น.ส.วีรินทิรา นาบองท่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลง ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการระดับ 11 กระทรวงยุติธรรม โดยแต่งตั้ง นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม แทนนายจรัญ ภักดีธนากุล ที่ลาออกจากปลัดกระทรวงยุติธรรม
น.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงอีกว่า ครม.มีมติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอให้แต่งตั้งนายไพรัช ชัยชาญ ดำรงตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ นายไพรัช เป็นวิศวกรไฟฟ้า ซึ่งนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภา ส.ส.สัดส่วนกลุ่มที่ 1 ได้ติดต่อให้มาช่วยตรวจสอบวีซีดีกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) กล่าวหา กระทำทุจริตเลือกตั้งจนนำไปสู่การแจกใบแดง และต่อสู้ในชั้นศาลฏีกาอยู่ในขณะนี้ โดยนายไพรัช ยังเป็น ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบวีซีดี ที่นายยงยุทธ เคยให้ตรวจสอบวีซีดีในชั้นไต่สวน กกต.ด้วย
วันเดียวกัน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง นายกำธร โพธิ์สุวัฒนากุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา พร้อมองค์คณะรวม 3 คน ออกนั่งบัลลังก์สืบพยาน คดีหมายเลขดำที่ ลต.38/2551 ระหว่าง กกต. ผู้ร้อง และ นายยงยุทธ ติยะไพรัช และ น.ส.ละออง ติยะไพรัช น้องสาว นายยงยุทธ ส.ส.แบ่งเขต 3 จ.เชียงราย พรรคพลังประชาชน ผู้คัดค้านที่ 1-2 กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 ด้วยการทุจริตการเลือกตั้งแจกเงินให้กับกลุ่มกำนัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นตัวแทน (หัวคะแนน) ของ นายยงยุทธ แจกเงินซื้อเสียง เพื่อให้มีการลงคะแนนเลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชาชน โดย กกต.ยื่นคำร้องขอให้ ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายยงยุทธ ซึ่งให้ถูกใบแดง และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขต 3 จังหวัดเชียงราย ที่ น.ส.ละออง ถูกให้ใบเหลือง
โดยเป็นการสืบพยานฝ่ายผู้คัดค้านที่ 1-2 นัดที่สองต่อจากเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ซึ่งนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ นายยงยุทธ เปิดเผยว่า วันนี้นำพยานเข้าไต่สวนรวม 2 ปาก คือ น.ส.ละออง และ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผู้นำรถตู้รับส่ง นายบรรจง ยางยืน นายกเทศมนตรี ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ระหว่างพรรคพลังประชาชนและโรงแรมเอสซีปาร์ค
นายพิชิฏ กล่าวว่า ในการสืบพยานวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) เวลา 09.00 น.จะนำพยานไต่สวนรวม 2 ปาก คือ นายยงยุทธ และ นายชูชาติ จันทวลย์ อดีตที่ปรึกษา ซึ่ง นายยงยุทธ จะขึ้นเบิกความตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนพยานที่เหลืออีก 6 ปาก ซึ่งเป็น กลุ่มอนุฯไต่สวน และผู้รวบรวมพยานหลักฐานในชั้น กกต.ที่ฝ่ายผู้คัดค้านเคยร้อง ขอให้ศาลออกหมายเรียกมาเป็นพยาน เพื่อให้โอกาสผู้คัดค้านทั้งสองได้ซักถาม ต่อสู้คดีนั้น ศาลนัดให้ฟังคำสั่งว่าออกหมายเรียกบุคคลมาเป็นพยานได้หรือไม่ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันนัดไต่สวนพยานผู้คัดค้านครั้งสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเบิกความพยานของนายยงยุทธในวันนี้ นายบุญชอบ ได้เบิกความว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีที่กำนัน 10 คน มาซื้อเสียงที่ โรงแรม เอสซี ปาร์ค เพียงแต่นำรถตู้ ซึ่งเป็นรถตู้ของทางราชการไปรับ นายบรรจง ยางยืน ซึ่งมาติดต่องานด้านราชการ โดยได้มารับที่บริเวณด้านข้างพรรคพลังประชาชน ก่อนที่นายบรรจงจะให้ไปส่งที่ โรงแรม เอสซี ปาร์ค จนกระทั้งมารู้อีกครั้ง ว่า รถตู้เสียจึงต้องนอนที่โรงแรม และตอนเช้าจึงออกมาทำงานที่จังหวัดปทุมธานี โดย นายบรรจง ได้ให้ไปส่งที่สนามบินดอนเมืองซึ่งถือว่าเป็นทางผ่าน ตนจึงได้มาส่ง โดย นายบุญชอบ ยืนยัน ไม่รู้จักกับกลุ่มกำนันกลุ่มดังกล่าว
น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ทีมโฆษกรัฐบาลได้เวลาจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ 1 ชั่วโมง ทุกวันเสาร์เวลา 11.00-12.00 น.โดยจะจัดทำเป็นราย “คุยนอกทำเนียบกับทีมโฆษกรัฐบาล” ซึ่งจะมีโฆษกและรองโฆษกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันจัดรายการแบบสบายๆ ไม่ใช่การแถลงมติครม. จะเน้นในเรื่องงานรัฐบาลในรอบสัปดาห์ว่ามีอะไรบ้าง มีมติครม.ที่น่าสนใจสามารถมาต่อยอดขยายผลได้ รวมถึงความคืบหน้า ของโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้า เอ็สเอ็มแอล หรือประเด็นสัมภาษณ์รัฐมนตรี ต่างๆที่น่าสนใจในรอบสัปดาห์นั้นๆ
