทำที่เป็นประจักษ์พยาน และเป็นสิ่งแวดล้อมที่เชื่อได้ ที่เชื่อได้ว่าเมื่อเขาสามารถจะดำเนินการโจมตีสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยในสังคมไทยแล้ว ในโอกาสที่เขาสามารถจะแก้หมวด 1 หมวด 2 หมวด 3 เขาย่อมแก้ได้ เพราะขณะนี้เขาก็เริ่มที่จะแก้แล้ว ก็คือ หมวดศาสนา ที่จะบรรจุศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ เห็นได้ชัด อีกหน่อยก็ต่อไปด้วยสถาบันกษัตริย์ ผมขอยืนยันตรงนี้ว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการล้มสถาบันกษัตริย์ ผมยืนยันได้เลยว่าค่อนข้างจะแน่นอน

อุปมาอุปไมยเหมือนเมฆฝน เรานั่งดูอยู่ดีๆ คุณสนธิ ฝนยังไม่ตก ทำไมคุณสนธิรู้ ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ก็เพราะว่าเมฆมันครึ้มไปหมดแล้วไง อากาศมันเย็นแล้ว ตรงนั้นมันดำปึ้ด เดี๋ยวฝนก็ตก เช่นกัน เจตนารมณ์ของการหมิ่น เจตนารมณ์ของการจาบจ้วง เจตนารมณ์ของการทำลาย เจตนารมณ์ของการให้เด็กไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี เจตนารมณ์ให้พวกบรรดาอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งไม่กล้าพอที่จะแสดงออกว่าตัวเองนั้นไม่ต้องการสถาบันกษัตริย์ แต่เอามาอ้างสิทธิเสรีภาพ จัดสัมมนาแล้วมากล่าวหา ว่าผมและเครือสื่อผู้จัดการ และตลอดจนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น กำลังจะสร้างเหตุการณ์ 6 ตุลา เกิดขึ้น กระทำตนเหมือนหนังสือพิมพ์ดาวสยาม

หนังสือพิมพ์ดาวสยามนั้นเอาภาพมาตัดต่อแต่ง แต่เครือผู้จัดการ และหนังสือพิมพ์ตลอดไป ไม่ได้แต่งอะไรทั้งสิ้น นายโชติศักดิ์ ไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี นายโชติศักดิ์ก็ยอมรับว่าไม่ได้ยืน อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล มาอภิปรายว่าพูดในเรื่องมิติทางประวัติศาสตร์ แกก็ได้พูดจริง คนโน้นคนนี้พูด ทุกคนพูดจริงหมด เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เรามาแต่งเรื่อง และวันนี้สื่อมวลชนทุกฉบับก็ลงเหมือนกันหมด ถึงบทบาทของคุณจักรภพ เพ็ญแข คุณจักรภพ เพ็ญแข พูดอย่างไร เป็นภาษาอังกฤษอย่างไร แปลออกมาอย่างไร

คำแปลที่เราได้แปลมา เราแปลจากสถาบันภาษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณจักรภพบอกว่าเราแปลผิด คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วันนี้ก็บอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็มีคนที่พูดภาษาอังกฤษเป็น เข้าใจภาษาอังกฤษดีพอสมควร ผมท้าทาย ณ วันนี้ ว่าถ้าคุณจักรภพ เพ็ญแข คิดว่าเราแปลผิด คุณจักรภพ เพ็ญแข ช่วยเองสุนทรพจน์ที่คุณได้กล่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ที่เป็นภาษาอังกฤษ ให้ออกช่อง NBT ที่คุณเข้าไปครอบงำให้ดูหน่อยได้ไหม เพื่อให้คนไทยทั่วประเทศที่เขาฟังภาษาอังกฤษ ดู รู้พอสมควร ให้เขาฟังสักหน่อยว่าสรุปแล้วเขาแปลผิดหรือเปล่า เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก

