xs
xsm
sm
md
lg

รัฐประหาร

เผยแพร่:   โดย: สำราญ รอดเพชร

samr_rod@hotmail.com

วัตรปฏิบัติทุกบ่ายวันอาทิตย์ของคนชื่อ “สุริยะใส กตะศิลา” ก็คือ การแถลงข่าวแสดงจุดยืน ความเห็นเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง..

แม้จะแถลงในนามของตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) แต่ถึงที่สุดเมื่อถามมา - ตอบไป คุณสุริยะใสก็ต้องตอบคำถามในฐานะเป็นผู้ประสานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไปด้วย...

พูดกันเล่นๆ ว่า เรตติ้งการแถลงข่าวของคุณสุริยะใสนั้น..โอเค..ใช้ได้ ไม่น้อยหน้าการแถลงข่าวทุกวันอาทิตย์ของทีม “องอาจ-สาธิต-เทพไท” แห่งค่ายประชาธิปัตย์..บางสัปดาห์น่าสนใจกว่าด้วยซ้ำ..

จุดเด่นของคุณสุริยะใสในการแถลงข่าวก็คือ ท่วงทำนองที่สุภาพแต่หนักแน่น มากกว่านั้นก็คือในบางสัปดาห์ได้เปิดประเด็น - ตอบคำถามที่แหลมคม ได้อย่างน่ารับฟัง น่าพิจารณา..หรือนำมาถกเถียงกันต่อ

อย่างสัปดาห์ล่าสุดคุณสุริยะใสออกมาพร้อมกับแถลงการณ์ของ ครป.เรื่อง “นำการเมืองออกจากรัฐประหาร หยุดเดิมพันประเทศเพื่อคนคนเดียว” โดยพูดถึงต้นเหตุและสภาพการณ์ของ 3 วิกฤตในบ้านเมืองคือ...วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตแก้รัฐธรรมนูญ และวิกฤตความแตกแยกของคนในสังคม

เมื่อผู้สื่อข่าวซักถึงโอกาสของการเกิดรัฐประหารครั้งใหม่ คุณสุริยะใสแกร่ายยาวว่า

“เงื่อนไขขณะนี้เป็นไปได้สูงมาก ถ้าวิเคราะห์กันอย่างตรงไปตรงมาต้องบอกว่าขณะนี้สูงกว่า 19 กันยา 2549 โดยเฉพาะปมในการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกปมผิดสูงกว่าการซื้อขายหุ้นชินฯ โดยไม่เสียภาษีหรือยุบสภาฯ เพื่อหนีการตรวจสอบซึ่งไม่ด้อยไปกว่า 2 เงื่อนไขในช่วงปี 2549 เลย อาจสูงกว่าก่อนการรัฐประหาร 19 กันยา ด้วยซ้ำไป ซึ่งน่าเป็นห่วง..

ขณะนี้มีทางเดียวที่จะนำบ้านเมืองออกจากการรัฐประหาร คือนายกฯ ต้องกล้าหาญเท่านั้น ปลดภาพลักษณ์ความเป็นนอมินีหรือความเป็นลูกกรอก แล้วพูดในพรรคเลยว่า ขอยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญเอาไว้ก่อน หรือตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาสัก 3 - 4 เดือนก่อน ค่อยว่ากัน...ผมว่าแบบนี้คนหายใจคล่องเลยครับ พันธมิตรฯ ต้องแถลงยุติบทบาทโดยเฉพาะการชุมนุมต้องยุติไว้ก่อน เราก็ทำหน้าที่แค่การตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์เสนอแนะการทำงานของรัฐบาลเท่านั้นเอง เป็นการตรวจสอบตามปกติ”


อันที่จริงใครต่อใครหลายคน รวมทั้งตัวผมก็เคยเสนอว่าถ้ารัฐบาลอยากจะทำงานด้วยบรรยากาศที่รื่นรมย์กว่าทุกวันนี้ก็ควรยุติหรือพักเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเอาไว้ก่อนสัก 1- 2 ปี จะยุบสภาฯ เลือกตั้งกันใหม่เมื่อไหร่ค่อยมาว่ากัน หรือหากจะแก้ตอนนี้ก็ควรได้ทำประชามติหรือตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา และที่สำคัญที่สุดก็คือต้องไม่แก้เพื่อ “ฟอกผิด” ให้ตัวเอง หรือตั้งธงไว้ที่มาตรา 237 และ 309

มาถึงประเด็น..การรัฐประหาร

นาทีนี้พบปะใครต่อใครที่สนใจการบ้านการเมืองเกือบร้อยทั้งร้อยก็ถามว่า..จะเกิดรัฐประหารจริงๆ หรือ? ผมก็ได้แต่ตอบใครต่อใครไปในทิศทางเดียวหรือคล้ายๆ กับที่คุณสุริยะใสแกว่านั่นล่ะ..

