๐๐ หากมีการจัดอันดับรัฐมนตรีที่ทำงานเข้าตา “นายใหญ่ตัวจริง” มากที่สุด “จักรภพ เพ็ญแข” น่าจะติดอยู่ในอันดับต้นๆ ด้วยสไตล์การทำงานยอมเอาตัวเข้าแลก ยอมสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย เพื่อให้นายใหญ่สมหวัง ด้วยเหตุนี้ แม้ผลงานทางการเมืองจริงๆ จะไม่ค่อยเอาอ่าว ลงเลือกตั้ง 2 ครั้งก็แพ้ทั้ง 2 ครั้ง แต่ก้นมนๆ ของเขา ก็ยังได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีในวัยเพียง 40 ต้นๆ เท่านั้น
๐๐ ภารกิจของ “จักรภพ” ในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ กำกับดูแลงานด้านสื่อ สำเร็จเรียบร้อยไปแล้วหนึ่ง คือการเปลี่ยน “สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย” หรือ “ช่อง11” ไปเป็น “เอ็นบีที” เปิดทางให้อดีตคน “ไอทีวี” ที่ยังจงรักภักดีกับระบอบทักษิณ ได้หวนคืนจอกันอีกครั้ง ท่ามกลางข้อสงสัยในขั้นตอนการเปิดประมูล ว่าจะเข้าข่ายกระทำผิด “กฎหมายฮั้ว” หรือไม่ เพราะมีเพียง 2 บริษัทที่เข้าเสนอราคา แถมยังมีที่อยู่ที่เดียวกัน เบอร์โทรศัพท์เบอร์เดียวกัน ประเด็นนี้ทางซีกฝ่ายค้านตั้งท่ารอเชือดอยู่แล้ว และกำลังส่งเรื่องดังกล่าวให้ดีเอสไอ และ สตง.ทำการตรวจสอบ
๐๐ ตั้งมาได้ไม่กี่วัน “เอ็นบีที” เก็บคะแนนจากนายใหญ่ ไปได้มากโข ทั้งจากรายการประเภท “สนทนาการเมือง” ที่เชิญแต่ผู้คนในเครือข่ายทักษิณ หรือคอลัมนิสต์เขี้ยวลากดินแต่ไร้จุดยืน มาร่วมรายการ ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้าน ก็เชิญไว้พอเป็นพิธี เมื่อถึงเวลาก็บอกเลื่อนเฉย เรื่องนี้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” และ “จุรินทร์ ลักษณิวิศิษฏ์” ซาบซึ้งดี
๐๐ ที่เป็นผลงานโบแดงอีกชิ้น น่าจะเป็นการถ่ายทอดสดการปาฐกถาพิเศษของ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” จากโรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ตามด้วยการถ่ายทอดงานปาหี่สัมมนาวิชาการเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการแก้ไขรัฐธรรม จากโรงแรมรามาการ์เด้นส์ และให้เวลากับข่าวของกลุ่ม นปก.ที่แปลงร่างมาเป็น “คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550” นำโดย “เหวง-สันต์-จรัล” เจ้าเก่า มากเป็นพิเศษ
๐๐ ไหนๆ ได้เสี่ยงคุกกันแล้ว ก็เอาให้ครบวงจรกันเสียเลย ไม่เพียงแค่ปรับช่อง 11 เป็น เอ็นบีที เท่านั้น สถานีวิทยุ 5 แห่ง ของกรมประชาสัมพันธ์ก็ยึดคืนมาจากเอกชน แปลงสภาพเป็นวิทยุเอ็นบีทีด้วยเช่นกัน และนี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังเชิญผู้เกี่ยวข้อง อาทิ รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และเอกชนที่ถูกถอดรายการออกไปดื้อๆ มาให้ข้อมูล หากพบว่าเข้าข่ายการใช้อำนาจไม่ชอบธรรม และแทรกแซงสื่อ “จักรภพ เพ็ญแข” ก็จะเป็นรัฐมนตรีรายต่อไปที่จะถูกเข้าชื่อยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง
๐๐ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรสนิยมส่วนตัวชื่นชอบ “ความเสียว” หรืออย่างไร “รมต.จักรภพ” จะทำจะพูดอะไรก็มีแต่เรื่องเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางทั้งนั้น ภารกิจเดินสายไปพูดกับ “วิทยุชุมชน” ทั่วประเทศขณะนี้ สุ่มเสี่ยงเหลือเกินต่อการทำผิดกฎมายอาญา มาตรา 157 กรณีที่ไปยื่นข้อเสนอให้กับวิทยุชุมชนในต่างจังหวัด (ล่าสุดคือที่ขอนแก่น) ให้เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายสื่อของรัฐบาล โดยการเสนอข่าวของรัฐวันละ 2-3 ชั่วโมง แลกเปลี่ยนกับการไม่ถูกจับ (เพราะทำผิด พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551) ซึ่งฟังดูก็เป็นการข่มขู่ แบล็กเมล์แบบกรายๆ เพื่อบีบให้วิทยุชุมชนเข้ามาเป็นพวก ประเด็นนี้พรรคฝ่ายค้านกำลังตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายการละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนหรือไม่เช่นกัน
๐๐ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะอยู่ที่ขอนแก่น “รมต.จักรภพ” ไม่เพียงแต่จะเรียกประชุมวิทยุชุมชนทั่วภาคอีสานเท่านั้น หลังเสร็จงาน ยังได้เดินสายไปกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์ ตามด้วยวัดหนองแวง พระอารามหลวง เพื่อพบกับพระผู้ใหญ่ และตรวจสอบพื้นที่ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ เอาเป็นว่า “ทั่น รมต.จักรภพ”ทำเพื่อนายทั้งในเวลางานและนอกเวลางานจริงๆ