เรื่องสำคัญที่ 2 ซึ่งผมต้องย้ำ วันนี้รัฐมนตรีของเขมรออกมายืนยันแน่ชัด ว่าได้มีการผสมผสานเรื่องสิทธิเขาพระวิหาร กับสิทธิของการที่จะให้สัมปทานในเรื่องหลุมแก๊สธรรมชาติ เราคิดไม่ถึง คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีคนที่ใจชั่ว ที่พร้อมที่จะยกอธิปไตยของเขาพระวิหาร โดยใช้ลูกน้องบริวารของตัวเอง หลับตาข้างหนึ่ง ไม่ให้ไทยไปทวงสิทธิ์ในเรื่องเขาพระวิหาร เพื่อให้เขาพระวิหารตกเป็นฝ่ายเขมร เพื่อให้ตัวเองจะได้สัมปทาน ผมคิดไม่ถึง วันนี้สังคมไทยมาถึงยุคนี้แล้ว สังคมไทยวันนี้ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว มันถึงกาลแก่การพินาศฉิบหาย มันถึงยุคซึ่งผมเรียนให้ทราบและแถลงการณ์พิสูจน์ชัด ว่าถ้ามีการปฏิวัติรัฐประหาร เป็นการกระทำและเป็นการก่อเหตุของพวกพรรคพลังประชาชน พวกคุณทักษิณ ของคุณสมัคร สุนทรเวช ทั้งสิ้น ไม่ใช่เกิดจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

สมศักดิ์ โกศัยสุข

ย้ำนิดหนึ่งว่า ปัญหาในประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คือการบริหารของรัฐบาลเกือบทุกยุคทุกสมัยที่ล้มเหลวและทุจริตคอร์รัปชัน และไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์กติกา หรือกฎหมายสูงสุดของการปกครองประเทศ นั่นคือเป็นสาเหตุที่มาของการทำปฏิวัติหรือรัฐประหาร เพราะฉะนั้นปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นถ้าใครไปโทษขบวนการประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพ ภายใต้กรอบ ขอบเขตของรัฐธรรมนูญในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุมโดยสงบ โดยเปิดเผย อันนี้เป็นการกล่าวหาที่ไร้เหตุผล และขัดหลักประชาธิปไตยและหลักสิทธิมนุษยชน ในความเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า จะเห็นว่า น้ำมันวันนี้ขึ้นมาอีก 80 สตางค์ ทุกอย่างขึ้น น้ำตาลขึ้นหมด ค่าแรงได้มา 9 บาท ข้าวราดแกงวันนี้จานละ 5 บาท กินวันละ 2 จาน มื้อละ 2 จาน 3 มื้อ ขึ้นไป 30 บาท ได้มา 9 บาท บางจังหวัดได้ 2 บาทซึ่งมันไม่พอ

ดังนั้น ในเรื่องเหล่านี้ ผู้ใช้แรงงานและคนยากคนจน ในสลัม จะมีการชุมนุมกันเพื่อเรียกร้องเหล่านี้ในวันที่ 20 ฉะนั้นเราเห็นว่า เป็นสิทธิที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรที่เขาออกมา เพราะว่าทุกวันนี้จากการสำรวจแล้ว อย่างน้อย 267 บาท แต่คนงานเอาตัวเลขตั้งแต่ปี 2547 ที่รัฐบาลนายกฯ ทักษิณ บอกว่าต้อง 7,000 บาทถึงจะอยู่ได้ แต่วันนี้ได้แค่ร้อยกว่าบาท อันนี้เห็นว่าเป็นสิทธิเสรีภาพ ทางพันธมิตรฯ สนับสนุนในการออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องตามสิทธิ์ของเขาในครั้งนี้ และสภาวิกฤตทุกด้าน

จะเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องต่างๆ ที่ได้แถลงการณ์ไปแล้วนั้น ชี้ชัดให้เห็นว่า รัฐบาลนี้หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศต่อไปอย่างสิ้นเชิง เพราะล้มเหลวในทุกด้าน ดูการเปลี่ยนแปลงประธานสภาผู้แทนราษฎร ทุกคนก็รู้อยู่ว่ามาอย่างไร เป็นอย่างไร ซึ่งในเรื่องเหล่านี้อยากจะฝากพี่น้องประชาชนต้องช่วยกันมาดูแลปกป้องประเทศของเราถึงที่สุด เชื่อว่าการที่ประชาชนออกมาแสดงพลังต่างๆ รูปแบบต่างๆ ภายใต้กรอบขอบเขตของกฎหมายจะเป็นจุดสำคัญในการรักษาอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศชาติ

ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์

เรื่องน้ำมันจริงๆ รัฐบาลไม่ได้บริหารอะไรเลย แล้วทำให้คนไทยทั้งประเทศเข้าใจว่า ราคาน้ำมันที่มันขึ้นแทบทุกวันเป็นเรื่องผลกระทบจากตลาดโลก ซึ่งไม่จริง และจากการที่รัฐบาลไม่บริหารอะไรเลย วันนี้ทำให้ ปตท.กลายเป็นองค์กรซึ่งแทรกแซงราคาน้ำมัน ทำให้กลไกตลาดมีปัญหากระทบไปถึงบริษัท เชลล์ วันนี้เชลล์ตัดสินใจขึ้นน้ำมันอีก 80 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งอีก พรุ่งนี้หรือมะรืนต้องขึ้นอีก เพราะราคาที่ขายอยู่วันนี้ จากโครงสร้างที่รัฐบาลไม่ทำอะไรเลย เป็นราคาที่ผิดปกติ จริงถ้ารัฐบาลบริหารจัดการน้ำมันให้ได้ดี ราคาน้ำมันประเทศไทย จากสภาพข้อเท็จจริง และกองทุน สามารถนิ่งได้ตลอดเดือน ไม่ใช่ขึ้นลงแทบทุกวัน การที่น้ำมันขึ้นลงแทบทุกวันทำให้ผู้บริโภค

ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อนไปหมด แล้วถ้าบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพตรึงน้ำมันให้นิ่งได้ถึง 3 เดือน จากกองทุนน้ำมันที่มีอยู่ จากสภาพข้อเท็จจริง แต่รัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ทำให้เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย แม้แต่สถานีบริการน้ำมันก็ทยอยปิด ทยอยเลิก ด้วยสภาพเงินหมุนเวียนที่ไม่อยู่กับที่ ไม่นิ่งเลย นี่คือปัญหาของการบริหารจัดการน้ำมันผ่านกระทรวงพลังงาน หรือผ่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ทำอะไรเลย นี่คือการตอกย้ำความล้มเหลวของการกุมสภาพธุรกิจน้ำมันในประเทศ

สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์

ผมอยากเรียนว่า ขณะนี้รัฐบาลปกครองประเทศโดยไม่บริหารอะไรเลยแต่รอฟังคำสั่งจากนายใหญ่ เพราะฉะนั้นองค์กรที่เรียกว่า คณะรัฐมนตรี และรัฐสภา จึงอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด แล้วไม่สามารถจะเอาชนะปัญหาที่เป็นวิกฤตของชาติได้ เป็นการซ้ำเติมให้คนไทยเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ทั้ง 3 ภาคส่วน ส่วนแรก คือ ผู้บริโภค บริโภคของแพงทุกชนิดไม่มีอะไรถูกลงเลย โดยไม่ต้องแจงเป็น น้ำมัน ก๊าซ น้ำตาล ข้าวสาร และอื่นๆ เดือดร้อนทุกคน ไม่ต้องทุกหย่อมหญ้า ส่วนที่สอง ราคาผลผลิตตกต่ำจนน่าใจหาย ทำให้เกิดการประท้วงเต็มประเทศ และซ้ำเติมด้วยหนี้สินของเกษตรกร ที่กำลังฮึ่มๆ เตรียมกันมาจากภาคอีสาน และภาคต่างๆ เต็มไปหมดเลย และส่วนที่สาม ปัจจัยการผลิตสูงยิ่ง โดยเฉพาะปุ๋ย และค่าไถอะไรต่างๆ

รัฐบาลนี้ถือเป็นรัฐบาลที่สร้างวิกฤตครั้งที่ 2 หลังจากเกิดข้าวยากหมกแพงในสมัยกรุงศรีอยุธยา จนต้องบันทึกไว้ในพงศาวดาร แต่อันนี้เป็นการบันทึกครั้งที่ 2 ของชาติที่สร้างวิกฤตรอบด้าน เป็นการ ข้าวยากหมากแพงครั้งที่ 2 นับจากครั้งที่ 1 ที่บันทึกไว้ในพงศาวดารของพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะความภาคภูมิใจของอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ขณะนี้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเคยรับใช้ระบอบการเมืองที่ชั่วร้ายมาแล้ว ถึงขนาดสัมภาษณ์อย่างแสดงปีติยินดีว่า ซื้อข้าวมา 60 บาท สามารถขายให้ประชาชนได้ 120 บาท รัฐทำกำไร เป็นการสัมภาษณ์ที่ ปัญญาค่อนข้างจะไม่แข็ง ทำให้สังคมไทยเห็นว่า การที่รัฐทำกำไรสูงสุดแล้วประชาชนถูกขูดรีดเดือดร้อนจากพ่อค้า เป็นความภาคภูมิใจของรัฐบาลหุ่นเชิด

