เลขาฯ กลต.บุกให้ข้อมูล คตส. คดี “แม้ว” ใช้อำนาจเอื้อธุรกิจตัวเอง เกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ “วินมาร์ค” ขณะที่ “แก้วสรร” มั่นใจคำพูด “ธีระชัย” เพียงพอมัด “ทักษิณ” แถม คตส.ยังมีข้อมูลสำคัญที่จะส่งถึงศาลได้ เชื่อดิ้นไม่หลุดแน่
วานนี้ (25 เม.ย.) คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจตนเอง และพวกพ้อ นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการ ไต่สวน ได้เชิญ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มาให้ข้อมูลกรณีการครอบครองที่เกี่ยวข้องกับความเป็นเจ้าของบริษัท วินมาร์คฯ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว โดยใช้เวลานานร่วม 1 ชั่วโมง
ภายหลังจากเข้าชี้แจง นายธีระชัย กล่าวว่า อนุกรรมการไต่สวนฯ ต้องการให้ กลต.ส่งเอกสารเกี่ยวข้องกับความเป็นเจ้าของบริษัท วินมาร์คฯ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาให้ ซึ่งตนได้ชี้แจงใน 2 ประเด็นคือในส่วนที่ กลต.ตรวจสอบเองเราพร้อมที่จะให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ แต่ส่วนข้อมูลที่อยู่ต่างประเทศ ให้ยังไม่ได้ เนื่องจากอาจจะเกิดปัญหาในอนาคตได้ เพราะเราได้ขอข้อมูลจากต่างประเทศ ถ้าหากไม่ทำตามข้อตกลงจะไม่ได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศอีก
นายธีระชัย กล่าวว่า หากจะให้ข้อมูลในส่วนนี้ได้จะต้องดำเนินการภายหลังมีการดำเนินการตรวจสอบความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ให้เสร็จก่อน เพราะ กลต. เป็นศูนย์กลางหลักทรัพย์ ซึ่งไม่ได้กำกับดูแลเฉพาะหลักทรัพย์ แต่ครอบคุมไปถึง การประกันภัย และธนาคารพาณิชย์
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องให้คดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นเอสซี แอสเสทฯ ไปถึงศาล ก่อนจึงจะสามารถเปิดเผยได้ใช่หรือไม่ นายธีระชัย กล่าวว่า ใช่ จนกว่าจะให้คดีนี้ ถึงศาลก่อน
ด้าน นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส.ในฐานะอนุคณะอนุกรรมการไต่สวน คดีดังกล่าว กล่าวว่า อนุไต่สวนได้สอบปากคำนายธีระชัย ไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเพียงคำพูดของนายธีระชัย ก็เพียงพอแล้ว เพราะคดีนี้เกี่ยวโยงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เป็นเจ้าของวินมาร์ค “ไม่ใช่ว่าเราจะรอเอาข้อมูลจากเลขาธิการ กลต.อย่างเดียว แต่เรามีหลักฐานที่แน่นหนาพออยู่แล้ว ต่อให้เราไม่มีข้อมูลจาก กลต.ก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่ว่าเราไม่กล้าตัดสินใจ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ คตส.สามารถส่งไปถึงศาลได้อยู่แล้ว”
วันเดียวกันนายเสกสรรค์ บางสมบุญ ตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.)ได้เดินทางมายังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เพื่อคืนสำนวนการ สอบสวนของคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการจัดซื้อพันธกล้ายางพารา 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการการเกษตรต่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่รัฐ(คตส.) เนื่องจากคณะทำงานร่วมสองฝ่ายมีความเห็นต่างและไม่สามารถสรุปได้ โดยทางคตส.ยืนยันจะส่งฟ้องศาลเอง ทั้งนี้ นายเสกสรรค์ กล่าวว่า มาคืนสำนวนกรณีกล้างยางพาราให้กับคตส.ตามที่ คตส.ขอคืน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ออกมาระบุว่า คตส.พูดความจริงไม่ครบกรณีส่งสำนวนให้ อสส.ส่งฟ้อง นายเสกสันต์ กล่าวปฏิเสธที่จะให้ความเห็นสั้นๆว่า ไม่เกี่ยวกัน นั่นเป็นเรื่องของทางสำนักโฆษกอสส. ในส่วนของสำนวนที่ส่งมาเราก็ทำตามหน้าที่
