NBT จัดคอลัมนิสต์ “พญาไม้” โจมตีพันธมิตรฯ ผ่าน “ข่าวหน้าสี่” ปรามาส “พันธมิตรฯ” ไม่มีทุนแล้ว! รัฐบาลไม่ต้องไปสนใจ ถึงจะต่อต้านยังไงก็เกิดเหตุรุนแรงไม่ได้ ฟันธง! ยังไงก็ไม่มีปฏิวัติ “จัตวา กลิ่นสุนทร” เห็นต่าง เชื่อปฏิวัติอาจเกิด ถ้ารัฐยังไม่เลิกยุ่งกับ รธน.
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการข่าวหน้าสี่
วานนี้ (29 เม.ย.) รายการข่าวหน้าสี่ ทางสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ดำเนินรายการโดย นายเฉลิมชัย ยอดมาลัย เชิญ 2 คอลัมนิสต์ นายจัตวา กลิ่นสุนทร และ นายเผด็จ ภูริปฏิภาณ หรือ “พญาไม้” จากหนังสือพิมพ์ข่าวสด โดยในรายการได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มของการรัฐประหาร ว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด โดย นายเผด็จ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าจะเกิดการรัฐประหารขึ้นในตอนนี้ เนื่องจากดูท่าทีของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แล้ว ไม่มีทีท่าว่าจะทำรัฐประหาร และตนก็เชื่อว่า หาก ผบ.ทบ.ไม่ทำปฏิวัติสักคนก็ยากที่จะเกิดการรัฐประหาร หรือหากเกิดก็คงไม่สำเร็จ
ส่วนเหตุการณ์ต่อต้านการแก้ รธน.ครั้งนี้ ตนมองว่า ไม่ร้ายแรงมากมาย ถึงขั้นที่จะเป็นมูลเหตุให้เกิดการรัฐประหารได้ และเรื่องนี้ก็เป็นการเล่นเกมของคน 2 ฝ่าย คือ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บวกกับคนหลายๆ พวก กับอีกฝ่าย คือ พรรคพลังประชาชน ที่ได้เสียงส่วนใหญ่จากคนในประเทศ ทำให้อีกฝ่ายกลัวว่า ตนจะไม่มีโอกาสบริหารประเทศอีกแล้ว จึงเกิดการต่อสู้กัน และตนก็เห็นว่ารัฐบาลไม่ควรจะไปรับลูกตอบโต้กับฝ่ายพันธมิตรฯ เพราะการเมืองควรสู้กันในรัฐสภา ไม่ใช่สู้กันข้างถนน
“ซึ่งจริงๆ แล้วรัฐบาลเองก็มีงานทำ ก็น่าจะทำงานบริหารประเทศไป แต่พันธมิตรฯ เขาไม่มีงานทำ ก็ปล่อยเขาเล่นเกมนี้ไป ซึ่งผมคิดว่าคงเล่นได้อีกไม่นาน เพราะ พันธมิตรฯ เองก็เล่นมานานเกินไปแล้ว และก็มีแต่คนหน้าเก่าๆ 5 คน และหากจะเล่นกันให้ถึงขั้นรุนแรง ตอนนี้คงทำไม่ได้เพราะสปอนเซอร์ก็เริ่มถอยแล้ว การเมืองมันไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้สึก มันต้องมีปัจจัยด้วย คราวที่แล้ว คุณสนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่าใช้ไป 400 ล้านในการชุมนุม แต่คราวนี้จะเอามาจากไหนอีก 400 ล้าน เพราะ คุณประชัย ก็เลิกไปแล้ว ดังนั้น ผมว่ารัฐบาลอย่าไปสนใจ” นายเผด็จ กล่าว
ส่วนเรื่องที่ขณะนี้มีหนังสือพิมพ์หลายฉบับเสนอข่าวเรื่องการรัฐประหารบ่อยครั้ง ตนคิดว่า บางครั้งคนที่บอก หรือนำเสนอจะมีอาจทำเพื่อต้องการเตือนก็ได้ เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันระวัง หรือไม่ก็อาจเป็นการโยนหินถามทางของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ได้ เพราะตนเชื่อว่าอย่างไรก็คงไม่เกิดจริง และก็คิดว่าคนที่อยู่ในวงการเมืองต่างก็เชื่อว่าไม่มีการปฏิวัติ
ต่อคำถามที่ว่า ในยุคที่ต่างฝ่ายต่างมีความคิดเห็นไม่ตรงกันนั้น จะพอมีใครบ้างหรือไม่ที่ออกมาพูดแล้วทุกคนตั้งใจฟัง นายเผด็จ กล่าวว่า ไม่มี เพราะคนที่พูดแล้วจะมีคนฟัง ต้องเป็นคนที่มีอายุมากๆ มีประสบการณ์มากๆ ก็กลับกลายเป็นคนที่อยู่ในเรื่อง เช่น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็กลายเป็นคนที่อยู่ในเรื่องราว แทนที่จะให้ท่านเป็นคนที่คอยเบรก ก็กลายเป็นว่าท่านก็อยู่ในเรื่องไปด้วย ซึ่งแล้วท่านก็บอกแล้วว่าท่านไม่เกี่ยว ทั้งที่จริงแล้วเราควรฟังท่านแล้วก็ต้องเชื่อไปก่อน
ด้าน นายจัตวา กล่าวว่า เรื่องของการรัฐประหาร ก็ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ข่าวมันก็มีมาบ้างจริงๆ ซึ่งตนคิดว่าหากตอนนี้เราไม่มีเหตุ เช่น การขอแก้ รธน.ก็จะทำให้อีกฝ่ายไม่มีข้อโต้แย้งอะไรที่จะมาเรียกร้อง อย่างตอนนี้ทางพันธมิตรฯกล่าวหาว่ารัฐบาลรีบแก้ รธน.โดยมีผลประโยชน์ซ่อนเร้นอยู่ ก็เลยมีเป็นเรื่องขึ้นมา และตนคิดว่าสถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงได้ การรัฐประหารอาจจะตัดสินใจกันแค่ระยะหนึ่งระยะเดียวก็ได้หากเหตุการณ์พาไป ดังนั้น ทุกฝ่ายควรโอนอ่อนผ่อนตาม เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาดีกว่า
“ตอนนี้ผมคิดว่ารัฐบาลควรจะแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง เรื่องของเกษตรกรรมดีกว่า อย่าไปสนใจเรื่องที่จะทำให้มันเกิดปัญหาหรือมีเรื่อง รธน.ถ้าแก้ไม่ได้ ก็ปล่อยไปซะมันอาจจะมีทางออกอย่างอื่นก็ได้ อย่าไปเดินตามทางที่เค้าบอกว่าคุณจะแก้เพื่ออะไร เหตุการณ์เกิดปฏิวัติรัฐประหารมันอาจจะละลายหายไปก็ได้” นายจัตวา กล่าว