ผมจึงคิดว่า ขณะนี้พี่น้องเกษตรกรถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการกับรัฐบาลชุดนี้ การเดินขบวนของภาคใต้ เรื่องปาล์ม การเดินขบวนระลอกภาคเหนือ เรื่องหอม กระเทียม การเดินขบวนระลอกภาคตะวันอก เรื่องราคาผลไม้ การเดินขบวนระลอกใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในภาคอีสาน คือเรื่องหนี้สิน ล้วนแล้วแต่บ่งบอกว่า รัฐบาลชุดนี้สุกงอม และหมดเวลาแล้ว ยิ่งมากระหน่ำซ้ำเติมสถาบันชาติ ศาสนา พระมหกษัตริย์แล้ว ไม่ต้องพูดถึงความชอบธรรมหรอกครับ มันเลยคำว่า ออกไปอีก จนแถลงการณ์ฉบับนี้ ใช้คำว่า ขายชาติ ขายแผ่นดิน จนจะทำให้สิ้นชาติ ยิ่งมาแสดงเจตจำนงเรื่องรัฐธรรมนูญบางหมวดที่คุณสนธิพูดไป ยิ่งส่อให้เห็นว่า นี่ไม่เพียงแต่ประชาชนจะประสบข้าวยากหมากแพงเท่านั้น ยังคุกคามต่อสถาบันหลักของชาติให้ตกอยู่ในภาวะห่วงอันตรายอย่างยิ่ง ผมถึงแถลงมาเพื่อให้ประชาชนได้ผนึกกำลังกัน เวลาใกล้จะมาถึงแล้วครับ

วีระ สมความคิด

ผมจะขอเพิ่มเติมในเรื่องของการท้าทายกฎหมายของรัฐบาล ตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาลมีการกระทำที่ท้าทายมาโดยตลอด เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับคุณทักษิณและพวกพ้อง มีการข่มขู่องค์กรอิสระ ไม่ว่า คตส., ป.ป.ช. เดินหน้าจะย้ายข้าราชการทุกคนที่จะเป็นอุปสรรค หรือเป็นข้าราชการที่เขาเอาจริงเอาจังกับคดีความต่างๆ อันนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นที่ประจักษ์ แล้วเลือกปฏิบัติ มีการเลือกปฏิบัติมาโดยตลอด ถ้าคดีความใดเป็นของพรรคฝ่ายค้าน ตรงกันข้าม เอาจริงเอาจัง เอาถึงที่สุด แต่คดีความของคนในรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการกระทำความผิด การบุกรุกที่ดินของคุณชัย ชิดชอบ ที่ดินรถไฟ ที่ดินเขากระโดง ที่ดิน อ.สตึก คุณเฉลิม อยู่บำรุง ไม่เห็นทำอะไรเลย บอกว่าคดีต่างๆ เขาดำเนินการไปแล้ว เขายังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย แต่ไปเอาเป็นเอาตายกับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ

ซึ่งคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ผิดจริงไม่มีใครเขาว่าอะไรครับ ดำเนินการไปเลย ตรงไปตรงมา แต่มันต้องมาตรฐานเดียวกัน คุณสมัคร สุนทรเวช นายกฯ ก็เช่นกัน คุณสมัครไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลยครับในเรื่องปัญหาบ้านเมือง การกระทำที่ท้าทาย การกระทำที่ย่ำยีจิตใจพี่น้องประชาชนคนไทย คดีการไปเขียนชื่อคุณทักษิณบนธงชาติ คุณสมัครบอกว่า เดี๋ยวคุณทักษิณกลับมาจะถาม คุณทักษิณกลับมาประเทศไทย ไม่สนใจคุณสมัครเลยครับ บอกว่าตอบไปแล้ว ผ่านคนอื่น อย่างนี้ถึงบอกว่า เรามีนายกฯ ที่มีความสามารถเพียงเท่านี้ แล้วเรื่องต่างๆ เหล่านี้ที่ผมบอกว่า เป็นเรื่องที่คนไทยดูแล้วเข้าใจเองได้ แล้วความอดทนก็กำลังจะหมดลง ก็ขอฝากพี่น้องคนไทยว่า เรามีรัฐบาลที่ อ.ธีรยุทธ เรียกว่า เป็นรัฐบาลชั่วครองเมือง ตอนนี้เข้ามาคลุมเบ็ดเสร็จทุกอย่างแล้ว เราคงจะต้องจัดการอย่างเด็ดขาดในเร็วๆ นี้