1) ถ้ายังเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิดตนเอง จนนำไปสู่การเผชิญหน้าของมวลชนสองฝ่าย 2) ถ้ารัฐมนตรีในรัฐบาล โดยเฉพาะ “สมัคร - เฉลิม” ยังเล่นบทเดิมๆ ปากยังสร้างปัญหาให้กับบ้านเมืองได้อย่างไม่รู้จักจบสิ้น 3) ถ้ารัฐบาลยังมิได้นำพากับปรากฏการณ์จาบจ้วงประธานองคมนตรี และทายท้า กระทบกระเทียบสถาบันสูงสุดอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และ 4) ถ้าปัญหาเศรษฐกิจคุกคามกดดันต่อประชาชนโดยรวมหนักหน่วงรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

นั่นคือ 4 เงื่อนไข 4 ปัญหาที่ผมมองเห็นว่าเป็นปัญหาที่รัฐบาลจะต้องถอดสลักระเบิด...สลักระเบิดที่กำลังนับถอยหลังเป็นวัน เป็นชั่วโมง กันแล้ว ในนาทีนี้

จริงอยู่ กองทัพหรือทหารใน พ.ศ.นี้ น่าจะ “แหยง” กับคำว่ารัฐประหารเป็นที่สุด แต่หากบ้านเมืองเดินไปสู่จุดการเผชิญหน้า - แตกหัก หรือสถาบันสูงสุดถูกกระทบ กองทัพก็คงต้องแสดงบทบาทในฐานะผู้พิทักษ์ระบอบ จากเบาไปหาหนัก...จากควบคุมสถานการณ์ไปจนถึงการรัฐประหาร..!?

ผู้สันทัดกรณีหลายคนบอกว่า ถ้าเกิดรัฐประหารหนนี้..ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยรัฐประหาร 19 กันยา 2549 ที่ปล่อยให้โอกาส เวลาของบ้านเมืองผ่านไปแบบ “เสียของ” หากแต่กลุ่มคนที่เป็นปัญหาบ้านเมืองอาจจะถูกจัดการแก้ปัญหาแบบราบคาบ..!!??

แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้สันทัดกรณีอีกจำนวนหนึ่งที่ผมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยเชื่อว่า ในที่สุดหากเกิดปัญหาการเผชิญหน้า เชื่อว่าคนชื่อ สมัคร สุนทรเวช ในฐานะนายกฯ และรมว.กลาโหม และผู้นำกองทัพนั่นล่ะ จะจับมือกันหาทางออกประคับประคองบ้านเมือง ไม่ให้บ้านเมืองเดินไปสู่การรัฐประหาร..ด้วยวิธีการที่สังคมเห็นด้วยหรือรับได้..!?

เพราะรัฐประหารไม่ใช่ทางออกของบ้านเมือง...

พูดก็พูดเถอะครับ จะว่าไปคนที่จะถอดสลักระเบิดเวลา หยุดการเผชิญหน้าของผู้คนในสังคมได้จริงๆ ได้ดีกว่ากองทัพหรือคุณสมัครก็คือ คุณทักษิณ ชินวัตร ที่ยังทรงอิทธิพลและเป็นเจ้าของพรรคพลังประชาชนตัวจริงเสียงจริง แค่คุณทักษิณยืดอกประกาศขอให้พรรคหยุดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้องค์กรต่างๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวมวลชนในท่วงทำนองทายท้าหมิ่นเหม่ต่อการละเมิดพระราชอำนาจหรือกระทบถึงสถาบันสูงสุด หยุดปฏิบัติการ...

และประกาศให้ชัดเจนว่าจะเดินหน้าให้ศาลสถิตยุติธรรมพิพากษาคดีทางการเมืองโดยดุษฎีและดุษณี....

ความอึมครึม เมฆหมอกสีดำที่ปกคลุมบ้านเมืองก็จะหายไป

และต่อให้คุณทักษิณโชคร้าย ติดคุก แต่เชื่อเถอะเลือกตั้งหนหน้าพรรคของท่านก็ยังจะชนะเลือกตั้ง มีตัวตายตัวแทนเป็นนายกฯ เหมือนเดิม

แต่ใช่หรือไม่ว่า เหตุที่ท่านไม่พร้อมที่จะวัดดวงเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง ท่านต้องการหลักประกันแห่งชัยชนะ (ด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ).. เพราะลึกๆ ท่านต้องการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำรัฐบาลอีกหน...มันเลยต้องเดินเกมเดินหมากการเมืองกันแบบที่เรากำลังแลเห็นและเป็นไป..

น่าเสียใจและน่าเสียดายยิ่ง...!!

และน่าเสียวไส้เป็นอย่างยิ่งที่คำว่า “รัฐประหาร” ยังเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย..!!

กำลังโหลดความคิดเห็น