ผู้จัดการรายวัน – อสมท ผุดหน่วยงานใหม่ “ฝ่ายบริหารคู่สัญญาธุรกิจ” เร่งคุมสัญญาสัมปทานต่างๆที่ทำให้อสมทเสียเปรียบ รวมทั้ง ทรูวิชั่นส์กับช่อง 3 ขณะที่รายชื่อกรรมการชุดใหม่อีก 6 คนจะถูกชงเข้าการประชุมบอร์ดอสมทวันนี้
แหล่งข่าวจาก คณะกรรมการกำกับกลยุทธ์บริษัทคู่สัญญา ของ บมจ.อสมท กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมของคณะกรรมการกำกับกลยุทธ์บริษัทคู่สัญญา ซึ่งมี นายวิทยาธร ท่อแก้ว เป็นประธานคณะกรรมการฯ และมีกรรมการเข้าร่วมประชุมด้วยรวมจำนวน 5 ท่าน ได้ประชุมในประเด็นที่เกี่ยวกับการบริหารสัญญาสัมปทานของคู่สัญญา โดยเฉพาะ 2 บริษัทใหญ่คือ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการแต่งตั้งหน่วยงานใหม่ที่จะเข้ามาดูแลเกี่ยวกับเรื่องสัญญาสัมปทานที่อสมททำไว้กับบริษัทอื่นโดยตรง ชื่อว่า ฝ่ายบริหารคู่สัญญาธุรกิจ หลังจากที่หน่วยงานใหม่นี้ได้ ผ่านการเห็นชอบจากทางบอร์ดอสมทเรียบร้อยแล้ว โดยมีหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบทั้งเรื่องการเงิน เรื่องทีมงาน เรื่อง สัญญา เรื่องบริหาร ธุรการทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องการสร้าง การส่งมอบ อุปกรณ์ให้เป็นไปตาม สัญญาการลงทุนที่อยู่ในบีทีโอ กับบริษัทที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานธุรกิจเท่านั้น ซึ่งฝ่ายใหม่นี้ใช้ทีมงานภายในของอสมทเอง ซึ่งจะมีผู้อำนวยกากรฝ่ายและทีมงานอีกประมาณ 6-7 คนในช่วงแรกนี้
โดยคู่สัญญาธุรกิจหลักของอสมทเวลานี้มี 2 บริษัทคือ ทรูวิชั่นส์ กับ บีอีซีเวิลด์ ซึ่งรวมแล้ว จ่ายค่าสัมปทานให้กับ อสมท ประมาณ 1,000 กว่าล้านบาทต่อปี ทั้งๆที่ในความจริงแล้วควรจะต้องมากกว่านี้ เนื่องจากทั้งสองบริษัทมีการขยายธุรกิจและการขยายช่องทางรายได้เพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีต ทำให้อสมทเสียเปรียบ ส่วนสัญญาอย่างอื่นที่อสมททำกับบริษัทเอกชนนั้นที่ไม่ได้เป็นรูปแบบสัญญาสัมปทานธุรกิจก็จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายกฎหมายที่ดูแลตามปรกติ
ส่วนคณะกรรมการสรรหากรรมการอสมท ก็มีการประชุมเมื่อวานนี้ช่นกัน โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณารายชื่อของบุคคลที่จะเป็นกรรมการอสมท ที่มีการนำเสนอเข้ามาทั้งใหม่และเก่า โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมแล้ว 5 คน ที่ว่างลง และอีก 1 รายชื่อที่จะมาแทนกรรมการคนเดิมที่ลาออกไปก่อนหน้านี้
ในวันนี้ทางคณะกรรมการสรรหาฯจะนำรายชื่อทั้งหมด ให้ที่ประชุมบอร์ดอสมทวันนี้พิจารณา โดยในส่วนของ 1 ตำแหน่งที่จะมาแทนที่กรรมการที่ลาออกไปก่อนวาระนั้น หากที่ประชุมบอร์ดอสมทเห็นชอบก็สามารถอนุมัติแต่งตั้งได้เลย ส่วนล็อตใหญ่อีก 5 ตำแหน่งนั้น จะเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดอสมทเพื่อให้พิจารณาก่อนที่จะนำเสนอเข้าสู่การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในครั้งต่อไป ซึ่งบอร์ดอสมทจะกำหนดว่าประชุมเมื่อใดในวันนี้