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง

นั่งอยู่หัวโต๊ะมีผมเป็นทหารอยู่คนเดียว หลายๆ คนบอกให้ผมพูดบ้างเพราะว่ามีข่าวหนาหูเรื่องการปฏิวัติ ผมยืนยันมานานแล้วนะครับ ทั้งยืนยันด้วยวาจาและเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรในหนังสือบางเล่มว่า เมืองไทยเรานั้นจะมีการลือเรื่องปฏิวัติเมื่อไหร่มีคนเชื่อทั้งนั้น ที่บอกว่าการปฏิวัติไม่มีนั้นไม่จริง เพราะอะไรครับ เพราะว่าชุมชนของเรา ประชากรของเรายังไม่เข้มแข็ง วันนี้ถ้ามีการลือกันว่า อังกฤษ อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และประเทศอีกหลายประเทศจะมีการปฏิวัติ ไม่มีใครเชื่อหรอกครับเพราะมันเป็นไปไม่ได้ แต่เมืองเราเป็นไปได้ และเป็นมาแล้ว ทหารไม่ต้องการปฏิวัติหรอกครับ มันเป็นการเสี่ยงอย่างมาก แต่ทหารนั้นต้องทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 70 ปี 2550

ซึ่งแบกภาระมากกว่าประชาชน ประชาชนนั้นรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทหารเป็นกลุ่มอาชีพกลุ่มหนึ่งที่ถืออาวุธโดยถูกต้องตามกฎหมาย และเขาแบกภาระในการรักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หนักยิ่งกว่าเราอีก เพราะอะไรครับ เพราะเรา ทหารเรียนมาเรื่องเดียวครับไม่ใช่เรื่องอื่น เรื่องการรักษาบ้านเมือง ฝึกมาก็เรื่องเดียว ว่าทำไมจะรักษาบ้านเมืองไว้ได้ แล้วกินเงินเดือน เบี้ยเลี้ยงอยู่ทุกวันนี้ก็เรื่องเดียวครับ การรักษาบ้านเมืองไว้

เพราะฉะนั้น การที่มาก่อให้เกิดเงื่อนไขการรัฐประหารเพิ่มมากขึ้นๆ มันเป็นเรื่องดีหรอครับที่ทำมาจนกระทั่งถึงขนาดนี้ แล้วเอะอะอะไรก็มาโยนความผิดให้คนนู้นคนนี้ ที่จริงแล้ววันนี้ตามที่พวกเราได้ชี้แจงให้ประชาชนทราบ เพราะเราได้ติดตามข่าวคราวมาตลอดระยะเวลานั้น เงื่อนไขมีมากก่อนเหตุการณ์ 19 กันยาเสียอีกครับ เพราะฉะนั้นระวังให้ดีครับ ใครก็ตามแต่ที่สร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมมากขึ้น ทั้งๆ ที่ทหารเขาไม่ต้องการปฏิวัตินอกจากจำเป็นจริงๆ เพราะมันเป็นหน้าที่ในการรักษาบ้านเมือง เขาก็ต้องพยายามทำเท่าที่เขาสามารถทำได้ ที่พูดเช่นนี้ไม่ใช่สนับสนุนปฏิวัติ แต่อยากจะบอกใครต่อใครที่กำลังสร้างเงื่อนไขอยู่ขณะนี้ หยุดเสียที เลิกเสียทีได้ไหม การจะมาเอาชนะคะคานในการจะทำให้เกิดประโยชน์ส่วนตัวและหมู่คณะเพียงเล็กน้อย และทำให้บ้านเมืองต้องเสียหาย เพราะฉะนั้นยืนยันอีกทีครับ ไปถามทหารคนไหนก็ได้ เขาไม่อยากปฏิวัติหรอกครับ ถ้าเหตุการณ์บ้านเมืองเรียบร้อย เขาดีใจอย่างยิ่ง เพราะการปฏิวัตินั้นมันเป็นการเสี่ยงอย่างยิ่ง ผมจึงเรียนให้ทราบว่า มันเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นจะพูดไปก็มีคนเชื่อและเป็นไปได้ แต่ถ้าจะไปบอกว่า ประเทศที่เขามั่นคงแล้วทางการเมือง จะมีการปฏิวัติ ไม่มีใครเชื่อ แล้วเป็นไปไม่ได้ มีแค่นี้ครับ

