จุดตายของคุณจักรภพ เพ็ญแขอยู่ที่สปีชภาษาอังกฤษที่ FCCT เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 ที่ถูกแจ้งความไว้ว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แน่นอน
ปัญหาอยู่ที่ว่า....
เธอจะตายคนเดียว ?
หรือจะพาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและพลพรรคตายตามไปด้วย !!
ผมได้แสดงเนื้อหาบางส่วนที่มาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และได้เสนอผ่านทาง ASTV ไปแล้วว่าถ้าคุณจักรภพ เพ็ญแขเห็นว่าสปีชดังกล่าวไม่ผิด คนแจ้งความท่านแปลผิด และบอกผ่านสื่ออย่าง “ประชาทรรศน์รายสัปดาห์” ของเครือข่ายท่านเองว่าจะเผยแพร่เทปและคำแปลภาษาไทยออกสู่สาธารณะเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก็ขอได้โปรดอย่ารอช้า อย่าเสียเวลาแปล ขอให้นำเทปภาษาอังกฤษออกแพร่ภาพทาง NBT โดยไม่ตัดทอน ประกาศวันเวลาให้คนไทยทั้งแผ่นดินรู้ล่วงหน้า เชื่อว่ามีคนไทยที่รักชาติและจงรักภักดีต่อสถาบันที่รู้ภาษาอังกฤษดีไม่แพ้ผู้พูดจะได้ร่วมกันพิจารณา เวลาผ่านไปเกือบ 7 วัน ไม่ปรากฏว่ารัฐมนตรีปากกล้าท่านนี้ตอบสนองข้อเสนอของผมอย่างไร
ความเห็นส่วนตัวของผมยังไม่เท่าไร ท่านผู้อ่านอาจจะเห็นว่าเป็นการมองอย่างมีอคติ เพราะมีความคิดเห็นต่างกัน ความเห็นส่วนตัวของสื่อมวลชนทั่วไปก็งั้น ๆ เพราะส่วนใหญ่สงวนความเห็น และที่แสดงออกมาก็กั๊ก ๆ ไม่ฟันธง
แต่สำหรับคอลัมนิสต์อาวุโสหนึ่งในกลุ่มที่ถูกเรียกขานมานานนมว่า “อรหันต์” ท่านนี้สิครับ...มิอาจไม่รับฟัง
“พญาไม้”
ท่านมีคอลัมน์ในนสพ.บางกอกทูเดย์ และข่าวสด แม้จะใช้นามปากกา แต่ก็เป็นรู้กันดีว่าผู้เขียนเป็นใคร และ ณ นาทีนี้มีความคิดเห็นทางการเมืองอย่างไร ยืนอยู่ข้างใคร เพราะตัวท่านที่ระยะหลังเพิ่มบทบาทมาเป็นคอมเมนเตเตอร์หน้าจอทีวีด้วย ได้แสดงออกทางช่อง NBT อย่างเปิดเผย
ว่ากันว่า ในระยะหลังท่านเป็นคนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ละคุณหญิง รับฟังข้อเสนอแนะมากที่สุดคนหนึ่ง
บางตอนของข้อเขียนที่ผมจะคัดมาให้อ่านกันนี้ อยู่ในคอลัมน์ “ข่าวข้นคนเข้ม” ของนสพ.ข่าวสด ฉบับประจำวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2551 เป็นข้อเขียนตอนที่กล่าวถึงคุณจักรภพ เพ็ญแข และสปีชภาษา อังกฤษเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 ของเธอโดยตรง
โปรดอ่าน....
“พูดกับนักข่าวฝรั่งของจักรภพ เพ็ญแข วันนี้ ทั้งกองทัพ ทั้งมหาวิทยาลัย เอาไปแปลกันละเอียดยิบ แล้วแจกจ่ายกันไปทั่ว เนื้อหาในนั้นกำหนดวันวอเวลานอกันได้ จะเมื่อไหร่เท่านั้น ... จะให้เบาวันนี้ ก็ต้องพึ่งพาสปิริตของรัฐมนตรีจักรภพ เพ็ญแข จะดูแลพรรคและพวกอย่างไร หรือจะตายตามกันเหมือนวันพายุนาร์กีสพัดผ่าน....”
