xs
xsm
sm
md
lg

ไอ้หัวเถิก

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

“...ผมบอกว่าถ้าอย่างนั้นตกลงกันเสียว่าแก้รัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องของสภา เป็นเรื่องของนิติบัญญัติ เราอยู่ฝ่ายบริหารเราก็จะบริหารบ้านเมืองต่อไป ก็เห็นพ้องต้องกันก็ตกลง แล้วให้สมาชิกเขาไปตกลงกันเอง ถ้าเขาพร้อมใจกันแก้เขาก็แก้ ถ้าเขาไม่พร้อมใจกันก็แก้ไม่ได้ ก็เท่านั้นล่ะครับ แยกกันเสร็จคืนวันนั้นว่าอย่างไรครับ ปล่อยข่าวแล้วครับ แม่ทัพนายกองเข้าไปอยู่บ้านสี่เสาฯ ตีหนึ่ง ยังไม่ออกมา ทำข่าวจะเป็นจะตาย คือปลุกระดมกันไว้หมด ผมก็ว่านี่มันอะไรกันนักหนา คนนี้ก็ได้ฟังข่าว คนนี้ฟังข่าว รุ่งขึ้นผมก็กราบบังคมทูลขอเข้าเฝ้าฯ รายงานทุก 3 เดือน ผมก็ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าฯ ออกข่าวไปตั้งแต่ตอนบ่ายจะโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าฯ ให้นายสมัครลาออก จะจัดการเรื่องจักรภพ

เรื่องนี้ทั้งหลายทั้งปวง ผมเรียนไว้ตรงนี้ ต้องใช้โอกาสนี้รายงานไว้ครับ มีคนปลุกปั่นเรื่องนี้ครับ ถามว่าใคร บอกได้ไหม บอกได้ครับ “ไอ้หัวเถิก” ที่ผมบอกไว้นั่นล่ะครับ ไอ้คนนี้ล่ะครับ เอาข่าวออกแล้วมาปลุกปั่น เรียกคนโน้นไปพบคนนี้ไปพบ ตำรวจยังโดนเรียกไปพบเลยครับ ตำรวจผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งให้พบ ให้คนไปพบคนนี้ไปพบ “ไอ้หัวเถิก” เป็นคนจัดการ...”

สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
รายการสนทนาประสาสมัคร /11 พ.ค.2551


…………………

สารภาพว่า เดิมทีจะเขียนถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญภาคพิสดารสักครั้ง แต่เพราะมีปัญหาสุขภาพ อันเนื่องจากดินฟ้าอากาศแปรปรวนเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) เลยต้องขอบ่นเรื่อยเปื่อย..ประเภท..บ่นไปมึนไป...ในเรื่องทั่วๆ ไปก่อน...

ที่ผมอยากบ่นอยากพูดมากที่สุดก็คือเรื่อง “ไอ้หัวเถิก” ที่คนระดับนายกรัฐมนตรีนำไปด่าหน้าจอ (อีกแล้วครับท่าน) นั่นแล..
ดังยกตัวอย่างมาข้างต้น..การพูดถึง “ไอ้หัวเถิก” รอบสอง ที่หนักหน่วงรุนแรงกว่าเดิมของ “ลุงหมัก” ผู้หล่อเหลาชนิดหล่อไม่เสร็จหนนี้ น่าจะทำให้ใครต่อใครที่อยู่ในข่ายมีผมน้อยไปจนถึงหัวล้านหัวเริ่มล้านสะดุ้งไปตามๆ กัน..

ก็ขนาดตัวผมที่ผมเผ้าเริ่มบางไปบ้างแต่ยังไม่เถิกและไม่ล้าน ทันทีที่ได้ฟังเสียงท่านผู้นำ ยังเผลอเอามือลูบหัวตัวเองเลย..แล้วคนอื่นๆ ที่เข้าข่ายกว่านี้จะเหลือเหรอ ..!!??

อย่าง เจ้าสำนักค่ายพระอาทิตย์..สนธิ ลิ้มทองกุล..ที่แม้จะออกไปทางหัวเกรียนหัวโต แต่ก็เริ่มจะเถิกแล้วเหมือนกัน..

สุทธิชัย หยุ่น หรือ “กาแฟดำ” เจ้าของรางวัลศรีบูรพาคนล่าสุด ที่เถิกจนล้านแล้วจ้า....ไปตั้งนานแล้ว

“ท่านขุนน้อย” สื่อมวลชนอาวุโส คอลัมนิสต์ชื่อดังแห่งนสพ.ไทยโพสต์..

วิโรจน์ นวลแข อดีตประธานแบงก์กรุงไทย ที่ถูกระบอบทักษิณจัดการไปแล้ว..

ชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค ปชป.ที่แม้ผมจะดกดำแต่สังเกตให้ดีว่าต้องหวีผมทรงกระบังลมเป็นตัวช่วย

สมศักดิ์ โกสัยสุข – พิภพ ธงไชย สองแกนนำพันธมิตรฯ ที่เถิกแล้วเถิกอีก..

