xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันทะลุ 126 ดอลลาร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกกระโจนพรวดขึ้นทะลุระดับ 126 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรลเมื่อคืนวานนี้ (9) นับเป็นการทำลายสถิติสูงสุดต่อเนื่องกัน 5 วันทำการแล้วโดยที่ปัจจัยสำคัญมาจากแรงดันจากพวกนักเก็งกำไร ท่ามกลางความวิตกว่าซัปพลายพลังงานของโลกกำลังอยู่ในภาวะตึงตัวยิ่ง ส่วนสถานการณ์น้ำมันในประเทศ ด้านปตท.ยังตรึงราคาขายปลีกเอาไว้ แต่ก็พร้อมที่จะปรับขึ้นตามตลาดโลก ขณะที่ตัวเลขการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วยชาติประหยัดเงินค่าน้ำมันปีละ 41,939 ล้านบาท

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของตลาดไนเม็กซ์ แห่งนิวยอร์ก เพื่อการส่งมอบเดือนมิ.ย. ทะยานขึ้นทำนิวไฮที่ระดับ 126.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ระหว่างช่วงการซื้อขายของตลาดลอนดอนวานนี้ ก่อนจะลงมาอยู่ที่ 125.56 ดอลลาร์ในช่วงบ่ายของเมืองหลวงอังกฤษ ซึ่งก็ยังสูงกว่าราคาปิดวันพฤหัสบดี (8) ที่นิวยอร์กอยู่ถึง 1.87 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของลอนดอน เพื่อการส่งมอบเดือนมิ.ย. ก็พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 125.90 ดอลลาร์ และถอยมาแถวๆ 125.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงบ่ายวานนี้ ของลอนดอน สูงกว่าราคาปิดวันพฤหัสบดีอยู่ 2.81 ดอลลาร์

ราคาน้ำมันดิบทะยานแรงทำสถิติสูงสุดใหม่ในทุกวันทำการของสัปดาห์นี้ และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเริ่มต้นปี 2008 ก็ดีดขึ้นมาถึงประมาณ25% แล้ว

น้ำมันไลต์สวีตครูด พุ่งทะลุระดับจิตวิทยาสำคัญที่ 100 ดอลลาร์ในเดือนม.ค. จากนั้นก็ขึ้นพรวดพราดผ่านหลัก 110 ดอลลาร์ และ 120 ดอลลาร์

บรรดาเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์อย่างเช่น วิกเตอร์ ชุม หุ้นส่วนอาวุโสแห่งบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน เพอร์วิน แอนด์ เกิร์ตซ์ ในสิงคโปร์ บอกว่า ตลาดน้ำมันในเวลานี้เต็มไปด้วยพวกซึ่งต้องการดันราคาให้ขึ้นลิ่วๆ

ขณะที่ ทัตสึโอะ นาเกยามะ นักวิเคราะห์แห่ง คาเนตสึ แอสเสต แมเนจเมนต์ ในโตเกียว เห็นว่า การที่มีสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ อย่างเช่น อิหร่าน และไนจีเรีย คอยสร้างความหวาดผวาไม่หยุดหย่อน ตลอดจนราคาน้ำมันเตาที่พุ่งขึ้นมา ก็ถือเป็นเหตุผลทำให้ตลาดไต่ขึ้นไปได้อยู่เหมือนกัน ทว่าสิ่งที่น่าวิตกก็คือ อัตราความเร็วของการทะยานขึ้นนั้นน่าจะเร็วเกินไปแล้ว

ทางด้าน เลขาธิการองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซาเลม เอล บาดรี ได้ออกมาแถลงย้ำจุดยืนของโอกเปกอีกครั้ง เมื่อวันพฤหัสบดี โดยยืนยันว่า เวลานี้เห็นกันชัดเจนอยู่แล้วว่าในตลาดไม่ได้ขาดแคลนน้ำมันดิบเลย ความปั่นป่วนผันผวนในตลาดน้ำมันจึงไม่ได้เพราะปัญหานี้ หากแต่เป็นเพราะพัฒนาการในตลาดการเงิน และการที่พวกกองทุนเก็งกำไรพากันเข้าสู่ตลาดซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันกันเพิ่มมากขึ้น

"ความปั่นป่วนในตลาดหลักทรัพย์ของโลกบางแห่ง และการอ่อนค่าลงอย่างมากทีเดียวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้กระตุ้นให้พวกนักลงทุนคิดมองหาผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยหันมาลงทุนกันในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า และนี่จึงดันให้ราคาพุ่งขึ้น" เขากล่าว

เห็นได้ชัดว่า การที่เอล บาดรี ออกมาตอกย้ำจุดยืนโอเปกเช่นนี้ มีความมุ่งหมายที่จะปัดป้องเสียงเรียกร้องของโลกตะวันตกโดยเฉพาะประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐฯ ที่ต้องการให้โอเปกส่งน้ำมันดิบออกสู่ตลาดให้มากขึ้น เพื่อดึงให้ราคาต่ำลงมา