ส่วนที่ขีดเส้นใต้ตรง “กำหนดวันวอเวลานอกันได้” นั้น – ผมขีดเอง
และขออาจหาญแปลเองว่า คอลัมนิสต์อาวุโสท่านนี้บอกว่าเนื้อหาในสปีชนั้นมีความรุนแรงและความชัดเจนแห่งข้อกล่าวหาที่จะทำให้กองทัพตัดสินใจรัฐประหารได้ไม่มีปัญหา อยู่ที่ว่าเมื่อไรเท่านั้น ท่านได้เรียกร้องให้คุณจักรภพ เพ็ญแขมีสปิริตที่จะเสียสละตนเอง เพื่อไม้ให้ “พรรค” และ “พวก” ฉิบหายวายวอดตามไปด้วย
วงในระดับ “พญาไม้” คิดเห็นอย่างนี้ถึงขนาดแสดงออกผ่านข้อเขียน....
มีหรือที่คำแนะนำจะไม่ไปถึงหู “นายใหญ่” อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เพิ่งเร่งลี้ภัย “วันวอเวลานอ” ออกจากเมืองไทยกะทันหัน !
มีหรือที่นายกฯสมัคร สุนทรเวชจะไม่รู้ – ถึงได้ปูดข่าวปรับใหญ่ครม. !!
แม้แต่ตัวคุณจักรภพ เพ็ญแขเองก็ดูปลง ๆ บอกว่ารับได้ถ้าตนจะต้องพ้นไปจากครม.ในการปรับครั้งนี้
นาทีนี้ผมว่าท่านรัฐมนตรีกำลังตกอยู่ในฐานะใกล้เคียงกับคุณเนวิน ชิดชอบที่ “พรรค” และ “พวก” เริ่มเห็นว่าแสดงบทบาทรุนแรงเลยเถิดไป ความได้เปรียบจากชัยชนะเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ถูกแปรเป็นความเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด คมช.เคย “ชนะชั่วคราว” แต่วันนี้ ชคม.กำลังอยู่ในภาวะ “ชนะชั่วครู่” ในภาพรวมหากสังเกตสักหน่อยเราจึงเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรกลับมาให้บทบาทกับคุณสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, คุณพงศ์เทพ เทพกาญจนา และ ฯลฯ ในนามมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ที่ตามมาด้วยเว็บไซต์ไฮทักษิณปิดตัวเอง
แต่จะไปดูเบาท่านรัฐมนตรีหน้าเนียนที่เคยประกาศ “อยากเห็นสงครามประชาชน...” และพลพรรค นปก. หาได้ไม่ !
เมื่อเวลาเหลือน้อยพวกเขาจึงต้อง “เร่ง” และ “ขยาย” ขอบเขตของเชื้อเพลิง !!
ในสถานการณ์สัประยุทธที่สองฝ่ายเผชิญหน้า ตรวจแถว เตรียมพร้อม สัปดาห์ก่อนพวกเขาเปิดเกม “ยิงก่อน” โดยใช้ประชาชนยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าหนทางยื่นโดย ส.ส.นั้นไม่ง่าย วันนี้...จะตามมาด้วยการนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเร่งเลือก “คุณพ่อ” ชัย ชิดชอบเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อทำหน้าที่ประธานรัฐสภาคุมเกมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชื่อขนมกินได้เลยว่าจากนี้ม็อบสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเบ่งบานทั่วประเทศ ม็อบล้อมรัฐสภาวันพิจารณาวาระ 1 อาจไม่ใช่ม็อบต่อต้านตามที่เคยคาด หากจะเป็นม็อบหนุนที่จะมากันมืดฟ้ามัวดิน
เพราะไปผนวกเอาประเด็นแก้ไข “ให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” อันละเอียด อ่อนยิ่ง มาเป็น “แนวร่วม” ด้วย !