หรือแม้แต่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่ติดสอยห้อยตาม “ลุงหมัก”..เจ้าของทรงผมเถิกสมาร์ตก็เถอะ..

และไม่เว้นแม้กระทั่ง “เถิกเสน่ห์” อย่าง สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนซือทีม “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่คุณทักษิณ ชินวัตร กำลังจะโละทิ้ง..อาจจะตกใจถึงขนาดทำเอาทีมเรือใบพ่ายทีมมิดเดิร์นสโบรวส์ 1 ต่อ 8 “เอาคืนทักษิณ” เรียบร้อยไปแล้วเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา...

...ฯลฯ...

ครับ..เดือดร้อนกันไปทั่ว เพราะคนที่ “เส้นผมบริเวณหน้าผากลดน้อยลง ทำให้แนวเส้นผมสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ” ที่เรียกกันว่าคนหัวเถิกมีมากมายเต็มแผ่นดิน...ยิ่งถ้าได้ฟังรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ทุกวันอาทิตย์ รับประกันได้ว่า..หัวเถิกเอาได้ง่ายๆ เพราะภาษาพูดของท่านมันชวนให้ผมร่วงซะไม่มี..

ไหนๆ คุณสมัครก็ประกาศชัดกลางจอโทรทัศน์แล้วว่าจะให้ตำรวจสอบสวนและดำเนินคดีกับ “ไอ้หัวเถิก” ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นบุคคลที่ทำลายสถาบัน

ผมว่าถ้าแน่จริง “ลุงหมัก” ของกระผมต้องเปิดเผยชื่อออกมาเลยว่า... “ไอ้หัวเถิก” ที่หมายถึงนั้นชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร...

จะได้รู้กันไปเลยว่าเป็นเรื่องจริง หรือที่แท้ก็เป็นเรื่องที่ “ลุงหมัก” ฟังมาไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียด...จะได้รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเรื่องที่คนของระบอบทักษิณ “ชงข้อมูล” ให้พูด เพราะพวกเขารู้ดีว่าฝีปากของท่านนายกฯ นั้นสามารถขยายความจากหนึ่งให้เป็นสอง จากห้าให้เป็นสิบได้สบายๆ...

.............................

ด้วยน้ำใสใจจริงจากคนหัวไม่เถิกอย่างผมที่จะกราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี มีเพียงว่า...ท่านจะดำเนินคดีฟ้องร้องใครก็ว่ากันไป ดีแล้ว ชอบแล้ว ถ้ามีหลักฐานมีข้อเท็จจริง ...

แต่ประการสำคัญ ท่านต้องไม่ลืมว่า กำลังนี้เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสถาบันสูงสุดประเด็นจริงๆ มันอยู่ที่ว่า ขณะนี้มันมีขบวนการยุทธการทายท้าวิพากษ์วิจารณ์สถาบันทั้งทางตรงทางอ้อม ทั้งบนดินใต้ดินแพร่ระบาดมากกว่ายุคใดๆ คนที่เขารักเขาเป็นห่วงสถาบันจึงออกมาเรียกร้องออกมาวิจารณ์รัฐบาลว่า..มิได้นำพา..มิได้ดำเนินการใดๆ ทั้งๆ ที่ตัวนายกรัฐมนตรีก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีเลือดสีน้ำเงิน เป็นผู้มีมากไปด้วยความจงรักภักดี...

ไม่เคยมีใครกล่าวหาว่านายกฯ สมัครไม่จงรักภักดี อย่างที่ ฯพณฯ แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ แล้วพาลไปกล่าวหาคนอื่น...

ในความเป็นจริง เรื่องราวที่เกี่ยวกับสถาบันท่านต้องพูดให้น้อย ทำเพื่อสถาบันให้มาก

เรื่องราวของ “ไอ้หัวเถิก” ท่านจะหมายถึง คุณปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้มากไปด้วยความจงรักภักดีท่านหนึ่ง อย่างที่ท่าน ส.ว.คำนูณ สิทธิสมาน และพวกผมเคยวิเคราะห์โยงใยให้เห็น หรือจะหมายถึงใครก็ตาม ก็ไม่น่าจะนำมาพูดจากันกลางจอ กลางบ้านกลางเมือง..ด้วยซ้ำไป..

หรือว่าท่านกำลังปลื้มกับคนชื่อ จักรภพ เพ็ญแข ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองทั้งหัวเถิกหัวไม่เถิกจำนวนไม่น้อยเขาเริ่มไม่ปลื้ม...

แม้กระทั่ง “นายใหญ่” ก็อยู่ในอาการเครียดมากกว่าปลื้ม..!!

“เครียด” จนเริ่ม “เถิก” กันไปแล้วแบบเห็นๆ!!

กำลังโหลดความคิดเห็น