xs
xsm
sm
md
lg

วัดใจอัยการสั่งฟ้อง “แม้ว” ปล่อยกู้พม่า 4,000 ล้าน!!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

รองผู้ว่าฯ สตง.หอบสำนวนสอบสวน 1,294 แผ่น พร้อม สำนวนสั่งฟ้อง “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้ต้องหา ในคดีทุจริตปล่อยกู้เงิน 4,000 ล้านบาทให้กับรัฐบาลพม่า มอบอัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง ด้านโฆษก อสส.ระบุเตรียมตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวนให้ได้ภายใน 30 วัน ย้ำไม่รู้สึกกดดันที่ดำเนินคดีกับอดีตผู้นำประเทศ

วันนี้ ( 10 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด สนามหลวง นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในฐานะอนุกรรกรรมการ คตส. ในคดีทุจริตปล่อยกู้เงิน 4,000 ล้านบาท ให้กับรัฐบาลพม่า ในการซื้ออุปกรณ์โทรคมนาคมจากบริษัทในเครือชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (เอ็กซิมแบงก์) ได้นำสำนวนการสอบสวน 8 แฟ้ม ซึ่งประกอบด้วยเอกสารหลักฐาน 4 แฟ้ม กับสำเนาอีก 4 แฟ้ม รวม1,294 แผ่น พร้อมความเห็นชี้มูลความผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกกล่าวหาในความผิดฐานผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น และผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152,157 ส่งมอบให้อัยการสูงสูงพิจารณาสั่งฟ้อง โดยมีนายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรพยากร และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับมอบ

ภายหลัง นายธนพิชญ์ กล่าวว่า อัยการสูงสุด ได้ ตั้งคณะทำงานชุดเดิมที่รับผิดชอบสำนวนคดีของ คตส. มาพิจารณาสำนวนคดี โดยมีนายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุดเป็นประธาน และมี นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เป็นเลขานุการ ส่วนคณะทำงานประกอบด้วย นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ผู้ตรวจราชการสำนักงานอัยการสูงสุด นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีอัยการฝ่ายคดีล้มละลาย, นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูง เขต 8 ,ม.ล.ศุภกิตต์ จรูญโรจน์ เลขานุการรองอัยการสูงสุด , นายสุทธิ ภู่เอี่ยม รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ,นายสุเจษฎ์ โค้วคาศัย รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร, นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 เพื่อพิจารณาสั่งคดีให้ได้ภายใน 30 วัน ตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ มี พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว ทำให้การพิจารณาสำนวนน่าจะเสร็จเร็วกว่า 30 วันหรือไม่ นายธนพิชย์กล่าวว่า จำนวนเอกสารประกอบสำนวนในคดีนี้น้อยกว่าคดีอื่นที่ คตส.ส่งเข้ามา ดังนั้นน่าจะทำให้การพิจารณาคดีง่ายขึ้น อย่างไรก็ดีต้องขอดูสำนวนก่อนว่าเป็นอย่างไร

“ คณะทำงานอัยการ ไม่รู้สึกกังวลใจแม้ที่ผ่านมาจะมีความเห็นแย้งกับ คตส.ในหลายคดี จน คตส.ต้องนำคดีไปฟ้องร้องต่อศาลฎีกาฯเอง เพราะถือว่าเราได้ทำไปตามหน้าที่แล้ว” โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว

เมื่อถามว่า รู้สึกกดดันหรือไม่ที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี นายธนพิชญ์ กล่าวว่า ไม่กดดันอะไร เพราะตัวอย่างเช่น คดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นผู้ถูกกล่าวหาเช่นกัน อย่างไรก็ดีตามกฎหมายอัยการสามารถเรียกผู้ถูกกล่าวหามาซักถามได้ แต่ตามปกติเราก็จะไม่ได้ทำ

นายธนพิชญ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าคดีทุจริตจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น นั้น คณะกรรมการร่วมระหว่างอัยการ กับ คตส.จะมีการประชุมกันในวันพรุ่งนี้ ( 11 เม.ย.) ซึ่งใกล้จำได้ข้อยุติแล้ว ซึ่ง คตส.ก็มีแนวทางว่าจะยื่นฟ้องคดีเอง ซึ่งหาก คตส.จะมาขอสำนวนการสอบสวนคืน อัยการก็พร้อมที่จะส่งคืนให้ เช่นเดียวกับคดีทุจริตหวยบนดินที่ คตส.ขอสำนวนกลับไปฟ้องเอง
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาในคดีทุจริตปล่อยกู้เงิน 4,000 ล้านบาท ให้กับรัฐบาลพม่า ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า เอ็กซิมแบงก์
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในฐานะอนุกรรกรรมการ คตส. นำสำนวนการสอบสวน 8 แฟ้มในคดีทุจริตปล่อยกู้เงิน 4,000 ล้านบาท ให้กับรัฐบาลพม่า ในการซื้ออุปกรณ์โทรคมนาคมจากบริษัทในเครือชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (เอ็กซิมแบงก์) ส่งมอบให้อัยการสูงสูงพิจารณาสั่งฟ้อง โดยมีนายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ และนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรพยากร และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับมอบ

กำลังโหลดความคิดเห็น