๐๐ ภารกิจของ “จักรภพ” ในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ กำกับดูแลงานด้านสื่อ สำเร็จเรียบร้อยไปแล้วหนึ่ง คือการเปลี่ยน “สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย” หรือ “ช่อง11” ไปเป็น “เอ็นบีที” เปิดทางให้อดีตคน “ไอทีวี” ที่ยังจงรักภักดีกับระบอบทักษิณ ได้หวนคืนจอกันอีกครั้ง ท่ามกลางข้อสงสัยในขั้นตอนการเปิดประมูล ว่าจะเข้าข่ายกระทำผิด “กฎหมายฮั้ว” หรือไม่ เพราะมีเพียง 2 บริษัทที่เข้าเสนอราคา แถมยังมีที่อยู่ที่เดียวกัน เบอร์โทรศัพท์เบอร์เดียวกัน ประเด็นนี้ทางซีกฝ่ายค้านตั้งท่ารอเชือดอยู่แล้ว และกำลังส่งเรื่องดังกล่าวให้ดีเอสไอ และ สตง.ทำการตรวจสอบ
๐๐ ตั้งมาได้ไม่กี่วัน “เอ็นบีที” เก็บคะแนนจากนายใหญ่ ไปได้มากโข ทั้งจากรายการประเภท “สนทนาการเมือง” ที่เชิญแต่ผู้คนในเครือข่ายทักษิณ หรือคอลัมนิสต์เขี้ยวลากดินแต่ไร้จุดยืน มาร่วมรายการ ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้าน ก็เชิญไว้พอเป็นพิธี เมื่อถึงเวลาก็บอกเลื่อนเฉย เรื่องนี้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” และ “จุรินทร์ ลักษณิวิศิษฏ์” ซาบซึ้งดี
๐๐ ที่เป็นผลงานโบแดงอีกชิ้น น่าจะเป็นการถ่ายทอดสดการปาฐกถาพิเศษของ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” จากโรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ตามด้วยการถ่ายทอดงานปาหี่สัมมนาวิชาการเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการแก้ไขรัฐธรรม จากโรงแรมรามาการ์เด้นส์ และให้เวลากับข่าวของกลุ่ม นปก.ที่แปลงร่างมาเป็น “คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550” นำโดย “เหวง-สันต์-จรัล” เจ้าเก่า มากเป็นพิเศษ
๐๐ ไหนๆ ได้เสี่ยงคุกกันแล้ว ก็เอาให้ครบวงจรกันเสียเลย ไม่เพียงแค่ปรับช่อง 11 เป็น เอ็นบีที เท่านั้น สถานีวิทยุ 5 แห่ง ของกรมประชาสัมพันธ์ก็ยึดคืนมาจากเอกชน แปลงสภาพเป็นวิทยุเอ็นบีทีด้วยเช่นกัน และนี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังเชิญผู้เกี่ยวข้อง อาทิ รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และเอกชนที่ถูกถอดรายการออกไปดื้อๆ มาให้ข้อมูล หากพบว่าเข้าข่ายการใช้อำนาจไม่ชอบธรรม และแทรกแซงสื่อ “จักรภพ เพ็ญแข” ก็จะเป็นรัฐมนตรีรายต่อไปที่จะถูกเข้าชื่อยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง
๐๐ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรสนิยมส่วนตัวชื่นชอบ “ความเสียว” หรืออย่างไร “รมต.จักรภพ” จะทำจะพูดอะไรก็มีแต่เรื่องเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางทั้งนั้น ภารกิจเดินสายไปพูดกับ “วิทยุชุมชน” ทั่วประเทศขณะนี้ สุ่มเสี่ยงเหลือเกินต่อการทำผิดกฎมายอาญา มาตรา 157 กรณีที่ไปยื่นข้อเสนอให้กับวิทยุชุมชนในต่างจังหวัด (ล่าสุดคือที่ขอนแก่น) ให้เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายสื่อของรัฐบาล โดยการเสนอข่าวของรัฐวันละ 2-3 ชั่วโมง แลกเปลี่ยนกับการไม่ถูกจับ (เพราะทำผิด พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551) ซึ่งฟังดูก็เป็นการข่มขู่ แบล็กเมล์แบบกรายๆ เพื่อบีบให้วิทยุชุมชนเข้ามาเป็นพวก ประเด็นนี้พรรคฝ่ายค้านกำลังตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายการละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนหรือไม่เช่นกัน
๐๐ เมื่อวันเสาร์ที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะอยู่ที่ขอนแก่น “รมต.จักรภพ” ไม่เพียงแต่จะเรียกประชุมวิทยุชุมชนทั่วภาคอีสานเท่านั้น หลังเสร็จงาน ยังได้เดินสายไปกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์ ตามด้วยวัดหนองแวง พระอารามหลวง เพื่อพบกับพระผู้ใหญ่ และตรวจสอบพื้นที่ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ เอาเป็นว่า “ทั่น รมต.จักรภพ”ทำเพื่อนายทั้งในเวลางานและนอกเวลางานจริงๆ