แหล่งข่าวจาก คณะกรรมการกำกับกลยุทธ์บริษัทคู่สัญญา ของ บมจ.อสมท กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมของคณะกรรมการกำกับกลยุทธ์บริษัทคู่สัญญา ซึ่งมี นายวิทยาธร ท่อแก้ว เป็นประธานคณะกรรมการฯ และมีกรรมการเข้าร่วมประชุมด้วยรวมจำนวน 5 ท่าน ได้ประชุมในประเด็นที่เกี่ยวกับการบริหารสัญญาสัมปทานของคู่สัญญา โดยเฉพาะ 2 บริษัทใหญ่คือ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการแต่งตั้งหน่วยงานใหม่ที่จะเข้ามาดูแลเกี่ยวกับเรื่องสัญญาสัมปทานที่อสมททำไว้กับบริษัทอื่นโดยตรง ชื่อว่า ฝ่ายบริหารคู่สัญญาธุรกิจ หลังจากที่หน่วยงานใหม่นี้ได้ ผ่านการเห็นชอบจากทางบอร์ดอสมทเรียบร้อยแล้ว โดยมีหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบทั้งเรื่องการเงิน เรื่องทีมงาน เรื่อง สัญญา เรื่องบริหาร ธุรการทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องการสร้าง การส่งมอบ อุปกรณ์ให้เป็นไปตาม สัญญาการลงทุนที่อยู่ในบีทีโอ กับบริษัทที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานธุรกิจเท่านั้น ซึ่งฝ่ายใหม่นี้ใช้ทีมงานภายในของอสมทเอง ซึ่งจะมีผู้อำนวยกากรฝ่ายและทีมงานอีกประมาณ 6-7 คนในช่วงแรกนี้
โดยคู่สัญญาธุรกิจหลักของอสมทเวลานี้มี 2 บริษัทคือ ทรูวิชั่นส์ กับ บีอีซีเวิลด์ ซึ่งรวมแล้ว จ่ายค่าสัมปทานให้กับ อสมท ประมาณ 1,000 กว่าล้านบาทต่อปี ทั้งๆที่ในความจริงแล้วควรจะต้องมากกว่านี้ เนื่องจากทั้งสองบริษัทมีการขยายธุรกิจและการขยายช่องทางรายได้เพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีต ทำให้อสมทเสียเปรียบ ส่วนสัญญาอย่างอื่นที่อสมททำกับบริษัทเอกชนนั้นที่ไม่ได้เป็นรูปแบบสัญญาสัมปทานธุรกิจก็จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายกฎหมายที่ดูแลตามปรกติ
ส่วนคณะกรรมการสรรหากรรมการอสมท ก็มีการประชุมเมื่อวานนี้ช่นกัน โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณารายชื่อของบุคคลที่จะเป็นกรรมการอสมท ที่มีการนำเสนอเข้ามาทั้งใหม่และเก่า โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมแล้ว 5 คน ที่ว่างลง และอีก 1 รายชื่อที่จะมาแทนกรรมการคนเดิมที่ลาออกไปก่อนหน้านี้
ในวันนี้ทางคณะกรรมการสรรหาฯจะนำรายชื่อทั้งหมด ให้ที่ประชุมบอร์ดอสมทวันนี้พิจารณา โดยในส่วนของ 1 ตำแหน่งที่จะมาแทนที่กรรมการที่ลาออกไปก่อนวาระนั้น หากที่ประชุมบอร์ดอสมทเห็นชอบก็สามารถอนุมัติแต่งตั้งได้เลย ส่วนล็อตใหญ่อีก 5 ตำแหน่งนั้น จะเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดอสมทเพื่อให้พิจารณาก่อนที่จะนำเสนอเข้าสู่การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในครั้งต่อไป ซึ่งบอร์ดอสมทจะกำหนดว่าประชุมเมื่อใดในวันนี้