เป็นการกำหนดยุทธศาสตร์โดยคนที่ไม่คำนึงถึงความสูญเสียชัด ๆ
เป็นการกำหนดยุทธศาสตร์โดยคนที่ “อยากเห็นสงครามประชาชน...ที่ไม่มีการจัดตั้ง” ชัด ๆ
คนพวกนี้คิดไม่สลับซับซ้อน เขาคิดเพียงว่า...
มี “สีน้ำเงิน” อยู่หน้าสมรภูมิสร้างความลำบากให้พวกเราใช่ไหม ?
อย่ากระนั้นเลย – เราจะช่วยเท “สีขาว” ลงไปผสมให้มันเลอะเทอะเละเทะไปด้วยกันทั้งหมด !
บอกแต่ทีแรกว่ารัฐธรรมนูญ 2540 ดีเลิศ แต่ทำเป็นลืมไปได้ว่ารัฐธรรมนูญ 2540 (และรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ประเทศนี้เคยมีมา) ไม่มีบทบัญญัติกำหนดให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
บอกจะไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 ก็ทำเป็นลืมไปได้ว่าบทบัญญัติเรื่องศาสนานี้อยู่ในหมวด 1
พลพรรค นปก. นำมวลชนมาหน้ารัฐสภา ส.ส.และ ส.ว.จำนวนหนึ่งออกไปกระดี๊กระด๊ารับ ท่ามกลางการประพรมน้ำพระพุทธมนตร์ของพระสงฆ์...เสมือนกำลังจะออกศึก อีก 2 วันต่อมา NBT ในช่วงเวลา “กรองสถานการณ์ วาไรตี้” (อีกแล้ว) เชิญเครือข่ายสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีบทบัญญัติ “พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” มาออกอากาศ
นาทีนี้...เชื่อว่าในขบวน “นายใหญ่” มีความคิดจะ “วิสามัญฯ – ตัดตอน” คนบางคนที่เลยเถิดเกินไป
เพื่อที่จะไม่ต้อง “ตายตาม” กันไปทั้งหมดทั้งพรรคทั้งพวก
แต่...ผมเชื่อว่าไม่ง่าย !
กราบรบกวนคุณพี่ “พญาไม้” ช่วยถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรให้ด้วยว่า – รู้จัก “กระบี่ที่สิบห้า ของอี้จับซา” ไหม !
ปัญหาอยู่ที่ว่า....
เธอจะตายคนเดียว ?
หรือจะพาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและพลพรรคตายตามไปด้วย !!
ผมได้แสดงเนื้อหาบางส่วนที่มาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และได้เสนอผ่านทาง ASTV ไปแล้วว่าถ้าคุณจักรภพ เพ็ญแขเห็นว่าสปีชดังกล่าวไม่ผิด คนแจ้งความท่านแปลผิด และบอกผ่านสื่ออย่าง “ประชาทรรศน์รายสัปดาห์” ของเครือข่ายท่านเองว่าจะเผยแพร่เทปและคำแปลภาษาไทยออกสู่สาธารณะเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก็ขอได้โปรดอย่ารอช้า อย่าเสียเวลาแปล ขอให้นำเทปภาษาอังกฤษออกแพร่ภาพทาง NBT โดยไม่ตัดทอน ประกาศวันเวลาให้คนไทยทั้งแผ่นดินรู้ล่วงหน้า เชื่อว่ามีคนไทยที่รักชาติและจงรักภักดีต่อสถาบันที่รู้ภาษาอังกฤษดีไม่แพ้ผู้พูดจะได้ร่วมกันพิจารณา เวลาผ่านไปเกือบ 7 วัน ไม่ปรากฏว่ารัฐมนตรีปากกล้าท่านนี้ตอบสนองข้อเสนอของผมอย่างไร
ความเห็นส่วนตัวของผมยังไม่เท่าไร ท่านผู้อ่านอาจจะเห็นว่าเป็นการมองอย่างมีอคติ เพราะมีความคิดเห็นต่างกัน ความเห็นส่วนตัวของสื่อมวลชนทั่วไปก็งั้น ๆ เพราะส่วนใหญ่สงวนความเห็น และที่แสดงออกมาก็กั๊ก ๆ ไม่ฟันธง
แต่สำหรับคอลัมนิสต์อาวุโสหนึ่งในกลุ่มที่ถูกเรียกขานมานานนมว่า “อรหันต์” ท่านนี้สิครับ...มิอาจไม่รับฟัง
“พญาไม้”