ช่วงถามตอบ


ถาม - ? เสียงไม่ชัด

สมศักดิ์ - จะมีการแถลงข่าวน่าจะเป็น 1-2 วันนี้ ผมไม่ใช่คนจัดเอง เป็นเรื่องของกลุ่มพี่น้องคนยากคนจนมารวมตัวกัน คอยติดตามวันที่เขาแถลงข่าวแน่นอนอีกที กำลังประชุมกันอยู่

สุริยะใส - เรื่องการชุมนุม การเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้จะไม่เกี่ยวพันธมิตรฯ คุณสมศักดิ์พยายามยกตัวอย่างว่า กลุ่มผู้เดือดร้อนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ ได้รับผลกระทบจากความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาล อาจจะมีการเคลื่อนไหวหลายๆ รูปแบบ ซึ่งเป็นสิทธิ์ พันธมิตรฯ สนับสนุนก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้

ถาม - ? เสียงไม่ชัด

จำลอง - มีหลักการสงครามอยู่ข้อหนึ่งในหลายข้อบอกไว้ว่า ต้องดำรงความมุ่งหมายเดิม ความมุ่งหมายเดิมของพันธมิตรฯ ก็คือ เราคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 อย่างเต็มที่ แต่มิได้หมายความเราปิดทางไม่ให้แก้ แก้ได้แต่คุณต้องกลับไปถามประชาชนอีกครั้งว่า คุณเพิ่งใช้รัฐธรรมนูญนี้มาได้ไม่กี่เดือน เห็นชอบไหมที่จะแก้รัฐธรรมนูญ และจะแก้ตรงไหนบ้าง เพราะคราวที่แล้วประชาชนมาออกเสียงตั้ง 14 ล้าน 7 แสน ไม่ใช่น้อยนะครับ คุณแก้ได้ คุณไปถาม ถ้าประชาชนส่วนใหญ่เอาด้วย เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเราอยู่ในระบอบประชาธิปไตย

เมื่อเป็นอย่างนั้นต้องทำตามครรลองของประชาธิปไตยอีก เช่น มีการจัดตั้งผู้ที่เป็นกลางมาทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ ที่เราเรียกกันว่า ส.ส.ร. เรายังยืนยัน และเรายังยืนยันอีกว่า วันใดก็ตามที่มีการยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เราจะยื่นเรื่องการถอดถอนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. ก็แล้วแต่ ที่เข้าชื่อกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราถือว่า เป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญ และวันนั้นเราจะประกาศขอร้องเชิญชวนพี่น้องประชาชน ซึ่งถามเรามาทุกเมื่อเชื่อวัน เมื่อวานผมก็ถูกถามอีกแล้วว่า เมื่อไรจะชุมนุมใหญ่ซะที นั่นแหละครับ คือเรายังดำรงความมุ่งหมายเดิมอยู่ ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ถาม - แถลงการณ์วันนี้จะเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมในการออกมาเคลื่อนไหวไหม

จำลอง - ไม่ใช่เงื่อนไขเพิ่มเติม เพียงแต่ออกมาย้ำ มาบอกประชาชนว่า มันยิ่งกว่าที่แล้วๆ มานะ และอะไรที่เราพูดมา เหมือนกันหมดเลย ตรงหมดเลย คุณจำได้ไหมว่า ที่เราออกมารณรงค์ระลอก 2 ครั้งแรกที่เรานั่งอยู่ตรงนี้ เราบอกว่า เขากำลังจะทำร้ายทำลายกระบวนการประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการยุติธรรม คือ มีการโยกย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แล้วต่อไปเขาจะโยกย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. เพราะอะไร เพราะตำรวจก็เป็นต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม และวันนี้จริงหรือเปล่า ก็จริงหมดครับ ที่เรามาพูด เพราะเราติดตามข่าวคราว เราต้องการให้ประชาชนซึ่งไม่มีโอกาสได้ติดตามข่าวคราวอย่างแท้จริง อย่างพวกเรา ได้รับทราบว่าบ้านเมืองเกิดอะไรขึ้น เมื่อเกิดแล้ว คุณก็เตรียมตัวช่วยกันเท่าที่สามารถจะช่วยได้