น.ส.วีรินทร์ทิรา แถลงอีกว่า ครม.มีมติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอให้แต่งตั้งนายไพรัช ชัยชาญ ดำรงตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ นายไพรัช เป็นวิศวกรไฟฟ้า ซึ่งนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภา ส.ส.สัดส่วนกลุ่มที่ 1 ได้ติดต่อให้มาช่วยตรวจสอบวีซีดีกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) กล่าวหา กระทำทุจริตเลือกตั้งจนนำไปสู่การแจกใบแดง และต่อสู้ในชั้นศาลฏีกาอยู่ในขณะนี้ โดยนายไพรัช ยังเป็น ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบวีซีดี ที่นายยงยุทธ เคยให้ตรวจสอบวีซีดีในชั้นไต่สวน กกต.ด้วย
วันเดียวกัน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง นายกำธร โพธิ์สุวัฒนากุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา พร้อมองค์คณะรวม 3 คน ออกนั่งบัลลังก์สืบพยาน คดีหมายเลขดำที่ ลต.38/2551 ระหว่าง กกต. ผู้ร้อง และ นายยงยุทธ ติยะไพรัช และ น.ส.ละออง ติยะไพรัช น้องสาว นายยงยุทธ ส.ส.แบ่งเขต 3 จ.เชียงราย พรรคพลังประชาชน ผู้คัดค้านที่ 1-2 กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 ด้วยการทุจริตการเลือกตั้งแจกเงินให้กับกลุ่มกำนัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นตัวแทน (หัวคะแนน) ของ นายยงยุทธ แจกเงินซื้อเสียง เพื่อให้มีการลงคะแนนเลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชาชน โดย กกต.ยื่นคำร้องขอให้ ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายยงยุทธ ซึ่งให้ถูกใบแดง และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขต 3 จังหวัดเชียงราย ที่ น.ส.ละออง ถูกให้ใบเหลือง
โดยเป็นการสืบพยานฝ่ายผู้คัดค้านที่ 1-2 นัดที่สองต่อจากเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ซึ่งนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ นายยงยุทธ เปิดเผยว่า วันนี้นำพยานเข้าไต่สวนรวม 2 ปาก คือ น.ส.ละออง และ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและฝึกอบรมด้านสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผู้นำรถตู้รับส่ง นายบรรจง ยางยืน นายกเทศมนตรี ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ระหว่างพรรคพลังประชาชนและโรงแรมเอสซีปาร์ค
นายพิชิฏ กล่าวว่า ในการสืบพยานวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) เวลา 09.00 น.จะนำพยานไต่สวนรวม 2 ปาก คือ นายยงยุทธ และ นายชูชาติ จันทวลย์ อดีตที่ปรึกษา ซึ่ง นายยงยุทธ จะขึ้นเบิกความตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนพยานที่เหลืออีก 6 ปาก ซึ่งเป็น กลุ่มอนุฯไต่สวน และผู้รวบรวมพยานหลักฐานในชั้น กกต.ที่ฝ่ายผู้คัดค้านเคยร้อง ขอให้ศาลออกหมายเรียกมาเป็นพยาน เพื่อให้โอกาสผู้คัดค้านทั้งสองได้ซักถาม ต่อสู้คดีนั้น ศาลนัดให้ฟังคำสั่งว่าออกหมายเรียกบุคคลมาเป็นพยานได้หรือไม่ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันนัดไต่สวนพยานผู้คัดค้านครั้งสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเบิกความพยานของนายยงยุทธในวันนี้ นายบุญชอบ ได้เบิกความว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีที่กำนัน 10 คน มาซื้อเสียงที่ โรงแรม เอสซี ปาร์ค เพียงแต่นำรถตู้ ซึ่งเป็นรถตู้ของทางราชการไปรับ นายบรรจง ยางยืน ซึ่งมาติดต่องานด้านราชการ โดยได้มารับที่บริเวณด้านข้างพรรคพลังประชาชน ก่อนที่นายบรรจงจะให้ไปส่งที่ โรงแรม เอสซี ปาร์ค จนกระทั้งมารู้อีกครั้ง ว่า รถตู้เสียจึงต้องนอนที่โรงแรม และตอนเช้าจึงออกมาทำงานที่จังหวัดปทุมธานี โดย นายบรรจง ได้ให้ไปส่งที่สนามบินดอนเมืองซึ่งถือว่าเป็นทางผ่าน ตนจึงได้มาส่ง โดย นายบุญชอบ ยืนยัน ไม่รู้จักกับกลุ่มกำนันกลุ่มดังกล่าว
น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ทีมโฆษกรัฐบาลได้เวลาจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ 1 ชั่วโมง ทุกวันเสาร์เวลา 11.00-12.00 น.โดยจะจัดทำเป็นราย “คุยนอกทำเนียบกับทีมโฆษกรัฐบาล” ซึ่งจะมีโฆษกและรองโฆษกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันจัดรายการแบบสบายๆ ไม่ใช่การแถลงมติครม. จะเน้นในเรื่องงานรัฐบาลในรอบสัปดาห์ว่ามีอะไรบ้าง มีมติครม.ที่น่าสนใจสามารถมาต่อยอดขยายผลได้ รวมถึงความคืบหน้า ของโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้า เอ็สเอ็มแอล หรือประเด็นสัมภาษณ์รัฐมนตรี ต่างๆที่น่าสนใจในรอบสัปดาห์นั้นๆ
