ลือ 2 ตัวเก็งชิงปลัดกระทรวงยุติธรรม “กิตติพงษ์ กิตยารักษ์-ไกรสร บารมีอวยชัย” กระแสแรง ขณะที่พรรคพลังประชาชนหนุนไกรสรที่เคยใกล้ชิด “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ส่วน ขรก.ยุติธรรมจับขั้วหนุนลูกหม้อ ยธ.
วันนี้ (30 เม.ย.) รายงานข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงการเสนอชื่อแต่งตั้งปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน นายจรัญ ภักดีธนากุล ซึ่งยื่นใบลาออกจากตำแหน่งกระทรวงยุติธรรม เพื่อไปรับตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยการลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.เป็นต้นไป ทั้งนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้หารือกับผู้บริหารพรรคพลังประชาชน ถึงการคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งหากนับเรียงลำดับอาวุโสของข้าราชการในกระทรวงยุติธรรม นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะมีอาวุโสสูงสุด รองลงมาคือ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีอาวุโสสูงกว่านายธงทอง จันทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม 6 วัน อย่างไรก็ตาม นายสมพงษ์ต้องการผลักดันนายกิตติพงษ์ แต่กลับถูกกดดันอย่างหนักจากพรรค ซึ่งมีความต้องการทาบทามนายไกรสร บารมีอวยชัย อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรมที่ลาออกจากราชการไปทำงานกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ให้กลับเข้ารับราชการเพื่อรับตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม
รายงานข่าวเปิดเผยอีกว่า สำหรับนายไกรสรเป็นข้าราชการที่มีความใกล้ชิดกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยนายไกรสร เป็นอดีตผู้พิพากษาที่ย้ายมาเป็นข้าราชการพลเรือนในตำแหน่งอธิบดีกรมบังคับคดี ตั้งแต่สมัยแยกกระทรวงยุติธรรมออกจากศาล อย่างไรก็ตาม นายไกรสรยังแบ่งรับแบ่งสู้ที่จะกลับเข้ารับราชการ เนื่องจากสบายใจกับงานเอกชน อีกทั้งค่าตอบแทนยังสูงกว่าการรับราชการ
รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของแคนดิเดทปลัดกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ ล้วนเคยผ่านงานบริหารกระทรวงยุติธรรม ในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมาแล้วทั้งสิ้น ดังนั้น การพิจารณาผู้เหมาะสมกับตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ คงไม่ได้คำนึงถึงหลักอาวุโสเพียงอย่างเดียว แต่จะพิจารณาถึงความรู้ความสามารถ และการประสานงานที่จะดูแลงานในกระทรวงให้มีความเป็นเอกภาพ ทั้งนี้ นายกิตติจะมีความถนัดในด้านการข่าว ส่วนนายธงทอง มีความถนัดในด้านงานกฎหมาย ขณะที่นายกิตติพงษ์ก็มีความถนัดในด้านกฎหมาย แต่รับผิดชอบกำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีส่วนรับผิดชอบงานคดีสำคัญหลายคดี อาทิ คดีที่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับซาอุดีอาระเบีย อย่างไรก็ตาม การหารือเกี่ยวกับผู้จะมารับตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมจะต้องได้ข้อยุติภายในสัปดาห์นี้ เพื่อนำรายชื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีให้ในวันที่ 6 พ.ค.นี้
สำหรับบรรยากาศภายในกระทรวงยุติธรรม ข้าราชการได้แบ่งออกเป็น 2 ขั้ว โดยจับกลุ่มสนับสนุนนายกิตติพงษ์ กับนายธงทอง และกีดกันไม่ให้รับคนนอกเข้ามาเป็นปลัดกระทรวง เพื่อให้มีการขยับตำแหน่งระดับ 10 ขึ้นเป็นระดับ 11 ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลื่นไหลของอีกหลายตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายที่กำลังจะมีขึ้นในกระทรวงยุติธรรม
วันนี้ (30 เม.ย.) รายงานข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงการเสนอชื่อแต่งตั้งปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน นายจรัญ ภักดีธนากุล ซึ่งยื่นใบลาออกจากตำแหน่งกระทรวงยุติธรรม เพื่อไปรับตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยการลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.เป็นต้นไป ทั้งนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้หารือกับผู้บริหารพรรคพลังประชาชน ถึงการคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งหากนับเรียงลำดับอาวุโสของข้าราชการในกระทรวงยุติธรรม นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะมีอาวุโสสูงสุด รองลงมาคือ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีอาวุโสสูงกว่านายธงทอง จันทรางศุ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม 6 วัน อย่างไรก็ตาม นายสมพงษ์ต้องการผลักดันนายกิตติพงษ์ แต่กลับถูกกดดันอย่างหนักจากพรรค ซึ่งมีความต้องการทาบทามนายไกรสร บารมีอวยชัย อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรมที่ลาออกจากราชการไปทำงานกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ให้กลับเข้ารับราชการเพื่อรับตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม
รายงานข่าวเปิดเผยอีกว่า สำหรับนายไกรสรเป็นข้าราชการที่มีความใกล้ชิดกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยนายไกรสร เป็นอดีตผู้พิพากษาที่ย้ายมาเป็นข้าราชการพลเรือนในตำแหน่งอธิบดีกรมบังคับคดี ตั้งแต่สมัยแยกกระทรวงยุติธรรมออกจากศาล อย่างไรก็ตาม นายไกรสรยังแบ่งรับแบ่งสู้ที่จะกลับเข้ารับราชการ เนื่องจากสบายใจกับงานเอกชน อีกทั้งค่าตอบแทนยังสูงกว่าการรับราชการ
รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของแคนดิเดทปลัดกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ ล้วนเคยผ่านงานบริหารกระทรวงยุติธรรม ในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมาแล้วทั้งสิ้น ดังนั้น การพิจารณาผู้เหมาะสมกับตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ คงไม่ได้คำนึงถึงหลักอาวุโสเพียงอย่างเดียว แต่จะพิจารณาถึงความรู้ความสามารถ และการประสานงานที่จะดูแลงานในกระทรวงให้มีความเป็นเอกภาพ ทั้งนี้ นายกิตติจะมีความถนัดในด้านการข่าว ส่วนนายธงทอง มีความถนัดในด้านงานกฎหมาย ขณะที่นายกิตติพงษ์ก็มีความถนัดในด้านกฎหมาย แต่รับผิดชอบกำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีส่วนรับผิดชอบงานคดีสำคัญหลายคดี อาทิ คดีที่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับซาอุดีอาระเบีย อย่างไรก็ตาม การหารือเกี่ยวกับผู้จะมารับตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมจะต้องได้ข้อยุติภายในสัปดาห์นี้ เพื่อนำรายชื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีให้ในวันที่ 6 พ.ค.นี้
สำหรับบรรยากาศภายในกระทรวงยุติธรรม ข้าราชการได้แบ่งออกเป็น 2 ขั้ว โดยจับกลุ่มสนับสนุนนายกิตติพงษ์ กับนายธงทอง และกีดกันไม่ให้รับคนนอกเข้ามาเป็นปลัดกระทรวง เพื่อให้มีการขยับตำแหน่งระดับ 10 ขึ้นเป็นระดับ 11 ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลื่นไหลของอีกหลายตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายที่กำลังจะมีขึ้นในกระทรวงยุติธรรม