ท่านมีคอลัมน์ในนสพ.บางกอกทูเดย์ และข่าวสด แม้จะใช้นามปากกา แต่ก็เป็นรู้กันดีว่าผู้เขียนเป็นใคร และ ณ นาทีนี้มีความคิดเห็นทางการเมืองอย่างไร ยืนอยู่ข้างใคร เพราะตัวท่านที่ระยะหลังเพิ่มบทบาทมาเป็นคอมเมนเตเตอร์หน้าจอทีวีด้วย ได้แสดงออกทางช่อง NBT อย่างเปิดเผย
ว่ากันว่า ในระยะหลังท่านเป็นคนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ละคุณหญิง รับฟังข้อเสนอแนะมากที่สุดคนหนึ่ง
บางตอนของข้อเขียนที่ผมจะคัดมาให้อ่านกันนี้ อยู่ในคอลัมน์ “ข่าวข้นคนเข้ม” ของนสพ.ข่าวสด ฉบับประจำวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2551 เป็นข้อเขียนตอนที่กล่าวถึงคุณจักรภพ เพ็ญแข และสปีชภาษา อังกฤษเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 ของเธอโดยตรง
โปรดอ่าน....
“พูดกับนักข่าวฝรั่งของจักรภพ เพ็ญแข วันนี้ ทั้งกองทัพ ทั้งมหาวิทยาลัย เอาไปแปลกันละเอียดยิบ แล้วแจกจ่ายกันไปทั่ว เนื้อหาในนั้นกำหนดวันวอเวลานอกันได้ จะเมื่อไหร่เท่านั้น ... จะให้เบาวันนี้ ก็ต้องพึ่งพาสปิริตของรัฐมนตรีจักรภพ เพ็ญแข จะดูแลพรรคและพวกอย่างไร หรือจะตายตามกันเหมือนวันพายุนาร์กีสพัดผ่าน....”
ส่วนที่ขีดเส้นใต้ตรง “กำหนดวันวอเวลานอกันได้” นั้น – ผมขีดเอง
และขออาจหาญแปลเองว่า คอลัมนิสต์อาวุโสท่านนี้บอกว่าเนื้อหาในสปีชนั้นมีความรุนแรงและความชัดเจนแห่งข้อกล่าวหาที่จะทำให้กองทัพตัดสินใจรัฐประหารได้ไม่มีปัญหา อยู่ที่ว่าเมื่อไรเท่านั้น ท่านได้เรียกร้องให้คุณจักรภพ เพ็ญแขมีสปิริตที่จะเสียสละตนเอง เพื่อไม้ให้ “พรรค” และ “พวก” ฉิบหายวายวอดตามไปด้วย
วงในระดับ “พญาไม้” คิดเห็นอย่างนี้ถึงขนาดแสดงออกผ่านข้อเขียน....
มีหรือที่คำแนะนำจะไม่ไปถึงหู “นายใหญ่” อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เพิ่งเร่งลี้ภัย “วันวอเวลานอ” ออกจากเมืองไทยกะทันหัน !
มีหรือที่นายกฯสมัคร สุนทรเวชจะไม่รู้ – ถึงได้ปูดข่าวปรับใหญ่ครม. !!
แม้แต่ตัวคุณจักรภพ เพ็ญแขเองก็ดูปลง ๆ บอกว่ารับได้ถ้าตนจะต้องพ้นไปจากครม.ในการปรับครั้งนี้
นาทีนี้ผมว่าท่านรัฐมนตรีกำลังตกอยู่ในฐานะใกล้เคียงกับคุณเนวิน ชิดชอบที่ “พรรค” และ “พวก” เริ่มเห็นว่าแสดงบทบาทรุนแรงเลยเถิดไป ความได้เปรียบจากชัยชนะเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ถูกแปรเป็นความเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด คมช.เคย “ชนะชั่วคราว” แต่วันนี้ ชคม.กำลังอยู่ในภาวะ “ชนะชั่วครู่” ในภาพรวมหากสังเกตสักหน่อยเราจึงเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรกลับมาให้บทบาทกับคุณสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, คุณพงศ์เทพ เทพกาญจนา และ ฯลฯ ในนามมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ที่ตามมาด้วยเว็บไซต์ไฮทักษิณปิดตัวเอง
แต่จะไปดูเบาท่านรัฐมนตรีหน้าเนียนที่เคยประกาศ “อยากเห็นสงครามประชาชน...” และพลพรรค นปก. หาได้ไม่ !