ถาม - แต่นั่นไม่ใช่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา

จำลอง - ไม่ใช่ครับ คุณไปอ่านดู นี่ไม่ใช่ตัวเร่งปฏิกิริยา ตัวเร่งปฏิกิริยา เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ที่เขาทำทั้งหลายแหล่ จนกระทั่งมีคำบอกว่า ที่บอกว่าแย่ที่สุดนะไม่ใช่นะ ติดตามดูต่อไปมีแย่กว่านี้อีก นั่นแหละครับคือการเร่งให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง พวกเราไม่ใช่นะครับ พวกเราทำตามหน้าที่ที่กำหนดไว้ในมาตรา 70 ว่าบุคคลเนี้ยะ คุณก็เหมือนกัน มีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราทำตามรัฐธรรมนูญ ที่เราทำ ไม่ได้เร่งอะไรเลย คอยมาบอกมาย้ำมาซ้ำมาเติมว่า ใครก็ตามที่ทำมาแล้ว เลิกทำเสีย กลับมาสู่ครรลองประชาธิปไตยซะ เท่านั้นเอง

ถาม - ที่เขาว่ารัฐบาลล้มเหลว ล้มเหลวในทุกด้าน ในฐานะแกนนำมวลชนจะมีการพิพากษารัฐบาลชุดนี้อย่างไร

จำลอง - เราพูดกันทุกครั้ง ไม่ถึงขั้นพิพากษา เพราะไม่ใช่ผู้พิพากษา เราพูดทุกครั้ง และเราตกลง เรามีการเตรียมการ แต่เราจะมาบอกล่วงหน้านั้น ไม่เหมาะ เดี๋ยวจะเป็นการมาบอกว่า เราเป็นคนกระตุ้นให้มีการเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ไม่ใช่นะ

ถาม - ที่ว่ารัฐบาลนั้นหมดเวลาแล้วหมายถึงพันธมิตรจะออกมาเคลื่อนไหวเพื่อขับไล่รัฐบาลชุดนี้

จำลอง - นั่นแหละครับ คือคำตอบ เราเตรียมการไว้พร้อมแล้ว แต่เราใช้ความอดทนอย่างยิ่ง

ถาม - และต้องถึงเมื่อไร ยังไง ที่จะต้องออกมา

จำลอง - บอกไม่ได้ครับ เราทำตามสถานการณ์ ว่าสถานการณ์มันเพิ่มอีกแล้ว วันนี้เราออกมาบอกว่า หยุดซะทีนะ ถ้ามันมากไปกว่านี้ยิ่งแย่ใหญ่ บ้านเมืองเสียหายหมด

สนธิ - ผมขอขยายความท่าน พล.ต.จำลอง นิดนึง จริงอยู่เรามองเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ขณะเดียวกัน ท่านพล.ต.จำลองเคยมีวาทะเด็ดประโยคหนึ่ง ซึ่งผมขอใช้ คือ เราจะพิจารณาตามสถานการณ์ ธงเราตั้งอยู่ที่การยื่นแก้รัฐธรรมนูญ แต่ขณะเดียวกันใครจะไปรู้ เอาเป็นว่าพวกเราพร้อมทุกเมื่อ คำถามคือว่า ภาษานักเลงเรียกว่าจะโยนติ้วกันเมื่อไรเท่านั้น ติ้วอยู่ในมือแล้ว จะตัดสินใจโยนหรือไม่โยนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ถ้ายื่นแก้รัฐธรรมนูญเมื่อไร แน่นอน อันนี้ไม่ต้องโยนติ้ว อันนี้เป็นสัจจะวาจาบอกว่า ห้ามข้ามเส้นนี้ หากคุณข้ามมามีเรื่อง แต่เผอิญคุณไม่ได้ข้ามเส้นแต่คุณเอาก้อนหินขว้างมา เอาขี้ขว้างมา นึกออกไหม ก็อาจไม่ต้องรอให้คุณข้ามเส้นก็ได้ ก็เป็นอันว่า เราอยากจะเปิดกว้างของเราไว้ก่อน แต่เป้าหลักคือการแก้รัฐธรรมนูญ

จำลอง - ต้องขอบอกฝากไปยังประชาชนหลายต่อหลายคนที่ใจร้อนเหลือเกิน เจอกันเมื่อไรก็ถาม ไม่เจอก็ถาม โทรศัพท์มาถาม เขียนจดหมายมาถาม เราใช้ความอดทน ใช้ความรอบคอบอย่างยิ่งนะครับ พูดจาปรึกษาหารือกัน ไม่ได้เป็นการตัดสินใจของคนใดคนหนึ่ง ที่เรานั่งอยู่ในที่นี้เราประชุมกันมากกว่านี้ แต่หลายคนบอกว่า แค่นี้ก็เยอะแล้ว เต็มหัวโต๊ะแล้ว