นักวิเคราะห์หลายรายแม้เห็นด้วยกับเลขาธิการโอเปก ว่า ตลาดน้ำมันที่กำลังอยู่ในภาวะกระทิงเปลี่ยววิ่งไม่ยอดหยุดเช่นนี้ มีแรงขับดันจากพวกกองทุนเก็งกำไรซึ่งเข้าไปเล่นในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ แต่พวกเขาก็โต้แย้งว่า แม้ซัปพลายน้ำมันดิบในตลาดไม่ได้ขาดแคลน แต่หากโอเปกประกาศเพิ่มการผลิตมากขึ้น ก็ยังจะเกิดผลทางจิตวิทยา ที่จะฉุดรั้งราคาให้ถอยหรือยั้งไม่ให้ขึ้นต่อได้เหมือนกัน

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวานนี้ แหล่งข่าวในโอเปกรายหนึ่งเผยว่า โอเปกอาจจะพิจารณาเพิ่มการผลิต ตก่อนหน้าการประชุมรัฐมนตรีน้ำมันคราวหน้าของทางองค์การ ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้นในเดือนกันยายน ถ้าหากราคาน้ำมันดิบยังกระโจนพรวดไม่ยอมหยุด

"ในความเห็นของผม การเพิ่มใดๆ ควรจะต้องให้มากกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวัน จึงจะสร้างผลกระทบต่อราคาได้" รอยเตอร์อ้างคำพูดของแหล่งข่าวผู้นี้

ปตท.ยังตรึงราคา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะยังไม่มีการปรับเพิ่มราคาน้ำมันขายปลีกในสัปดาห์นี้ โดยจะรอดูสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในสัปดาห์หน้าก่อน แม้ล่าสุดราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะทะลุ 124 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (8 พ.ค.) ส่งผลให้ค่าการตลาดในส่วนของน้ำมันเบนซิน 95 เป็นบวกเพียงลิตรละ 70 สตางค์ ส่วนน้ำมันดีเซลติดลบลิตรละ 0.68 สตางค์ ต่ำกว่าค่าการตลาดปกติที่ควรจะเป็นที่ลิตรละ 1.50 บาท

ขณะที่บริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ ได้ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 50 สตางค์ เมื่อวานนี้ ลงมาอยู่ที่ลิตรละ 33.94 บาทเท่ากับ ปตท.และบางจาก เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ เนื่องจากยอดขายลดลงอย่างมาก เพราะประชาชนหันไปเติมน้ำมันของ ปตท.และบางจากฯ ที่มีราคาถูกกว่า

นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน กล่าวว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กของสหรัฐ ระหว่างการซื้อขายพุ่งเกินระดับ 125 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และปิดที่ 124.57 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ ในตลาดสหภาพยุโรป ปิดที่ 122.84 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบตลาดดูไบ 116.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล (8พ.ค.) ถือว่าราคาน้ำมันดิบทั้ง 3 ตลาดหลัก ที่เป็นน้ำมันมาตรฐานสากลได้ปรับสูงขึ้นทุกตลาด โดยเฉพาะน้ำมันดิบดูไบที่ขยับขึ้นในระดับดังกล่าว ถือว่าเป็นสัญญาณที่ผิดปกติมากจากปัจจัยพื้นฐาน ทำให้ราคาน้ำมันปลายสัปดาห์นี้ขยับขึ้นไปถึง 125 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ได้ไม่อยากนัก จากเดิมคาดการณ์ว่าจะขยับได้ระดับดังกล่าวในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า

จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทางกลุ่มโอเปกยืนยันว่า เป็นเพราะการเก็งกำไรในการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าของนักลงทุน เพราะความผันผวนของตลาดเงิน ตลาดทุน ทำให้นักลงทุนหันมาลงในตลาดน้ำมันมากขึ้น หากมีสัญญาณความต้องการเพิ่มขึ้น กลุ่มโอเปกจึงผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติมตามความต้องการของตลาดโลก

เม.ย.ไทยใช้พลังงานทดแทนพุ่ง

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ปริมาณการใช้พลังงานทดแทนได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ เพิ่มขึ้น 103.6% จาก 4 ล้านลิตรต่อวัน เป็น 8 ล้านลิตรต่อวัน ไบโอดีเซลบี 5 ปริมาณการใช้เม.ย.นี้ เพิ่มขึ้น 686% เป็น 8.43 ล้านลิตรต่อวัน และไบโอดีเซลบี 2 อยู่ที่ระดับ 45.16 ล้านลิตร

การใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) นับเป็นภาวะเร่งด่วนในปี 2551 และพลังงานทดแทนในอนาคต พบว่า มีผู้สนใจติดตั้ง จำนวน 72,950 คัน โดยมีปริมาณการใช้ NGV ทั้งสิ้น 57.9 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากตัวเลขการใช้พลังงานทดแทนที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้ไทยประหยัดการใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลเฉลี่ย 3.83 ล้านลิตรต่อวัน ช่วยประหยัดเงินตราต่างประเทศปีละ 41,939 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น