เมื่อเวลาเหลือน้อยพวกเขาจึงต้อง “เร่ง” และ “ขยาย” ขอบเขตของเชื้อเพลิง !!
ในสถานการณ์สัประยุทธที่สองฝ่ายเผชิญหน้า ตรวจแถว เตรียมพร้อม สัปดาห์ก่อนพวกเขาเปิดเกม “ยิงก่อน” โดยใช้ประชาชนยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าหนทางยื่นโดย ส.ส.นั้นไม่ง่าย วันนี้...จะตามมาด้วยการนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเร่งเลือก “คุณพ่อ” ชัย ชิดชอบเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อทำหน้าที่ประธานรัฐสภาคุมเกมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชื่อขนมกินได้เลยว่าจากนี้ม็อบสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเบ่งบานทั่วประเทศ ม็อบล้อมรัฐสภาวันพิจารณาวาระ 1 อาจไม่ใช่ม็อบต่อต้านตามที่เคยคาด หากจะเป็นม็อบหนุนที่จะมากันมืดฟ้ามัวดิน
เพราะไปผนวกเอาประเด็นแก้ไข “ให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” อันละเอียด อ่อนยิ่ง มาเป็น “แนวร่วม” ด้วย !
เป็นการกำหนดยุทธศาสตร์โดยคนที่ไม่คำนึงถึงความสูญเสียชัด ๆ
เป็นการกำหนดยุทธศาสตร์โดยคนที่ “อยากเห็นสงครามประชาชน...ที่ไม่มีการจัดตั้ง” ชัด ๆ
คนพวกนี้คิดไม่สลับซับซ้อน เขาคิดเพียงว่า...
มี “สีน้ำเงิน” อยู่หน้าสมรภูมิสร้างความลำบากให้พวกเราใช่ไหม ?
อย่ากระนั้นเลย – เราจะช่วยเท “สีขาว” ลงไปผสมให้มันเลอะเทอะเละเทะไปด้วยกันทั้งหมด !
บอกแต่ทีแรกว่ารัฐธรรมนูญ 2540 ดีเลิศ แต่ทำเป็นลืมไปได้ว่ารัฐธรรมนูญ 2540 (และรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ประเทศนี้เคยมีมา) ไม่มีบทบัญญัติกำหนดให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
บอกจะไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 ก็ทำเป็นลืมไปได้ว่าบทบัญญัติเรื่องศาสนานี้อยู่ในหมวด 1
พลพรรค นปก. นำมวลชนมาหน้ารัฐสภา ส.ส.และ ส.ว.จำนวนหนึ่งออกไปกระดี๊กระด๊ารับ ท่ามกลางการประพรมน้ำพระพุทธมนตร์ของพระสงฆ์...เสมือนกำลังจะออกศึก อีก 2 วันต่อมา NBT ในช่วงเวลา “กรองสถานการณ์ วาไรตี้” (อีกแล้ว) เชิญเครือข่ายสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีบทบัญญัติ “พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” มาออกอากาศ
นาทีนี้...เชื่อว่าในขบวน “นายใหญ่” มีความคิดจะ “วิสามัญฯ – ตัดตอน” คนบางคนที่เลยเถิดเกินไป
เพื่อที่จะไม่ต้อง “ตายตาม” กันไปทั้งหมดทั้งพรรคทั้งพวก
แต่...ผมเชื่อว่าไม่ง่าย !
กราบรบกวนคุณพี่ “พญาไม้” ช่วยถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรให้ด้วยว่า – รู้จัก “กระบี่ที่สิบห้า ของอี้จับซา” ไหม !