วานนี้ (25 เม.ย.) คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจตนเอง และพวกพ้อ นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการ ไต่สวน ได้เชิญ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มาให้ข้อมูลกรณีการครอบครองที่เกี่ยวข้องกับความเป็นเจ้าของบริษัท วินมาร์คฯ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว โดยใช้เวลานานร่วม 1 ชั่วโมง
ภายหลังจากเข้าชี้แจง นายธีระชัย กล่าวว่า อนุกรรมการไต่สวนฯ ต้องการให้ กลต.ส่งเอกสารเกี่ยวข้องกับความเป็นเจ้าของบริษัท วินมาร์คฯ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาให้ ซึ่งตนได้ชี้แจงใน 2 ประเด็นคือในส่วนที่ กลต.ตรวจสอบเองเราพร้อมที่จะให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ แต่ส่วนข้อมูลที่อยู่ต่างประเทศ ให้ยังไม่ได้ เนื่องจากอาจจะเกิดปัญหาในอนาคตได้ เพราะเราได้ขอข้อมูลจากต่างประเทศ ถ้าหากไม่ทำตามข้อตกลงจะไม่ได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศอีก
นายธีระชัย กล่าวว่า หากจะให้ข้อมูลในส่วนนี้ได้จะต้องดำเนินการภายหลังมีการดำเนินการตรวจสอบความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ให้เสร็จก่อน เพราะ กลต. เป็นศูนย์กลางหลักทรัพย์ ซึ่งไม่ได้กำกับดูแลเฉพาะหลักทรัพย์ แต่ครอบคุมไปถึง การประกันภัย และธนาคารพาณิชย์
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องให้คดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นเอสซี แอสเสทฯ ไปถึงศาล ก่อนจึงจะสามารถเปิดเผยได้ใช่หรือไม่ นายธีระชัย กล่าวว่า ใช่ จนกว่าจะให้คดีนี้ ถึงศาลก่อน
ด้าน นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส.ในฐานะอนุคณะอนุกรรมการไต่สวน คดีดังกล่าว กล่าวว่า อนุไต่สวนได้สอบปากคำนายธีระชัย ไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเพียงคำพูดของนายธีระชัย ก็เพียงพอแล้ว เพราะคดีนี้เกี่ยวโยงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เป็นเจ้าของวินมาร์ค “ไม่ใช่ว่าเราจะรอเอาข้อมูลจากเลขาธิการ กลต.อย่างเดียว แต่เรามีหลักฐานที่แน่นหนาพออยู่แล้ว ต่อให้เราไม่มีข้อมูลจาก กลต.ก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่ว่าเราไม่กล้าตัดสินใจ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ คตส.สามารถส่งไปถึงศาลได้อยู่แล้ว”
วันเดียวกันนายเสกสรรค์ บางสมบุญ ตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.)ได้เดินทางมายังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เพื่อคืนสำนวนการ สอบสวนของคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการจัดซื้อพันธกล้ายางพารา 90 ล้านต้น ของกรมวิชาการการเกษตรต่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่รัฐ(คตส.) เนื่องจากคณะทำงานร่วมสองฝ่ายมีความเห็นต่างและไม่สามารถสรุปได้ โดยทางคตส.ยืนยันจะส่งฟ้องศาลเอง ทั้งนี้ นายเสกสรรค์ กล่าวว่า มาคืนสำนวนกรณีกล้างยางพาราให้กับคตส.ตามที่ คตส.ขอคืน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ออกมาระบุว่า คตส.พูดความจริงไม่ครบกรณีส่งสำนวนให้ อสส.ส่งฟ้อง นายเสกสันต์ กล่าวปฏิเสธที่จะให้ความเห็นสั้นๆว่า ไม่เกี่ยวกัน นั่นเป็นเรื่องของทางสำนักโฆษกอสส. ในส่วนของสำนวนที่ส่งมาเราก็ทำตามหน้าที่