สนธิ - ผมเพิ่มอีกนิดหนึ่งนะครับ มีหลายคนที่อยู่ฝ่ายรัฐบาลมองว่า ประชาชนไม่มีพลังแล้ว ผมไม่อยากให้ประมาท ผมกำลังจะพูดบอกว่า แล้วคุณจะประหลาดใจ ว่างวดนี้ประชาชนล้นหลาม เพราะว่าคนทุกวันนี้อึดอัดใจ หาทางออกไม่ได้ เปิดทีวีก็จะอ้วก วันอาทิตย์ฟังเสียงก็จะโกรธ ทะเลาะกับลูกกับเมีย ถูกข่มขู่ วันดีคืนดี ตอนนี้พวก ส.ส.ในสภาฯ พรรคฝ่ายค้าน เวลาในอนาคตจะยกมือเพื่ออภิปราย ก็ต้องก้มหน้า เพราะเงยหน้ามองไม่ได้ มองแล้วจะอ้วก เพราะฉะนั้นแล้ววิกฤตพวกนี้มันลามไปจนถึงคนไทยทุกคน แล้วคนที่เคย 50:50 กับเรา วันนี้ก็เทเข้ามาข้างเรา คนที่ไม่เคยยืนข้างเรา วันนี้เริ่มวางตัวเป็นกลาง เพราะฉะนั้นแล้วปริมาณคน ผมเตือนไปก่อนนะครับ แล้วจะหาว่าผมไม่เตือนไม่ได้นะวันนั้น ว่าคุณจะประหลาดใจว่ามันล้นหลามจริงๆ

จำลอง - วันนี้สังเกตไหมครับ มีคำย่อ อักษรย่อ ที่คนพูดกันทั้งเมือง พูดกันทุกวันด้วย 3 ตัวอักษรนะครับ ชคม.ครับ

พิภพ - ขอเติ่มเรื่องประชามติ เดี๋ยวจะหาว่าพันธมิตรฯ ก็อ้างแต่ประชามติรัฐธรรมนูญที่ 14.7 ล้านเสียง ว่าพันธมิตรฯ ก็อ้างแต่ตรงนั้น ฝ่ายโน้นก็โต้ตอบว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ทำประชามติในสมัยมีการรัฐประหาร ซึ่งอ้างบรรยากาศของโบลิเวียบ้าง อเมริกาใต้บ้าง ว่าในบรรยากาศการรัฐประหาร การใช้อำนาจประหาร จะทำให้คนไปลงประชามติตามนั้น ก็โต้เถียงกันจนต้องยอมรับว่าไม่เป็นความจริง ก็วันนั้นเป็นบรรยากาศประชาธิปไตย คำว่าบรรยากาศประชาธิปไตยถึงแม้อยู่ในโครงสร้างของการรัฐประหาร ก็คือมีการถกเถียง แลกเปลี่ยน เพราะฉะนั้นเราจึงอ้าง 14.7 ล้านเสียง อันที่ 2 เราก็อ้างตามรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ว่า ทำไมการลงประชามติจำเป็นต้องทำ เพราะในมาตรา 165 ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ย่อมมีสิทธิออกเสียงประชามติ ขอย้ำตรงนี้นะครับ ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง ย่อมมีสิทธิออกเสียงประชามติ กรณีที่จะทำประชามติถ้าไม่อ้าง 14.7 ล้านเสียง

ก็ต้องอ้าง(1) ได้ว่า บัดนี้มีเรื่องที่กระทบถึงผลประโยชน์ได้เสียของประเทศชาติและประชาชน นายกรัฐมนตรีจะต้องนำเข้าปรึกษาคณะรัฐมนตรี ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ว่าให้นำเรื่องที่เป็นผลกระทบต่อประโยชน์ได้เสียนั้นไปออกเสียงประชามติ ผมถามหน่อยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ในมาตรา 237 ก็ดี 309 ก็ดี และลามไปถึงมาตราที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการองค์กรอิสระต่างๆ ก็ดี เป็นผลกระทบได้เสียไหม และก่อให้เกิดความเห็นที่แตกแยกในสังคมไหม เพราะฉะนั้นขออ้างมาตรา 165 นะครับ ว่ารัฐบาลจำเป็นที่จะต้องจัดให้มีการลงประชามติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถึงแม้ว่าจะโยนลูกไปให้สภาผู้แทนราษฎรแล้วก็ตาม แต่รัฐบาลโยนไม่พ้นความรับผิดชอบของรัฐบาลครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น